บทที่ 475ความพึงก็ทำให้เขาคลั่งตายได้
บทที่ 475 ความหึงก็ทำให้เขาคลั่งตายได้
กานต์หยีตากับคําถามของเจตต์ ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “เพราะมี แค่คุณที่อยากจะปกป้องหม่ามีของผมจริงๆ ผมเชื่อว่าคุณเองก็ อยากปกป้องตระกูลโตเล็กเพื่อหม่ามีของผมใช่ไหม?
เจตต์ ยากที่จะตอบคําถามของกานต์
“ไอ้เด็กบ้า ฉันจะบอกอะไรให้ คนที่ฉันไม่ชอบที่สุดก็คือบริศร์ และฉันเองก็บอกแกอย่างไม่กลัวว่าฉันชอบแม่ของแก หากพ่อ ของแกเป็นอะไรไป ไม่แน่ฉันอาจจะดีใจมาก ฉันไม่มีทางช่วยเขา หรอก”
เจตต์ ไม่สนใจว่ากานต์จะมองตนอย่างไร ยังไงเขาก็ชอบนร มน แล้วยังไงล่ะ
กานต์ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม พร้อมเอ่ยเสียงแผ่ว “ผมรู้ว่าหม่าม ของผมมีเสน่ห์มาก แต่เธอชอบแดดดี้ของผม
คราวนี้ เขาไม่เรียกคุณบุริศร์อีกต่อไป
“แล้วยังไงล่ะ คุณบุริศร์ของแกตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ขอเพียง แค่ฉันอยู่เฝ้าแม่ของแกทุกวัน ช่วงเวลาที่ผู้หญิงคนหนึ่งอ่อนแอ ที่สุดฉันอยู่เคียงข้างเธอ เธอจะตกหลุมรักฉัน โดยไม่รู้ตัว แถมฉัน ยังหล่อขนาดนี้ จะไม่ตกหลุมรักฉันได้ยังไงกัน?”
กานต์แทบอ้วกออกมา
เคยเห็นคนที่หลงตัวเอง แต่ไม่เคยเห็นคนที่หลงตัวเองถึง ปานนี้
เขาส่ายหน้า “คุณจะไม่ไปก็ได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าแขนของคุณ จะยังใช้ได้อยู่ไหม”
หมายความว่ายังไง?
เจต ร้อนรน นมา
กานต์เอยอย่างขอไปที “ไม่มีอะไร ผมแค่ใส่น้ำมันพริกลงไป ในยา คุณก็รู้นี้ หากบาดแผลถูกกับน้ำมันพริกเข้า ต้องแย่แน่
“แกนนะ! แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ฉันเพื่อตอบแทนที่ฉัน
ช่วยแม่ของแกเอาไว้นะ แกกลับ คิดไม่ซื่อต่อฉัน?”
เจตต์อยากจะบีบคอเด็กบ้านให้ตายไปเลย
เป็นลูกของบุริศร์ไม่มีผิดเพี้ยน
เจ้าเล่ห์เหมือนกันไม่มีผิด
กานต์กลับเอ่ยเสียงเรียบ “ก็เพื่อขอบคุณคุณจริงๆ ยานี้ดีจริงๆ แค่ช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง คุณก็แค่ลำบากเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เอง แล้วอีกอย่าง ผมก็นำรูปที่คุณลองให้แชร์ขึ้นไปบนโลก ออนไลน์ก็ได้ ถึงตอนนั้นต้องมีสาวๆ มากมายขอบคุณแน่ บางที อาจจะขายได้ราคาดีก็ได้นะ”
“กานต์ แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก”
เจตต่ไม่เข้าใจ
เขากลับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งหลอกล่อเนี่ยนะ
กานต์กลับหัวเราะราวกับจิ้งจอกน้อยออกมา “เพราะงั้น คุณจะ ไปไหม?”
“แกไม่กลัวฉันจะถือโอกาสนี้แก้แค้นแกหรือไง ไปฆ่าคุณบุรีศร ของแกทิ้ง”
“คุณไม่มีทางทำแบบนั้น!
กานต์ เอยอย่างมั่นใจ
“แกรู้อีกแล้วงั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว เพราะคุณไม่มีทางปล่อยให้หม่ามีของผมเสียใจ หรอก”
ประโยคของกานต์ทําให้เจตต์พูดไม่ออก
ให้ตาย ความคิดเขากลับอยู่ในกำมือของเด็กคนหนึ่ง สวรรค์ ยังมีความยุติธรรมอยู่อีกบ้างไหม?
แกเป็นเด็กสี่ขวบจริงเหรอ?”
“คุณเป็นหนุ่มวัยยี่สิบกว่าจริงเหรอ?”
สายตาเหยียดหยามของกานต์ทำให้เจตต์แทบคลั่ง
หากเจตต์ยังอยู่กับเด็กบ้านต่อไป เขาต้องเป็นบ้าตายแน่
“ว่ามาเร็วเข้า คุณบุริศร์ของแกอยู่ที่ไหนกันแน่?
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันในแผนที่ไม่มีชื่อสถานที่ที่ชัดเจน เมื่อได้ยินประโยคของกานต์ เจต อยากหนีไปอีกครั้ง
“แกตั้งใจแกล้งฉันใช่ไหม? คนของตระกูลโตเล็กตั้งมากมาย แกให้อาของแกไปหาซะ ให้อากิมจิอะไรนั่นไปหา แกจะมาหา ฉันทำไม ตอนนี้ยังจะมาบอกฉันว่าไม่รู้ชื่อสถานที่ไม่รู้ชื่อสถานที่ ฉันจะไปหายังไง?”
เจตต์ระเบิดลงอย่างแรง
กานต์ยังคงเอ่ยเสียงเรียบ “ช่วงนี้คุณอายุ่งมาก ผมไม่เจอ แม้แต่เงาของเขาเลย แม้แต่กิจจาเองก็ไปที่บริษัทกับคุณอาทุก วันเลย ผมไม่เห็นเขามาหลายวันแล้ว ส่วนคุณอากิมเอง เขามี เรื่องอื่นที่ต้องไปทํา แถมคราวก่อนคนของบ้านเราปล่อยให้ตั้งเม หนีไปได้ นี่ไม่ใช่ข้อผิดพลาดแน่
เมื่อได้ยินคำสันนิษฐานของเด็กน้อยสี่ขวบ เจตต์รู้สึก
ประหลาดอยู่ไม่น้อย
เด็กคนนี้ต่อต้านฟ้าดินเห็นๆ
“ฉันว่าเด็กน้อยอย่างแกวันๆ จะทำเรื่องของเด็กน้อยบ้างได้ ไหม? เรื่องของผู้ใหญ่ให้ผู้ใหญ่จัดการกันเอง
“เฮ้อ หากผู้ใหญ่อย่างพวกคุณทำให้ผมวางใจบ้างนะ ยังจะ
ต้องให้เด็กอย่างผมคอยเป็นกังวลอยู่อีกเหรอ” คำพูดที่เสมือนกับรู้เรื่องทุกอย่างของกานต์ แทบจะทำให้เจตขาดอากาศหายใจตาย
เขาค้นพบว่า การคุยกับกานต์เป็นหายนะเห็นๆ
“ก็ได้ งั้นแกว่า ฉันจะไปหาที่ที่แกว่าได้จากไหน?
“ฉันหาเส้นทางได้แล้ว แล้วก็วางแผนเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อยู่ในโทรศัพท์คุณหมดแล้ว ไปตามเส้นทางที่ผมวาดเอาไว้ให้ พอแล้ว”
จบประโยคของกานต์ เจตต์ดีดตัวลุกขึ้น
“แกเตะต้องโทรศัพท์ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ผมไม่ได้แตะต้องโทรศัพท์คุณเลย คราวก่อนคุณบุริศร์ของ เราแตะต้องโทรศัพท์ของคุณต่างหาก ผมได้ข้อมูลโทรศัพท์ของ คุณจากข้อมูลในโทรศัพท์ของเขา ก็เลยส่งเข้าไป
กานต์เอ่ยอย่างเรียบเฉย หากแต่เจตต์กลับรู้สึกเย็นวาบที่แผ่น หลัง
ปีศาจของตระกูลโตเล็ก ยังเป็นคนอยู่อีกหรือเปล่า?
“ไม่มี พวกแกแตะต้องโทรศัพท์ของฉัน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นการล่วงล้ำสิทธิส่วนตัวเข้าใจไหม?”
“เอาหน่า อาเจตต์ ผมไม่สนใจรูปสาวสวยในโทรศัพท์คุณ หรอกน่า! ผมกลัวเป็นตากุ้งยิง ผมเลื่อนผ่านไปเลยล่ะ
คำพูดของกานต์แทบจะทําให้เจตน้ำลายติดคอตาย
“เอาหน่า อาเจตต์ ตอนนี้ไม่มีคนสนใจคุณเลยสักนิด ไม่มีใคร สนใจว่าคุณจะไปไหน เรื่องของคุณบุรีตร์ต้องรบกวนคุณแล้ว หากแม่ผมรู้ว่าคุณช่วยตามหาคุณบุริศร์ เธอต้องรู้สึกขอบคุณคุณ มากๆ แน่ แม้ว่าจะไม่ถึงกับชอบก็ตาม แต่ว่าวันหลังคุณนัดหมา ของผมไปทานอาหาร ไปเดินเล่น เธออาจจะไม่ปฏิเสธคุณเลย ก็ได้
เจตนิ่งไป เมื่อได้ยินประโยค
ต่อให้นรมนแต่งงานกับฉันไม่ได้ แต่ถ้าหากสามารถทานข้าว กับตน เดินเล่น ดูหนัง บางทีบุริศร์อาจจะโมโหจนคลั่งแน่ ต่อให้ไม่เป็นแบบนั้น ความหึงก็ทำให้เขาคลั่งได้ กานต์ส่ายหน้ากับสีหน้าที่ได้ใจของเจต เฮ้อ ไอคิวนี่!
เขาถอนหายใจออกมาช้าๆ ดีที่คนที่แม่เธอชอบคือคุณบุริศร์ ดีที่เขาเป็นลูกของคุณบุริศร์
เจตต์ไม่มีทางรู้ว่ากานต์คิดอย่างไร แต่เมื่อได้ยินแผนการที่ กานต์ได้วางเอาไว้อย่างสวยงาม จึงหัวเราะออกมา “วางใจเถอะ ไอ้หนู ฉันจะหาคุณบุริศร์ของพวกแกเจอให้ได้แน่! รอฟังข่าวดี แล้วกัน”
“ขอบคุณระคุณอา
กานต์ยิ้มหวานออกมา
เจตต์ยังคงรู้สึกเจ็บแสบที่ป่า จึงขมวดคิ้วแน่น “ยานออกไปไม่ ได้แล้วหรอ?” “วางใจเถอะ คุณอาเจตต์ ผมได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นี่
กินไอ้นี่เข้าไปก็จะหายดี แต่คุณต้องทานหลังจากที่ไอ้นั่นได้รับ
บาดเจ็บนะ”
กานต์ ลับๆล่อๆ
เจตต์รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ยังคงแสร้งโมโหต่อไป
เขาออกจากตระกูลโตเล็ก เข้าไปจัดการทุกอย่างที่บริษัท ก่อน ที่จะมุ่งไปยังเป้าหมาย ด้วยข้ออ้างทางบริษัท เจตต์เปิดสิ่งของ ชิ้นน้อยที่กานต์ได้ให้เอาไว้ เมื่อปลดออกดูปรับเป็นลูกกวาด ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมา
“ก็ได้! ไอ้เด็กเวร แกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหม?
แม้จะพูดออกไปอย่างนั้น แต่เขาก็ยังคงโยนลูกกวาดเข้าปาก แทบอยากจะมองลูกกวาดที่เป็นกานต์แล้วกลืนลงคอไป
เจตต์แวะไปที่โรงพยาบาล
เมื่อนรมนได้เห็นทรงผมที่เกลี้ยงเกลาของเจตต์ เธอหัวเราะ ออกมายังปิดกั้นไม่อยู่
“เจตต์ ทำไมถึงคิดสั้นแบบนั้นล่ะ?”
เธอหัวเราะจนปวดท้องไปหมด
และเมื่อผมทิพย์ได้เข้ามาเห็นหัววับวาวของเจตต์ ก็หัวเราะ ออกมาอย่างหนักเช่นเดียวกัน ขำจนน้ำตาเล็ด
เจตรอให้พวกเขาหัวเราะต่อไป “หัวเราะเข้าไป ภาพลักษณ์ ของฉันจบเห่กัน ก็แค่ทรงผมเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ? เขาเรียกว่า
“ใช่! เท่มาก! ฮ่าฮ่าฮ่า”
คมทิพย์หยุดหัวเราะไม่ได้ ทำให้เจตต์โกรธจนแทบจะพุ่งเข้า
ใส่
เมื่อพฤกษ์เข้ามาเห็นสภาพของเจตต์ เขานิ่งไปเช่นเดียวกัน
*ได้รับการกระทบกระเทือนหรอ?”
“ไสหัวไปซะ!”
ความโกรธที่สั่งสมมามากได้ระบายออกมาเสียที พฤกษ์อาจจะยังคงให้ความใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
จึงไม่คิดต่อกรกับเขา
“เมื่อคืนนายไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้ไม่พักผ่อนที่บ้าน มาทำอะไร ที่นี่?”
ประโยคของพฤกษ์ทำให้เจตต์ระเบิดออกมา
แกยุ่งอะไรด้วย? ฉันจะบอกให้ หลังจากนี้แกต้องดูแลความ ปลอดภัยของนรมนตลอด 24 ชั่วโมง ได้ยินไหม?
ประโยคของเจตค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่พฤกษ์ กลับไม่รู้สึกอะไร ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับ “ฉันจะดูแลคุณในอย่างดี
“เชอะ!”
เจตต์ไม่หันกลับไปมองเขาอีก เขาหันไปในรมนแทน “นรมน ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนคนที่นี่จริงๆ แต่ที่บริษัทมีงานด่วน ผมต้อง ไปต่างประเทศ ทำยังไงดี? เธอล้างผม ขอแค่เธอรั้งผม ไม่ว่าจะ เป็นบริษัทอะไร โครงการอะไร ผมไม่เอาทั้งหมด ผมจะอยู่เป็น เพื่อนคุณที่นี่”
ในตอนนี้เจตต์เสมือนกับสุนัขตัวหนึ่งที่น่าอนาถ ที่ทำที่น่า สงสารทำให้นมนนึกว่า
“พอได้แล้ว เรื่องงานต้องมาก่อน มีธุระอะไรก็ไปทำเถอะ ฉัน ไม่เป็นอะไร ด้านนอกยังมีพฤกษ์อยู่ แล้วกตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ด้วย ตรงนี้มีคมทิพย์และโพนี่ แม่ของฉันเองก็จัดหาบอดี้การ์ด ยอดฝีมือไว้ให้ เพราะงั้นวางใจไปทำธุระของคุณเถอะ”
“นรมน ใจร้ายจังเลย เธอทำร้ายจิตใจผมได้ลงคอได้ยังไง? เธอก็รู้ว่าผมอยากให้เธอรั้งผม
เจตต์เข้าถึงบทบาท
คมทิพย์หมดคําพูด
“ฉันว่านะคุณชายรัตติกรวรกุล คุณเห็นเราเป็นอากาศหรือยัง ไง? ให้ตาย เลิกดราม่าได้แล้ว ปลอมชะมัด!!
“พฤกษ์ พาผู้หญิงของแกออกไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่เช่นนั้นฉัน ลงมือทําร้ายใครขึ้นมาคงจะไม่ดี”
เจตต์ รู้สึกว่าพวกเขาสองคนแต่ชะมัด ดูไม่ออกหรือไงว่าเขา อยากอยู่กับนมนสองต่อสอง
หากแต่นมมนต์กลับหัวเราะออกมา “พอได้แล้ว ฉันรู้ว่านาย เป็นห่วงฉัน แต่บริษัทต้องมาก่อน คุณเดินทางที่ดี
เมื่อได้ยินนรมนูพูดออกมาแบบนั้น เจตต์ รู้สึกว่าเขาไม่
สามารถอยู่ต่อได้ตามที่หวังแล้ว
เขาพยักหน้ารับช้าๆ หลังจากนั้นก็ได้คุยกับนรมนอีกหลาย ประโยค ก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากโรงพยาบาลไป
เขากลับมาเก็บของที่บริษัท ก่อนขับรถไปที่สนามบิน ไม่รู้ว่า เซนส์ของเขาที่ผิดแปลกไปหรือไม่ เหมือนกับว่ามีใครบางคน สะกดรอยตามเขาอยู่ เขาเหลือบมองที่กระจกหลัง เครื่องยนต์คัน นั้นเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว
หรือเขาคิดมากไปเอง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ