แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 666 ขับรถยังกล้าถ่ายรูป



บทที่ 666 ขับรถยังกล้าถ่ายรูป

นรมนเห็นบุรีศร์ยังมีนงง จึงเอื้อมมือ โบกไปมาตรงหน้าเขาอย่าง ห้ามไม่ได้ ถึงจะทำให้บริศร์ได้สติกลับมา

“เป็นอะไรไป? ”

นรมนถามอย่างสงสัย

บุรีศร์มองนรมน คิดไปคิดมา ในที่สุดจึงเอ่ยถามออกมา

“ผมสำหรับคุณแล้ว อะไรคือบรรทัดฐานที่คุณต้องการแยก จากผมไป? ”

นรมนนิ่งไปพักหนึ่ง

สําหรับบริศร์ บรรทัดฐานแต่ก่อนของเธอก็คือ ตราบใดที่ ผู้ชายคนนี้รักเธอ ตราบใดที่เขาไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อตนเอง ไม่ว่า เขาจะทำอะไรตนเองก็จะอดทน ในเมื่อเธอรักเขาขนาดนี้ แต่ตอน นี้ภายใต้บรรทัดฐานนี้ ยังรวมไปถึงอีกชีวิตหนึ่ง เธอควรจะทำ อย่างไร?

นรมนเองก็ไม่รู้

เธอมองบุริศร์อย่างเงียบ ๆ

ยิ่งนรมนเงียบไปนานเท่าไหร่ หัวใจของบุริศร์ก็ค่อย ๆ จมลง

ไปทีละน้อย ๆ

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ตอนนี้นรมนไม่เหมาะที่จะคุยกับเธอในหัวข้อนี้

บริศ กล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ช่างเถอะ ผมไม่ถามแล้ว พวก เราไปซื้อรถกันเถอะ”

พูดจบ เขาก็เหยียบคันเร่งจนมิด ขับออกไปทันที

ความเร็วของรถทำให้นรมนรู้ว่าตอนนี้บริศ อารมณ์ไม่ดี แต่ เธอจะสามารถทำอะไรได้?

ตอนนี้ระหว่างพวกเขาก็เป็นแค่เพียงข้อตกลงเจ็ดวัน

เป็นแค่ข้อตกลงจริง ๆ เหรอ?

ทำไมทุกครั้งตนเองจึงหลงไปกับแววตาอ่อนโยนของบุริศร์

นโมนไม่สบายใจ

เธอหันหน้าออกไปทางนอกหน้าต่าง มองดูทิวทัศน์ที่ผ่านไปไม่ หยุด อารมณ์ค่อย ๆ สงบลงเล็กน้อย

หลังจากที่บุริศร์เร่งความเร็วรถมาได้สักพัก ในที่สุดอารมณ์ก็ สงบลง

เขาเหลือบมองนรมนข้างกาย เห็นเธอหน้าซีด แต่กลับเอาแต่ ไม่ยอมพูด ก็แอบด่าตนเองในใจไม่ได้

ทำไมทุกครั้งต้องให้นมนมายอมทนกับตนเอง

แปดปีก่อนก็เป็น แปดปีให้หลังก็เป็น ถึงแม้ตอนนี้จะมี สถานการณ์แบบนี้ นรมนยังคงปล่อยให้เขาระบายอารมณ์
ชีวิตนี้ได้มีภรรยาที่แสนดีเช่นนี้ เขาจึงไม่ต้องการหย่า! ให้ ตายก็ไม่ยอม!

หลังจากบริศ ตัดสินใจได้จึงชะลอความเร็วของรถลง

เขาเปิดเพลงสบาย ๆ พบว่าเพลงในรถต่างเป็นเพลงที่ปกตินร มนชอบฟัง ในใจของบุริศ เต็มไปด้วยความหึงหวง

ไอ้กิมจิคนนี้ ยังมีเจตนาดีจริงๆ

เพียงแต่บุริศร์ไม่ได้แสดงออกมา เขาไม่ต้องการให้รู้สึกว่ากิน มีตัวตนต่อหน้านามน

แน่นอนว่านรมนไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้

เพลงสบาย ๆ สามารถผ่อนคลายความรู้สึกของคน ทำให้ อารมณ์ดีขึ้น และเสียงเพลงเหล่านี้ยังค่อนข้างไพเราะ

นิ้วมือของเธอค่อย ๆ เคาะตามท่วงทำนอง เคลิบเคลิ้มไปกับ เสียงเพลงอย่างช้า ๆ

บุริศร์มองเห็นฉากนี้เข้าจึงเกิดความโลภ อยากให้มีกล้องมา

จับภาพช่วงเวลานี้เอาไว้

ในใจคิดเช่นนี้ เขาหยิบมือถือออกมา “แซะ” เสียงถ่ายภาพดัง

ขึ้น ทําเอานรมนูตกใจ

“ขับรถให้มันดี ๆ หน่อยสิ

นรมนรู้สึกว่าเหงื่อเย็น ๆ ซึมออกมา

ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไป?
ขับรถอยู่ยังกล้าถ่ายรูป?

เขามั่นใจทักษะการขับรถของตัวเองมากแค่ไหน?

บริศรกลับหัวเราะ และเก็บมือถือไป

ทั้งสองมา ร้าน 4S อย่างรวดเร็ว หลังจากนรมนลงจากรถ ก็ตรงมาดูรถที่รถจี๊ปขับข้ามประเทศ

บุริศ เดินตามมาข้างหลัง

เมื่อพนักงานขายรถมองเห็นนรมนก็ไม่มีการต้อนรับอย่าง กระตือรือร้น เนื่องจากนรมนแต่งตัวธรรมดาสุด ๆ แต่หลังจากบุรี ศร์ลงมาจากรถ พนักงานก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านต้องการซื้อรถแบบไหน คะ?”

ท่าทางของพนักงานทั้งก่อนและหลังที่มีตอนรมนกับบุริศร์ เขา มองเห็นเต็มสองตา จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมไม่มีปัญญาซื้อ หรอก ผมเพียงแค่ขับรถ คุณผู้หญิงตรงหน้าถึงจะเป็นเจ้านาย ของผม”

“หา? ”

พนักงานรู้สึกแปลกใจ

นรมนได้ยินดังนี้ ก็ถลึงตามองบุริศร์อย่างจนปัญญา นี่ถ้าคนเมืองชลธีได้ยินเข้า จะไม่ก่อกบฏเหรอ?
“เจ้านายครับ ท่านคิดว่ารถรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ? ผม คิดว่าไม่เลวเลย”

บริศ ติดการแสดงเป็นนิสัย รีบก้าวขึ้นไปข้างหน้าแนะนำรถ ด้านขวามือ ให้แก่นรมน

นรมนอยากหัวเราะทันที

เธอไอออกมาหนึ่งที จากนั้นจึงส่ายหน้า

บุรีศรีบกล่าวว่า”ใช่ ๆ ๆ แน่นอนว่าเจ้านายสายตาดีกว่าผม สมรรถนะของรถคันนี้ดี แต่กินน้ำมันเกินไป

พูดจบ บุริศร์มีท่าทางขี้เหนียวสุด ๆ พนักงานด้านข้างมองเห็น แล้วรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที

นรมนแทบจะหลุดหัวเราะออกมา

เธอเดินมาตรงหน้ารถจี๊ปรุ่นใหม่ ตบประตูรถ แสดงให้ พนักงานนํากุญแจมาให้ทดลองขับ

บุรีศรีบวิ่งเข้าไป เจ้านายครับ การทดลองขับรถเรื่องแบบนี้ ให้ถึงมือท่านได้ที่ไหนกัน? ผมช่วยเองครับ

พูดจบ เขาก็รับกุญแจจากมือของพนักงาน และขับรถออกไป

พนักงานเห็นบุริศร์ขับไปแล้ว จึงเดินเข้ามาใกล้นรมน เอ่ย ถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “คนสวย เขาคือคนขับรถของคุณ

จริงๆ เหรอคะ? ”

นรมนมองเธอ โยนการ์ดออกไปใบหนึ่ง
พนักงานเห็นนรมนมีท่าทางไม่สนใจตนเองอย่างยิ่ง และมอง เห็นท่าทาง โยนการ์ดเท่ ๆ ของเธอ จึงยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่ได้

“คนสวย คันนี้ใช่ไหมคะ?

นโมนพยักหน้า

เธอกับบริศร์ต่างศึกษารถมาเยอะมาก เนื่องจากเธอเลือกคันนี้ แน่นอนว่าต้องรู้ว่าสมรรถนะดีทุกด้าน ส่วนบริศ แสดงได้ยอด เยี่ยม แต่ยังวิ่งไปทดลองขับรถ ให้โอกาสเธอได้แกล้ง และเธอก็ ออมมือให้

พนักงานเดินส่ายสะโพกอย่างสวยงามไปรูดการ์ด

รอจนบุรีศร์กลับมา เขานำรถมาจอดตรงหน้านรมน กล่าว ว่า “เจ้านายครับ รถคันนี้ไม่เลว!

พนักงานรีบกล่าวว่า “เจ้านายของคุณจ่ายเงินแล้ว ตอนนี้รถ

เป็นของพวกคุณแล้วค่ะ”

“ว้าว เจ้านายใจกล้ามาก! ” บริศร์พูดไปพร้อมกับยกนิ้วโป้งในนรมน นรมนอยากหัวเราะ

พนักงานทนเห็นท่าทางประจบสอพลอของบุริศร์ไม่ได้อีกต่อ ไป จึงกล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ หน้าตาดีแบบนี้ ทำไมถึงเป็นแค่ คนขับรถ? ”

“ผมใช้หน้าตาหากิน!

เรื่องนี้คุณเทียบไม่ได้
ในขณะที่บุริศรพูด ก็รีบเปิดประตูให้นรมน กล่าวด้วยความ เคารพ”เจ้านาย เชิญขึ้นรถครับ

นรมนกลั้นหัวเราะขึ้นรถ

บริศ ขับพานรมนออกไปจาก ร้าน 4 ท่ามกลางสายตาของ ดูถูกของพนักงาน และทิ้งรถของกิมจิไว้ที่ประตูทางเข้าร้าน 4Sทันที รอพวกเขามาขับไป

นโมนนั่งพิงเบาะอย่างสบายๆ

บุริศร์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้านายครับ สบายไหม? ”

ในที่สุดนรมนก็หัวเราะออกมา เธอถามด้วยภาษามือ”คุณยัง จะล้อเล่นอีกเหรอ?

“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ผมจะเป็นคนขับรถของเจ้านาย เจ้า

นายครับ มีเงินเดือนไหม? ”

“มี หยวนเดียว จะทำไหม? ”

“ต้องทําสิ! ”

บุริศร์พูดไป แววตามีสีสัน

ในตอนแรกนรมนยังไม่มีการตอบสนอง เมื่อสังเกตเห็น สีหน้า ก็แดงขึ้นมา หยิบเสื้อโค๊ทโยนไปที่บุริศร์ทันที

บริศร์หัวเราะเสียงดังอย่างเบิกบานใจ

เสียงหัวเราะของพวกเขาปลิวออกไปนอกหน้าต่างรถ ลอยขึ้น

ไปบนท้องฟ้า
หลังจากพวกเขาออกไปไม่นาน นลินก็รีบพาคนกลุ่มหนึ่งมา แต่ไม่เห็นนรมนกับบริศร์ที่นี่ เธอกลับเห็นแค่เพียงรถจี๊ปของกิมจิ

“เจ้าของรถคันนี้ไปไหน?

นลินตรงไปหาพนักงาน

พนักงานส่ายหน้าและตอบว่า “พวกเขาซื้อรถคันหนึ่งขับไป

แล้ว”

“รถอะไร? ”

“รถจี๊ป”

“ทะเบียนอะไร?

“ยังไม่ได้ติดทะเบียน

นลินได้ฟัง ก็โมโหอย่างยิ่ง

ปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อีกแล้ว

ทำไมสองคนนี้จึงมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ?

นรมนกับบุริศร์ไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ทั้งสองคนกินเที่ยวไปตลอด ทาง และไม่ทำไปตามกฎเกณฑ์ บางครั้งขับผ่านไปแล้ว ได้ยินคน บอกว่าหมู่บ้านข้างหลังมีของอร่อย พวกเขาก็กลับรถไปอีกครั้ง

พวกเขาใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ เดินทางไปอย่างสบาย ๆ ถ่าย รูปไประหว่างทาง มองดูทิวทัศน์ สนุกอย่างเต็มที่สุด ๆ และมี ความสุขอย่างยิ่งที่ได้กิน
บริศร์ไม่ไปวุ่นวายว่าทําไมนรมนซื้อรถถึงไม่ใช่บัตรของเขา เพียงแต่เมื่อขับผ่านร้านหยก เขาซื้อกําไลหยกดอกไวโอเล็ตให้ แก่เธอ

นรมนบอกว่าไม่ต้องการอะไร บุริศร์จึงซื้อเธอให้ซื้อหยกผู้กล้า ให้แก่ตนเอง

นรมนรู้สึกเหมือนกำลังแลกเปลี่ยนของแทนใจ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งบุริศร์ยังพกติดตัวเอาไว้ ทำให้นรมนเกิดความเข้าใจผิด อย่างยิ่ง

บริศร์กลับไม่สนว่านรมนจะคิดอย่างไร ทั้งสองคนขับรถไปสิบ สองปันนา

เมื่อใกล้จะถึงสิบสองปันนา นรมนก็มองเห็นสวนชาในละแวก

ใกล้เคียงขึ้นมากะทันหัน

เธอขอให้บริศ พาเข้าไปในสวนชา มองเห็นเอ่อร์ของที่นี่ดี มาก จึงพักที่นี่ในช่วงบ่ายกับบุริศร์

ขากลับ นรมนซื้อชาผู่เอ่อร์กลับไปเยอะมาก บอกว่าคมทิพย์ กับปัญญ์ชอบดื่ม จึงซื้อไปฝากพวกเขาสักหน่อย

บุริศร์รู้สึกอิจฉา แต่ไม่ได้ขัดขวาง

เมื่อทั้งสองคนยังคงมุ่งหน้าไปทางตะวันตก ปรากฏอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขาต้องหยุดรถ

นรมนมองเห็นจราจรด้านหน้าติดขัดอย่างมาก จึงอดร้อนรน

ไม่ได้
บุริศร์หยิบผลไม้ส่งให้เธอ กล่าวว่า “กินผลไม้คลายร้อนสัก หน่อย เห็นแบบนี้กว่าจะเคลียร์ให้โล่ง อย่างน้อยที่สุดต้องใช้ เวลาหนึ่งชั่วโมง”

นรมนรู้สึกห่อเหี่ยว

ติดอยู่ตรงนี้หนึ่งชั่วโมง ค่อนข้างทรมานจริง ๆ

เธอกินผลไม้และมองออกไปด้านนอกตามอำเภอใจ ทันใดนั้น เองก็พบร่างที่คุ้นเคยแวบเข้ามา

หัวใจของนรมนเต้นรัว

เธอลงจากรถทันที ไล่ตามร่างนั้นไปอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ นรมน คุณจะไปไหน? ” บริศร์ไม่ทันระวัง เห็นนรมนเปิดประตูรถวิ่งออกไป ก็อดมึนงง ไม่ได้

เขามองหน้ามองหลัง รถเอาแต่ติดอยู่ตรงนี้ไม่ขยับเขยื้อน ส่วนนรมนก็วิ่งไปไกลแล้ว

ถึงแม้จะไม่รู้ว่านรมนมองเห็นอะไรกันแน่ และวิ่งตามอะไรไป แต่ในเมื่อที่นี่คือต่างถิ่น และตัวเธอเองก็ไม่คุ้นเคย บุริศร์จึงเป็น ห่วงอย่างยิ่ง

เขาจอดรถไว้ตรงนี้ ลงจากรถตามไปทันที

นรมนวิ่งเร็วมาก แต่กลับไม่ทันร่างนั้นที่รวดเร็ว

ที่ปากซอยแห่งหนึ่ง นรมนจึงคลาดกัน
เธอยืนหงุดหงิดอยู่ตรงนั้น ในขณะที่ไม่รู้ว่าควรจะวิ่งตามไป ทางไหน บุริศรก็ตามมา

“เกิดอะไรขึ้น? ทําไมถึงวิ่งออกมาอย่างกะทันหัน? มองเห็น ใครเหรอ?

บริศ ถามอย่างสงสัย บนศีรษะมีเหงื่อไหลออกมา

นโมนพยักหน้า

เธอมองเห็นมายด์!

ตั้งแต่รามิลตายไป เธอตามหาร่องรอยของมายด์มาตลอด แต่ คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ได้แจ้งหรือติดต่อแม้แต่เรนนี่

วันนี้ในเมืองเล็ก ๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอมายด์!

ถึงแม้จะเห็นแค่แวบเดียว แต่เธอมั่นใจว่าตนเองไม่ได้มองผิด

เธอทําอะไรที่นี่?

และเมื่อสักครู่เธอวิ่งอย่างบ้าคลั่ง หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

นรมนรู้ ความจริงแล้วรามิลเป็นห่วงมายด์ที่สุด ไม่อย่างนั้น คงจะไม่ส่งมายด์ออกไปก่อนที่จะลงมือ แต่ทำไมมายด์ถึงไม่ติด ต่อกับเรนนี่? เธอรู้หรือเปล่าว่ารามิลไม่อยู่แล้ว?

คำถามทั้งหลายรบกวนนรมน ทำให้เธอรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่ายิ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ