แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 443 เธอหลอกคุณทั้งหมด



บทที่ 443 เธอหลอกคุณทั้งหมด

นรมนครุ่นคิดทบทวน คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันแน่น บุริศร์ มองดูด้วยความเอ็นดูอยู่ไม่น้อย

“ผมจัดการเรื่องนี้ได้ ผมเตรียมคนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว สักพัก จะปลอมตัวเป็นคุณเข้าไป ไม่ว่าดุลยาจะทำอะไรก็ตาม ขอเพียง แค่เธอปรากฏตัว ผมจะให้คนจับกุมตัวทันที ดังนั้นคุณไม่ต้อง กังวลใจ”

ได้ฟังการจัดเตรียมของบริศแล้ว นรมนมองเขาแล้วพูดว่า : “คุณคิดว่าการดูแลทุกอย่างให้ฉันเป็นอย่างดีนั่นคือการปกป้อง ฉันที่ดีที่สุดงั้นเหรอ?”

“ใช่ ผมไม่ต้องการให้คุณตกอยู่ในอันตราย

“แต่เรื่องนี้ฉันต้องการไปด้วยตัวเอง ฉันมีบางอย่างที่ต้องการ ถามดุลยาต่อหน้าให้ชัดเจน

คำพูดของนรมนทำให้บริศร์ไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย

“รอจนจับดุลยาได้ คุณต้องการถามอะไรก็ตามใจคุณ แต่ตอน นี้คุณไปไม่ได้”

นามนพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า : “คุณคิดว่าจะจับดุลยาได้ จริงๆเหรอ?”

“เธอนัดคุณแล้วและยังมีการบันทึกข้อความทางโทรศัพท์ ขอเพียงจับเธอได้ก็สามารถเอาตัวเธอไปที่สถานีตำรวจ ถึงเวลานั้น เธอก็จะบิดพลิ้วไม่ได้

“ถ้าอย่างนั้นแล้วกมลล่ะ? หรือว่าคุณจะเอาเมลไปซ่อน? กมล อยู่ในบ้านของพวกเรา คดีลักพาตัวไม่ได้เกิดขึ้นจริง คุณจับตุล ยาโดยไม่มีหลักฐานที่สมเหตุสมผล ถึงจะมีบันทึกเสียงทาง โทรศัพท์แล้วจะเป็นยังไง? ด้วยการปกป้องและเข้าข้างตุลยา ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คุณคิดว่าพวกเราจะชนะโดยไม่มีการ ยื่นอุทธรณ์ด้วยหลักฐานที่จับต้องได้งั้นเหรอคะ?”

คำพูดของนรมนทำคิ้วของบุริศร์เป็นรอยย่นลึกมากกว่าเดิม “ครั้งนี้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่อาจปกป้องตุลยาได้อีก ธรณีที่ อยู่ทางนั้น…

“ถ้าหากคุณชายธรณีสามารถเอาชนะคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ได้จริงๆ สถานการณ์คงไม่เป็นอย่างในตอนนี้แล้ว

นรมนขัดจังหวะคำพูดของบุริศร์ จากนั้นก็พูดว่า : “ฉัน ต้องการไปพบตุลยาด้วยตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะพูดยังไง เรื่องวันนี้ แปลกมากจริงๆ ถึงแม้ตุลยาต้องการใช้เบี้ยตัวหนึ่งในการ คุกคามฉัน แต่เธอเองไม่กล้าพอที่จะทิ้งตัวลูกของฉันกลางวัน แสกๆหรอกค่ะ นอกจากนี้เธอจะคอยจ้องมองดูบ้านเราตลอด เวลางั้นเหรอ? นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย

เห็นว่านเมนตัดสินใจแน่วแน่แล้ว บุริศร์รู้ว่าตนเองเกลี้ยกล่อม ไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ยังพูดด้วยความห่วงใยว่า : “ผมจะไป กับคุณ”
“ถ้าหากฉันปฏิเสธ คุณไม่ไปได้ไหม?”

“ไม่มีทาง

นรมนไม่พูดอะไรอีกและลุกขึ้นเดินไปที่ห้องหนังสือ

“พ่อคะ หนูกับบุริศร์จะออกไปทำธุระนิดหน่อย อาจจะไม่กลับ มากินข้าวเที่ยง พ่อกับแม่ให้กมลทานอยู่ที่บ้านนะคะ

พ่อนรมนไม่แปลกใจกับสถานการณ์เช่นนี้เลยสักนิด เพียงแค่ พยักหน้าและพูดว่า : “ตกลง พวกลูกระวังตัวด้วยล่ะ”

“อืม!!

นรมนพยักหน้า พอเปลี่ยนชุดแล้วจึงได้ออกมาจากบ้านตระ กูลธนาศักดิ์ธนพร้อมกับบุริศร์

พฤกษ์เห็นพวกเขาออกมาด้วยกัน จึงคิดว่าพวกเขาต้องการ กลับไปตระกูลโตเล็กเลยอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณหนูล่ะครับ?”

“นายอยู่ที่นี่เพื่อดูแลความปลอดภัยของพวกเขา ฉันกับ คุณนายจะออกไปข้างนอก

พูดจบแล้วบุริศร์ก็ออกจากที่นั่นพร้อมกับนรมินทันที

นรมนไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง ถึงแม้บริศร์จะรู้สึกละอายใจ อยู่บ้าง แต่เขาไม่ใช่คนที่อยู่ในสถานะด้อยกว่า หลังจากที่ได้พูด อธิบายบางอย่างแล้ว เขาคิดว่าตนเองไม่ผิด นรมนที่ยังอึดอัดใจ อยู่เช่นนี้ เขาเองก็ไม่มีวิธีแล้ว

บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองนั้นค่อนข้างจะแข็งทื่อและน่าอึดอัดใจ

ในตอนที่มาถึงสวนลุมพินีนรมนตรงไปเปิดประตูรถ แต่กลับ ถูกบริศ คว้าข้อมือเอาไว้ “ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนก็อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง คุณอยากจะโกรธ

ผม อยากจะด่าผม อย่างน้อยก็ต้องมีชีวิตอยู่ ถ้าหากตุลขาคิดจะ

ทําอะไร คุณจะต้องแจ้งให้ผมทราบทันที เข้าใจไหม?” บริศ รู้สึกว่าการที่ตนเองยอมตกลงให้นมนมาที่นี่เป็นความ

ผิดพลาด

แต่ว่าเขาไม่อยากที่จะต้องมีความห่างเหินกับนรมนอีกแล้ว เรื่องของกมลทําให้ระหว่างพวกเขามาถึงทางตันเรียบร้อย แล้ว ถ้าหากเขายังยืนกรานในเรื่องนี้ต่อไป เขากลัวว่านรมนจะ

เกิดการตอบสนองต่อความกดดันของจิตใจจริงๆ

นรมนมองท่าทางห่วงใยของบุริศร์แล้วอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

“ฉันรู้ค่ะ”

เธอสลัดข้อมือออกจากบริศแล้วลงจากรถ ทันใดนั้นบุริศร์รู้สึกว่างเปล่าในใจ ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างน่าหงุดหงิดใจจริงๆ

เห็นได้ชัดว่าเขาทั้งสองคนเป็นคนที่ใกล้ชิดกันที่สุดในโลก แต่ ตอนนี้กลับดูเหมือนว่าถูกคั่นกลางด้วยหนทางที่ยาวไกลและ อุปสรรคมากมาย ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถสัมผัสถึงกันได้
เขามองนรมนลงจากลงและเดินไปยังสถานที่ที่ดุลยากำหนด ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ต่งเครียดขึ้นมา

“กิมจิ แจ้งให้ทุกคนทราบด้วยว่าจะต้องดูแลความปลอดภัย ให้กับคุณนาย”

คำพูดของบริศทำให้กิมจิรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที

นรมนมาถึงสถานที่ที่กำหนดไว้แล้ว และพบว่าที่นี่มีผู้คนที่ หลากหลาย มันมีผู้คนทุกแบบ และมีพ่อค้าแผงลอยเป็นจำนวน มาก ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นที่สะดุดตาคน

เธอมองไปรอบๆและพบกับใบหน้าที่คุ้นเคยสองสามคนอย่าง รวดเร็วทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนที่แฝงตัวอยู่อย่างลับๆ

นรมนรู้โดยทันทีว่าที่นี่ได้ถูกบุริศร์เหวี่ยงตาข่ายครอบไว้แล้ว

ความปลอดภัยของเธอจะไม่เป็นไร

เธอหยุดยืนพิงอยู่ที่ราวบันไดแล้วมองไปที่พื้นสนามหญ้าสี เขียวที่อยู่อีกด้านของราวบันได มีเด็กสามสี่คนกำลังเล่นฟุตบอล อยู่ในสนาม ท่าทางที่มีความสุขทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึง กานต์และกิจจา

เจ้าตัวแสบสองคนนั่นก็ชอบเล่นฟุตบอลมากเช่นกัน

อีกด้านหนึ่งของสนามฟุตบอล มีเด็กสองคนกำลังเล่นโดรน อยู่ และมีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเพิ่งเล่นเลยยังบังคับ โดรนไม่ได้ ทำยังไง โดรนก็ไม่บินขึ้น

นรมบนึกถึงกานต์อีกครั้ง ตอนที่เพิ่งเริ่มเล่นเจ้าตัวเหม็นก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน แล้วในชั่วพริบตาเขาก็กลายเป็นยอดฝีมือ

คิดๆดูแล้ว เธอก็นึกถึงคำพูดที่เจตต์พูดกับเธอขึ้นมาอีกครั้ง นาครเป็นคนติดยา สินค้าของเขาส่งผ่านตั้งเม่มอบให้ดุลยา

ในตอนนี้ นรมนเกิดความลังเล ว่าที่จริงแล้วเธอสนใจความ เป็นความตายของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาหรือไม่

จะว่าไปคุณนายทวีทรัพย์ธาดาสำหรับเธอแล้วไม่มีความรัก ใดๆหลงเหลืออยู่เลย ยิ่งกว่านั้นสำหรับความเห็นเชิงลึกของเธอ ถึงแม้เธอจะพูดเรื่องนี้ มันก็ไม่สามารถทำให้คุณนายทวีทรัพย์ ราคาเชื่อเธออยู่ดี

นอกจากนี้เธอยังไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นเด่นชัดว่าดุลยา เอาของไปให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดากิน

แต่ถ้าจะให้เพิกเฉยแบบนั้น นรมนก็รู้สึกว่าไม่อาจก้าวข้าม มโนธรรมไปได้

ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ที่ยังคงตัดไม่ขาดและยังวุ่นวายกับ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ถึงแม้ว่าจะเป็นคนธรรมดา ในตอนที่รู้ เรื่องนี้เธอควรจะแจ้งเตือนใช่หรือเปล่า?

นรมนยุ่งเหยิงใจอย่างมาก ตัดสินใจไม่ได้มาโดยตลอด

ตัวเธอควรจะปรึกษาบริศร์สักหน่อยแต่เธอก็ไม่ทำโดยที่ไม่รู้ ว่าทำไมและในตอนนี้เธอไม่อยากคุยกับเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
เจตต์พูดถูก บริศ ไม่สนใจตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอย่างสิ้นเชิง

สําหรับบางประเด็นแล้วบุรีต เป็นคนเย็นชา

ถ้าหากไม่ใช่คนที่เขาห่วงใย เขาจะไม่เหลือบมองคนอื่นสัก ครั้งแม้ว่าคนนั้นจะตายไปแล้วก็ตาม

ไม่ใช่ว่าผู้ชายที่เย็นชาแบบนี้ไม่ดี เพียงแต่ว่าถ้าอีกฝ่ายเป็น ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา นรมนยังคงทำใจไม่ได้

ในขณะที่อารมณ์ยุ่งเหยิง เวลาผันผ่านไป ดูเวลาตอนนี้เลยสิบ โมงแล้ว แต่ว่าตุลยายังไม่มา

นรมนมองดูเวลาแล้วฟังบันทึกเสียงทางโทรศัพท์ของตุลยา สถานที่และเวลานั้นถูกต้อง แต่ทำไมไม่เห็นเงาของตุลยาเลยล่ะ?

หรือว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?

หลังจากรอมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ตุลยายังคงไม่โผล่มา แม้แต่จะโทรศัพท์มาก็ไม่มี

นรมนต้องการที่จะอยู่ต่อ แต่พอคิดๆดูแล้วก็ช่างมันเถอะ

ถ้าหากว่าสิ่งนี้คือกับดักล่ะ เธอโทรมาแล้วมันดันประจวบ เหมาะกับแผนการของคนอื่นล่ะ?

บริศ เองก็มองดูเวลาไม่หยุด

เขาเริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมาแล้ว

“ดุลยยังไม่มา?”
“ยังครับ”

คนของกิมจิคอยสอดส่องบริเวณรอบๆอยู่ตลอด ขอให้มี เบาะแสเพียงนิด เขาก็สามารถค้นพบได้ แต่ว่าจนถึงตอนนี้ไม่มี วี่แววใดๆ ของตุลยาปรากฏขึ้นเลย

บริศร์ร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้ว

“ให้คนไปเช็คดูว่าตอนนี้ตุลยาอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่?

เสียงของบุริศ เพิ่งจะจบลง คนของกิมจิก็รีบรุดไปตรวจสอบ แล้ว

ไม่นานนักก็มีข่าวออกมาว่า ตุลยาอยู่กับคุณนายทวีทรัพย์ ธาดาที่บ้าน โดยที่สภาพจิตใจของคุณนายทวีทรัพย์ธาดานั้นไม่ ค่อยจะดีมากนัก

พูดได้ว่าเบี้ยวนัดนรมนแล้ว!

การได้รับทราบเช่นนี้ทำให้บริศร์โมโหอย่างมาก

ไม่เคยมีใครหลอกนรมนอย่างนี้มาก่อน ตุลยาคนนี้หาที่ตาย

จริงๆ!

บริศ ลงจากรถไปโดยทันทีและไม่สนใจการห้ามปรามของกิม จิ เขาเดินตรงไปถึงด้านหน้าของนรมน

“ไป กลับบ้าน!”

นามประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆบุรีศร์ก็โผล่มา

“คุณลงมาทําไม? ดุลยายังไม่มาเลยนะคะ”
“เธอไม่มาแล้ว เธอหลอกคุณทั้งหมด เธอเรียนรู้จากการที่คุณ เป็นห่วงกมล เพราะฉะนั้นเลยจงใจพูดเพื่อทำให้คุณกังวลใจและ มาเสียเที่ยวเปล่าๆ ผมให้คุณไปตรวจดูแล้ว ตอนนี้เธอยังนั่งดูทีวี เป็นเพื่อนคุณนายทวีทรัพย์ธาดาที่บ้านอยู่เลย คุณรอจนฟ้ามืด เธอก็ไม่มีทางมา!”

ตอนนี้บริศร์อยากจะสับตุลาเป็นชิ้นๆจนแทบทนไม่ไหวแล้ว

พอคิดว่าคนฉลาดอย่างเขากลับถูกดุลยาหลอกเอาได้ มันไม่มี

เหตุผล โดยสิ้นเชิง

นรมนได้ยินคำพูดของบุริศร์แล้วตกตะลึงไปเล็กน้อย ตุลยายังอยู่ที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

ดังนั้นสิ่งที่บุริศร์พูดมาเป็นความจริง?

เธอเพียงแค่แต่งเรื่องมาหลอกตนเองเล่น ทำให้เธอกังวลใจ เท่านั้นเอง?

ทั้งหมดคือตุลยาไม่รู้เลยว่าแผนลักพาตัวกมลนั้นมันถูก วางแผนโดยบริศร์ จึงย่อมไม่รู้ว่าเธอได้เห็นกมลปลอดภัยดี ดัง นั้นก็ไม่ได้เป็นการขจัดเรื่องที่ว่าเธอต้องการที่จะหลอกตนเอง จริงๆ

ถึงแม้ในใจของนรมนจะโกรธ แต่ว่าก็ไม่มีวิธีเช่นกัน ยังไงก็ ไม่มีทางที่จะไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเพื่อหาเรื่องเธอเพราะ เรื่องนี้ได้อีก

เธอถอนใจแล้วเดินตามบุรีศร์ไปขึ้นรถ
ในตอนนี้เอง ทันใดนั้นเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งก็เตะลูกบอล บินตรงเข้ามาที่ใบหน้าของนรมน โดยตรง

“ระวัง!”

บุรีศรีบดึงนรมนไปไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็วและหยุดลูกบอล ด้วยมือข้างเดียว

เด็กชายตัวน้อยวิ่งเข้ามาอย่างไม่สบายใจแล้วพูดอย่าง ขลาดว่า : “คุณลุง ขอโทษครับ คุณคืนลูกบอลให้พวกเราได้ไหม ครับ?”

มองดูเด็กคนนี้ที่โตไล่เลี่ยกับกานต์แล้ว ถึงแม้ในใจของบุริศร์ จะโกรธก็ไม่สามารถระบายอารมณ์กับเด็กได้

เขาส่งลูกบอลคืนให้กับเด็กชายตัวน้อยและพูดเรียบๆว่า :

“คราวหน้าก็ระวังหน่อยนะ”

“ขอบคุณครับคุณลุง!!

เด็กน้อยได้ลูกบอลแล้วก็วิ่งไปทันที

นรมนออกมาจากด้านหลังของบุริศร์ มองไปยังทิศทางที่เด็ก น้อยวิ่งไปแล้วก็พูดเสียงเบาว่า : “พวกเด็กๆนี่ดีจริงๆ ไร้ทุกข์ได้ กังวล”

“คุณเองก็เป็นได้”

บริศ เพิ่งจะพูดจบ ทันใดนั้นก็มีเด็กน้อยอีกคนวิ่งออกมาจาก ด้านหลังของนรมน
ดูเหมือนว่าจะควบคุมโดรนไม่อยู่และตรงมาชนนรมนจนล้ม

ลงไป

“ขอโทษๆ คุณป้า ขอโทษครับ!” เด็กน้อยขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ยังไม่หยุด

บุริศร์โกรธมาก แต่เขาไม่มีเวลาตำหนิเด็กชายตัวน้อย เขารีบ ประคองนรมนลุกขึ้นและถามด้วยความเป็นห่วง : “เป็นยังไง บ้าง? ล้มลงเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

“ไม่ค่ะ”

นรมนส่ายหัว แต่ทว่ากลับมีกระดาษข้อความอยู่ในฝ่ามือของ

เธอ

เด็กน้อยคนนั้นยัดใส่ไว้ในมือเธอในชั่วพริบตาที่ชนเธอล้มลง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ