แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 700 บอกกับเจตนะ ว่าเขาตายแน่



บทที่ 700 บอกกับเจตนะ ว่าเขาตายแน่

“ประธานเจตต์ รถของคุณสวยมากเลย!” ตอนที่ธาวิณีเห็นรถที่เจตต์ขับมานั้น ดวงตาก็สว่างขึ้นมาทันที เจตต์กลับไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แล้วก็พูดกับนิตาขึ้นว่า “ขึ้นรถ!!

เท้าของนิตาเดินไปข้างหลัง

“ทำอะไรนะ? เดินมาข้างหน้า ผมเป็นคนขับรถให้คุณครั้ง เดียวก็พอแล้ว อย่าได้คืบแล้วจะเอาศอกนะ!”

การคาดคะเนของเจตต์แย่ไปเล็กน้อย

นิตาจ้องมองดูธาวิณี พอนึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของเธอ แล้วพูดขึ้น ว่า “ให้ธาวิณีนั่งข้างหน้าเถอะ ฉันนั่งข้างหลังก็พอแล้ว”

“พูดไร้สาระอะไร ธาวิณีจะไปทำไม? นี่ไม่ใช่งานของบริษัทผม สักหน่อย”

คำพูดของเจตต์ทำให้ธาวิณีนิ่งอึ้งไปเลย

“ประธานเจตต์ พอดีฉันก็จะไปหาพี่ชายที่วิลล่าฟีนิกซ์พอดี หรือว่ารับฉันไปด้วยสักช่วงดีไหม”
“ไม่รับ คุณนึกว่าผมเป็นคนขับแท็กซี่หรือไง? ยังจะสามารถให้ คุณติดรถไปด้วยอีก! ตัวคุณเองอยากจะไปไหนก็ไปไหนซะ ตอน นี้ไม่ใช่เวลาทํางานของคุณ อย่ามาขอนั่งรถผมฟรี

เจตต์นั้นไม่ไว้หน้าธาวิณีเลยสักนิด

ธาวิณีรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่ว่ายิ่งเจตต์เป็นอย่างนี้ เธอก็จะยิ่ง ต้องทำให้ได้ผู้ชายคนนี้มาให้ได้

เธอจ้องนิตาเขม็งทีหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวไป แล้วก็ก้าวรองเท้า ส้นสูงที่สวมแล้วเดินไปเลย

“ขึ้นมา! จะรออะไรอีก! รอให้ชนกเปลี่ยนความคิดเหรอ ผม จะรอดูว่าคุณจะไปร้องไห้ที่ไหน

เจตต์ตะคอกเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่ง

นิตาถึงได้ขึ้นมานั่งตรงที่นั่งข้างคนขับอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่า

ไหร่

ธาวิณีจ้องมองพวกเขาขับรถออกไป ก็โกรธจนกระทืบเท้า

“พี่ หนูไม่สนแล้วนะ พี่จะต้องคิดหาวิธีพาตัวนิตาออกห่างจาก

ตัวเจตต์ให้ได้!” ธาวิณีรู้สึกว่านิตาขวางหูขวางตามากเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าผู้ หญิงคนนี้จะไม่ใช่คนที่เจตต์รักมากที่สุดก็ตาม เธอก็ทนดูเจตต์ดีกับนิตาทุกอย่างไม่ได้

นิตากลับไม่รู้สึกว่าเจตต์นั้นดีกับตัวเอง หลังจากที่เธอขึ้นมานั่ง ในรถแล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันนั่งข้างหลังก็ดีออก”

“เธอโง่หรือเปล่า? โตขนาดนี้แล้ว ยังจะโดนคนอื่นรังแกอีก ไม่รู้จักโจมตีกลับบ้างเหรอ?”

คำพูดของเจตต์ทำให้นิตาอึ้งไปครู่หนึ่ง

“นี่หมายความว่ายังไงคะ?”

“หมายความว่ายังไง? ผู้หญิงคนนั้นข่มขู่คุณแล้วใช่ไหม? คุณ ดูตัวคุณเองซิ ในใจคิดอะไรอยู่ ในดวงตาก็แสดงออกมาหมด แล้ว ยังอยากจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรอีก ผมว่านะนิตา คุณ แข็งแกร่งมากเลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ต่อหน้าธาวิณีถึงได้ พลาดไปได้ล่ะ?”

เจตต์เห็นผู้หญิงมาเยอะแค่ไหน?

แววตาของผู้หญิงคนนั้นแสดงออกถึงความหมายอะไร ทำไม เขาถึงจะไม่เข้าใจล่ะ

แค่ดูท่าทางของนิตาก็รู้แล้วว่าเธอโดนคนอื่นรังแกแล้ว เพียงแต่ว่าสิ่งที่เจตต์นึกไม่ออกก็คือ ปกติแล้วนิตาไม่ใช่คนที่จะเสียเปรียบบ่อย ๆ ได้ แต่ครั้งนี้เป็นอะไรไป นะ?

พอนิตาได้ยินเจตต์พูดแบบนี้ ก็ถอนหายใจขึ้นทันที แล้วพูดว่า “ประธานชนกเป็นพี่ชายของเธอ ถ้าเกิดว่าเธอสร้างความลำบาก ขึ้นมาให้พวกเราจะทำยังไงล่ะ?”

“อะไรต้องทํายังไง? สามารถทำได้สำเร็จก็จะดีมาก แต่ถ้าไม่ สําเร็จละก็ ผมก็จะหาคนมาจัดการชนกซะ พอถึงตอนนั้นยังไงก็ ยังคงเป็นธุรกิจของเราอยู่ดี”

พอได้ยินเจตต์พูดแบบนี้ นิตาก็อึ้งไปทันทีเลย

“คุณเป็นแก๊สมาเฟียเหรอ?”

“ถ้าหากว่าผมเป็นพี่ใหญ่แล้วละก็ คุณจะกลัวหรือเปล่า?” เจตต์ถามนิตาออกไปตรง ๆ เลย

นิตากลับเสียงเป็นที่หนึ่ง “ถ้าคุณเป็นพี่ใหญ่ งั้นฉันก็เป็นเจ้ ใหญ่แล้ว ล้อเล่นอะไรกัน รีบขับรถไปเถอะ!!

โดนคนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งพูดแบบนี้ใส่ เจตต์ก็รู้สึกไม่ชอบใจ เอามาก ๆ แต่ว่าเขาจะสามารถโต้แย้งอะไรได้ล่ะ
ทางด้านกานต์พอได้ยินข่าวจากทางด้านเจตต์แล้ว ก็ส่งคำขอ โทรวิดีโอคอลให้บรมนเป็นอันดับแรกเลย

ทั้งตัวนรมนรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

เธอถือ โทรศัพท์ออกไปจากห้องผู้ป่วย แล้วถึงจะกดรับสายวิดี โอคอลขึ้นมา

พอกานต์มองเห็นระเบียงทางเดินทางด้านหลังนรมน ก็ถาม ขึ้นว่า “หม่ามี้ หม่ามีอยู่ไหน ทำไมดูแล้วคล้าย ๆ โรงพยาบาล เลย?”

นรมนรีบทำสัญญาณมือขึ้นมาอันหนึ่งแล้วพูดว่า “หม่าอยู่ที่ โรงพยาบาลจริง ๆ รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ก็เลยมาเอายา”

“แด๊ดดี้ล่ะ?”

ครั้งนี้กานต์แม้แต่คุณบุริศร์ก็ไม่ยอมเรียกแล้ว เพราะว่านรมนมันแต่ตื่นเต้น ก็เลยไม่ได้สังเกตพบจุดนี้ “เขาก็ไม่สบายเหมือนกัน กำลังพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม “งั้นเดี๋ยวหม่ามีให้แด๊ดดี้ส่งคลิปวิดีโอมาให้ผมอันหนึ่ง
คําพูดของกานต์ทําให้นรมนรู้สึกพูดต่อด้วยไม่ได้ “แต๊ดดี้ของหนูพักผ่อนอยู่

“หม่ามี้ ผมรู้หมดแล้ว แคดดี้เป็นยังไงบ้างครับ? อาการหนัก หรือเปล่า? คุณอาเจตต์ได้บอกผมทุกอย่างหมดแล้ว”

คำพูดประโยคนี้ของกานต์พุ่งใส่นรมนจนมึนงงไปเลย ดีมาก ไอ้เจตต์ตัวดี!

เธอโกรธแทบตายอยู่แล้ว แต่ว่ากลับจ้องมองดวงตาที่เป็น กังวลของกานต์ แล้วมือก็ทำท่าทางแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรแล้ว แด๊ดดี้หนูนอนอยู่ ที่หม่ามีไม่บอกหนูเพราะว่ากลับหนูเป็นกังวล หนูวางใจเถอะ พวกเราจะกลับไปดี ๆ แน่นอน

“ผมจะดูแด๊ดดี้”

คำพูดของกานต์ทำให้นรมนนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ว่าพอคิดถึงว่า ถ้าไม่ให้กานต์ดู ก็ยังไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะสามารถทำเรื่องอะไรออก มาได้บ้าง

เธอพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ถือโทรศัพท์แล้วเข้าไปในห้อง ผู้ป่วย แล้วก็หันกล้องไปให้ตรงกับบริศร์
กานต์เห็นบุริศร์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เขาผอมไปแล้ว”

“อืม หม่ามี้จะเลี้ยงเขาให้กลับมาอ้วนเอง วางใจเถอะ

คําพูดของนรมน นกานต์ไม่ได้รับต่อตอบ เพียงแต่แค่จ้อง มองบุริศร์ไปครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยพูดขึ้นว่า “หม่าม หม่าเองก็จะ ต้องระวังสุขภาพด้วยนะครับ อย่าเหนื่อยมากเกินไปนะครับ”

“หม่ามี้รู้แล้วจ้ะ เด็กดี เรื่องนี้อย่างบอกกิจจากับกมลเลยนะ รู้ ไหม?”

“รู้แล้วครับ”

“ลูกชายที่รัก ดูแลตัวเองดี ๆ นะ แล้วหม่ามกับแด๊ดดี้จะรีบ กลับไปจ๊ะ”

“ครับ”

หลังจากที่นรมนวางสายวิดีโอคอลจากกานต์แล้ว ก็โทรวิดีโอ คอลหาเจต อย่างโมโหจัด แต่น่าเสียดายเจตต์นั้นเดาออกล่วง หน้าตั้งนานแล้ว ก็เลยปิดเครื่องโทรศัพท์ไป

เมื่อตามหาเจตต์ไม่เจอ นรมน โกรธจนแทบจะตายอยู่แล้ว ตอนนี้เจตต์กับนิตาขับรถมาถึงวิลล่าฟีนิกซ์แล้ว

ในตอนที่ชนกเห็นพวกเขานั้นก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับ

“ประธานเจตต์ พวกคุณมากันแล้วเหรอ?”

ชนกกวาดตามองนิตาที่หนึ่ง แล้วก็ตาโตขึ้นมาทันทีเลย

เขาเป็นคนที่พื้นที่นี้อย่างแท้จริง แน่นอนว่ามุมมองที่ดูสาวงาม นั้นแตกต่างจากเจตต์โดยสิ้นเชิง

นิตาอยู่ที่นี่ถือได้ว่าเป็นหญิงสาวที่สวยงามคนหนึ่งแล้ว และที่ สำคัญที่นี่จะเห็นว่าผิวดำถือว่าสวย ถึงแม้ว่านิตาจะไม่ได้มาก แต่ว่าเมื่อประกอบกับใบหน้า ในตอนนี้แล้ว ถือได้ว่าสวยมากจริง

“ท่านนี้คือ….”

“อ๋อ ผู้ช่วยของผมนิตา

เจตต์รีบแนะนําขึ้นมา

แต่ว่าเขามองท่าทางที่เจ้าชู้ของชนกต่อนิตาออก จึงอดไม่ได้ที่ จะเอานิตามาหลบอยู่ข้างหลัง

นิตารู้สึกซาบซึ้งขึ้นมานิดหน่อย
เธอเองก็มองแววตาของชนกออกว่ามันไม่หวังดี แต่ว่าเธอเป็น คนที่นรมนส่งมา ถ้าตอนนี้ทำอะไรกับชนกไปแล้วละก็ คาดว่า ธุรกิจก็คงจะมลายหายไปแน่

แต่ตอนนี้ท่าทางที่เจตต์ปกป้องเธออยู่ ทำให้ใจของเธออบอุ่น ขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งเลย

เพราะว่าร่างกายที่สูงใหญ่ของเจตต์บดบังนิตาอยู่ ชนกจึงตั้ง

สติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

“ประธานเจตต์ นี่คุณแม้แต่คนมองก็จะไม่ให้มองเลยเหรอ”

“นี่เป็นคนของผม!”

เจต เปิดปากพูดโดยตรงเลย

นิตารู้สึกว่าหัวใจเต้นเหมือนจะเต้นเร็วขึ้นมาทีหนึ่ง จากนั้นก็ กลับคืนสู่สภาพปกติ

ทำไมชนกจะฟังความหมายในคำพูดของเจตต์ไม่ออกล่ะ?

เขารีบร้อนพูดขึ้นว่า “เสียมารยาทแล้ว เสียมารยาทแล้ว ใน เมื่อเป็นคนของประธานเจตต์ แน่นอนผมก็จะต้องต้อนรับอย่างมี มารยาท เชิญเข้าข้างในก่อนเลยครับ เริ่มตั้งแต่นี้ต่อไป พวกเรา มาจะคุยกันแต่เรื่องธุรกิจ

พอเห็นว่าชนกเก็บสายตาของตัวเองกลับไป สีหน้าของเจตต์ถึงจะดูดีขึ้นมาได้หน่อยหนึ่ง เขาจับมือของนิตาไว้แล้วก็เดินเข้าไปเลย

ตอนแรกนิตากะว่าจะขัดขืนออก แต่พอตอนที่เห็นชนกนั้นเธอ ก็หยุดการกระทําลง

ผู้หญิงแกร่งต้องสามารถยืดหยุ่นได้ ตอนนี้เธอไม่สนใจว่าเจต จะจับมือของตัวเองแล้ว ขอแค่ไม่ใช่ชนกก็พอแล้ว

คนทั้งหมดเข้าไปในวิลล่าด้วยกัน แล้วนิตาถึงพบว่าที่นี่นั้น สวยมากจริง ๆ แต่ว่าอยู่ในสายตาของเจตต์แล้ว ความรู้สึก สวยงามสักนิดก็ไม่มี

ชนกเห็นว่าเจตต์เป็นคนที่เห็นโลกกว้างมาแล้ว ก็รีบถอยสาม ส่วนถอยให้พวกเขาเข้าไปก่อน

“ประธานเจตต์ โครงการของพวกเราผมสามารถให้พวกคุณดู

ได้ แต่ว่ามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง หวังว่าประธานเจตต์จะสามารถ

ตอบตกลงได้”

“คุณว่ามาเลย”

เจตต์รู้อยู่แล้วว่าชนกจะต้องถือโอกาสขออะไรบางอย่างแน่น ล้วนอยู่ในการคาดเดาของเขา เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้มีอะไรน่า แปลก

นิตากลับอยากจะพูดอะไรขึ้นมาบ้าง แต่กลับโดนสายตาของ เจตต์จ้องจนถอยร่นไป จากนั้นก็หุบปากไปเลย

ชนกเห็นการตอบโต้ระหว่างพวกเขา แล้วก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ประธานเจตต์นี้มีวาสนามากจริง ๆ สามารถคว้าผู้หญิงสวย ๆ ของที่นี่เราไปได้”

“ฉันไม่ใช่…..”

“เทน้ำชา!”

คำพูดของนิตายังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเจตต์แย่งพูดขึ้นก่อนแล้ว

ในเวลานี้ นิตาถึงจะดูความหมายในตาของเจตต์ออก

แล้วเธอก็รีบเทน้ำชาให้เจตต์

แล้วก็ในเวลานี้พอดี เจตต์ก็ถามขึ้นว่า “ประธานชนก คุณยัง ไม่ได้พูดเงื่อนไขของตัวเองออกมาเลย”

“อ๋อ ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกเราคุณเรื่องงานกัน คือว่าถึงผมจะ สามารถร่วมงานกันได้ แต่ไม่ว่ายังไงพวกคุณก็คงจะต้องให้ผม พบกับประธานใหญ่ของพวกคุณสักหน่อยไหม ไม่งั้นถ้าต่อไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ จะให้ผมไปหาใครล่ะ?”

“มาหาผมก็พอ!”

เจตต์กลับรั้งทุกอย่างไว้เองหมดเลย

“แบบนั้นคงจะไม่ได้ ประธานเจตต์ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนสบาย ๆ และผมก็รู้ว่าประธานนรมนคนนี้เป็นเพื่อนรักของ คุณ แต่ในเมื่อพวกคุณอยากจะเซ็นสัญญากับผมจริง ๆ แน่นอน ว่าผมก็จะต้องเจอกับเจ้าตัวประธานใหญ่ของพวกคุณก่อน เอา อย่างนี้ละกัน ถ้าประธานนรมนไม่มา สัญญานี้ผมก็ไม่เซ็น

ความหมายของชนกนั้นชัดเจนมาก และแน่ชัดมาก

เจตต์คิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าชนกจะเอ่ยเงื่อนไขแบบนี้ออกมาได้

“ช่วงนี้ประธานนรมนยุ่งมาก ไม่มีเวลามาหรอก”

“ประธานเจตต์ ถ้าอยากจะร่วมงานกับจริง ๆ แล้วละก็ ยุ่งแค่ ไหนก็ต้องมาได้ การเดินทางการอากาศของทางนี้เรา แค่ไม่ถึง หนึ่งชั่วโมงก็สามารถมาถึงได้แล้ว”

ความหมายของชนกนั้นชัดเจนมาก ถ้าอยากจะร่วมงานกัน ให้นรมนมาเซ็นสัญญาเอง

พอนิตาเห็นเจตต์นิ่งค้างไป ก็อดไม่ได้ที่จะพูดเสียงต่ำขึ้นมาว่า “ฉันลองไปพูดกับประธานนรมนดูก่อนดีกว่า ในเมื่อเธอต่างหาก ที่เป็นคนมีอำนาจตัดสินใจ

เจตต์ขมวดคิ้วขึ้นที่หนึ่ง แล้วอยู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองก่อไว้ ขึ้นมา แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณโทร แต่ว่าอย่าบอกว่าผมอยู่ ด้วยนะ บอกไปว่าผมป่วย ไม่ได้มาด้วย”

นิตารู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทันทีเลย

“การโกหกไม่ดี”

“อ้ายหยา คุณพูดไปแบบนี้ก็พอแล้ว เป็นพี่น้องกันหรือเปล่า เนี่ย? ยังอยากจะให้ผมสอนงานคุณอีกไหมเนี่ย?”

คำพูดของเจตต์ทำให้มุมปากของนิตากระตุกขึ้นเล็กน้อย

เขาสอนอะไรเธอกัน?

ทำไมเธอไม่รู้เรื่องสักนิดเลยล่ะ?

แต่ว่านิตาก็ให้เกียรติเจตต์อย่างเต็มที่ พยักหน้า แล้วก็ไป โทรศัพท์ที่อีกข้างหนึ่งเลย

นรมน โทรศัพท์หาเจตต์แต่หาไม่เจอ ในท้องกำลังเต็มไปด้วย

ไฟ โกรธ แล้วตอนนี้นิตาก็โทรวิดีโอคอลเข้ามา ชั่ววินาทีแรกนร

มนก็รับสายขึ้นเลย

“เจ้าคนชั่วช้าเจตต์นั่นไปไหนแล้ว?” นรมนเริ่มต้นมา ก็ไฟโกรธแรงเลย

นิตาอึ้งไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “คือว่าเขาไม่กล้าโทรศัพท์ หาคุณ ก็เลยให้ฉันบอกกับคุณว่าเขาป่วยอยู่
“ยังจะมาให้เธอมาโกหกฉันอีกเหรอ ดี! ดีมากจริง ๆ! เธอไป บอกเจตตนะ เขาได้ตายแน่!”

นรมน โกรธแทบตาย

นิตารีบร้อนพูดขึ้นว่า “ประธานนรมนคะ ทางด้านเราบังเอิญ เจอความลำบากเข้า ประธานชนกบอกว่าจะต้องให้คุณมาเซ็น สัญญาด้วยตัวเองค่ะ ไม่งั้นละก็ไม่ต้องมาคุยเรื่องสัญญาเลย”

นรมนอึ้งไปทันทีครู่หนึ่ง

ถ้าจะไปละก็ บุริศร์จะทำยังไงล่ะ?

แล้วก็ในเวลานี้พอดี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาพอดี พอ เห็นห้าจอแสดงชื่อสายโทรเข้ามาเป็นชื่อของโพนี่ นรมนก็ทำท่า ทางมือแล้วพูดว่า “เดี๋ยวให้คำตอบเธอนะ ฉันรับโทรศัพท์สาย หนึ่งก่อน”

พูดจบเธอก็วางสายไป

สำหรับเธอนั้น ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องของบุริศร์แล้ว

แล้วตอนนี้สายของโพนี่โทรเข้ามาแล้ว งั้นแสดงว่าอาการของ บริศ สามารถช่วยได้แล้วใช่ไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ