บทที่ 410 คุณชายเจตต์เสียพนันแล้ว?
เขาวางแผนจะหลับตาพักผ่อน แต่พอ หลับตาก็เป็นสภาพของนรมน ทั้งร่างกายก็ ร้อนผ่าวอย่างมาก
อย่างไรแล้วก็เป็นพระมาหนึ่งเดือนกว่า จู่ๆ ก็ลาศีล ในใจจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?
บริศ ลุกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วไปอาบน้ำเย็น สักหน่อย ทำไมรู้สึกว่าเตียงนั้นดูขัดหูขัดตา ใครก็ไม่สามารถหลับได้ลง
เมื่อก่อนก็ไม่รู้สึก หลังจากวันนี้กลับมาก็ พบว่าเตียงนี้ไม่มีนรมนอยู่ มันใหญ่อย่างไม่มี เหตุผล ใหญ่จนทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย
แม่ง ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ผู้ชายตัวโตอย่าง เขาต้องการความรู้สึกปลอดภัย?
แต่บุริศร์ก็ยังคงมองเตียงคู่ด้วยความ รังเกียจ สวมชุดนอนแล้วไปที่ห้องกานต์
กานต์ยังไม่หลับ เมื่อได้ยินเสียงเคาะ ประตูก็ตกตะลึงเล็กน้อย พอเห็นว่าเป็นบุริศร์ ที่มาหาจริงๆ ก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“คุณบุริศร์ ดึกดื่นไม่นอน คุณมาหาผม
ทําไมฮะ?”
เข้าไปข้างในหน่อย”
บริศ ไม่พูดแม้แต่คําเดียว เหยียดขายาว
ออกไป แล้วเดะการ ทันท่
มุมปากกานต์กระตุกเล็กน้อย
“นี่คุณคิดจะมาแย่งเตียงนอนกับผมเห
รอ?”
“แย่งอะไรกัน? ลูกเป็นของพ่อนะ อย่าว่า แต่เตียงนี้ รีบเข้าไปข้างในซะ”
บุรีศร์ตัวสูงใหญ่ ทั้งร่างเมื่อนอนบนเตียง กานต์ เตียงก็ดูแคบมากเป็นพิเศษ
กานต์รู้สึกร้องไห้ไม่ค่อยออก
“คุณบุริศร ผมผ่านอายุที่ต้องมีแด๊ดดี้ นอนด้วยแล้วนะครับ คุณไม่ไปนอนกับกมล ล่ะ? ไม่ก็กิจจาก็ได้
“เงียบแล้วนอน จะนอนบนเตียงหรือ โซฟา ลูกเลือกเอา
บริศ พูดอย่างเอาแต่ใจมาก
กานต์รู้สึกว่าตัวเองโชคดีอะไรในชีวิตนี้ มีพ่อไร้เหตุผลแบบนี้ได้อย่างไร?
แต่ถ้าให้เขาไปนอนที่โซฟา กานต์ก็รู้สึก ว่าช่างเถอะ
พิงในอ้อมแขนของบริศ อย่างไม่สบ อารมณ์ ค่อนข้างรู้สึกอึดอัดเกินไป
บริศ กอดเจ้าเด็กดื้อในอ้อมแขน สุดท้ายแล้วก็รู้สึกว่าที่นี่ไม่ได้โดดเดี่ยว เงียบเหงาขนาดนั้น รู้สึกค่อนข้างพอใจในชั่ว ขณะหนึ่ง โดยเฉพาะร่างเล็กของกานต์นุ่มนิ่ม มีกลิ่นน้ำนมเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกสบายใจ อย่างมาก
“นอน” ประโยคหนึ่งของบริศร์ตัดสินผลลัพธ์ สุดท้ายของกานต์ในคืนนี้
กานต์ทําได้แค่ถอนหายใจแล้วหลับตา นอนด้วยกันกับบริศ ถือเป็นประสบการณ์
ใหม่
ถึงกานต์จะบอกว่าตนผ่านช่วงวัยที่ให้ พอนอนกอดแล้ว แต่อย่างไรแล้วมันก็เป็นครั้ง แรก
อ้อมกอดบุรีศร์ไม่เหมือนนรมน มันไม่ได้ นุ่มนวลแบบนั้น แต่กลับมีความรู้สึกปลอดภัย ของผู้ชายเล็กน้อย
กานต้หลับไปโดยไม่รู้ตัว มุมปากยังยก ยิ้มพึงพอใจ
ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของ ลูกชายดัง/ม บุรีศรีก็ลืมตาขึ้นมา
ภายใต้แสงสลัว กานต์หลับอย่างสงบ มาก ดวงตาเขาอ่อนโยนลงอย่างช่วยไม่ได้ เส้นประสาทบริเวณใบหน้าก็อ่อนโยนตาม อย่างมาก
เจ้าเด็กแสบคนนี้ ถึงจะดื้อก็ตาม แต่ สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นเด็ก
บริศ แค่รู้สึกความเหนื่อยล้าถาโถมเข้า มา กอดกานต์แน่นขึ้น จากนั้นก็หลับลึกไป
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อบริศร์ตื่นขึ้นมาทั้งร่างก็ ปวดไปหมด
อย่างไรแล้วเตียงกานต์ดูเหมือนจะใหญ่ มาก มันเหมาะสมกับรูปร่างและอายุของกานต์ แต่คนตัวสูงใหญ่อย่างบุรีศร์ นอนที่นี่หนึ่งคืนก็ รู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ
เขาซักแขนตัวเองกลับเบาๆ รู้สึกว่าทั้ง ร่างกายเหมือนจะหลุดออกจากกัน แต่ไม่กล้า ขยับแรงเกินไป กลัวทําให้กานต์ตื่น
เอาผ้าห่มมาห่มให้การต้แล้ว เขาก็ออก จากห้องกานต์ไป เจอกับคุณนายตระกูลโต เล็กและครินท์ นพอดี เมื่อเห็นบุรีศร์ออกมา จากห้องกานต์ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็ก “เมื่อคืนลูกนอนห้องกานต์เหรอ?”
คุณนายตระกูลโตเล็กรู้สึกเหลือเชื่อมาก
ถ้าบอกว่ากมลก็ยังพอเชื่อได้ แต่นี่กานต์ ที่เป็นคนพึ่งพาตัวเองมาโดยตลอด จะไปอยู่ กับบริศ ได้อย่างไร?
บุรีศร้พูดขึ้นด้วยท่าทางสงบนิ่ง “อ่า เมื่อ คืนกานต์บอกว่าเขาค่อนข้างกลัว ให้ผมไป นอนเป็นเพื่อนเขา
“ฮะ?”
คุณนายตระกูลโตเล็กและครินท์ตก
ตะลึง
เขาหมายถึงกานต์จริงๆ เหรอ?
แต่บุริศร์ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก แค่ยก เท้าเดินไปห้องน้ำเพื่อเริ่มอาบนํ้า
ทั้งสองคนมองหน้ากัน และไม่ได้ถาม อะไรเพิ่ม อย่างไรแล้วพ่อลูกก็ต้องบ่มเพาะ ความรู้สึก พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ไป ไหม?
ล้างหน้าเสร็จแล้ว กานต์ก็ออกมาจากใน
ห้อง
“คุณย่า ตอนกลางคืนให้คุณบุริศร์กลับ ไปนอนที่ห้องตัวเองเถอะครับ ผมชินกับการ นอนคนเดียว เขามาเบียดผม มันอึดอัดจริงๆ นะ!”
กานต์บ่นอุบอิบ
คุณนายตระกูลโตเล็กและครินท์ก็ตก ตะลึงอีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าหลานกลัวแล้วให้แด๊ดดี้ไปนอน เป็นเพื่อนเหรอ?”
กานต์ตกตะลึงเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างชน เคือง ไม่รู้ว่าใครกลัวกันแน่ เฮอะ!”
พูดจบเขาก็เดินไปที่ห้องน้ำอย่างอุ่น
เคือง บุรีศร้ที่อยู่ข้างๆ ทําเหมือนไม่รู้ว่าหมาย ถึงเขา ก็พูดกับดรินท์ว่า “ฉันได้ยินว่าช่วงนี้ โครงการหนึ่งของตระกูลรัตติกรวรกุลจะ ประมูลกับพวกเราเหรอ?”
“อ่า ใช่ ทําไม?
ตั้งแต่มอบบริษัทให้ครินท์ บุรีศร์ก็ไม่เคย ถามเรื่องบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดอีกเลย วันนี้จู่ๆ ได้ยินบุรีศร์พูดถึง ตรินท์ก็อดตกตะลึงไม่ได้ คิดว่าตัวเองทําอะไรผิดตรงไหนหรือเปล่า
บริศร์กลับพูดบนเรียบๆ “ไม่มีอะไร แค่ อยากคุยกับนาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ธุรกิจ ของตระกูลรัตติกรวรกุล บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจํากัด จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมทั้งหมด
“เจตต์ทําให้คุณไม่พอใจเหรอ?” ตรินท์คิดแล้วก็รู้ว่าหมายถึงสิ่งนี้
สําหรับเรื่องธุรกิจ แม่บุริศร์ไม่สนใจ อย่างแน่นอน ให้คนเข็นเธอไปที่เรือนต้นไม้
แต่บริศ ยิ้มเยาะพูดขึ้น “ทำให้ไม่พอใจ เหรอ? ฉันอยากให้เจ้าหนุ่มนี่มันรู้ว่าอะไรที่ เรียกว่าทําให้ไม่พอใจ
เห็นบุรีศรีแสดงออกถึงท่าทางแบบนี้ ตร นท์ก็อดตัวสั่นไม่ได้
“ฉันรับมือกับตระกูลรัตติกรวรกุลก็ไม่มี อะไร แต่ถ้าติดขัดเรื่องเงินทุน…..
“เงินในบริษัทร่วมทุนของฉันนายถอน
ดามใจได้เลย”
มีประโยคนี้ของบริศร์ ตรินท์ยังมีอะไรไม่ เข้าใจ ก
แต่เขาก็ถามขึ้นอย่างค่อนข้างสงสัย เจตต์เอาพี่สะใภ้ไปซ่อนจริงๆ เหรอ?”
“ออกไปซะ!
พอคิดถึงตรงนี้ บริศร์ก็หึงหวงแทบบ้า
ผู้หญิงไร้หัวใจคนนั้น ไม่คิดว่าทั้งคืนจะ ไม่โทรหาเลยสักสายเดี่ยว แม้แต่ข้อความก็ ไม่มีเธอไว้วางใจเขาจริงๆ สินะ!
ครินท์เห็นสีหน้าบริศร์ไม่ดี ก็พูดขึ้นอย่าง ติดตลก ดูเหมือนผู้ชายที่ไม่สบอารมณ์จะห้าม ยั่วยุจริงๆ ดูคุณตอนนี้ ความรู้สึกหล่อเหลา สง่างามเหมือนเมื่อก่อนไปไหนแล้ว?”
บุรีศร์จ้องมองเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันไม่สบ อารมณ์เหรอ? ไม่กี่ปีมานี้นายระบายอารมณ์ ข้างนอกใช่ไหม? ระวังเป็นโรคกลับมาล่ะ ถึง ตอนนั้นจะทำให้ตัวเองแย่เอา”
พูดจบบริศร์ก็เดินออกไปอย่างฟีดฟัด สกัดกั้นตรินท์จนรู้สึกกลัดกลุ้มแล้ว
อะไรที่เรียกว่าเขาจะเป็นโรคกลับมา?
เขาไปทําอะไรให้
ก็อย่างว่าผู้ชายที่ไม่มีภรรยาอยู่เคียง ข้างมันยั่วโมโหไม่ได้ จะโมโหร้ายผิดปกติ
หลังจากบริศ ออกมาจากห้อง ทรงอกก็ รู้สึกแย่ด้วยความกลัดกลุ้ม พฤกษ์ก็มาพอดี “ประธานบริศร์ วันนี้เราไปบ่อนการพนัน
ไหม?”
“ไป ทําไมจะไม่ไปล่ะ?”
บริศ เต็มไปด้วยความโกรธตั้งแต่เช้า ทําให้พฤกษ์ บจมูกอย่างไม่ค่อยสนใจนัก แอบโทษตัวเองว่าทำไมปากมากจัง
ทั้งคู่ขับรถมาถึงบ่อนการพนันตะวันของ เจตต์แล้ว
เจตต์ยังลุกขึ้น ได้ยินคนพูดว่าบุริศร์มา แล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูเวลา นี่เพิ่ง เจ็ดโมงครึ่ง
เจ็ดโมงครึ่ง?!
คุณเคยได้ยินเหรอว่ามีบ่อนการพนัน บ่อนไหนเปิดตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง?
เพราะเรื่องนักพนันเมื่อคืนเจต เลยไม่
ได้นอนทั้งคืน เพิ่งลงไปนอนก็ได้ยินว่าบุริศร์ มาแล้ว เขาโกรธจนอยากจะหาคนมาซัดบุรีศร์ ให้ออกไป “บอกว่าเราไม่เปิดบริการก่อนสิบโมง ให้ เขาค่อยมาเมื่อถึงเวลา”
คําพูดของเจตต์ยังพูดไม่จบ บุรีศร์ก็ผลัก ประตูเดินเข้ามา
“เอ้ คุณชายเจดต่ยังไม่ตื่นเหรอ? คง ไม่ใช่เพราะเมื่อวานเสียพนัน อยู่กับผู้หญิงทั้ง คืนลุกไม่ขึ้นหรอกนะ?”
เมื่อบริศ พูดคํานี้ เจตต์ก็แทบจะกระโดด ขึ้นมา
“เจคต์อย่างฉันเสียพนันยี่สิบล้าน? นาย ก็ดูถูกฉันเกินไปแล้วมั้ง?
“โอ้ จิตใจฉันแย่เอง วันนี้ฉันเอาเงินมา สามสิบล้านพอดี คุณชายเจตต์เป็นเกียรติเล่น กับฉันเถอะ”
บริศร์มองเจตต์ด้วยรอยยิ้ม
เจ้านี่มันจงใจแน่ๆ!
เจต โกรธจนรําคาญมากแล้ว คุณชายใหญ่บุรีศร์ ตอนนี้มันเพิ่งเจ็ด โมงครึ่ง เวลาปกติที่บ่อนการพนันเขาเปิดกัน มันสิบโมง คุณมาเร็วเกินไปหรือเปล่า?”
“ก็ไม่มีทางเลือกนี่หน่า พอคิดว่าจะชนะ พนันคุณชายเจตต์ ฉันก็ตื่นเต้นอย่างอดไม่ได้ นอนไม่หลับเลย ทั้งเมืองชลธีมีบ่อนการพนัน ดังมากมาย แต่ นายทำให้ฉันชนะพนันได้ ฉัน ก็ต้องฉวยโอกาสความโชคดี จะชนะได้กี่ครั้ง? ทําไมเหรอ? หรือคุณชายเจตต์จะเสียพนันเห รอ?”
เสียพนันทวดแก !”
เจด นอนไม่พอ อารมณ์ก็ไม่ดีเช่นกัน
เขาก็มองออกว่าบริศรางใจ วันนี้เดาว่า ถ้าเขาไม่ตอบตกลง บุริศร์ก็ยังมีวิธีการอื่นรอ เขาอยู่
เขาจึงต้องลุกขึ้นอย่างยอมรับชะตา กรรม พูดขึ้นอย่างเกลียดชัง “นายจะเดิมพัน อะไร? ฉันจะให้พวกเขาเล่นเป็นเพื่อน “พวกเขามีคุณสมบัติอะไรมาเล่นกับฉัน คุณชายเจตต์ มาเถอะ
บริศร์กึ่งบังคับแล้ว
เจต อยากจะหยิบไม้กวาดมาไล่บุรีศร ออกไป
เมื่อก่อนไม่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ชั่วร้าย
ขนาดนี้เลยนะ? เจตต์โดนบังคับให้ไปที่โต๊ะพนัน หาว ติดต่อกัน ไม่กี่ตาก็เสียเงินไปไม่น้อย
บริศร์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “คุณชายเจตต์ นี่ นายไม่ไหวแล้วนะ”
ผ่านไปไม่เท่าไรเอง? ทำไมจะไม่ไหว? ฉันไหวไม่ไหวนายรู้เหรอ? ”
เจตต์พูดขึ้นอย่างอุ่นเคือง ไปล้างหน้า มาอีกครั้ง เริ่มพนันกับบุรีศร์อย่างจริงจัง
นโมนได้ยินว่าบุรีศรีมาตั้งแต่เช้า คิดว่า เขาจะมาหาเธอตรงๆ ไม่คิดว่าจะลากเจตต์ไป เล่นพนันด้วย
“คุณไม่ได้ฟังผิดหรือมองผิดใช่ไหม? แน่ใจนะว่าเขาไปเล่นการพนันกับคุณชายเจต
“ครับ คุณชายเจต โดนบังคับไปแล้ว ง่วงไม่ไหวแล้ว”
คําพูดของบริกรทําให้นรมนพูดไม่ออก เล็กน้อย
บริศร์พุ่งเป้าไปที่เจดด์อย่างไม่ปิดบังเลย
สักนิด
เขาคิดจะทําอะไรกันแน่?
นรมนกําลังจะออกไป แต่บริกรขวางเอา
ไว้
“คุณนรมน คุณอย่าเพิ่งไปไหนเลย ถึง มันจะเข้าอยู่ แต่ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่มี คนอื่นๆ อยู่ ถ้าถูกใครเห็นเข้า มันก็ยากที่จะ พูดนะครับ” คิดแบบนี้แล้ว บรมนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล กลับไปที่ห้องโทรหาบุริศร์
บริศร์กําลังเล่นการพนันอย่างสุขใจ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พอเห็นว่านเมน
โทรมา มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย
ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็รู้จักโทรหาเขาแล้ว
สินะ?
น่าเสียดายจัง
ตอนนี้เขาดันไม่อยากรับสาย แล้วยังไง
ล่ะ?
คิดถึงตรงนี้ บุรีศร์ก็วางสายทันทีอย่าง เอาแต่ใจ ยิ้มชั่วร้ายให้กับเจตต์แล้วพูดขึ้น “คุณชายเจตต์ ช่วงนี้นายเป็นไดพร่องเหรอ? ทําไมเล่นไม่กี่ตาก็หงอยขนาดนี้? ต้องการให้ ฉันงัดยาปารุงไตให้ไหม?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ