แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 640 รบกวนคุณช่วยเรื่องหนึ่งได้ไหม?



บทที่ 640 รบกวนคุณช่วยเรื่องหนึ่งได้ไหม?

บุริศร์รู้สึกว่าเซลล์ทั่วทั้งร่างกายเขากำลังร้องตะโกน และเดือด พล่าน

เขาหวังเป็นอย่างมากว่านรมนจะสามารถจำตนเองได้ กระทั่ง เผชิญหน้ากับนรมน จากนั้นก็พาเธอกลับบ้าน แต่ที่คุณนาย ตระกูลโตเล็กทำกับเธอทั้งหมด การของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ทำให้บริศร์ไม่มีความมั่นใจเลย ไม่กล้าที่จะทำให้นรมนตกใจ

ถ้านรมนหนีไปครั้งนี้ เขาจะยังตามหาเธอเจออีกหรือไม่?

บุริศร์ไม่รู้เลย

เขารับรู้ถึงการเดินเข้ามาทีละก้าวของนรมน ระยะห่างใกล้ขึ้น เรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถทำให้เขารู้สึกเสียงหัวใจเต้นของนรมน

บุริศรสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามระงับอารมณ์ที่อยากเผชิญ หน้ากับนรมน หันตัวลุกขึ้นเดินไปจ่ายเงินให้เถ้าแก่ แล้วเดินจาก ไปโดยไม่เงยหน้าขึ้น

นรมนเหลือแค่ไม่กี่ก้าวก่อนจะไปถึงตัวบุริศร์แล้ว แต่ทันใดนั้น คนคนนั้นกลับลุกขึ้นเดินจากไป

เธอมองตามหลังบุริศร์ อยากจะพุ่งเข้าไปจริงๆ ไม่ว่าสมองจะ คิดอย่างไร แต่สองขากลับหนักเหมือนมีเหล็กถ่วงไว้

“พี่นรมน พี่รู้จักคนนั้นเหรอ?”
ปัญญ์ถามอย่างแปลกใจ

นรมนส่ายหน้า

น่าจะไม่ใช่บุริศร์!

เธอหมุนตัวเดินไปที่รถอย่าง ใจลอย

ปัญญ่เห็นท่าทางของก็ไม่กล้าถามอะไรมาก รีบตามไปแล้ว จากนั้นก็ขึ้นรถไปกับนรมน

รถมาถึงที่ตระกูลเจริญไชยอย่างรวดเร็ว

เมื่อคุมทิพย์เห็นพวกเขาก็รีบเอ่ยถาม “นายพานรมนไปที่ไหน มา?

“ไปเอาค่าจ้างที่แผนกการเงินของบริษัทTENกรุ๊ปไง พวกเขา คิดบัญชีให้พี่นรมนผิดแล้ว

ปัญญรีบบอก

คมทิพย์มองนรมน แล้วเห็นว่าเธอไม่ค่อยมีสติอยู่กับตัว

“ปัญญ์ นรมนเป็นอะไรไป?

“ไม่รู้ พี่นรมนจะเลี้ยงข้าวผม ที่ตลาดแผงลอยเห็นผู้ชายคน หนึ่งเข้า พื้นรมนอาจจะรู้จัก อยากเข้าไปดูแต่ผู้ชายคนนั้นก็ลุกขึ้น เดินจากไปก่อน จากนั้นพี่นรมนก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว

ผมพูดของปัญญ์ทําให้คมทิพย์ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

“ผู้ชายคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร?”
“ไม่รู้ไม่ได้เห็นหน้าตรงๆ

คมทิพย์ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก

เธอมาถึงข้างหน้าบรมนแล้วเอ่ยถาม “นรมน เธอไม่เป็นไรใช่ ไหม?”

“ไม่เป็นไร ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อย กิจจาล่ะ?”

นรมน ใช้ภาษามือสื่อสารบอก คมทิพย์เอ่ยเสียงเบา “อยู่ในห้อง พึ่งหลับไป

“ฉันจะไปดูเขา”

นโมนพูดจบก็ไปที่ห้องของกิจจา

กิจจาก๋าลังนอนหลับสนิทอย่างสบาย

หลังจากมาถึงตระกูลเจริญไชยแล้ว แม้ว่ากิจจายังปิดกั้นตัว

เองอยู่บ้าง แต่อารมณ์ก็ดีขึ้นมา และชอบอยู่กับปัญญ นรมนมาที่ข้างตัวเขาแล้วนั่งลง มองใบหน้าที่คล้ายกับบุริศร์

นั้น หัวใจก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง

เดิมคิดว่าตัวเองลืมเขาไปแล้ว แต่สุดท้ายวันนี้แค่หลังที่คล้าย เขาก็ทำให้เธอสติไม่อยู่กับเนื้อกับลอยได้ถึงขนาดนี้

ที่แท้หลังจากรักจนเข้ากระดูกไปแล้ว อยากจะลบลืมนั้นไม่ง่าย

เลย

เธอกุมมือกิจจาไว้เบาๆ
ทันใดนั้นกิจจากลืมตาขึ้นมองมาทางนรมน

นรมนยิ้มขอโทษ ทำท่าทางมือบอกเป็นการขอโทษกิจจา

กิจจาลุกขึ้นแล้วคลานเข้ามาในอ้อมกอดเธอ หาตำแหน่งที่ สบายตัวในอ้อมกอดของเธอเพื่อนอนลง มือเล็กๆ จับมือของพร มนไว้แน่น

นรมนใจเหลวทันที

กมลก็เคยเป็นแบบนี้ ตรงกันข้ามกับกานต์ที่น้อยมากจะมา พึ่งพาตนแบบนี้

นรมนบังคับตัวให้ไม่ให้คิดถึงกานต์กับกมล แต่เพราะท่าทาง ที่ไม่ตั้งใจของกิจจาตอนนี้ เธอจึงคิดถึงลูกชายลูกสาวของตัวเอง ขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และlineแล้ว ก็ไม่รู้ว่ากมลกับ กานต์ได้ติดต่อกับตัวเองบ้างไหม แล้วยิ่งไม่รู้ว่าตอนนี้บริศร์ได้ แต่งงานอีกครั้งหรือยัง

เธอบังคับตัวเองให้ไม่คิด ไม่ไปดู ไม่สอบถามถึงทั้งหมดของบุ ริศร์ เพราะกลัวว่าตนเองจะรับไม่ไหว แต่วันนี้ ความคิดถึงราวกับ ถูกฉีกออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนทนไม่ไหวแล้ว

เธอคิดถึงบุริศร์ คิดถึงกานต์ คิดถึงกมล แต่กลับไปไม่ได้แล้ว!

นรมนกอดกิจจาแน่นขึ้น กอดไว้แน่น เธอรู้สึกว่ามีเพียงแบบนี้ ที่ทำให้ตนเองรู้สึกว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่
คนยังมีชีวิตอยู่ บางครั้งก็เจ็บปวดมากจริงๆ

กิจจาค่อยๆ หลับไปอีกครั้งในจากการปลอบโยนของนรมน นรมนคิดได้ว่าอยากซื้อของขวัญให้กิจจา เพราะแผ่นหลังที่ แสนคุ้นเคยนั้นทำให้ลืมทั้งหมดไป

เธอถอนลมหายใจแล้วปล่อยกิจจาลง ดึงผ้าขึ้นมาห่มให้ จาก นั้นก็ออกจากตระกูลเจริญไชยไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คน เดียว

บุริศร์ตามหลังนรมนมา เห็นเธอเข้าตระกูลเจริญไชยไปแล้ว ออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ขนาดใหญ่ที่สุด จึงแอบตามไปด้วย

นรมนมาถึงที่บริเวณของเล่นเด็ก

เธอไม่ได้ซื้อของเล่นเด็กมานานมากแล้ว

กานต์ไม่เคยเล่นของเล่นสำหรับเด็กสี่ขวบพวกนี้ แต่ตรงกัน ข้ามกมลกลับชื่นชอบ แต่ก็แค่กับตุ๊กตาบาร์บี้เท่านั้น นรมนไม่รู้ จะซื้ออะไรให้กับกิจจา

พนักงานขายเห็นนรมนเข้า จึงเข้าไปทักทายอย่าง

กระตือรือร้น

“คุณนายท่านนี้ ขอสอบถามว่าท่านอยากซื้อของเล่นให้ลูกใช้

ไหมคะ?”

นรมนมองพนักงานขายอย่างไม่แน่ใจ
เธอไม่รู้ว่าตนเองควรจะแสดงออกไปอย่างไร อย่างไรก็ตามมี คนน้อยมากที่เข้าใจภาษามือ นี่เป็นเหตุผลที่เธอไม่ชอบออกมา ข้างนอก

เมื่อก่อนยังมีปัญญ่คอยมาเป็นเพื่อน เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แค่ ยืนเงียบๆ ก็ได้แล้ว ตอนนี้มาเพียงคนเดียว มองพนักงานด้วย สายตาคาดหวัง นรมนอ้าปาก สุดท้ายก็พูดไม่ออก

เธอทําภาษามือ บอกความหมายของตนเอง แต่น่าเสียดายที่ พนักงานขายไม่เข้าใจ

หลังจากที่พนักงานขายรู้ว่านรมนเป็นคนใบ้ ท่าทางก็ไม่ เหมือนเดิมแล้ว

“เหี้ย ที่แท้ก็เป็นคนใบ้! คนใบ้มาซื้อของ? เธอจะซื้ออะไรก็ดู

เอาเอง เสร็จแล้วก็เอามาคิดเงิน ซวยจริงๆ”

พนักงานขายคิดว่าคนใบมักจะหูหนวก ในเมื่อนรมนเป็นใบ้ จึงไม่ได้ยินเป็นแน่ ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างไม่ลังเล

นรมนสีหน้าไม่น่ามองขึ้นมาทันที

ถูกดูถูก ในที่สาธารณะแบบนี้ นรมนไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดถึงมา ก่อน แต่เมื่อเจอกับตัวจริงๆ เธอรู้สึกราวกับถูกตบหน้ากลางที่ สาธารณะ ความอับอายนั้นไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูด ได้เลย

“บุลิน ทำไมเธอถึงไม่แนะนำของเล่น ให้เธอล่ะ ผลงานเดือนนี้ ของเธอก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีคนมาซื้อของเล่น ทำไมเธอถึงกลับมาล่ะ?”

พนักงานขายคนอื่นไม่เข้าใจ เมื่อเห็นบุลินกลับมา จึงอดไม่ ได้ที่จะถาม

บุลินเอ่ยหัวเราะเยาะ “คนใบ้ ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาซื้อของเล่น หรือเปล่า ดูที่เธอแต่งตัวราวกับสุนัขนั่นสิ ตอนแรงฉันก็นึกว่าเป็น คุณนาย ตอนนี้ดูแล้วไม่แน่ว่าเสื้อผ้าบนตัวคงเป็นสินค้าเลียน แบบ ผู้หญิงบางประเภทก็ทะนงไร้สาระ”

บุลินคาดเดาเองแล้วพูดกับพนักงานขายคนอื่นที่อยู่รอบๆ เสียงดังโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของนรมน

ทันใดนั้นนรมนรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

เธอเหมือนกับถูกมองว่าไม่ใช่คนธรรมดาในชั่วข้ามคืน เรื่อง ถูกคนใช้สายตาหัวเราะเยาะมองเธอเป็นเรื่องที่เธอพึ่งเคยเจอ

เป็นครั้งแรก

เธอบกกับตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ต่อไปเธออาจจะต้อง ทนกับการถูกหัวเราะเยาะแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่ในใจก็ยังรู้สึก ไม่ดี

โชคดีที่เธอออกจากเมืองชลธี ออกจากตระกูลโตเล็กมาแล้ว ไม่อย่างนั้น กานต์กับกมลจะต้องทนกับการถูกหัวเราะเยาะเพราะ เธอมากแค่ไหนกัน?

นรมน มือเข้าหากันแน่น

เธอบอกกับตัวเองว่าไม่ต้องไปสนใจสายตากับคำพูดคนอื่นทําเหมือนไม่ได้ยิน แต่คําพูดของพวกบุลินก็เข้าหูนรมน โดยไม่ พลาดสักคํา

สถานที่ตรงนี้ทำให้เธอรู้สึกหดหูและหายใจไม่ออกจริงๆ

เธอจึงต้องหมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำอย่างรวดเร็ว โดยที่ แต่ละก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ ……

บริศ มองเหตุการณ์ตรงหน้า ด้วยสายตาอึมครึม

คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะถูกพนักงานขายเล็กๆ รังแก ถ้าเป็นเมื่อก่อน นรมนไม่มีทางทนกล้ำกลืนแบบนี้ แต่ตอนนี้ เธอกลับเดินจากไปทั้งอย่างนั้น

บริศ เจ็บใจแทบตาย

เขาล้วง โทรศัพท์ออกมาโทรหาพฤกษ์

“จัดซื้อห้างสรรพสินค้า Golden Harvestมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ พฤกษ์ประหลาดใจเล็กน้อย

“ห้างสรรพสินค้า Golden Harvest

กิจการของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ดีมาก และอีกฝ่ายไม่มี เจตนาที่จะขาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมบุริศร์ถึงอยากซื้อห้างสรรพ สินค้า Golden Harvest

“ประธานบริศร์ ห้างสรรพสินค้า Golden Harvestทําไมเห รอ?”
“พนักงานในนั้นรังแกนรมน ซื้อห้างสรรพสินค้า Golden Harvestมา ในชื่อของนรมน

บริศ พูดจบก็วางสายไป

พฤกษ์อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา

เดิมการจะรับซื้อห้างสรรพสินค้าที่มีการจัดการบริหารอย่างดี นี้ไม่ใช่เรื่องของวันสองวัน แต่ได้ยินที่บุริศร์พูดแล้ว เขาก็อยาก ให้คนที่เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า Golden Harvestตอนนี้ก็ คือนรมน

พฤกษ์ถอนหายใจออกมา แล้วไปทำตามที่รับคำสั่งมาอย่าง ยอมรับชะตาชีวิต

นรมนวิ่งเข้าห้องน้ำหญิงไป บุริศร์จึงตามเข้าไปไม่ได้ แต่เขา

เป็นห่วงนรมนสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก

ในตอนนั้นเอง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งต้องการจะเข้าห้องน้ำ

บริศ จึงรีบขวางเธอไว้

“คุณผู้หญิงท่านนี้ รบกวนช่วยผมเรื่องหนึ่งได้ไหม?”

บริศ หน้าตาดี แต่งกายไม่เลว จึงทำให้หญิงสาวหยุดฝีเท้าลง

“คุณผู้ชาย เรื่องอะไรงั้นเหรอ?

“อย่างนี้ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ข้างในอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะ เธอพูดไม่ได้ชั่วคราว เมื่อถูกคนรังแก ผมกลัวว่าเธอจะร้องไห้ คุณช่วยเข้าไปดูให้ผมหน่อยได้ไหม ให้กำลังใจเธอ แน่นอนว่าอย่าบอกว่าผมเป็นคนบอกให้คุณทํา ทําเหมือนว่าคุณเห็นเข้า โดยบังเอิญ ก็เลยเข้าไปปลอบเธอได้ไหม? นี่หนึ่งหมื่นหยวน ถือว่าเป็นคําขอบคุณของผม

บุริศร่พูดพลางหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบเงินออกมา

หญิงสาวเห็นเงินเยอะแบบนี้ จึงสมัครใจที่จะช่วย

เธอรับเงินมาอย่างดีใจ แล้วพูดยิ้มๆ “ผู้หญิงที่อยู่ข้างในคน นั้นเป็นแฟนสาวของคุณ?

“เธอเป็นภรรยาของผม

คำพูดของบริศ ทำให้หญิงสาวชะงักไป แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถาม อะไรเขาอีก

หลังจากที่หญิงสาวเข้าห้องน้ำมาแล้ว ก็ไม่เห็นผู้หญิงที่กำลัง

ร้องไห้อยู่ มีแค่นรมินที่ยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือ

เธอก้มหน้าลง หญิงสาวเห็นหน้าเธอไม่ชัด ไม่รู้ว่านรมนกำลัง ร้องไห้อยู่หรือเปล่า

หญิงสาวรีบเดินเข้ามาแล้วเอ่ยถาม “คุณผู้หญิง เมื่อสักครู่คุณ

ถูกคนร้งแกเหรอ?”

นรมนเงยหน้าขึ้นอย่างแรง สายตาและสีหน้าประหลาดใจ ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองทายถูกแล้ว

เธอพูดยิ้มๆ “ชีวิตคนเรามันไม่ง่าย ทำไมต้องไปสนใจความ คิดของคนอื่นด้วยใช่ไหม? แค่ตัวเองคิดว่าได้ ไม่ต้องสนใจคำพูดคนอื่น อ้าว ฉันก็ปลอบคนไม่เป็นเสียด้วยสิ คุณไม่ต้องเสียใจ ไปก็พอแล้ว”

นรมนรู้สึกว่าที่ผู้หญิงตรงหน้าพูดอย่างน่าสนใจเล็กน้อย

เธออยากถามว่าเธอพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร อย่างไร ทุกคนก็ไม่รู้จักกัน แต่เธอยังไม่ได้พูดอะไร ก็เห็นหญิงสาวเปิด กระเป๋า แล้วมองเงินในกระเป๋าอย่างมีความสุข

นโมนเหลือบมองไป นั่นเป็นเงินปีกหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ เป็นหมื่น

หรือว่ามีคนให้เงินเธอมาพูดแบบนี้?

นรมนรู้สึกงงงวยขึ้นมาทันที แล้วจึงรีบเปิดประตูห้องน้ำออก

ไปดูข้างนอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ