แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 575 นอกจากคุณแล้ว ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีก



บทที่ 575 นอกจากคุณแล้ว ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีก

ระวัง!

เสียงของนาคสดังขึ้นข้างหูของนรมน

นรมนตะลึงไปชั่วขณะ และยังไม่ทันที่ลุกออกจากอ้อมแขนของ เขา ก็ได้ยินเสียงของบุริศร์ที่พูดอย่างเย็นชา “เอามือของนาย ออกไป

นภดลเหลือบมองไปยังบุริศร์ และปล่อยนรมน โดยไม่พูดอะไร

นรมนอยากจะอธิบาย แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่จำเป็น

เธอถูกบริศร์ดึงไปด้านหลัง หลังจากนั้นก็เหลือบมองไปยัง นภดลอย่างเย็นชา ก่อนจะก้าวเดิน

“ไอสารเลว หยุดเลยนะ! ฉันบอกแกแล้ว อย่าคิดว่าผู้หญิงจะ ยอมให้รังแกง่ายๆ ถ้าแกร่งแกผู้หญิงคนนี้อีกครั้งละก็ ก็ลองดู

ยมราชที่ไม่ได้หยุดบุรีศร์ไว้ เพิ่งจะตามมาภายหลัง แต่น่า เสียดายตรงที่บุริศร์ไม่ได้สนใจเธอแต่แรกอยู่แล้ว

บรรยากาศดีๆเริ่มเปลี่ยนแปลงจากการที่สองคนนั้นเข้ามา

นรมนมองไปยังบริศร์ ก็พบว่าอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดีนัก จึง เอ่ยกระซิบ “นภดลเป็นคนที่มาแทนคนอื่นก็เท่านั้น แต่ผู้หญิงคน นั้นไม่มีเงินให้ฉัน ดังนั้นนภดลเลยตามฉันมา

“อืม ผมเชื่อคุณ ผมแค่ไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นมาโดนตัวคุณก็เท่านั้น”

คำพูดของบริศทำให้นรมนยิ้มออกมา

“เมื่อกี้ฉันเกือบหกล้ม เขาแค่ช่วยฉันไว้แบบนั้นแล้ว คุณก็ควร จะขอบคุณเขานะคะ

ได้ คราวหลังผมจะลดหนี้ให้เขาหนึ่งแสนแล้วกัน เพื่อ เป็นการขอบคุณเขา

คำพูดนี้ของบริศ ทำให้เธอรู้สึกโกรธ นี้เป็นตัวอย่างของคนที่ ใช้เงินฟาดหัวยังไงล่ะ แมว่าตอนนั้นรมนไม่ได้พูดอะไรออกไป อีกทั้งคนขี้หึงเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป

“คุณจะพาฉันไปไหน”

“กินข้าว!”

เมื่อบุริศร์พูดจบ นรมนก็เพิ่งรู้ตัวว่าท้องตัวเองร้องขึ้นมา “ถ้าคุณไม่พูด ฉันก็คงลืมไปแล้วว่ายังไม่ได้กินข้าวเลย

“คุณลืมแต่ผมไม่ลืม”

ในที่สุดบุรีศร์ก็ยิ้มออกมา แล้วพานรมนไปร้านอาหาร

แม้ว่าโรงพยาบาลจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่อาหารที่นั่นก็ไม่เลว บุรี ศร์และนรมนทั้งคู่ต่างไม่ได้เป็นคนที่มีนิสัยเอาแต่ใจ แต่โดย ธรรมชาติแล้วเวลาที่กินข้าวด้วยกันพวกเขาจะหวานกันมาก เพราะว่าได้อยู่กับคนที่เรารัก ต่อให้จะกินอะไรก็อร่อยไปหมด นรมนที่กำลังมองบุริศร์ ดูเหมือนว่าบุริศร์จะรู้สึกเขินเล็กน้อย
“มองอะไรเหรอ”

“คุณหล่อจัง”

คําพูดของนรมนทําให้บุรี รหยุดชะงักไปชั่วครู่ หูของเขาเริ่ม เปลี่ยนเป็นแดงเล็กน้อย จากนั้นแสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้วพูดว่า “นี่คือเรื่องจริงที่ทุกคนก็รู้ไม่ใช่เหรอ”

“อวดเก่ง”

นรมนรู้สึกว่าตัวเองอยากอยู่ใกล้เขาตลอดเวลาจริงๆ

ทุกวันนี้ บุริศร์ผอมมาก เธอมองเห็นแก้มที่ตอบทั้งสองข้าง ของบุริศร์ได้อย่างชัดเจน แม้จะไม่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างในคุก ใต้ดิน แต่เท่าที่รู้ มันต้องไม่ดีเท่าไหร่

“บริศรคะ”

“หม? ”

“ไม่มีอะไรคะ แค่อยากเรียกชื่อคุณเฉยๆ”

คำพูดของนรมนทำให้บริศร์รู้สึกเหมือนเป็นเด็กๆ

“ผมชอบฟังเวลาที่คุณเรียกผมว่าคุณสามี”

“คุณสามี! ”

จู่ๆนรมนก็พูดออกมา น้ำเสียงอันอ่อนโยนนั้นทำให้บริศร์รู้สึก

ว่าทั่วร่างกายนั้นอ่อนระทวย

“เรียกอีกรอบ”
“คุณสามี”

นรมน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บุรีศร์ยิ้มทันที เหมือนกับเด็กที่ได้ลูกอม

เมื่อเห็นบุรีศรีมีความสุขมากเช่นนี้ ในใจของนรมนก็ยิ่งรู้สึก

แย่

แม้ตอนนี้ทั้งสองคนจะหวานกันมากแค่ไหน แต่บุรีศร์อาจจะ รู้สึกแย่มากขึ้นภายหลังจากสองวัน บรมนไม่อยากให้บริศร์รู้สึก แย่ แต่เธอจะทําอะไรได้

เธอไม่อาจทนกับความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงเวลา สุดท้ายของเธอกับเขา เธออยากจะอยู่กับเขาทุกวินาที

“กินข้าวเสร็จแล้วไปดูดาวกับฉันนะ”

จู่ๆนรมนก็เอ่ยขึ้น

บุริศร์ตะลึงเล็กน้อย

“ดูดาว?”

“ใช่แล้ว แม้ว่าที่นั้นจะอยู่ไกลหน่อย แต่อากาศที่นั้นดีมาก และฉันก็ไม่ได้เห็นดวงดาวที่สว่างไสวแบบนั้นมานานแล้วด้วย

เมื่อนมนมองไปยังท้องฟ้า ก็พบว่าตอนนี้มืดแล้ว

เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ

โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กับบุริศร์
อาการเวียนหัวเมื่อกี้นับว่าเป็นสัญญาณเตือนอะไรหรือเปล่า

บรมนไม่รู้ แต่เธอยังคงอยากจะอยู่ด้วยกันกับบุตร ความรู้สึกเช่นนี้ แม้ว่าชั่วฟ้าดินสลายก็จะยังไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเวลาที่ทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกันนั้นจะน้อยนิดก็ตาม

แม้ว่าบุริศร์จะไม่รู้ว่าดวงดาวนั้นสวยงามยังไง แต่ก็ยังคงพยัก หน้า

“ได้สิ กินเยอะๆล่ะ จะได้ไม่หิวอีก”

“อิ่ม”

นรมนกินข้าวกับบริศร์อย่างมีความสุข ทั้งสองคนเดินไปที่ ด้านในสวน

ทันใดนั้นเธอก็ปืนหลังคาเหมือนกับเด็กๆ และบุริศร์ตกตะลึง ไปชั่วครู่

ในความประทับใจของเขา นรมนเป็นคนที่อ่อนโยนและมี น้ำใจ จากนิสัยที่ไม่เคยก่อเรื่องอะไร ตอนนี้กลับกำลังปืนหลังคา เหมือนกับเด็กๆ ในชนบท เธอปืนขึ้นไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากนัก ก่อนจะหันมากวักมือเรียกเขาอย่างมีความสุข

“ขึ้นมาสิคะ! อยู่บนนี้ค่อยมองเห็นชัดขึ้นหน่อย ยังใกล้ท้องฟ้า ขึ้นอีกด้วยล่ะ”

ทันใดนั้นบุริศร์ก็รู้สึกว่านรมนช่างน่ารักและไร้เดียงสามาก
แม้จะอยู่ใกล้ท้องฟ้าแต่ก็ยังจับดวงดาวไม่ได้ใช่ไหม ทันใดนั้นบุริศร์ก็มีความคิดขึ้นมา

เขาหัวเราะ ปีนขึ้นหลังคาอย่างรวดเร็ว นั่งข้างๆ นรมน ยื่นมือ ไปจับไหล่ของเธอพลางโน้มตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขนก่อนจะเอ่ย กระซิบว่า “ดาวสวยไหม”

“สวยค่ะ แค่ได้อยู่กับคุณ อะไรก็ดูสวยไปหมด

นรมนรู้สึกหนาวเล็กน้อย และขดตัวเข้าไปหาบุริศ ตอนที่ กําลังพูด

บุรีศรีบถอดเสื้อโค้ชของเขาแล้วคลุมไปที่ไหล่ของเธออย่าง

รวดเร็ว

กลิ่นอายที่แผ่วเบาเข้าได้ในจมูกของนรมน นี้คือกลิ่นของบุรี

เธอชอบความรู้สึก กลิ่นของเขาเข้าไปในปอดของเธอ แม้ว่า จะถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ตราบใดที่อยู่กับเขา เธอก็ไม่กลัวอีก ต่อไป

นรมน โอบกอดเอวของบุริศร์ไว้แน่นพลางพูดขึ้น “ดีจริงๆที่ฉัน มีคุณ นับเป็นพรของฉันที่ชาตินี้ได้เป็นภรรยาของคุณ ถ้าชาติ หน้ามีจริง ฉันจะยังคงรักคุณ และโอบกอดคุณไว้ค่ะ

“ยัยม พวกเรายังเหลือเวลาอีกนานเลยนะ ในเมื่อเธอชอบดู ดาวขนาดนี้ ให้ฉันออกแบบอัญมณีให้เธอดีไหม ”
ปุริส บอกกับนรมนเกี่ยวกับความคิดของเขาที่เพิ่งคิดได้ บรมนตลึงไปชั่วขณะ เธอรู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่ยังคงพูดด้วย รอยยิ้ม “ค่ะ ขอแค่คุณเป็นคนให้ อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละคะ

บางครั้งที่คุณยอมทําที่คุณหวังอะไรจากผมหรือเปล่า แม้ว่า จะเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่หายากผมก็จะหามาให้คุณ และยิ้มให้ คุณ นรมน คุณรู้ไหม รอยยิ้มของคุณคือวิวที่ผมชอบที่สุด

ดวงตาของนรมนเผยความรู้ที่บาดลึกเสียดแทง ทำไมวันนี้บุริศร์ถึงพูดจาแบบนี้ออกมาได้กันนะ แต่มันทำให้เธอกลับรู้สึกยิ่งอยากร้องไห้

“นอกจากคุณแล้ว ฉันก็ไม่ต้องอะไรอีก

คําพูดของนรมนหวานจนถึงในใจของบุริศร์ เขายิ้มโดยไม่รู้ ตัว สายตาของเขาก็ดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย

บุริศร์จะพูดอะไรออกมา นรมนก็ไม่ได้ยินทั้งนั้น

เธอรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยจนอยากนอนมากๆ แต่ว่าเธอยังนอน

ไม่ได้

เธออยากใช้เวลากับบริศร์มากกว่านี้ แม้จะต้องใช้เวลาทั้งวัน ก็ยอม

ชีวิตที่ต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางโลกที่ไม่มีเขา มันช่างหนาว เหน็บ เธอกลัวการไม่มีบุริศร์อยู่เคียงข้าง

นมนพยายามไม่ให้ตัวเองนอนหลับ แต่อย่างไรก็ไม่สามารถควบคุมตามร่างกาย ได้

เธอเหมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่ค่อยๆผงกหัวเล็กน้อย จนในที่สุด ก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของบริศ และผลอยหลับไป

เมื่อบุรีต เห็นเธอในสภาพนี้ ก็อดไม่ได้ที่รู้สึกตกใจ จากนั้น สายหัวและยิ้มด้วยความหลงใหล

“สภาพแบบนี้ แล้วยังจะขึ้นมาดูดาวอีก เหมือนเด็กจริงๆ ตอน นี้เอาไงดี จะลงไปยังไงดีล่ะ

บริศร์มองไปยังนรมนที่กำลังหลับอยู่ จากนั้นก็อุ้มร่างเธอขึ้น มา และวางอย่างระมัดระวัง

เขาพานรมนกลับไปยังห้องผู้ป่วย เธอยังคงหลับอยู่

บุริศร์ดึงผ้าห่มมาห่มตัวเธอ แล้วตัวเองก็เข้านอนทั้งที่สวม รองเท้าเตะอยู่โดยกอดนรมนไว้

เขาที่มักนอนกระสับกระส่ายเป็นประจำ แต่ตอนนี้ที่มีนรมนอยู่

ข้างๆ เขาก็หลับไปอย่างรวดเร็ว นอนไม่หลับทั้งคืน

เมื่อดวงอาทิตย์ของวันใหม่โผล่ขึ้นมา บุริศร์ก็ตื่นแล้ว

เขาอยากขยับตัว แต่เพิ่งรู้ตัวว่าแขนของเขากำลังถูกนรมน หนุนอยู่

แสงแดดยามเช้าส่องทะลุกระจกมายังใบหน้าของนรมน สี แดงและแสงสีทองที่เป็นระเรื่อ
ทันใดนั้นบุริศรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนกับนางฟ้า เหมือนกับว่า นี้ไม่ใช่โลกมนุษย์

ความคิดแบบนั้นทำให้เขายิ้มออกมาเล็กน้อย

เขาเป็นอะไรไป

หรือว่านโมนจะแพร่เชื้อความเด็กมาให้กันนะ

บริศร์ยิ้มพลางส่ายหัว ยื่นมือมาเขี่ยจมูกของนรมน แล้วพูดว่า “ลุกขึ้นได้แล้ว เจ้าหมูขี้เกียจ ตะวันส่องกันแล้วนะ พวกเราออก ไปวิ่งกันดีไหม ”

เดิมทีเขาคิดว่านรมนจะทนไม่ไหวแล้วปัดมือของเขาออก จาก นั้นก็พลิกตัวนอนต่อ หรือไม่ก็พูดว่า “หยุดเถอะ ฉันจะนอน

บริศร์กำลังรออยู่

แต่ว่าผ่านไปหนึ่งนาทีแล้ว นรมนก็ยังไม่มีปฏิกิริยา

บริศ งงเล็กน้อย เขาบีบจมูกของเธออีกครั้ง พูดแนบหูของเธอ “ตื่นได้แล้ว เจ้าหมูขี้เกียจ ถ้ายังไม่ตื่นอีกผมจะทำเรื่องอย่างว่า กับคุณแล้วนะ ถึงเวลานั้นอย่ามาตะโกนว่ารับไม่ได้ล่ะ หม?”

ลมหายใจของเขาพ่นใส่หูของนรมนจนเกิดอาการคัน เขา ตั้งใจทำเสียงอี้ แม้ว่าเธอจะนอนหลับลึกมาก แต่เขาก็จะปลุก ให้จนได้

แต่ว่าผ่านไปหนึ่งนาทีแล้ว นรมนยังคงไม่มีปฏิกิริยาอะไร

ในใจของบุริศร์เริ่มรู้สึกกระสับส่าย
“นรมน นรมน ตื่นได้แล้ว!

บุรีศรีบเอามือจับชีพจรของนรมน

โอเค โอเค ยังมีชีพจรอยู่

เมื่อความคิดแบบนี้วิ่งผ่านขึ้นมาในหัวของบุริศร์ บริด ก็หยุด ชะงักในทันที

เขาคิดแบบนั้นได้ยังไง?

หรือว่า….เธอ……….

“นรมน!!

บริศ ตรวจดูส่วนอื่นๆ ในร่างกายของนรมนอย่างรวดเร็ว แต่ ร่างกายส่วนอื่นๆก็ยังปลอดภัยดี ยกเว้นตัวเธอที่ยังไม่ตื่นขึ้นมา เหมือนกับเจ้าหญิงนิทรา

ทําไมถึงเป็นแบบนี้

หรือว่าจะเหนื่อยเกินไป

บริศ คาดเดา แต่ก็ไม่อยากล่าช้า

เขารีบใส่เสื้อผ้า แล้ววิ่งไปที่ห้องทำงานของยมราช อย่าง รวดเร็ว เขาคว้าคอเสื้อของ ยมราช แล้วพูดอย่างร้อนรนว่า “เกิด อะไรขึ้นกับภรรยาฉัน แกรู้ใช่ไหม ทำไมเช้านี้เธอถึงไม่ตื่นขึ้นมา

“อะไร”

ยมราชตกตลึงกับคำพูดบุริศร์ แล้วพูดกับตัวเองว่า “เป็นไปไม่ได้ ร่างกายขอเธอควรจะอยู่ได้อีกสามวัน วันนี้เพิ่งวันที่สามเอง ทำไมเธอถึงไม่ตื่นขึ้นมาล่ะ

“แกพูดว่าอะไรน่ะ มันหมายความว่าอะไร อะไรคือร่างกาย ของเธออยู่ได้อีก3วัน สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ เวลานี้ บุริศ อยากจะทำให้ผู้หญิงตรงหน้าเขาสลบไป

ยมราชรู้สึกเวียนหัวจากการเขย่าของเขา จึงรีบพูดขึ้น “นาย ไม่ต้องเขย่าฉัน เขย่าฉันไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เดิมทีภรรยา ของนายก็ใกล้จะตายอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังพยายามช่วยนายอย่าง สุดกำลัง การที่ใช้เวลาด้วยกันกับเธอในคืนที่ผ่านมาก็ถือเป็น เรื่องที่ดี นายยังจะเพ้อฝันอะไรอีกล่ะ ฉันแนะนำเลยนะ เวลาแบบ นี้ คุณควรรีบเตรียมตัวสำหรับงานศพของเธอเถอะ

“พูดบ้าอะไรของแก!”

บริศรชกไปที่หน้าของยมราช เลือดสีแดงสดไหลออกมาทันที “ถ้าแกกล้าพูดว่านรมนกำลังจะตายอีกครั้งล่ะก็ เชื่อเถอะ ฉัน ได้พาแกไปลงนรกก่อนแน่”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ