บทที่ 537 ลุงของฉันไม่มีจุดอ่อน
บรมนไม่ได้โทรคุยกับใครอื่น แต่เพราะเธอกังวลจนลืมที่จะ วางสายหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ คนอื่นจึงไม่สามารถโทรเข้า มาได้
เมื่อเจตต์มาถึงพิกัดที่นรมนให้ ภายในคฤหาสน์ก็โดนกิจจา ถล่มเสียยับไปแล้ว ทำไปทำมาคนตัวเล็กกว่าก็ถูกจับแล้ว
“ปล่อยฉันนะ! ไอ้พวกชั่วพวกนี้ ทำแบบนี้กับฉัน พ่อฉันกลับมา เมื่อไหร่เขาลงโทษพวกแกแน่!”
กิจจาร้องตะโกน
ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นแค่เด็กที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่รู้เรื่องรู้ราว อะไร เติบโตอย่างแข็งแรงมีความสุขภายใต้ปีกของตนท์ ตอนนี้ หลังจากเขาได้สัมผัสกับสิ่งที่มารดาผู้ให้กำเนิดกระทำและการ ฝึกอบรมด้านการทหารจากบิดาผู้ให้กำเนิด กิจจาก็เปลี่ยนไป เขาเยือกเย็นขึ้นเป็นพิเศษ
เขาตะโกน หวังว่าเสียงของตัวเองจะดังพอให้ถูกได้ยิน แม้ โอกาสจะมีน้อย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นโอกาสสุดท้าย เมื่อเจตต์จอดรถ เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของกิจจา
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ลงจากรถอย่างรวดเร็วและวิ่งเข้าไปโดย ยังไม่ปิดประตูรถ
“แกเป็นใคร? นี่เป็นที่ส่วนตัว ออกไปเสีย
บอดี้การ์ดข้างนอกเมื่อเห็นว่าเจตต์พุ่งเข้ามา ก็รีบห้ามทันที
*ส่วนตัวยายแกล
เจตต์ไม่พูดอะไรมาก เขาใช้เท้าถีบเข้าไปที่บอดี้การ์ดโดยตรง แค่ช่วงเวลาสั้นๆ บอดี้การ์ดหน้าประตูก็ล้มลงไปอย่างรวดเร็ว และง่ายดาย
จัดการเสร็จเรียบร้อย เจตต์ก็พุ่งเข้าไปข้างในอีกครั้ง พอดีกับ ที่เห็นว่าตอนนี้กิจจากำลังดิ้นรน มือและใบหน้าของเขามีรอย ฟกซ้ำ
“ลงมือกับเด็ก พวกแกยังเป็นผู้ชายอยู่ไหมวะ ทันทีที่เจตต์พูดขึ้น ก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคนทันที รวมทั้ง กิจจาด้วย
“ลุงเจตต์ ช่วยผมด้วย!
ดวงตาของกิจจาเป็นประกาย และยิ่งต่อสู้ดิ้นรนมากขึ้น จน บอดี้การ์ดที่อุ้มกิจจาอยู่ด้วยสองมือก็อุ้มเขาไม่อยู่ ทำให้กิจจา ล้มลงไปที่พื้น
“โอ้ย”
กิจจาตะโกนด้วยความเจ็บปวด เจตต์โกรธหนัก
“กินขี้เหรอวะ? เด็กตัวแค่นี้ยังอุ้มไม่ได้ เจ้านายแกสอนมายัง
ไง?”
คำถามนี้ทำให้เหล่าบอดี้การ์ดต่างพากันสับสน
เจตต์คนนี้จริงๆแล้วเป็นคนกันเองเหรอ?
ตอนที่บอดี้การ์ดต่างพากันประหลาดใจ เจตต์กับกิจจากลงมือ พร้อมกัน ท่าทางการเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมาก
เจตต์มองไปที่กิจจาด้วยสายตาชื่นชม ฉวยโอกาสดึงตัวกิจจา มาทางนี้
“ล็อครถเป็นไหม?”
คำพูดของเจตต์ทำให้กิจจางงไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้า อย่างรวดเร็ว
“ไม่เลว เอากุญแจรถไปแล้วไปรอฉันบนรถ
เจตต์ยัดกุญแจรถใส่มือของกิจจา
กิจจาแลดูกังวลเล็กน้อย
“คนเยอะขนาดนั้น จัดการเองได้เหรอครับ?”
“อะไรเรียกว่าจัดการเองได้เหรอ? เอาคำว่า ได้เหรอ ข้างหลัง ออก ไปนั่งรอบนรถแล้วนับหนึ่งถึงห้าสิบนะ นับเสร็จฉันก็ออกมา แล้ว โอ้ กมลละ?”
เจตต์ถามขณะที่ลงมือจัดการบอดี้การ์ดไปด้วย เพราะว่าเขา ไม่เห็นกมล จึงอดไม่ได้ที่จะถาม
กิจจาพูดด้วยเสียงต่ำ “กมลหนีออกไปแล้วครับ คาดว่าออก ไปหาหม่ามี้แล้ว”
“เยี่ยมเลย รีบไปเถอะ
เจตต์เป็นคนที่มีความชำนาญพิเศษ เขาส่งกิจจากลับไป โดยตรง
กิจจาก็ไม่ลังเลเช่นกัน เขามองออกว่าฝีไม้ลายมือของเจต มาก พอๆกับลุงบุริศร์ของเขาเลยทีเดียว เขารีบหันหลังวิ่งออกไป
ไม่นานนักก็ถึงรถ เขากุลีกุจอเปิดล็อครถ บอดี้การ์ดของนอกไล่ตามมาสองคน กลับถูกเจตต์ดึงกลับไป
กิจจานับเลขอย่างเอาจริงเอาจัง
“หนึ่ง สอง สาม สี่….”
ตามหลังมาด้วยเสียงนับเลขของกิจจา เจตต์โจมตีอย่าง รวดเร็ว ไม่นานนักคนพวกนั้นก็ล้มกองลงไปที่พื้น กระทั่งกิจจา นับมาถึงเลข 49 เจตต์ก็มายืนอยู่หน้าเคาะกระจกก่อนพูด “เปิด ประตู”
กิจจารีบปลดล็อค
หลังจากเจตต์ขึ้นรถมา ยิ้มและพูด “เป็นไง? ไม่ถึง50 ใช้ ไหม?”
กิจจารู้สึกนับถือ แต่ก็ยังพูดอย่างดื้อดึงว่า “ยังห่างกับลุงผม มาก ถ้าหากเป็นลุงผม คนพวกนี้คงถูกจัดการไปหมดตั้งวินาทีที่ 30 แล้วละ
ใบหน้าของเจตต์พลันบึ้งตึง
“แล้วตอนนี้ลุงของเธออยู่ไหนเสียละ? ลองให้เขามาปรากฏ ตัวต่อหน้าฉัน”
“เหอะ!”
เจตต์แสดงความไม่พอใจ ก่อนจะถามด้วยความกังวล “ลุง เจตต์ ลุงรีบโทรศัพท์หาหม่ามีเถอะ ช่วยดูว่าตอนนี้กมลกลับไป หรือยัง?”
“ไม่สำนึกบุญคุณเลยนะเด็กน้อย แค่ขอบคุณยังไม่พูด ก็คิดถึง น้องสาวของนายเสียแล้ว บุรีศร์ พาเด็กผีออกมาจริงๆ ขอบคุณในบุญคุณสักนิดก็ไม่มี
แม้ว่าเจตจะพูดเช่นนั้น แต่ก็ยังส่งโทรศัพท์มือถือมาให้
*โทรไปเองแล้วกัน”
เมื่อเห็นเจตต์เป็นเช่นนี้ เขาจึงพูดอย่างเกรงใจออกไป “ลุง เจตต์ ขอบคุณมากครับ”
“เอาเถอะ มาพูดตอนนี้ ฉันก็ไม่สนหรอก ถ้าอยากจะขอบคุณ จริงๆ ก็เคารพนันในฐานะครูเถอะ”
เจตต์รู้สึกว่ากิจจามีพรสวรรค์ด้านการชกต่อย ถึงแม้จะแย่ กว่ากานต์ แต่เด็กตระกูลโตเล็กเป็นบุคคลที่โดดเด่นมากจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นกิจจาคือคนที่บุริศร์เลี้ยงมากับมือ ถ้าหากกิจจา เรียกเขาว่าคุณครูละก็ ถึงตอนนั้นคงทำให้บริศร์โกรธมาก แถม ถ้าเขาเป็นคุณครูส่วนตัวของกิจจา เขาจะสามารถเข้าออกได้ อย่างอิสระภายในบ้านตระกูลโตเล็ก ก็คงจะได้เจอนรมนได้สบายยิ่งขึ้น
กิจจาไม่รู้ว่าในใจตอนนี้ของเจตต์กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อฟังว่า เจตต์อยากจะรับเขาเป็นศิษย์ เขาอึ้งเล็กน้อย แต่กลับพูดขึ้น อย่างสุภาพ “เรื่องนี้ผมคงต้องถามหม่ามีก่อน เขาไม่ได้พูดว่าจะถามตรินท์ แต่พูดว่าจะถามหม่ามี้ ก็สามารถ
เห็นได้แล้วว่าในใจของกิจจา ใครสำคัญกว่า
“ได้สิ กลับไปนายต้องถามหม่ามี้ พวกเรากลับกันก่อน
เจตต์สตาร์ทรถหลังจากพูด
กิจจาโทรหานรมินทันที แต่น่าเสียดายที่โทรศัพท์สายไม่ว่าง ตลอด คิ้วของเขายิ่งขมวดขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นอะไรไป? เป็นเด็กเป็นเล็กหัดขมวดคิ้ว ไม่กลัวกลายเป็น ผู้เฒ่าหรือไง? ฉันจะบอกนายให้ อย่าเรียนรู้ทุกเรื่องจากลุงของ นาย ลุงของนายถึงแม้จะโดดเด่นมาก แต่เขาก็ไม่ได้สมบูรณ์ แบบไปหมดถูกไหม? เป็นคนนะ ต้องเรียนรู้จากความโดดเด่น ของเขา และหลีกเลี่ยงจุดบกพร่อง
กิจจามองตรงไปที่เจตต์ พูดเสียงต่ำ “ลุงของผมไม่มีจุด บกพร่องสักนิด”
“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ และไม่มีใครสามารถพูดได้หรอกนะว่า ตัวเองไม่มีข้อด้อย
เจตคิดว่ากิจจาจะใช้เหตุผลเข้าสู้ กระทั่งจะทำอะไรเขาไม่ คิดว่าจะน่ารักกว่ากานต์ ถึงแม้ตัวเองจะไม่พอใจ แต่กลับอดทนและปฏิบัติต่อเขาอย่างมีมารยาท
เจตพอใจมากมาก ยังคงเร่งความเร็วของรถไม่หยุด พวก
ข้างหลังยังคงตามมาอย่างไม่ลดละ เขายิ้มเย็น พลางพูดกับกิจจา “เด็กน้อย ฉันจะเพิ่มความเร็วนะ ถ้าเธอกลัวก็ปิดตาไว้
“ผมไม่กลัว”
สีหน้าของกิจจาซีดเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ปิดตา ท่าทีหัวดื้อ หัวรั้นแบบนี้เหมือนบุริศร์ไม่มีผิด
เจตต์เหลือบมองเขา ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็ว รถก็พุ่ง ออกไปราวกับบินได้
กิจจารู้สึกเวียนหัวจริงๆ ในตอนแรก เขาไม่เคยนั่งรถที่ขับเร็ว ขนาดนี้มาก่อน และตอนนี้ดูเหมือนของทุกอย่างกำลังล้นทะลัก ออกมาจากคอ อยากจะอาเจียนออกมา
เขาจับราวแน่น แต่ตาไม่ได้มองขึ้นไปข้างบน ยังคงดูทิวทัศน์ที่ ถอยห่างไปเรื่อยๆ ทันใดก็รู้สึกถึงความสุขทั้งหมดที่ถูกตีแตก ราวกับคนโง่เขลาเป็นอิสระจากพันธนาการของการรุกราน
กิจจาไม่หยุดที่จะสูดหายใจเข้าลึกและพยายามสงบจิตใจของ ตัวเอง ก่อนจะค่อยๆรู้สึกว่าหลงรักความเร็วดั่งลมแบบนี้
ก่อนหน้ายังคงลังเลว่าจะเคารพเจตต์ในฐานะครูหรือไม่ ตอน นี้เขาบรรลุแล้ว กิจจาได้ทำการตัดสินใจแล้ว
“ลุงเจต
“หม?”
“ลุงเป็นนักแข่งรถเหรอ?”
ดวงตาของกิจจาเปล่งประกายด้วยความเคารพ
สิ่งที่เจตต์คิดอยากจะพูดเมื่อกี้คือ การแข่งรถของเขายังไม่ได้ ดีเท่าบุริศร์ เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองมาอย่างเคารพของกิจจา ทำให้เขารีบพูด “แน่นอน! ฝีมือของฉันคว้ารางวัลมาเยอะแล้ว
“จริงเหรอ?”
“ฉันต้องโกหกเด็กทําไมละ? ถ้าไม่เชื่อก็กลับไปถามลุงของ นายโน้น
สิ่งที่เจตต์ยังไม่ได้พูดก็คือ สนามแข่งรถครั้งนั้น ถึงแม้เขาจะ ได้ถ้วยรางวัล แต่บุริศร์กลับได้เป็นที่หนึ่ง
กิจจารู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยิน “ผมอยากเรียนแข่งรถกับลุงเจตต์
“ได้สิ! แค่นายมาเป็นลูกศิษย์ฉัน นายอยากเรียนอะไรฉันจะ สอน”
เจต็มีความสุขมาก
ทั้งสองคนขึ้นอยู่กับฝีมือการแข่งรถระดับสูง จนสะบัดทิ้งคน ข้างหลังออกไป
เมื่อเขากลับไปที่บ้านของตระกูลรัตติกรวรกุล นามนก็ไม่ได้อยู่ กับโพธิ์
เจตต์ติดต่อนรมนไม่ได้ ได้เขาจึงโทรหาโพนี่
“ฉันพากิจจากลับมาแล้ว นรมนละ?”
โพนี่หันไปมองนรมนที่อยู่ข้างตัว ก่อนถามเสียงต่ำ “ทำไมถึง ไม่โทรหานรมน?”
ข้างกายที่มีนรมน เธอตกตะลึงเล็กน้อย จนโพนี่ต้องใช้รูป ปากออกเสียงว่าคือเจต
ใบหน้าของนรมนมีความอึดอัดเล็กน้อย
เจตต์พูดอย่างเอ้อระเหยลอยชาย “คุณคิดว่าผมอยากโทรหา คุณหรือ? โทรศัพท์ของเธอโทรกี่ครั้งก็สายไม่ว่าง และก็ไม่รู้ด้วย ว่าเป็นโทรศัพท์ของบุริศร์หรือไม่ใช่
นรมนฟังจบ ก็รีบมองไปยังโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะพบว่า ตัวเองยังคงไม่วางสายดี อีกฝ่ายก็ดูเหมือนยังไม่รู้ตัว พูดคุย สนทนาอยู่ตลอด
เธอรีบตัดสาย และยื่นมือไปรับโทรศัพท์ที่มือโพนี่ “ฉันลืมตัด สาย กิจจากับกมลเป็นยังไงบ้าง
“กิจจาอยู่ในรถ คุณอยู่ไหน? ผมนำกิจจามาส่งแล้ว กมลหนี ออกไปนานแล้ว เห็นว่าไปตามหาคุณ เป็นไง? ยังไม่เจอเหรอ?”
นรมนตะลึงไปนิด
*กมลมาหาฉันเหรอ? ตอนไหน? ฉันยังไม่เจอเธอเลย! สีหน้าของเจตต์และกิจจาเปลี่ยนไปทันที
“หม่ามี้ กมลออกไปจากคฤหาสน์ตั้งแต่ตอนบ่ายโมงแล้วนะ ครับ ผมให้เธอกลับไปหาหม่า เธอยังไม่กลับอีกเหรอ?”
คำพูดของกิจจาทำให้สีหน้าของนรมนเปลี่ยนไปทันที “บ่ายโมงกว่า? ตอนนี้สองทุ่มแล้วนะ กมลไปอยู่ไหน?
นรมนกระวนกระวายใจ แต่ยังพูดกับเจตต์ “เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ ให้คุณ คุณน่ากิจจามาส่งที่นี่นะ ขอบคุณนะเจตต์”
“พูดน้อยลงหน่อยสิ่งที่ไม่มีประโยชน์นะ คุณไม่ต้องกังวล ผม จะน่ากิจจาไปส่งคุณ หลังจากนั้นจะไปหากมลเป็นเพื่อนคุณ ไม่ ต้องกังวล กมลนิสัยเรียบง่าย เธอไม่ไปที่ไหนหรอก บางทีพวก เราอาจจะต้องกลับไปเช็คที่บ้านตระกูลโตเล็ก
เจตต์รู้ว่าตอนนี้ตระกูลโตเล็กไม่ปลอดภัย แต่กมลจะไปที่ไหน นอกจากบ้านตระกูลโตเล็กอีก?
เมื่อเรื่องต่างๆมาถึงจุดนี้ นรมนก็ไม่มีหนทางอื่น และนำ ตำแหน่งตัวเองส่งให้เจต
เจตต์ผงะทันทีเมื่อเห็นที่อยู่
พื้นที่เขตทางทหาร?
นโมนไปที่กองทหารจริงหรือ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ