แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 529 หัวใจของนายมันทำจากเหล็กหรือไง



บทที่ 529 หัวใจของนายมันทำจากเหล็กหรือไง

“ว่ายังไงนะ”

สีหน้าของนรมนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

อยู่ดีๆ สายโทรศัพท์ทางฝั่งป้าหวานก็ขาดหายไป คล้าย เหมือนจะได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย

มีคนพากมลไปอย่างนั้นเหรอ

ใครกัน

ครินท่อย่างนั้นเหรอ

นรมนรีบกลับบ้านทันที ทว่าก็ยังคงสายไปอยู่ดี

ป้าหวานร้องไห้พลางเอ่ยว่า “คุณนายน้อยคะ ฉันขวางเอาไว้

ไม่อยู่ ฉัน…”

“ใครเป็นคนพาไป

สีหน้าของนรมนมืดครึ้มจนน่ากลัว

ป้าหวานกล่าวเสียงสั่นอย่างระมัดระวัง “เป็น เป็นคนของ คุณชายรองค่ะ”

เป็นเขาอย่างที่คิดไว้จริงๆ

นโมนต้องกลับไปที่ฮัวยูกรุ๊ปอย่างโมโห
“ท่านประธานกำลังยุ่งอยู่ครับคุณนายบุริศร์ คุณรอสักพัก เถอะ ผมจะไปรายงานท่านให้

เลขาคิดจะขวางนรมนเอาไว้ แต่ก็ถูกเธอผละออกไป

เธอใช้เท้าเตะเปิดประตูห้องทำงาน ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตก ตะลึงไปกับการกระทำที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ถึงอย่างไรในสายตา ของพวกเขานั้น นรมนคือคุณนายบุริศร์ เป็นลูกสาวของตระกูล ผู้ดี และเป็นนักออกแบบแคทเธอรี่ ไม่ว่าจะเป็นสถานะไหน เธอก็ ไม่น่าจะหยาบคายและป่าเถื่อนแบบนี้

เธอเข้าไปคว้าคอเสื้อของตนท์ จากนั้นก็ถามอย่างร้อนใจว่า “นายพากมลกับกิจจาไปไว้ที่ไหน”

ครินท์เห็นท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนของนรมนแบบนี้ก็ยิ้มแล้ว พูดออกมาว่า “พี่สะใภ้จะกังวลไปทำไมครับ ที่ทำไปก็เพราะหวัง ดีกับคุณทั้งนั้น ตอนนี้พี่ชายอยู่ข้างนอก กานต์ก็ไม่อยู่ พี่สะใภ้ สุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง มีเด็กสองคนอยู่ในบ้านก็ยากที่จะหลีก เลี่ยงความวุ่นวาย กมลชอบกิจจาขนาดนั้น เป็นธรรมดาที่ผมจะ จัดให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ผมก็แค่หาสถานที่ให้พวกเขาได้ไป เล่นก็เท่านั้น รับประกันเลยว่าพวกเด็กๆ จะต้องสบายดีอย่าง แน่นอน”

“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหน แล้ว การที่พาพวกเขาไปโดยไม่ถามความยินยอมจากฉันที่มัน หมายความว่ายังไง

นรมน โมโหจนตัวสั่น
ไม่รู้ว่าเพราะเธอครินท์ไม่ได้ หรือเพราะตอนนี้เธอไม่ถือสาจะ เขาสักหมัดจริงๆ

ครินท์ยังคงทําราวกับไม่รับรู้ถึงพฤติกรรมที่หยาบคายของพร มน เขาพูดด้วยรอยยิ้มต่อไปว่า “พี่สะใภ้ครับ นี่ก็เป็นเพราะหวัง ต่อคุณนะ”

“อย่างนั้นเหรอ พี่ชายนายไม่อยู่นายก็หวังดีกับฉันแบบนี้ อย่างนั้นเหรอ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าไม่เหมือนเลยสักนิดล่ะ ตรี นท์ ตกลงแล้วนายคิดจะทําอะไรกันแน่

ตอนนี้นรมนไม่สามารถที่จะสงบเยือกเย็นต่อไปได้อีกแล้ว

เธอไม่สามารถที่จะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตรินท์ ได้อีก ถึงอย่างไรครินท์ก็ลงมือแล้ว ทั้งยังลงมืออย่างแม่นยำด้วย ความรวดเร็ว จับจุดอ่อนของเธอไว้โดยตรง ทำให้เธอต้องก กระชาก โฉมหน้า

ตรินท์ดึงมือนรมนออก หลังจากจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้ เรียบร้อยก็กล่าวว่า “พี่สะใภ้ อย่าพูดจร้ายกาจแบบนี้สิ ผมก็แค่ อยากช่วยพี่สะใภ้ก็เท่านั้น

“นายเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการช่วยเหลือฉันอย่างนั้นเหรอ หรือว่า บีบบังคับฉันให้จําต้องการความช่วยเหลือกันแน่”

“ก็แล้วแต่พี่สะใภ้จะพูดเถอะ วัตถุประสงค์ของผมนั้นเรียบง่าย มาก ขอแค่พี่สะใภ้หาตัวประธานเคนเจอ แล้วนำของที่ผม ต้องการมาได้ กมลก็จะกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”
คำพูดของตนท์ทำให้นมนต้องหรี่ตาลง

“ฉันไม่รู้เลยสักนิดว่าประธานเคนที่นายพูดนั่นเป็นใคร และ ฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าของที่นายต้องการคืออะไร

ง่ายมากครับ พี่สะใภ้รู้จักเลิฟใช่ไหม บางทีเขาก็เข้ามาพูด อะไรกับพี่สะใภ้บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ”

คำพูดของตนท์ทำให้ดวงตาของนรมนหรี่ลงเล็กน้อย

“นายกำลังจับตาดูฉันอยู่อย่างนั้นเหรอ”

“คำว่าจับตาดูนี่มันฟังแล้วขัดหูจริงๆ ผมก็แค่เป็นห่วงความ ปลอดภัยของพี่สะใภ้ก็เท่านั้น เลยบังเอิญเห็นคนที่เข้ามาหาคุณ

ครินท์ช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการพูดเรื่องไร้ยางอายพวก นี้ให้กลายเป็นเรื่องที่ดูดีได้เสียจริง

มาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้นรมนบอกว่าไม่รู้จักก็คงไม่มีประโยชน์

“ฉันไม่รู้จักเลิฟ และก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องติดต่อเขายังไง เพราะ อย่างนั้นสิ่งที่นายพูดฉันคงไม่ช่วยไม่ได้หรอก”

แต่ครินท์กลับยิ้มแล้วพูดว่า “ผมรู้ว่าเลิฟอยู่ที่ไหน ขอเพียง สะใภ้สามารถง้างปากเขาจนทำให้ผมรู้เบาะแสของประธานเป็น และนำของที่ผมต้องการมาได้ กมลก็จะกลับมาอยู่ข้างกาย สะใภ้อย่างแน่นอน”

“ไร้ยางอาย! เอาชีวิตหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองมาบีบบังคับ ฉัน นายไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือยังไง มันก็ใช่คนแบบนายแบบไม่มีศักดิ์ศรีนี่นะ จะสนใจเรื่องพวกนี้ไปทำไมอีก

คำพูดของนรมนาให้รอยยิ้มบนใบหน้าของครินท์แข็งค้าง ไปชั่วขณะ

“คำพูดนี้ของพี่สะใภ้ทำให้ผมประหลาดใจมากจริงๆ

ประหลาดใจอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างฉีกกระชาก โฉมหน้ากันแล้ว ไม่สู้นายบอกฉันอย่างตรงไปตรงมาหน่อยว่า ตอนนี้บริศ อยู่ที่ไหน การหายตัวไปของเขาเกี่ยวข้องกับนายใช้ หรือเปล่า”

ดวงตาของนรมนจับจ้องไปที่ตร้นท์

แต่เขากลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เรื่องที่พี่ชาย ขาดการติดต่อไปไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผม

“นายช่วยเสแสร้งต่อหน้าฉันให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ฉันจะ บอกอะไรนายไว้นะครินท์ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับบุริศร์และ ลูกสาวของฉันละก็ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่

คำพูดนี้ของนรมนไม่ได้เป็นการโกหกเลยสักนิด

นี่เท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับตรินท์โดยตรง

ในที่สุดรอยยิ้มบนใบหน้าของตนท์ก็หายไปแล้ว เขามองไปยังนรมนแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณรู้สึกว่าผม มันเลวมากเลยสินะ”

“ไม่ใช่แค่รู้สึก แต่นายเป็นอย่างนั้นเลยต่างหาก
นรมนถอยหลังออกมาหลายก้าว มองไปยังคนที่มีรูปร่าง หน้าตาเหมือนบริศทุกกระเบียดนิ้วตรงหน้า ในใจก็รู้สึกร้อนบน

เป็นอย่างมาก

เธอควรจะทำอย่างไรดี

บุรีศร์กับกมลอยู่ที่ไหนกันแน่

นรมนไม่รู้อะไรเลยสักนิด ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตกลงแล้วครินท์ ต้องการที่จะให้เธอทําอะไร

คนของเธอไปช่วยเลิฟเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยไว้ได้หรือ เปล่า

ครินทเตรียมพร้อมมาดีจนขนาดสามารถรอคําตอบของเธอได้ อย่างใจเย็นแบบนี้ หรือว่าคนของเธอ…

หัวใจของนรมนเต้นตึกตัก ทว่ากลับไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า ครินท์มองนรมน เขากำลังคิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดมันออกมา

“ในเมื่อพี่สะใภ้ไม่เห็นด้วยกับผมแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่มี อะไรจะพูดแล้ว และยังคงยืนยันคำเดิม ผมอยากรู้เบาะแสของ ประธานเคน ขอแค่พี่สะใภ้ช่วยผมจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ ผมก็จะ พากมลกลับมาอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรเธอก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของผม”

“นายยังรู้ด้วยหรอว่าเธอเป็นหลานสาวแท้ๆของตัวเอง! กมล เชื่อมั่นในตัวนายขนาดนั้น คิดไม่ถึงเลยว่านายจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ตรินท์ หัวใจของนายมันทำจากเหล็กหรือยังไงกัน

นรมน โมโหจนจะตายอยู่แล้ว ทว่าตนท์กลับไม่รู้สึกอะไรเลย สักนิด หรือบางทีเขาก็อาจจะมีความคิดอะไรบางอย่าง แผ่นรมน ก็มองไม่ออกจริงๆ

“พี่สะใภ้ไปคิดวิธีที่จะทำให้เลิฟบอกเบาะแสของประธานเป็น มาเถอะครับ ผมจะให้คนพาพี่สะใภ้ไป แล้วก็มอบเรื่องที่เหลือให้ พี่สะใภ้เป็นคนจัดการ

ทันทีที่ตริน โบกมือก็มีคนเข้ามายืนข้างกายนามน ดูแล้วค่อน ข้างจะเป็นการกระทําที่เต็มไปด้วยความเคารพ ทว่ากลับเป็นคน ของครินท

“คุณนายบุริศ เชิญมากับพวกเราเถอะครับ

ถึงเวลานี้แล้วนรมนยังจะสามารถพูดอะไรได้อีก

เธอไม่รู้ว่าระหว่างตนท์กับประธานเคนมีความสัมพันธ์ยังไง กันแน่ แต่ถ้าหากสิ่งที่เลิฟพูดก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องจริง หรือว่า ประธานเคนจะเป็นคนของบริศร์จริงๆ

หรือว่านี่จะเป็นแผนการอีกอย่างที่ตนท์วางไว้

นรมนไม่รู้เลยสักนิด เธอมองตนท์ด้วยแววตาเย็นเยียบแบบ หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น กับกมล ฉันไม่มีทางยกโทษให้นายแน่”

วางใจเถอะ เด็กคนนั้นก็เป็นหลานสาวของผม ผมบอกแล้วไง ว่าผมเพียงให้เธอได้เล่นอย่างมีความสุขเท่านั้น”
ครินท์ให้คนเหล่านั้นพานรมนออกไป

ทว่าในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นพอดี บรมนจงใจชะลอฝีเท้าลง

อยู่ๆ ตรินท์ก็โมโหขึ้นมา

“ว่ายังไงนะ! เลิฟถูกคนลักพาตัวไปแล้วอย่างนั้นเหรอ ไอ้พวก ไร้ประโยชน์!”

มุมปากของนรมนยกขึ้นเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าคนของเธอจะทำสำเร็จแล้ว

เธอหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงาน ก่อนจะหันมามองตร นท์ด้วยแววตาเย็นชาแล้วถามว่า “ตอนนี้ยังต้องให้ฉันไปถาม ข่าวคราวของประธานเคนจากเลิฟอะไรนั่นอีกไหม”

ครินท์มองไปที่เธอแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย

“คุณทําอย่างนั้นเหรอ”

“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดเรื่องอะไร

นรมน ใช้สายตาเย็นชามองกลับไป เธอไม่เคยแพ้การแข่งจ้องตามาก่อน ครินทขมวดคิ้วเล็กน้อย

“พี่สะใภ้ คุณต้องรู้เอาไว้นะว่ากมลยังอยู่ในมือของผม
“ครินท์ เลิฟเป็นใครฉันก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คนของนายท่าคน หายเอง แต่ตอนนี้กลับมาหาฉันมันหมายความว่ายังไงกันแน่ ถ้า นายยังเป็นลูกผู้ชายก็ออกไปตามหาเอง อย่ามาระบายอารมณ์ กับเด็กและผู้หญิง!

บรมนไม่คิดเลยว่าครินท์จะไร้ยางอายขนาดนี้ ตรี ทมองนรมน พยายามที่จะค้นหาอะไรบางอย่างบนใบหน้า ของเธอ แต่น่าเสียดายที่ต้องผิดหวัง

“ไม่ใช่คุณจริงๆ อย่างนั้นเหรอ”

“ฉันอยู่ที่บริษัทตลอดทั้งวัน จะยังไปไหนได้อีก

คำพูดของนรมนทำให้ครินท์นึกขึ้นมาได้ว่าพฤกษ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เหมือนกิมจิเองก็ไม่ได้อยู่เช่นกัน คล้ายกับว่าข้างกายของนรมน ไม่มีใครเหลืออยู่สักคนแล้ว แต่คนของอาณาจักรรัตติกาลมีตั้ง มากมายขนาดนั้น เขาเองก็ใช่ว่าจะรู้ทั้งหมด ใครจะไปรู้ว่านรม นมีคนของอาณาจักรรัตติกาลคอยปกป้องอยู่หรือเปล่า

สมองของตนท์ทํางานอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเขาจึงกล่าวออก มาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้พี่สะใภ้ กล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมสักหน่อยแล้ว ตั้งแต่วันนี้ก็ให้คุณอยู่ ที่ตระกูล โตเล็ก ผมคิดว่าในเมื่อประธานเคนต้องการติดต่อกับพี่ สะใภ้ขนาดนั้น ท้ายที่สุดเขาก็ต้องส่งคนมาอีกอยู่ดี ถึงตอนนั้น ผมก็หวังว่าพี่สะใภ้จะช่วยผมจัดการเรื่องนี้

พอได้ยินตนท์พูดอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้ นรมนก็โมโหจนตัว

สั่น
“นายจะยังฉันเอาไว้ในบ้านอย่างนั้นเหรอ”

“พูดว่าขังก็ฟังดูแย่ไปหน่อย พี่สะใภ้สุขภาพไม่ค่อยจะดี ผม แค่อยากให้คุณได้พักผ่อนมากๆ ก็เท่านั้น

ครินทโบกมืออีกครั้ง

คนข้างกายของนรมนฝันบังคับเธอเป็นอย่างมาก

เพิ่งรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือพวกที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ มา ถ้าหากคิดจะลงมือจริงๆ ละก็ เกรงว่าเธอคงไม่ใช่คู่มือของ พวกเขา

ตอนนี้เธอกลายเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว ไม่สามารถที่ จะเอาไข่ไปกระทบหินได้ เธอจึงต้องออมแรงเอาไว้เพื่อรอรวมตัว กับบุริศร์

“ตรินท์ ทางที่ดีก็คิดเอาไว้ด้วยละว่ากลับไปแล้วจะอธิบายให้ พี่ชายของนายฟังยังไง

“เรื่องนี้ไม่ต้องรบกวนให้พี่สะใภ้มาเปลืองแรงกายแรงใจ หรอกครับ”

จากนั้นเขาก็สั่งให้คนพานรมนออกไป

นรมนจึงถูกคนพาออกไปจากฮ่วยกรุ๊ปด้วยใจที่ไม่ยินดีเป็น อย่างมาก เพียงแต่ตอนที่กำลังจะออกจากประตูนั้น ก็บังเอิญพบ กับเจต เข้าพอดี

“จะไปไหนเหรอครับคนสวย”
เจตต์หยุดพวกเขาไว้ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง

แววตาของนรมน ประกายยินดีพาดผ่าน แต่เมื่อคิดได้ว่ากผล ยังคงอยู่ในมือของครินท์ ก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันก็แค่จะกลับบ้านนะ คำพูดของนรมนทำให้เจตต์ตะลึงไปชั่วขณะ

“ตอนนี้คุณมีบอดี้การ์ดแล้วอย่างนั้นเหรอ เป็นยังไงบ้าง บุริศร์ ติดต่อมาบ้างหรือเปล่า”

เจตคิดว่าบริศ กลับมาแล้ว เขามีอะไรจะพูดกับอีกฝ่ายสัก หน่อย จึงเอ่ยถามออกมาโดยตรง

นรมนรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “บุริศร์หายตัวไปแล้ว ตอนนี้ยังหา เบาะแสไม่พบ ถ้าหากคุณชายเจตต์มีเวลาก็ช่วยตามหาเขาให้

หน่อยได้ไหมคะ ฉันสุขภาพไม่ค่อยจะดี ไม่สามารถออกจากบ้าน

ได้ ต้องรบกวนคุณชายเจตต์แล้ว”

คำพูดนี้ทำให้เจตต์ต้องตกตะลึงไปอีกครั้ง

เขารู้ว่านรมนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง แต่เธอกลับเอามาพูดต่อ หน้าคนมากมาย นี่ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปหน่อยนะ

เมื่อมองไปยังคนข้างๆ นรมนอีกครั้ง ก็รู้สึกเหมือนว่าคนพวกนี้ จะไม่ใช่คนของเธอ จึงขมวดคิ้วทันที

“คุณชายเจตต์ ฉันยังมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อนนะคะ พูดจบนเมนก็ก้าวเท้าเดินออกไปโดยไม่คิดจะพูดสัพเพเหระอะไรกับเจตต์เลยสักนิด แต่ทันใดนั้นเองเจตต์ก็พบว่าคล้ายว่า กับจะมีเงื่อนงำอะไรที่ซ่อนอยู่ในเรื่องนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ