บทที่ 551 นับว่าเธอโชคดีไม่เลว
” คืออะไรเหรอ? ”
นรมนรู้สึกสงสัย
คุณหมอสองจิตสองใจเล็กน้อย และตอบเสียงเบาว่า “นี่คือ ยาเสริมความแข็งแกร่งชนิดหนึ่งที่ผมศึกษาและวิจัยขึ้นมา เมื่อ คนได้ใช้มัน ร่างกายจะมีความแข็งแกร่งยาวนานต่อเนื่องกันถึง จะค่อยๆหมดแรงไป เพียงแต่ยานี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และมีข้อ เสียเล็กน้อย ตอนนี้ผมยังไม่ได้ศึกษามันให้กระจ่างแจ้ง ผมรู้ว่า ตอนนี้ร่างกายของคุณอ่อนล้า ออกจากที่นี่ไปไหนไม่ได้ แต่ถ้า หากคุณใช้ยาตัวนี้ คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะมีเวลาเพียง พอที่จะออกไปจากที่นี่ได้? ”
นรมนขมวดคิ้วเบาๆ
“ทำไมคุณถึงพกยาแบบนี้มาด้วย?
“ผมไม่ได้ทําการศึกษาวิจัยหรือไง? พูดกับคุณตามตรงนะ คฤหาสน์หลังนี้มีคุกใต้ดิน และด้านในมีคนจำนวนหนึ่งมาให้ผม ทดลองยา ดังนั้นผมจึงพกติดตัวมาด้วย
ได้ยินคุณหมอพูดเช่นนี้ นรมนรู้สึกโมโหเล็กน้อย
“คุณเอาชีวิตของคนมาทดลองกับยา? ”
เธออดนึกถึงป้าโอขึ้นมาไม่ได้
คุณหมอของครอบครัวนี้ช่างน่าเกลียดชังเหมือนป้าโอ
คุณหมอเห็นนรมน โมโห จึงรีบกล่าวต่อว่า “นี่ไม่ใช่ความ คิดของผม แต่เป็นของเลิฟ เขาบอกว่าคนของที่นี่คือนักโทษ เป็น พวกที่ไม่น่าให้อภัย ดังนั้น…….
“แล้วนักโทษไม่ใช่คนหรือไง? พวกคุณมีสิทธิ์อะไรถึงไป ปฏิบัติต่อชีวิตของผู้อื่นแบบนั้น? แล้วผลข้างเคียงของยานี้คือ อะไร? *
“ผมยังไม่ทราบจริงๆ เพิ่งจะศึกษาและวิจัยออกมา จึงตัดสิน ใจนำมาทดลอง เพียงแต่ทฤษฎีกล่าวไว้ว่า ยาที่ยืดเวลาความ แข็งแกร่งของร่างกายก็เหมือนเป็นการใช้ชีวิตมากเกินไป และ ใช้กำลังมากเกินไป ผมคิดว่าอาการหลังจากนั้นน่าจะทำให้คน ยิ่งอ่อนแอลง
ได้ฟังคุณหมอพูดแบบนี้ คิ้วของนรมนยิ่งขมวดแน่นกว่าเดิม
“นี่คือความคิดที่คุณกำลังพูดถึงใช่ไหม? นี่คุณตัดสินใจให้ ฉันเป็นหนูทดลองยาเหรอ? คุณช่างกล้าดีนัก
นรมนกล่าวประโยคนี้ออกมา คุณหมอตกใจแทบจะลงไป คุกเข่า
“คุณนายบุริศร์ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆ นะครับ แต่ ตอนนี้ผมก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้คุณออกไปจากที่นี่ได้ สภาพ ร่างกายของคุณ อย่าพูดถึงว่าจะออกไปจากคฤหาสน์เลย ถึงแม้ คุณจะออกไปได้ คงเดินได้ไม่ถึงห้าสิบกิโลเมตร คุณก็ยังจะล้มลง มาเหมือนเดิม ถึงตอนนั้นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้แน่ชัด
“ถ้าฉันใช้ยานี้ จะสามารถไปถึง เมืองAไหม? ”
นั่นคือสถานที่ที่ร่องรอยของบุรีศรสูญหายไป และเป็นสถานที่ ที่เกิดเรื่องขึ้นกับเจต ตอนนั้นรมนนึกออกเพียงแค่ที่นั่น
คุณหมอลองคำนวณระยะห่าง และตอบเสียงเบา : “เกือบจะ
ได้ แต่หลังจากถึงแล้วคุณอาจจะอ่อนแอลงได้
ยา มีกี่ขวด? ”
“คุณนายบุริศร์ คุณอย่าทำอะไรเลอะเลือนสิ! การใช้กำลัง ของร่างกายมากเกินไปครั้งเดียวก็อันตรายแล้ว คุณไม่สามารถ ใช้มากเกินไปหลายครั้งได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนขึ้นกับ คุณ ผมไม่อาจชี้แจงกับเลิฟได้ ถึงตอนนั้นประธานเคนต้องฆ่าผม แน่ๆ”
คุณหมอได้ยินนรมนถามเช่นนี้ อดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ “ประธานเคน? คุณคือคนของประธานเคน?
“ที่นี่ทุกคนคือคนของประธานเคน ประธานเคนได้ยินมาว่า คุณนายบุริศร์ถูกตรินท์บีบบังคับและควบคุมเอาไว้ จึงให้เลิฟไป หาคุณนาย แต่ไม่รู้ว่าทำไมเลิฟจึงพาคุณนายมาที่นี่ เดาว่า ประธานเคนต้องการคุ้มครองความปลอดภัยของคุณนาย
คำพูดของคุณหมอทำให้นรมนยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา
“คุ้มครองความปลอดภัยของฉัน? ใช้วิธีแบบนี้เชิญฉันมาฉันเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกว่าการเชิญคนมาต้องทำให้สลบไป ด้วย”
ได้ยินบรมนถากถาง คุณหมอไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไป อย่างไร
ส่วนนรมนเองก็ไม่หวังจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์จากปากของ เขามากนัก
เธอพูดกับคุณหมอว่า “ช่วยแสดงแผนผังกับการป้องกัน ของที่นี่ให้ฉันที ฉันรับรองว่าจะไม่ทำร้ายคุณ แต่ถ้าคุณไม่ร่วมมือ ฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ”
“ได้ๆๆ ผมจะวาดให้คุณ
คุณหมอให้ความร่วมมืออย่างยิ่งวาดภาพแผนที่ให้แก่นรมน นอกจากนั้นนรมนยังได้ยาน้ำมาจากเขาด้วย
“เพื่อไม่ให้คุณต้องมาพัวพัน ขอโทษด้วยนะ เพิ่งจะพูดจบลง นรมนทำให้คุณหมอสลบไปอย่างรวดเร็วทันที
มองยาขวดเล็กในมือ นรมนรู้สึกลังเลใจ
ผลลัพธ์ที่ตามมาจากการใช้กำลังของร่างกายมากเกินไปอาจ จะยิ่งกว่าที่คุณหมอพูดไว้ก็เป็นได้ แต่สิ่งที่คุณหมอพูดก็เป็น ความจริง พละกำลังของเธอในตอนนี้ อย่าพูดถึงว่าไปถึง เมืองเลย แค่อยากจะออกไปให้ห่างหลังจากออกจากที่นี่ก็ กลายเป็นปัญหา
ตอนนี้ในเวลานี้ เธอเกลียดสภาพร่างกายของตัวเองจริงๆ เธอ ไม่อยากเป็นหลินใต้หลู่ (นางเอก โรคอ่อนแอของนิยายความ ฝันในหอแดง ) กลับเอาแต่อยู่ในตระกูลโตเล็ก ตอนที่บุริศร์กับ เจตต์ต้องการตนเองที่สุดกลับกลายเป็นแบบนี้
อยากจะลองเดิมพันดูสักครั้งไหม?
นี่ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
บรมนมองยาขวดเล็ก นึกถึงบุรีศร์ และนึกถึงเจตต์ ดูเหมือน เธอจะสามารถหวนคิดถึงท่าทางของบุริศร์ที่รักตนเองออก
ผู้ชายคนนั้น มักจะคิดถึงเธอก่อนเสมอ
นึกถึงการดูแลหลังจากตนเองแท้งลูกหนึ่งเดือน มุมปากของ นรมนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน
การมีคนรู้ใจสักคนในชีวิตก็เพียงพอแล้ว
วันนี้คนรู้ใจของเธอ สามีของเธอเกิดเรื่องขึ้นที่ เมือง เธอจะ พาพวกเขาออกมาถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
คิดถึงตรงนี้ นรมนยิ้มบางๆ ดึงฝาออกอย่างไม่ลังเล กรอกยา น้ำเข้าปากของตนเองโดยตรง
ยาน้ำไม่มีรสชาติได เหมือนดื่มน้ำตามปกติ แต่ร่างกายกลับ ร้อนขึ้น เหมือนกับพลังงานในร่างกายมารวมตัวกัน จากนั้นก็ ค่อยๆ เผาไหม้ขึ้นมา
นรมนรู้สึกมีพละกำลังไปทั่วร่างกาย เหมือนเธอกลับคืนสู่ภาพเดิมที่เธอเคยเป็นเมื่อก่อนตอนยังไม่ป่วย
เหลือบมองคุณหมอ นรมนนึกถึงคำพูดของเขา และนำยาน้ำที่ เหลือทั้งหมดของคุณหมอไป
แผนที่ของคุณหมอมีความชัดเจนมาก
นรมนค้นพบเครื่องหมายตำแหน่งของช่องสมเหล่านั้นอย่าง
ไม่คาดคิด
ถ้าเธอสามารถกำจัดบอดี้การ์ดหน้าช่องลมได้ เธอก็จะ สามารถใช้ช่องลมออกไปได้
เมื่อคิดแผนรับมือเรียบร้อย เธอจึงรีบปืนออกไปทางหน้าต่าง โดยอาศัยตาแหน่งบนแผนที่หาตำแหน่งช่องลม
บริเวณหน้าช่องลมมีบอดี้การ์ดอยู่สี่คน
นรมนมองเห็นท่าทางองอาจของพวกเขา ก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ พอสมควร แต่เมื่อนึกถึงบุริศร์ เธอก็รู้สึกกล้าหาญมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเรียนรู้ทักษะการต่อสู้มาบ้าง ต่อมาบริศร์
ก็สอนตนเอง วันนี้ถึงแม้บอดี้การ์ดจะรับมือได้ยากอยู่ แต่ก็ไม่ สามารถพูดได้ว่าไม่มีโอกาสชนะเลย
นรมนขยับข้อต่อกระดูกเล็กน้อย จากนั้นพุ่งออกไปจาก หน้าต่างทันที
“ใคร? ”
บอดี้การ์ดได้ยินเสียงดัง ทันทีที่หันมา บรมนก็กวาดหลบไปทางชาย เตะบอดี้การ์ดคนหนึ่งออกไปทันที จากนั้นเธอก็หมุนตัว กลับกลางอากาศอย่างไม่รีรอ ถีบเข้ากลางอกของบอดี้การ์ดอีก คนด้วยขาอีกข้างหนึ่ง
บอดี้การ์ดที่เหลืออีกสองคนเห็นแบบนี้ จึงคิดจะแจ้งคนอื่น น มนหรี่ตา คว้ากระถางดอกไม้จากด้านข้าง และขว้างไปทางพวก เขาทันที
เธอเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและยังมีความแม่นยำสูงมาก บอดี้การ์ดสองคนนั้นไม่ทันได้แจ้งเหตุฉุกเฉิน ก็ถูกกระถาง ดอกไม้ฟาดเข้าที่หน้าผาก วิงเวียนศีรษะจนเซไปด้านหลัง
อาศัยจังหวะนี้ นรมนยกเท้าขึ้นทันที เตะพวกเขาลงกับพื้น เธอ ยกมือขึ้น ฟาดลงไปที่ท้ายทอยของพวกเขาโดยตรง จนสลบลง ไปทันที
บอดี้การ์ดอีกสองคนเห็นเช่นนี้จึงก้าวขึ้นมาโจมตี นรมนไม่รับ ร้อน เธอจับเวลา และจัดการพวกเขาจนล้มลงไป
การล้มสลบไปของบอดี้การ์ดสี่คน ภายใต้น้ำมือของนรมน ใช้ เวลาไม่ถึงห้านาที
เธอมองนาฬิกาบนข้อมือ มุมปากโค้งขึ้นเบาๆ ความรู้สึกแข็งแรงแบบนี้มันช่างดีจริงๆ ถ้าร่างกายของตนเองไม่มีปัญหาก็คงจะดี
เธอรู้สึกสลดใจ แต่กลับไม่มีเวลาสนใจสิ่งเหล่านี้ ค้นหาไป รอบๆ คาดไม่ถึงว่าจะพบสิ่งของที่ตนเองเตรียมไว้ในตอนแรก
บรมนรู้สึกเบิกบาน ดูเหมือนพระเจ้าจะกำลังช่วยเหลือเยอ
เธอหยิบสิ่งของของตนเองขึ้นมา เปิดช่องลม และออกไปจาก คฤหาสน์ผ่านทางช่องลม
ตรงออกมา โรงจอดรถด้านนอก
นรมนไม่มีกุญแจ จึงใช้การงัดรถที่เรียนรู้มาจากเจตต์เพื่อเปิด ประตูรถออก พร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์
ถ้าเจตต์อยู่ เดาว่าคงยินดีที่จะอวดฝีมือของตนเองอีกครั้ง นรมนนึกถึงตรงนี้ ก็เสียสมาธิไปเล็กน้อย
เจตคนนี้ อันที่จริงก็น่ารักทีเดียวเชียว แต่น่าเสียดายสิ่งที่เขา ต้องการ บรมนไม่สามารถให้ได้
ส่ายหน้าไปมา สลัดความรู้สึกที่ไม่จำเป็นออกไปจากสมอง นร
มนขับรถพุ่งออกไปทันที
เสียงเครื่องยนต์สร้างความตกใจให้กับผู้อื่น แต่เมื่อพวกเขา มองเห็นว่าเป็นรถของเลิฟขับออกมา ก็ค่อนข้างแปลกใจ แต่ กลับไม่ได้ขวางเอาไว้
นรมนอาศัยจังหวะที่พวกเขาไม่มีท่าที่โต้ตอบขับออกไปอย่าง รวดเร็ว
หลังจากรถออกมาจากคฤหาสน์ นรมนเปิดมือถือที่ขโมยมา จากคุณหมอ ตั้งค่าการนำทาง และเลือกให้การนำทางตรงไปที่ เมืองA
หลังจากผ่านไปนานมากเลิฟเพิ่งจะรู้ข่าวว่าบรมนออกไปจาก คฤหาสน์
เขารู้สึกหงุดหงิด แต่กลับจนปัญญา ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าผู้หญิงที่กำลังป่วยอยู่จะมีความสามารถในการหลบหนีออกไป ท่ามกลางผู้คนมากมายได้อย่างไร
เขารีบแจ้งเรื่องนี้ให้แก่ประธานเคน แต่เมื่อทราบข่าวกลับให้ เขาไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของนรมนอก
เลิฟไม่เข้าใจความหมายของประธานเคน เพียงแต่ก็ไม่ได้ ย้อนถามกลับไป
นรมนขับรถออกไปเป็นเวลานาน เอาแต่กังวลว่าจะมีคนตาม มาด้านหลัง แต่ขับออกมาได้ยี่สิบกว่ากิโลเมตร ด้านหลังไม่มี ข่าวคราวใดๆ เธอจึงค่อยวางใจ
นับว่าเธอโชคดีไม่เลว
ขับไปตามเส้นทางที่บุริศร์และเจตต์ เคยผ่าน สีหน้าของนรมน
ยิ่งแย่ลง
ร่องรอยการถูกซุ่มยิงและไล่โจมตีบนเส้นทางนี้ชัดเจนเกินไป
หัวใจของเธอเต้นแรงจนแน่นหน้าอก
ถ้าไม่ใช่ฝีมือของบุริศร์และเจตต์ เดาว่าคงจะยืนหยัดได้ไม่ นานแบบ น
คนที่สามารถทําเช่นนี้กับพวกเขาได้ เป็นครินท์จริงเหรอ?
เกิดเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด แล้วจะมาฆ่าฟันกันทำไม
บรมนไม่เคยเข้าใจว่าความเกลียดชังของครินทฝังรากลึก เพียงใด ซึ่งมันลึกจนสามารถกลายเป็นศัตรูกับพี่ชายฝาแฝด ของตนเองได้เลยเหรอ?
เธอส่ายหน้าเบาๆ รีบไปให้ถึง เมืองA อย่างรวดเร็ว
หลังจากถึง เมืองA นรมนจึงพบว่าพละกำลังของตนเองเริ่ม
บนเส้นทางที่มา ไม่ว่าอย่างไรก็มีระยะห่างออกไปประมาณ สองถึงสามร้อยกิโลเมตร หากไม่มียานนั่น เดาว่าตนเองคง เหนื่อยจนทรุดไปนานแล้ว
และถึงจะเป็นแบบนี้ เธอก็รู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลียเช่นกัน
มองดูสถานที่รอบๆ ที่นี่ช่างเปลี่ยวเหลือเกิน และวังเวงเกิน ไป นรมนมองเห็น โรงแรมอิมพีเรียลอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
นี่คือโรงแรมห้าดาว มีการตกแต่งอย่างงดงามและหรูหรา แต่ นรมนกลับสองจิตสองใจ
ไม่สามารถเข้าไปที่นั่นได้
ดูจากข้อมูลที่กิมจิส่งกลับมา พวกเขาหายสาบสูญไปจากที่นี่
เมืองเล็กๆ ที่ดูธรรมดาไม่มีอะไรน่าแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าจะ สามารถทำให้คนที่มีฝีมืออย่างบุริศร์และเจตต์พ่ายแพ้ได้ ดังนั้น จะต้องไม่ประมาท
บรมหลังเลอยู่สักพัก ผ่านโรงแรมอิมพีเรียลไป ก็มาถึงประตู โรงแรมที่อยู่ห่างออกไปไกลมาก
และโรงแรมแห่งนี้ ก็เป็นโรงแรมที่เจตต์อาศัยตอนเพิ่งมาถึง
เมืองA บรมนเดินเข้าไป มองเห็นเถ้าแก่เนี้ยรูปร่างอวบอ้วนกำลัง
เอาแต่เล่นมือถือของตนเอง เพียงแต่มือถือนั่นดูคุ้นตาเล็กน้อย
ดูเหมือนจะเป็นของเจตต์
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ