บทที่ 506 นายจะขอโทษทำไม
หลังจากครินท์ออกไปแล้ว ผู้จัดการที่ไม่ได้อยู่นานเช่นกัน รีบ ออกไปเตรียมกำลังคน
หลังจากกิจจารอให้ทุกคนออกไปแล้ว ก็พูดขึ้นเสียงทุ้ม “กานต์ ส่งท้ฉันได้ยินเมื่อกี้คือความจริงเหรอ?”
“ฉันก็อยากรู้”
การโจมตี กานต์ได้รับไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย
ไม่คิดว่าคุณอาอยากจะฆ่าเขา
ตอนแรกที่ตนได้เรียนและฝึกฝนกับคุณอาในค่ำคืนมืดมิดนั้น คุณอาดีกับเขามากๆ สั่งสอนเขาเหมือนลูกชายแท้ๆ ตัวเองด้วย ช้า ตอนนี้ทําไมอยากฆ่าเขา?
กานต์คิดไม่ออก ยังไม่แน่ใจ
กิจจาพูดขึ้นอย่างหวาดกลัวนิดหน่อย “เรากลับบ้านกันดีกว่า นะ ฉันฟังออกว่าที่นี่เป็นที่ของแด๊ดดี้ฉัน เป็นไปได้อย่างมากว่า คลับยิงปืนนี้แด๊ดดี้ฉันก็เปิดมันลับๆ ตอนนี้เราอันตรายมาก ฉัน ได้ยินว่าคุณลุงกับหม่ามีก็ออกมาตามหาพวกเราแล้ว แค่เราโทร หาพวกเขา ก็กลับได้แล้วใช่ไหม? แค่กลับไปตระกูลโตเล็ก บาง แต๊ด ของฉันก็ทําอะไรนายไม่ได้
แต่กานต์ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
เขาขมวดคิ้ว ราวกับยังไม่ตอบสนองกับเมื่อครู่นี้ ราวกับกำลัง คิดเรื่องอื่นอยู่
“กานต์ นายได้ยินฉันพูดหรือเปล่า?”
งจารีบเขย่าเขา
กานต์ขมวดคิ้วพูดขึ้น “โทรศัพท์ห้ามโทรจากที่นี่ ที่นี่ไม่รู้ว่ามี สัญญาณรบกวนอะไรหรือเปล่า และแด๊ดดี้กับหม่าก็ไม่รู้อยู่ ที่ไหน พูดเรื่องพวกนี้กับพวกเขา พวกเขาไม่น่าเชื่อเรา เรา ต้องหาหลักฐานแล้วค่อยพูด
“หลักฐานเหรอ? หลักฐานอะไร?
กิจจาฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
กานต์มองกิจจา แววตาสับสนนิดหน่อย
“นายตามฉันมาก็พอ”
กานต์ไม่ได้พูดอะไรอีก
กิจจาจับมือกานต์แล้วพูดขึ้น “นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะ ไม่มีทางให้นายได้รับอันตรายอะไรแน่นอน
คราวก่อนเพราะเรื่องเขมิกา เขาท่ากานต์หายตัวไป ช่วงเวลา นั้นเขาอยากฆ่าตัวเองมาก
ตอนนี้ไม่รู้ทำไมตรินท์ต้องการฆ่ากานต์ กิจจายิ่งไม่อยากเห็น
อะไรเกิดขึ้นกับการ
“นายไม่กลัวแดดนายเหรอ?”
คําถามกานต์ทําให้กิจจาตกตะลึง แต่ก็พูดเสียงทุ้ม “กลัว แต่ ถึงจะกลัว ฉันก็จะปกป้องนาย นายเป็นพี่น้องของฉันนี่หน่า”
ได้ยินกิจจาพูดแบบนี้ กานต์ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น สบายใจได้ ฉัน ไม่ตายง่ายๆ หรอก” เด็กทั้งคู่คุยกันสักพัก ตอนที่ตัดสินใจปีนลงมา ประตูห้อง
ทํางานก็เปิดขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ผู้จัดการเข้ามา พร้อมครูฝึกหนึ่งคน ตอนกานต์เห็นครูฝึกคนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
นี่มันครูฝึกสมชายที่มาหยุดตัวเองกับหม่ามีที่สนามเด็กเล่น ไม่ใช่เหรอ?
“ผู้จัดการ คุณเรียกผมมามีอะไร?”
สมชายเหงื่อแตกพลั่ก เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่นี้กำลังทำอะไร
ผู้จัดการเอารูปกานต์กับกิจจาออกมาแล้วพูดขึ้น “ประธานตร นท์สั่งไว้ว่าให้ตามหาเด็กสองคนนี้ให้เจอ คนนี้ให้เอากลับไป แบบสลบ ส่วนคน หาโอกาสฆ่าทันที
สมชายมองกานต์ในรูปภาพ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น เมื่อวาน ผมเจอเด็กคนนี้ อยู่ที่สนามเด็กเล่นไม่ไกล เด็กคนนี้แม่นปืนมาก ผมให้นามบัตรพวกเขาไป ผมเห็นเด็กคนนั้นสนใจเรื่องยิงปืน มาก ไม่รู้ว่าสนใจมากขนาดที่โทรมาหรือเปล่า”
“งั้นเหรอ? ตอนนี้เด็กสองคนนี้หนีออกจากบ้าน ลูกพวกคนรวยมักจะฟุ่มเฟือย วันนี้ทางที่ดีนายฟังโทรศัพท์แล้วกัน ถ้า พวกเขาโทรมา เราจะได้สร้างผลงานที่ดี
ใบหน้าผู้จัดการมีรอยยิ้มเล็กน้อย
สมชายกลับขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ทำไมประธานครินท ต้องการชีวิตเด็กคนนี้ด้วย?
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”
“ผู้จัดการ เด็กคนนี้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีมาก ฆ่าแล้วรู้สึกเสียดาย เกินไป
คำพูดสมชายทำให้ผู้จัดการถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “เมล็ด พันธุ์ที่มีอยู่ทุกที่ แต่นายก็รู้ คลับยิงปืนของเราประธานครินท์ เป็นคนสนับสนุนเงิน ถ้าพูดให้ไม่น่าฟังคือ ทั้งคลับนี้เป็นของ ประธานครินท์ทั้งหมด เขาอยากให้พวกเราทําอะไร เราก็ต้อง ทํา”
“แต่ผู้จัดการครับ เมล็ดพันธุ์ที่ดีแบบนี้ ในอนาคตจะเป็นตัว เลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้สังหาร จุดเริ่มต้นที่เราทำคลับยิงปืน ไม่ใช่เพราะจะสร้างทีมลอบสังหารให้ประธานครินท์เหรอครับ คุณเชื่อผมสิ ผมมองคนไม่ผิดหรอก เด็กคนนี้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี จากหนึ่งในหมื่น แค่พวกเราทําลายหน้าเขา ให้เขาสูญเสียความ ทรงจํา จากนั้นก็เลี้ยงเป็นนักฆ่าของเรา เขาจะเป็นอาวุธให้เราใน อนาคตได้แน่ๆ คุณลองคิดดู ประธานตรินท์ให้เวลาพวกเราไม่ เยอะ ตอนนี้เรามีมือสังหารดีๆ ที่คน?
คำพูดสมชายท่าให้ผู้จัดการขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
“สมชาย นายคิดดีๆ นี่ลูกของตระกูลโตเล็ก ถ้าในอนาคต เลี้ยงขึ้นมา เขาจําพื้นเพครอบครัวตัวเองได้ ถึงตอนนั้นเราจะ รําบาก”
คำพูดผู้จัดการที่มีเหตุผลเช่นกัน
สมชายพูดเสียงทุ้ม “เรามียาไม่ใช่เหรอ แค่ทำให้เขาลืมไปว่า เป็นคุณขายตระกูลโตเล็กตลอดชีวิตก็พอแล้ว”
“เรื่องนี้นายไปจัดการเองเถอะ อย่าให้คนอื่นเห็นข้อบกพร่อง แล้วกัน”
“ครับ!”
สมชายออกไปอย่างรวดเร็ว
กิจจาและกานต์ฟังบทสนทนาของพวกเขาได้อย่างชัดเจน ดวงตาของกานต์เย็นชาเล็กน้อย
คนพวกนี้ทำไมเลวได้แบบนี้?
ที่แท้ครูฝึกสมชายคนนี้ก็ไม่ใช่คนดีจริงๆ
ไม่คิดว่าเขาแค่อยากให้ตนเป็นอาวุธในการสังหารเท่านั้น และอยากทําให้เขาสูญเสียความทรงจํา ลืมคนในครอบครัวตัว เอง ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง
กิจจาค่อนข้างตกใจจนสับสนหวาดกลัวแล้ว
นี่มันแตกต่างจากที่เขารู้จักอย่างสิ้นเชิง
เขาถึงขนาดตกใจจนทีมไปแล้วด้วยซ้ำ
ผู้จัดการจัดการธุระอะไรบางอย่างในห้องทํางานเสร็จแล้วก็ ออกไป
ตอนนี้กานต์ไม่กล้าขยับตัวง่ายๆ เลย
กิจจาเห็นในห้องทำงานไม่มีคนแล้ว ก็พูดขึ้นเสียงทุ้ม “กานต์ เรารีบลงไปเถอะ ใช้โทรศัพท์ที่นี่โทรหาพวกคุณลุง เดาว่าไม่มี ใครพบหรอก”
นี่เป็นวิธีที่ดีจริงๆ
ตามหลักการแล้ว ตอนนี้ตามหาบุริศร์และนรมน พวกเขาถึงจะ ปลอดภัยที่สุด แต่กานต์ไม่อยากกลับไปแบบนี้
ปฏิญาณตนออกมาแล้ว บอกว่าต้องการหาท้องฟ้าที่เป็นของ
ตัวเอง สุดท้ายตอนนี้ตามหาท้องฟ้าไม่เจอ แต่ยังเกิดภัยพิบัติ
ร้ายแรงอีกด้วย
ไม่คิดว่าคนที่จะฆ่าตนคือคุณอาแท้ๆ ของตน
กานต์ไม่มีการตอบสนอง แต่ก็ยังพูดเสียงทุ้ม “รอก่อน
“รออะไร?”
กิจจาจะร้อนใจตายอยู่แล้ว
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าการออกมาครั้งนี้จะอันตรายแบบนี้ ให้ตาย อย่างไรเขาก็จะไม่ให้กานต์ออกมากับตัวเอง
กานต์พูดเสียงทุ้ม “ตอนนี้ข้างนอกมีคน เราออกไปก็หนีไม่ได้อาจจะโดนพวกเขาจับตัวไว้ได้ ต้องรอพวกเขาออกไปหมดก่อน เราค่อยคิดหาวิธีออกจากที่นี่
“แล้วพวกเขาจะออกไปตอนไหน?
“ไม่รู้ รอดูก่อนเถอะ”
ความสุขมของกานต์ทำให้ความกระวนกระวายใจของกิจจา สงบลงบ้าง
เขามองกานต์ แล้วพูดขึ้นอย่างละอายใจ “ขอโทษนะ “ขอโทษทําไมอ่ะ?”
กานต์รู้สึกกิจจามีความในใจบางอย่าง
กิจจากัดปากพูดขึ้น “ฉันไม่ดีเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน นายคงไม่ หนีออกจากบ้านเป็นเพื่อนฉันหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะหนีออกจาก บ้าน บางทีตอนนี้นายอาจจะไม่มีอันตราย คราวก่อนแม่ฉันลักพา ตัวนาย คราวนี้ก็แคดดี้ของฉันอีก ขอโทษจริงๆ นะ ฉันไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้ ทำไมเลวร้ายแบบนี้ แต่กานต์ ฉัน เป็นห่วงนายมากจริงๆ นะ ฉัน……….”
“เอาล่ะ นายไม่ได้อยากฆ่าฉันสักหน่อย นายจะขอโทษทำไม เยอะแยะ?”
กานต์ขัดคำพูดกิจจาทันที
คราวก่อนเขมิกาลักพาตัวตน กิจจาก็ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น กานต์ มันได้อย่างชัดเจน
ถ้าไม่ได้เรียกว่าพี่น้อง แล้วความรู้สึกแบบไหนถึงเรียกว่าพี่
น้อง?
และกานต์ก็รู้สึกมาตลอดว่ากิจจาไม่เหมือนกับผู้ใหญ่พวกนั้น
เขาอยากรู้ว่าทำไมครินท์อยากฆ่าตน แต่ในเมื่อคิดไม่ออก ก็ ไม่ต้องคิดแล้ว กลับไปน่าจะเจอเบาะแสบางอย่าง
กานต์และกิจจานอนอยู่ในช่องระบายอากาศ อยากคุยแต่ไม่ กล้าพูดเสียงดัง เมื่อเวลาผ่านไป กิจจากหลับได้อย่างไรก็ไม่รู้
เห็นกิจจาหลับปุ๋ย กานต์ก็รู้สึกง่วงนิดหน่อย
เขาหาวหนึ่งที และหลับไปอย่างสะลึมสะลือ
ทางด้านบริศร์และนรมมหาครึ่งเมืองชลธีแล้ว ก็หาพวกเขาไม่ เจอ ทั้งสองคนร้อนรนใจอย่างมาก
นรมนถึงขนาดกําจัดคนในค่ำคืนอันมืดมิดเพื่อตามหา แต่ก็ ยังไม่พบเบาะแสเลยสักนิด
มีคนบอกว่าเคยเห็นเด็กสองคน ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แค่
ไม่มีคนสังเกตว่าพวกเขาลงป้ายไหน
นรมนและบุริศร์รีบไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทันที ที่นี่คนแออัดมาก จะหาเด็กทั้งสองคนได้ที่ไหน? นรมนร้อนรนใจจนจะร้องไห้แล้ว
บริศ กลัวเธอเหนื่อย จึงพูดเสียงทุ้ม “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจนะ เด็กอย่างกานต์หนีออกจากบ้านไม่ใช่เรื่องที่ฉุกคิดทำขึ้นมา และด้วยนิสัยของเขา น่าจะว่างแผนเส้นทางเฉพาะและสถานที่ที่ ต้องการไปอย่างละเอียด เราพักผ่อนกันก่อนดีกว่า ตั้งใจคิดว่า ช่วงนี้กานต์มีสถานที่ที่อยากไปเป็นพิเศษไหม บางทีอาจจะมี เบาะแส ดีกว่าการที่เราตามหาเหมือนแมลงวันไร้หัวแบบนี้”
ได้ยินบุรีศร์พูดแบบนี้ นรมนก็ชะงักไป จู่ๆ ในหัวสมองก็ ปรากฏภาพเหตุการณ์ที่สนามเด็กเล่นเมื่อวานนี้
“กานต์อยากไปยิงปืน ตอนนั้นฉันจำได้ว่ามีผู้ชายมาชวนเรา เข้าร่วมคลับยิงปืน ที่ฉันเคยบอกคุณ
เมื่อนรมนพูดแบบนี้ บุรีศร์ก็คิดออกแล้วเช่นกัน
“ครูฝึกคนนั้นชื่ออะไร? คลับยิงปืนอยู่ที่ไหน?”
“ฉันไม่ได้ดูละเอียด ตอนนั้นฉันไม่คิดจะพากานต์ไปด้วยซ้ำ ฉันเลยทิ้งนามบัตรไปทันที
ตอนนั้นรมนเสียใจจริงๆ ที่ตอนแรกตัวเองทำไมไม่เก็บ
นามบัตรไว้นะ?
ตอนนี้เธอจําไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไร อย่าว่าแต่ที่ อยู่โดยเฉพาะเลย
“คุณเอานามบัตรวางไว้ที่ไหน?
“ฉันทิ้งไปมั่วๆ อยู่ทางสนามเด็กเล่นที่เราไปด้วยกันเมื่อวาน
“ไปหากัน!”
บริต มีความหวังเล็กน้อย รีบไปสนามเด็กเล่นกับนรมนอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อทั้งสองคนไปถึง ขยะที่นี่ก็โดนทําความสะอาดไปตั้ง นานแล้ว ไม่เหลือร่องรอยใดๆ เลย
นรมนแทบจะเป็นลม
“ฉันผิดเอง! ตอนนั้นฉันควรดูอารมณ์ของกานต์ ทำไมฉันถึง ลืมนะว่าเด็กคนนั้นชอบยิงปืนมากที่สุด? คุณว่ามีความเป็นไปได้ ไหม ว่ากานต์จะเก็บนามบัตรนั้นไว้ จากนั้นก็พากิจจาไปที่นั่น”
การคาดเดาของนรมนทำให้บริศพยักหน้าเล็กน้อย
“ไม่ใช่แค่ความเป็นไปได้ แต่ต้องไปที่นั่นแน่ๆ ไม่งั้นเจ้าเด็ก แสบคงไม่ไปอย่างเด็ดขาดแบบนี้ แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรา ต้องรู้ก่อนว่าคลับยิงปืนนั้นอยู่ที่ไหน
คำพูดบุริศ ทำให้สมองนรมนตกตะลึง จากนั้นจู่ๆ ก็พูดขึ้น “ฉันรู้ว่าที่ไหนสามารถหาที่อยู่คลับเจอได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ