แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 579 ไม่มีทางเลือก



บทที่ 579 ไม่มีทางเลือก

หลังจากที่กานต์แชร์โลเคชั่นให้กิจจาแล้วเขาก็สังเกตเห็นร่าง ผอม ๆ ของคนคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก

นั่นคือ เรนนี!

เขาคิดว่า เรนนี้ไปอยู่บ้านของป้องมีหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม ทุกวันจะต้องคอยตามติดป้องทั้งวัน แบบนี้มันยิ่งทำให้เขารู้สึก เจ็บปวด

ถ้าวันหนึ่งเขาจะออกมา อาจจะเป็นอีกสิบปี แต่เขาก็ไม่รู้ว่า ตอนนั้น เรนนี่จะเป็นอย่างไร จะโทษเขาหรือเปล่า

กานต์รีบเดินเข้าไปก่อนจะมอบหยกรูปโดนัทให้กับ เรนนี่

“ให้เธอ”

เรนนี่ยิ้ม แม้ว่าจะพูดไม่ได้ แต่ก็ส่งสายตาเป็นเชิงถามว่านี้ หมายความว่าอะไร

กานต์ตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “ฉันจะออกเดินทาง เธออยู่ที่

บ้านพรรณโรจน์ถ้าคิดถึงฉันก็ให้มองสิ่งนี้ แล้วฉันจะรีบกลับมา

“นายจะไปไหน” เรนนี่ใช้ภาษามือถามกานต์

กานต์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ฉันจะไปหาแด๊ดดี้กับหม่า มึนะ พวกเขาอยู่ที่นั้นมีปัญหานิดหน่อยต้องการความช่วยเหลือ

คุณอาป้องกับคุณน้าโพนี่เป็นคนดี เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเจอเรื่องอะไรที่ไม่ดี ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็ไปหาน้องสาวฉันใต้ กมล เป็นคนรักในการกิน แค่เอาของอร่อย ๆ ไปให้เขาเธอก็เป็นเพื่อน กับเขาได้แล้ว”

ทันใดนั้น เรนนี่ น้ำตาคลอ

จริง ๆ หลอนไม่ได้อยากให้ทานต์ไป แต่เพราะเขาต้องไปช่วย พ่อแม่ก็เลยห้ามอะไรไม่ได้ ในขณะที่จับมือกันเป็นเวลาเนิ่นนาน ที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ในที่สุดก็ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว กานต์พูดขึ้น “ฉันต้องไปหาพี่ ชายแล้ว เธอไปกับฉันเถอะ ถ้าฉันไม่อยู่แล้วเธอมีปัญหาก็ไปหาพี่ ชายฉันได้ เขาต้องช่วยเธอได้แน่”

กิจจาสายหน้า ก่อนจะใช้ภาษามือตอบกลับไป “ฉันไม่ ต้องการใครทั้งนั้น ฉันจะรอนายกลับมา

กานต์ มออกมาอย่างพอใจ

“เธอนี่มันน่ารักจริงๆเลย!”

เขาอยากจะลูบหัว เรนนี่ แต่ฐานะของเขามันต่ำต้อยเกินกว่า จะสามารถทำได้ เขาทำได้เพียงลูบมือของหลอนเบาๆก่อนจะพูด ว่า “รอฉันกลับมานะ

“อื้อ!”

หลังจากกานต์บอกลากับ เรนนี่ เขาก็ติดต่อกับคนที่จะไปส่ง เขาในคืนนี้เพื่อให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้พร้อม
เวลานี้กิจจาก็มาถึงแล้ว

เมื่อเขาเห็นกานต์ รู้สึกมีความสุขมาก

คนนี้คือพี่น้องของเขา เป็นพี่น้อง ที่สนิทที่สุด

“พี่มาแล้วเหรอ”

” ออะไรมาด้วยนะ

กิจจามองสิ่งของที่อยู่ในมือของกานต์ พลางถามด้วยความ

สงสัย

กานต์พูดราวกับว่าของชิ้นนี้เป็นสิ่งของล้ำค่า “ของสิ่งที่สุด ยอดมาก มันคือปืนลมที่ฉันเตรียมไว้ มันสามารถใส่พริกป่น เข้าไปได้ด้วย ถ้าแม่มดแก่คนนั้นจะทำอะไรฉันล่ะก็ ฉันก็จะใช้มัน จัดการเธอ”

“กานต์ ต้องไปจริงๆ เหรอ?” กิจจามองกานต์ด้วยแววตาเศร้า

กานต์เงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดเสียงต่ำ “ฉันต้องการช่วย หม่ามี้ นี้เป็นเพียงโอกาสเดียว ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพียงหนทาง เดียว ฉันไม่มีทางเลือก”

ไม่มีทางเลือกหรือว่าเลือกไม่ได้กันแน่

แววตาของกิจจาดูเป็นประกายก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็ก น้อย “สิบปีไม่ใช่เวลาสั้นๆนะ ไม่คิดถึงลุงกับหม่ามีบ้างเหรอ

“คิดสิ แต่ฉันก็ไม่อยากให้หม่ามี้เป็นอะไรไปด้วย ดังนั้นอีกสิบปี บอช่วยนายดูแลพวกเขาด้วย

กานต์พูดจบ ตบไหล่กิจจาเบาๆ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจาก

ไป

ราวกับว่าทุกอย่างเป็นไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ

กิจจายืนอยู่ข้างเขาก่อนจะใช้มือฟาดลงบริเวณท้ายทอยอย่าง แรง

กาน ตกใจแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ล้มลงไปเสียก่อน

กิจจาพยุงเขาเอาไว้ก่อนจะโทรหาคนที่จะไปส่งกานต์ในคืนนี้ ให้พวกานต์กลับไป ส่วนตัวเขาเองก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป

“คุณชาย… ” นักบินรู้สึกมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

กิจจามองลงไปยังกานต์ที่สลบอยู่ก่อนจะพูดขึ้น “ไปที่ที่กานต์

บอกเอาไว้

“ทำไม? ฉันไม่ใช่คุณชายของตระกูลโตเล็กหรือไง? ไม่เชื่อฟัง คำพูดฉันแล้วเหรอ?”

กิจจามองต่ำลงเล็กน้อยก่อนที่นักบินจะรีบหันหลังกลับไปเพื่อ เตรียมขึ้นเครื่อง

ไม่ว่าจะเป็นกานต์หรือกิจจา ก็ล้วนแต่เป็นชายน้อยของตระกูล โตเล็ก ทุกคนรู้ดีว่าบริศรปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน อีก ทั้งตอนนี้ประธานตรินท์ พ่อของกิจจากอยู่ในความดูแลของบริษัทตัวยกรุ๊ปจำกัด ซึ่งต้องไม่ทำให้กิจจารู้สึกโกรธเคือง

ตอนที่เครื่องบินขึ้น กิจจามองลงไปยังกานต์และเมืองชลธีที่ อยู่เบื้องหลัง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงทุ่ม “หากต้องการเด็ก หนึ่งคนเพื่อช่วยให้แม่ปลอดภัย โดยการชดใช้เป็นเวลาสิบปีก็ให้ ฉันไปเถอะ เพราะว่าฉันเป็นพี่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลโต เล็ก ต้องเป็นคนปกป้องพวกนาย อีกอย่างก็เพราะว่านี้เป็นเรื่องที่ แตด ของฉันก่อน ถ้าฉันต้องเห็นนายออกไปจากบ้าน เห็นหม นี้กับลุงต้องรอนับวันนับเดือนเพราะคิดถึงนาย สู้ให้ฉันไปแทน นายจะดีกว่า เพราะว่าฉันไม่มีหม่ามี แด๊ดดี้ก็มาเป็นเสียแบบนี้ ให้เขาอยู่เรียนงานฝีมือดีกว่า เผื่อในอนาคตอาจจะช่วยนายได้

กิจจารู้ว่ากานต์ไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้หรอก แต่เขาก็ยังอยาก จะพูดมันออกไป ราวกับเป็นการกล่าวร่ำลา

นักบินฟังแล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาบินตรงไปยังเมือง A ตามเส้นทางที่กําหนดไว้

เมื่อกิจจามาถึงเมือง A เขาก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก

เขาใช้ชีวิตในเมืองชลธีมาโดยตลอด ไม่เคยเห็นเมืองที่อยู่ ห่างไกลมากขนาดนี้ แต่นี้ก็เป็นเมืองที่เกิดเรื่องขึ้นกับแม่และลุง ของเขา

เขาเปิดดูคอมพิวเตอร์ของกานต์ หน้าจอแสดงตำแหน่งของ โรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปจากที่นั้นไม่ไกลนัก

พยาบาลสาวรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นกิจจา
“เธอเป็นลูกของใคร? ทำไมถึงได้มาที่นี่ รีบออกไปเดี๋ยวนี้

โดยปกติจะไม่มีใครกล้าให้ลูก ๆ ของตัวเองไปอยู่ที่ทางเข้า โรงพยาบาลเพราะ ยมราช มีอารมณ์แปรปรวนผิดปกติ หากวัน ไหนเขารู้สึกไม่มีความสุข พวกเขากังวลว่าลูก ๆ ของพวกเขาจะ ถูก ยมราช จับไปเป็นตัวอย่างของร่างกายมนุษย์

ดังนั้นตอนที่เห็นกิจจา พยาบาลสาวจึงรู้สึกแปลกใจแล้วก็ เห็นใจเพราะว่าเด็กคนนี้ดูหน้าตาดี

กิจจาพูดด้วยเสียงต่ำ “ผมมาหาคน

“เธอมาหาใครเหรอ”

“อาจารย์ของผม เขาบอกว่าถ้าผมยอมมาอยู่กับเขาเป็นเวลา สิบปี เขาก็รับปากว่าจะยอมช่วยหม่ามีของผม”

คําพูดของกิจจาทําเอาพยาบาลสาวผงะไปเล็กน้อย

“เธอคือลูกของผู้หญิงที่อยู่ข้างในเหรอ”

“ใช่ครับ”

กิจจาไม่ได้ปฏิเสธ

พยาบาลสาวขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกสับสน

ขณะนั้นยมราชก็เดินออกมาพอดี

“เกิดอะไรขึ้น”

“คุณหมอมิลิน เด็กคนนี้คือคนที่คุณอยากจะรับมาเป็นลูกศิษย์เขาจะอยู่กับคุณสิบปี เพื่อที่จะให้คุณช่วยหม่ามีของเขาให้ได้

เมื่อ ยมราชฟังสิ่งที่พยาบาลสาวบอกจนจบ หล่อนก็หันไปเห็น ร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งขึ้นอยู่ที่หน้าประตู ร่างเล็กๆนั้นสั่นเล็กน้อยแต่ เขาก็ยังคงยืนตัวตรงอยู่

เขาไม่ใช่เด็กที่อยู่ในวิดีโอหน

แต่ยมราช ก็รู้สึกชอบกิจจา

แม้ว่าเขาจะดูหวาดกลัว แต่เขาก็พยายามอดกลั้นและอดทน

อย่างถึงที่สุด ดูเหมือนกับลูกของหล่อน

ทันใดนั้น ยมราช ก็ใจอ่อนลงทันที

“เธอชื่ออะไร”

“ผมชอกิจจา นรมนคือหม่ามีของผม”

คําพูดของกิจจาทําให้ยมราชผงะไปเล็กน้อย

“เธอเป็นพี่น้อง คน”

“ผมมีพี่น้องสองคน ผมเป็นพี่ชาย และกานต์เป็นน้องชายของ ผม ผมเหมือนแดด ส่วนเขาเหมือนหม่ามี”

กิจจาอธิบายอย่างละเอียด

ยมราชมองกิจจาพลางคิดว่าเขาเหมือนกับพ่อจริงๆ

“แล้วทําไมเธอถึงมาเองล่ะ”

“ไตรมาก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ น้องของผมยังเด็ก ผมยอมมาอยู่กับคุณสิบปี ได้โปรดช่วยแม่ผมด้วย

ดวงตาของกิจจา น้ำตาคลอ

ยมราช ใจอ่อนลงทันที

“เธอรู้ใช่ไหมว่าตลอดระยะเวลาสิบปีที่มาอยู่กับฉัน เธอจะ ไม่มีโอกาสได้เจอพ่อแม่และน้องชาย เธอยินดียอมรับใหม

“ผมไม่ยอม แต่ผมก็จะไม่ยอมเห็นหม่ามีของผมเป็นอะไรไป

กิจจาพูดอย่างซื่อตรง

ยมราชเหมือนจะเห็นเงาของเด็กคนอื่นจากกิจจา เด็กคนแรกก็ คือลูกชายของหล่อนที่โตพอๆกับกิจจา ส่วนอีกคนเป็นเด็กที่ หล่อนสูญเสียไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ตอนนั้นเขาคิดถึงเพียงแต่หม่ามี้ของเขา

ยมราชดึงกิจจามาไว้ในอ้อมกอด

มือทั้งสองข้างของกิจจาวางอยู่ตรงหน้าอกของยมราช เขาคิด อยากจะผลักออกแต่ก็หยุดไว้เสียก่อน เขาไม่มีทางเลือก!

กิจจาหลับตาลง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นโซดาจากตัว

ของยมราช

ยมราชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันรับปากเธอ ไม่ว่าจะยาก ขนาดไหนฉันก็จะช่วยหม่ามีของเธอให้ถึงที่สุด แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอต้องเรียกฉันว่าหม่ามีจนกว่าจะครบสิบปี

“ผมมีหม่ามีแค่คนเดียว เขานอนอยู่ข้างในนั้น นอกจากสิ่งนี้ แล้วผมยอมทุกอย่าง

กิจจาพูดอย่างหนักแน่น

ยมราชเห็นท่าทางดื้อรั้นของเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “ได้งั้นเรียกฉันว่าอาจารย์ก็แล้วกัน”

“อาจารย์ ได้โปรดช่วยหม่ามีของผมแล้วก็ขอร้องคุณว่าอย่า บอกเรื่องที่ผมมาที่นี้ ผมกลัวว่าหม่ามีจะไม่ยอมให้ผมทำ

พอได้ยินกิจจาพูดออกมาแบบนี้ ยมราชรู้สึกว่าเขาได้ใจคนยิ่ง

“แต่สุดท้ายเขาก็ต้องรู้อยู่ดี”

“ตอนนั้นมีทั้งน้องชายและแด๊ดดี้อยู่ข้างๆ เธอคงจะรู้สึกดีขึ้น หน่อย”

ดวงตาของกิจจามีสีเทาหม่น

กานต์ กมล ลุงและหม่าล้วนแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน เขา เป็นหลานชายเพียงแค่คนเดียว เป็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีแม่ แม้แต่ แด๊ดดี้ของเขาก็ยังโดนครอบครัวของลุงข่มเหง

เขาจะทําอย่างไรดี

การชดใช้หนี้ของแด๊ดดี้นี้เป็นสิ่งที่สมควรทำไม่ใช่เหรอ?

แม้ว่าเขาจะกลัว แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ลุงของเขาบอกว่าผู้ชายต้องมีความรับผิดชอบและ

ปกป้องคนที่ต้องปกป้อง ตอนนี้ บรมนและกานต์ เป็นคนที่เขา ต้องการจะปกป้องมากที่สุด

เพื่อพวกเขาแล้ว ไม่ว่าต้องทําอะไรเขาก็ยอม

กิจจากัดริมฝีปากล่างตัวเองเบาๆ มีน้ำตาใสๆไหลออกจากตา

แม้ว่าจริงๆแล้วคนทียมราชอยากให้มาคือกานต์ แต่เมื่อเทียบ กันแล้ว กานต์ที่มีนิสัยร่าเริงกับกิจจาที่เป็นคนเงียบขรึม อดกลั้น แล้วนั้น การที่สามารถทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดได้ หล่อนก็พอใจ แล้ว

“ตกลง ฉันรับปากเธอ รอให้พวกเขาออกไปก่อนแล้วฉันจะ บอกพวกเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉัน ตกลง ไหม”

“ขอบคุณครับอาจารย์”

กิจจาไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก ในตอนที่ยังเด็กเขาต้องแบกรับ ความรับผิดชอบมากมาย ในวันนี้ก็กลายเป็นคนเคร่งขรึม กิจจา คนที่สดใสร่าเริงค่อยๆหายไปอย่างไม่รู้ตัว

ยมราชให้พยาบาลสาวช่วยดูแลกิจจาก่อนจะไปพบกับบริศร์

ในขณะที่บุริศร์กำลังครุ่นคิด ยมราชก็เดินเข้ามา

“ฉันสามารถช่วยนายได้ แต่สําหรับบางเรื่องนายก็ต้องจัดการ ตัวยตัวเอง”
เมื่อบุรีศรได้ยินว่ายมราชสามารถช่วยเราได้ เขาก็รีบถามต่อ ทันที “เรื่องอะไรเหรอ?”

“เพื่อช่วยเธอ จำเป็นต้องใช้ยาชนิดพิเศษ ฉันรู้ว่านายมีเงิน มาก แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ ถ้ารอนายไปซื้อยามาจากที่อื่น ฉันคิดว่ามันสายเกินไป ยาที่ฉันต้องการมีอยู่ที่เมืองใต้ดินเท่านั้น แต่ฉันมีข้อตกลงกับเจ้าของเมืองว่าฉันจะไม่ไปที่นั้นอีก และจะไม่ ทําธุรกิจใดๆกับพวกเขาอีก ดังนั้นถ้าหากนายต้องการจะช่วย ภรรยาของนายจริงๆ นายต้องไปที่นั้นและซื้อยาที่จำเป็นมาให้ ฉัน”

เมื่อบริศร์ได้ยินก็ตกใจ

ปกติแล้วผู้คนในเมืองใต้ดินมองเขาราวกับเสือที่จ้องจะกิน เหยื่อ ถ้าไม่ใช่ยมราชก็คงจะเข้ามาทำร้ายแน่ คาดไม่ถึงเลยว่า วันนี้หล่อนจะติดต่อกับเมืองใต้ดินจริงๆแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นคน ยังไงกันแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ