บทที่ 727 ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ
“บรมน!”
เพราะว่าบุริศร์จับมือของนรมนอยู่ ก็เลยล้มตามลงไปด้วย เหมือนกัน
ในช่วงที่ตกหล่นลงไปนั้น บุริศร์หมุนตัวพลิกกลับมาที่หนึ่ง แล้วก็เอานรมนมากอดไว้ในอกทั้งตัว ในตอนที่ตกถึงพื้นนั้น บุรี ศร์ก็รองอยู่ข้างล่างพอดีเลย
นรมนได้ยินแต่เสียงดังตูบที่หนึ่ง ตัวเองกลับไม่เป็นอะไรเลย จึงอดที่จะเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้
“บุริศร์ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
“ไม่เป็นไร”
บริศร์ทนเจ็บเอาไว้แล้วประคองนรมนลุกขึ้นมา ที่นี่เป็นที่ที่คล้ายกับจะเป็นถ้ำแห่งหนึ่ง แต่ว่าข้างในนี้กลับ สว่างไสว
นรมนพูดขึ้นอย่างรู้สึกกลัวว่า “ที่นี่คือที่ไหนกันคะ? ทั้ง ๆ ที่ เมื่อกี้ฉันเดินกับคุณอยู่ชัด ๆ แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่หุบเขาสักหน่อย ทำไมอยู่ ๆ เราถึงตกลงมาได้คะ?”
บริศ เองก็ระวังตัวขึ้นมา แล้วเอานรมนมาหลบอยู่ข้างหลัง “ตามผมมา เดี๋ยวถ้ามีเรื่องอะไร ก็ไม่ต้องสนใจผม ตัวคุณไป ก่อนเองได้เลย”
“คุณพูดอะไรกัน? ฉันจะไปก่อนได้ยังไงกัน?
อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แต่ว่าก็ไม่มีทางทิ้งบุริศร์ไว้ แน่นอน
บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ที่นี่เหมือนกับว่าจะมีคนมาอาศัยอยู่ บะ”
“จะเป็นไปได้ยังกัน?”
“คุณดูร่องรอยตอนนี้ซิ มันดูสะอาดมากเลยนะ ถ้าไม่มีคนมา ทำความสะอาดละก็ จะไม่มีทางที่ฝนจะไม่เปื้อนสักนิดแบบนี้”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกเรามาหาทางออกกันเถอะ ที่นี่มันวังเวงยังไงไม่รู้ ดูน่า กลัวมากเลย”
“ไม่ต้องพูดแล้ว เดินตามผมมา ตอนนี้ถ้าอยากจะออกไปก็คง ไม่มีทางย้อนกลับไปตามทางเดิมได้แล้ว พวกเราจะมาปีนขึ้นไป ไม่ได้หรอก?”
บริศ จับมือของนรมนเอาไว้แน่น ๆ แล้วเขาพบว่าฝ่ามือของ นโมนเต็มไปด้วยเหงื่อซึมออกมาแล้ว
“ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่ด้วย”
แววตาของบุริศร์ได้ให้ความมั่นใจกับนรมนขึ้นมาได้เสี้ยวหนึ่ง
ทั้งสองคนคนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลังแล้วเดินเข้าไปข้างใน
พอเดินผ่านช่วงระยะทางหนึ่งมาแล้ว ก็พื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง ขวางขึ้นมา
ที่นี่เป็นเหมือนกับคลังแห่งหนึ่ง แต่ว่ากลับมีเตียงวางไว้อัน
หนึ่ง และยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำสะอาดวางอยู่ส่วนหนึ่ง พอเห็นทุกอย่างนี้แล้ว ใจของนรมนถึงได้วางลงได้สักที
“มีคนอาศัยอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย แต่ว่าเป็นใครกันนะ? ถึงได้มา อาศัยอยู่ในพื้นที่สุสาน นี่มันช่างทำให้คนกลัวมากจริง ๆ เลย” นรมนยังคงรู้สึกว่าขนลุกไปหมดแล้วอยู่ดี
บริศร์คุ้มกันเธอไว้ แล้วเดินมาถึงที่เตียงก็นั่งลง แล้วตัวเองก็ มองสํารวจไปรอบสี่ทิศรอบหนึ่ง
คนที่อยู่ที่นี่น่าจะไม่ได้ออกไปบ่อย ๆ เพราะว่าอาหารที่เตรียม ไว้ที่นี่มันมีเป็นลังเป็นลังเลย แล้วก็ขยะที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ก็ยังอยู่ด้วย
บุริศร์ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ที่นี่คือใคร แต่ว่าก็ยังมานั่งอยู่ข้างนรมน แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “พวกเราทำได้แค่รออยู่ที่นี่แล้ว”
“กานต์จะเป็นห่วงได้นะคะ ฉันโทรศัพท์หากานต์หน่อยดีกว่า”
นโมนพูดไปแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แต่กลับพบว่า โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลยสักนิด
“ทําไมเหรอ?”
“ไม่มีสัญญาณค่ะ”
นรมนยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
ไม่รู้ว่ารอไปนานแค่ไหน ก็ยังคงไม่มีคนกลับมา
นรมนเองก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นเวลากี่โมงแล้ว โทรศัพท์ได้ แบตหมดไปนานแล้ว
บริศ เห็นท่าทางที่เหน็ดเหนื่อยของเธอ แล้วก็พูดเสียงอ่อน โยนขึ้นว่า “คุณนอนสักหน่อยเถอะ ถ้ามีอะไรผมจะปลุกคุณตื่นเอง”
“ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณดีกว่า อยู่ในที่แบบนี้ คุณอยู่ตัวคนเดียว ฉันไม่วางใจค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก คุณนอนก่อนเถอะ ผมรับมือได้อยู่แล้ว”
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าแววตาของบริศร์ทำให้คนวางใจ มาก นรมนก็นั่งอยู่ในอกของเขา พอผ่านไปไม่นานก็นอนหลับไป
บุริศร์มองท่าทางที่หลับปุ๋ยของเธอ แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว อยู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นแปลก ๆ กลิ่นหนึ่งขึ้นมา
สัญชาตญาณระมัดระวังตัวของบุริศร์นั้นแข็งแกร่งมา แล้วก็ กลั้นหายใจขึ้นทันที เขาอยากจะให้นรมนกลั้นหายใจด้วย แต่ว่า ดูท่า นรมนน่าจะติดกับไปแล้ว
เป็นใครกันนะ? หรือว่าจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ที่นี่เหรอ?
บริศ ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วอยู่ ๆ ก็ล้มลงไป
ผ่านไปไม่นาน ข้างนอกก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ดูท่าอายุ น่าจะราวห้าหกสิบปีแล้ว พอเห็นว่าทั้งนรมนและบริศร์ต่างก็สลบไปแล้ว ก็หัวเราะห์ดีขึ้นมา
“เจ้าพวกคนอายุน้อยที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดิน ถึงกลับกล้าวิ่ง มาวุ่นวายไปเรื่อยถึงที่ที่ฉันอยู่นี่เลยเหรอ”
ชายแก่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา แล้วยื่นมือไปอยากจะ ควานหาของอะไรบนตัวบุริศร์สักหน่อย แต่พอยื่นออกไป บ โดนจับไว้ปั๊บเลย อยู่ ๆ บริศร์ก็ลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ จับข้อมือของอีกฝ่ายไว้แน่น
“อ้าย โยว อ้ายโยว จะหักแล้ว จะหักแล้ว!”
ชายแก่ร้องโหยหวนขึ้นมาทันที
บริศ มองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดขึ้นว่า “คุณวางยา อะไรใส่พวกเรา?”
“ยังจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ ยาสมุนไพรอย่างหนึ่งที่จะทำให้พวก คุณสลบไปชั่วคราวนะซิ คุณรีบปล่อยมือได้แล้ว! คนแบบคุณนี่ อยู่ ๆ ก็บุกรุกเข้ามาในที่ของคนอื่น แล้วตอนนี้ก็ยัง ก็ยังมาลงมือกับ ผมอีก นี่มันไม่สนใจฟ้าสูงแผ่นดินแล้วใช่ไหม?”
ชายแก่ร้องตะโกนออกไป แต่บุริศร์กลับไม่ได้ปล่อยเขาออก
“ยาถอนพิษล่ะ!”
“จะต้องใช้ยาถอนพิษอะไร! แค่น้ำเย็นสาดกะละมังหนึ่งก็ตื่น
แล้ว”
คำพูดของชายแก่ทำให้ดวงตาของบุริศร์หรี่เล็กขึ้นมา
“ผมจะพูดอีกรอบ ยาถอนพิษ! ไม่งั้นละก็ เชื่อหรือไม่ว่าผมจะ จัดการหักมือข้างของคุณทิ้งซะ?”
ระหว่างที่พูด แรงมือของบุริศร์ก็เพิ่มแรงมากขึ้น “อ้า อ้า อ้า! อย่า อย่า อย่า! ผมให้แล้ว ผมให้แล้วพอหรือ ยัง?”
ชายแก่เจ็บจนร้องโหยหวนขึ้นมาอีกครั้ง แม้แต่เสียงก็เปลี่ยน
ไปแล้ว
บริศ ยื่นมาออกมา
ชายแก่หยิบขวดเล็ก ๆ ขวดหนึ่งออกมาจากกระเป๋ายื่นให้บุรี ศ อย่างไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่นัก
“ทาไว้ตรงขมับของเธอ เดี๋ยวก็ฟื้นแล้ว”
บริศ หาเชือกมามัดชายแก่เอาไว้ก่อน จากนั้นก็ค่อยทำตามที่ เขาบอก เอายามาทาให้นรมน
ผ่านไปไม่นานนรมนก็ฟื้นขึ้นมา
เธอจามติด ๆ กันหลายครั้ง แล้วถึงจะตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตัว
“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“ไม่มีอะไร”
บุริศร์ยิ้มเล็กน้อย
พอชายแก่เห็นนรมนตื่นแล้ว ก็รีบพูดขึ้นว่า “นี่ นี่ นี่ เธอก็ตื่น แล้ว คุณปล่อยผมออกได้แล้วมั้ง?”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าบนตัวคุณยังจะมียาพิษอะไรอย่างอื่นอีก หรือเปล่า? รอให้ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน”
ชายแก่แทบจะอัดอั้นจนตายแล้ว
“คุณบอกมาเลยว่าจะตรวจสอบยังไง? ที่นี่นอกจากผมแล้วก็มี แต่คนตายทั้งนั้น หรือว่าคุณจะให้คนตายมาตรวจสอบให้คุณเห รอ?”
บุริศร์จ้องมองชายแก่ แล้วถามเสียงเย็นขึ้นว่า “คุณชื่ออะไร? เป็นคนที่นี่เหรอ?”
“ไม่งั้นล่ะ? ผมยังไม่ได้ถามคุณเลย คุณเป็นใครกัน? มาทำ อะไรที่หมู่บ้านของพวกเรา?”
ชายแกไม่ได้อ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย
บุริศร์พูดขึ้นเสียงเย็นว่า “หมู่บ้านของพวกคุณเหรอ? คุณ แน่ใจนะว่าหมู่บ้านที่ตอนนี้มีแต่คุณคนเดียวที่เป็นคนมีชีวิตอยู่จะ เรียกว่าหมู่บ้านของพวกคุณได้เหรอ?”
“คุณ!”
สีหน้าของชายแก่แดงขึ้นมา เมื่อรู้ว่าตัวเองโถ่เถียงกับบุริศร์ ไม่ได้ ก็เลยหุบปากลง แล้วก็หันไปอีกข้างหนึ่งอย่างโกรธจัดและ ไม่มองพวกบุริศร์อีก
นรมนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มากนัก แต่ว่าสมองก็ยัง ตั้งสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“เขาเป็นเจ้าของของที่นี่เหรอคะ?”
“น่าจะใช่ เป็นยังไงบ้าง? ยังรู้สึกว่ามีตรงไหนที่ไม่สบายอีก หรือเปล่า? ถ้ามีก็รีบบอกผมเลยนะ ผมจะได้ให้เขาเอายา ถอนพิษออกมาให้คุณ”
พอชายแก่ได้ยินคำพูดของบุริศร์ แล้วก็โมโหเป็นอย่างมาก และพูดขึ้นว่า “ถ้าผมจะวางยาเธอจริง ๆ ละก็ แค่ตัวคุณไม่มีทาง ถอนพิษได้หรอก นอกจากคนในหมู่บ้านของพวกเราแล้ว ใครก็ ถอนพิษไม่ได้”
“คงไม่หรอกมั้ง โอสามารถถอนพิษได้แน่ อยู่ ๆ บุริศร์ก็พูดชื่อของป้าโอออกมา ชายแก่นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งทันที จากนั้นก็ถามอย่างตื่นเต้นว่า “เมื่อกี้คุณพูดถึงชื่อใครนะ?”
“โอ เธอก็ออกมาจากหมู่บ้านนี้เหมือนกัน ตอนนี้อยู่ที่เมือง ชลธี
ท่าทีของชายแก่ยิ่งดูตื่นเต้นขึ้นมา
“คุณรู้จัก โอเหรอ?”
“แน่นอนว่ารู้จักอยู่แล้ว ตกลงคุณเป็นใครกัน?”
“ผมชื่ออุดม เป็นคู่หมั้นของเธอ!
ค่าพูดของอุดมทำให้นรมนและบุริศร์อึ้งไปเลย “คุณเป็นอะไรกับเธอนะ?”
“ผมเป็นคู่หมั้นของเธอ! ตอนนั้นเราหมั้นกันแล้ว แต่ว่ายังไม่ ได้แต่งงานกัน ก็มีข่าวร้ายเกิดมาซะก่อน และเพราะว่าผมค้นพบ ถ้ำแห่งนี้เข้าจึงได้พ้นเคราะห์ไปได้ พอออกมาแล้วถึงพบว่าใน หมู่บ้านเจอเคราะห์ร้าย และตอนนั้นผมก็ได้จัดการฝังคนที่นี่ให้ เรียบร้อยทั้งหมด แต่กลับหาโอไม่พบ ผมนึกว่าเธอตายไปแล้ว แต่ว่าปีต่อมาผมก็ได้รับจดหมายของโอ เธอบอกว่าเธออยู่ที่ เมืองชลธี และสบายดี บอกให้ผมไม่ต้องรอเธอแล้ว แต่ว่าชาตินี้ ของผมก็มีเธอที่เป็นคู่หมั้นแค่คนเดียว ผมจะไม่รอเธอได้ยังไง ล่ะ? ผมเคยไปหาเธอที่เมืองชลธี แต่ก็หาไม่เจอสุดท้ายไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ผมก็เลยกลับมาที่นี่อีกครั้ง และตั้งแต่ นั้นเป็นต้นมาผมก็ไม่เคยได้รับข่าวคราวใด ๆ ของเธออีกเลย แค่ พริบตาเดียวนี่ก็ผ่านมาสามสิบปีแล้ว ผมคอยเฝ้าหลุมฝังศพพวก นี้อยู่ และเป็นคนเฝ้าสุสานมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว
ตอนที่อุดมพูดมาถึงตรงนี้นั้น หยดน้ำตาในขอบตาก็เป็น ประกายขึ้น
บริศร์และนรมนมองสบตากันที่หนึ่ง ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คิด ไม่ถึงว่า ในหมู่บ้านนี้จะมีคนมีชีวิตหลงเหลืออยู่ และที่ยิ่งคิดไม่ถึง ก็คือคนคนนี้จะเป็นอุดม ที่เป็นคู่หมั้นของป้าโอไปได้
“เธอจากไปแล้ว ครั้งนี้ที่ผมกลับมาที่นี่ก็เพราะว่าจะเอาเถ้า กระดูกของเธอกลับมาฝั่งให้เรียบร้อย และที่สำคัญผมก็ได้ซื้อ ที่ดินทั้งหมู่บ้านนี้ไว้หมดแล้ว และห้องโถงบูชาบรรพบุรุษก็กำลัง ซ่อมแซมอยู่ คุณสามารถออกไปพักอาศัยอยู่ได้แล้ว”
คำพูดของบุริศร์ทำให้อุดมอึ้งไปทันทีเลย
“เธอไม่อยู่แล้วเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? ใครทำให้เธอตาย?” ปฏิกิริยาของอุดมก็ร้อนรนขึ้นมาอย่างมาก นรมนไม่อยากให้ความแค้นของที่นี่เพิ่มพูนมากขึ้นไปอีก เพื่อความแค้นของที่นี่ มันได้มีคนสูญเสียชีวิตไปมาก เกินไปแล้ว
เธอรีบร้อนพูดขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงได้เอาแต่คิดว่าจะมีคน ทําร้ายเธอล่ะ?” “ที่เธอออกไปจากที่นี่ก็เพื่อจะไปแก้แค้น! ผมรู้! นิสัยของโอนั้น
ผมคุ้นเคยที่สุด พวกเราเคยประสบกับภัยพิบัติด้วยกันมาก่อน
เธอไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่ไปอย่างธรรมดาแน่
อุดมพูดอย่างมีเหตุมีผลเต็มเปี่ยม
บุริศร์พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ที่พวกคุณต้องประสบกับภัยพิบัติ มันเกี่ยวอะไรกับแม่ผม? มีสิทธิ์อะไรมาให้แม่ผมมีชีวิตอยู่ใน ความเจ็บปวดด้วย?”
“คุณพูดว่ายังไงนะ? แม่ของคุณ? คุณเป็นลูกชายของโอเห รอ? เธอแต่งงานแล้วเหรอ?”
อุดมนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง
บุริศร์ยังคงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ใช่ แม่ของผมแต่งงานแล้ว ถ้าเกิดไม่ใช่ว่าก่อนตายเธอได้ฝากฝังเอาไว้ว่าอยากจะให้เอา เธอกลับมาฝังไว้ที่นี่ ผมก็ไม่มีทางเอาเถ้ากระดูกของเธอกลับมา ท หรอก”
“เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้
อุดมตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเลย
“เธอเป็นคู่หมั้นของผมนี่! เธอเป็นของผม!”
“แต่ว่าตั้งแต่แรกคุณก็ไม่ได้ปกป้องเธอให้ดีนี่ ในตอนที่ภัย พิบัติมาถึงนั้น คุณกลับหลบเข้ามาที่นี่คนเดียว ทำไมถึงไม่พาเธอ มาด้วยล่ะ? แล้วตอนที่คุณรู้ว่าเธอจากที่นี่ไปเมืองชลธีแล้ว ทำไม ถึงไม่ทุ่มเทแรงกายทั้งหมดไปตามหาเธอล่ะ? ถ้าหากคุณทุ่มสุด แรงแล้ว ไม่มีทางที่จะตามหาแม่ของผมไม่เจอหรอก แล้วตอนนี้ คุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าเธอเป็นของคุณ?
คำพูดของบุริศร์ทำให้ตัวทั้งตัวของอุดมนิ่งอึ้งไปเลย “ผม ตอนนั้นผม……..
พอเขาพูดมาถึงตรงนี้ก็ดูมีท่าทางที่เจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ใช่ ทำไมตอนนั้นถึงไม่พาโอเข้ามาด้วยกันนะ?
เป็นเพราะว่าเวลามันไม่ทันกาลเหรอ
บ้านของเขาและบ้านของโออยู่ห่างกันมาก เขากลัวว่าถ้าตอน ที่เขาวิ่งไปถึงและหาโอเจอนั้น ทั้งสองคนก็คงจะไม่สามารถพ้น เคราะห์ได้ เพราะฉะนั้นในวินาทีนั้นเขาก็ได้ยอมปล่อย โอไป
พอย้อนคิดไปถึงจุดนี้ อุดมก็ร้องไห้อย่างเจ็บปวดขึ้นมา “ผมไม่ได้ตั้งใจ! ตอนนั้นมันน่ากลัวเกินไป แล้วผมก็ไม่ได้ สนใจเธอจริง ๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ
บุริศร์จ้องมองเขา แล้วคิดไปว่าถ้าตอนนั้นพวกเขาสามารถหนี ตายไปด้วยกันจริง ๆ บางทีอาจจะไม่มีเรื่องที่ตามมาข้างหลังแล้ว ก็ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง เวลาก็ไม่มีทางย้อนกลับได้แล้ว
“บอกพวกเรามาว่าจะออกไปได้ยังไง? คุณจะร้องไห้ยังไงมันก็ เป็นเรื่องของคุณ แต่พวกเรายังจะต้องออกไปตามหาหญ้าดาวสี ฟ้าอีก จากนั้นก็จะต้องไปฝั่งแม่ผมให้เรียบร้อยด้วย
ค่าพูดของบุริศร์ทำให้อุดมอึ้งไปทันทีครู่หนึ่ง
“พวกคุณจะตามหาหญ้าดาวสีฟ้าเหรอ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ