แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 399 คุณไม่ได้ฟังผิดไป



บทที่ 399 คุณไม่ได้ฟังผิดไป

นรมนโบกมือพลางกล่าวว่า “ฉันยังไหว คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไม่ล้มลงก่อนที่จะ พบคนที่ทําร้ายฉัน ไม่ว่าจะเป็นใครฉันก็อยากรู้ ว่าคนคนนั้นต้องการอะไร”

เมื่อเห็นนรมนยืนกรานเช่นนี้เจตต์ก็ไม่รู้ จะพูดอะไรแล้ว เพียงพูดได้อย่างเจ็บปวดว่า “คุณเป็นกังวลมากเกินไป ถ้าคุณต้องการความ ช่วยเหลือจากผมก็บอกได้เต็มที่ ผมไม่กลัว ความยุ่งยาก

“ฉันรู้”

นรมนเองก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน

พอเจตต์กลับไปสมองของเธอก็ยิ่งดำดิ่ง มากขึ้นเรื่อยๆ

ถึงกระนั้นเงาของบุรีศรีก็ยังคงกะพริบ ระยิบระยับอยู่ในหัวสมองของเธอ

เขากับดุลยา… คิดอย่างไรก็รู้สึกเหมือนโดนเย้ยหยัน

นรมนไม่ได้ตั้งใจจะดูแต่แรก เพราะถึง อย่างไรในข่าวก็ไม่มีอะไรน่าดูอยู่แล้ว มันน่า จะเป็นเพียงความเข้าใจผิดและแผนการอย่าง ที่เจตต์พูด แต่เธออดไม่ได้ที่จะอ่านรายงาน ข่าวทั้งหมด

บริศร์ก็บอกอยู่ว่าแค่เล่นสนุกกับผู้หญิง เท่านั้นไม่ใช่หรือ?

หัวใจของเธอบาดเจ็บจนโชกเลือดอีก ครั้ง

มันอาจจะไม่ใช่คำพูดของบริศ ทั้งหมด แต่ถ้าเขาไม่พูดพวกนักข่าวจะกล้าเขียน

ไหม?

ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงยอมรับว่าเคยนอน

กับดุลยาอย่างอ้อมๆ

นรมนแค่รู้สึกปวดหัวมากขึ้น

ตอนนี้ชื่อเสียงของเธอฉาวโฉ่ไปหมด แล้ว ยังจะมีหน้าและจุดยืนไปตำหนิบุริศร์ได้ อย่างไร?

อันที่จริงถ้าคิดดูดีๆ บุริศร์ก็ถือว่าดีกับเธอ มากไม่ใช่เหรอ?

ไม่เพียงแต่เห็นแก่หน้าเธอเท่านั้น แต่ยัง ทรมานตัวเองแบบนั้นอีก เธอยังจะมีอะไรไม่ พอใจอีก? ตอนนี้ปริศร์แค่เล่นสนุกกับผู้หญิง คนหนึ่งเท่านั้น

เมื่อคิดได้เช่นนี้ นรมนก็เอามือกุม หน้าอกนอนลงบนเตียง เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่าง รุนแรงไปทั่วร่างกาย

ตอนเจด กลับมา นรมนก็สลบไสลไป แล้ว เธอถูกเจตต์ปลุกขึ้นมากินยาอย่าง สะลึมสะลือและไม่นานก็สลบไสลลงไปอีก ครั้ง

ในความฝันบริศร์ไปกับผู้หญิงอีกคน ไม่ ว่าเธอจะตะโกนหรือกรีดร้องแค่ไหนบุรีศรีก็ไม่ หันกลับมามองเธอแม้แต่ครั้งเดียว นรมนไล่ตามจนรองเท้าหลุดแต่ก็ยังตาม

ไม่ทัน

เธอร้องไห้และตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เธอถูกใส่ร้าย ขอร้องไม่ให้บุรีศร์จากไป แต่ใน สายตาของอีกฝ่ายมีเพียงผู้หญิงที่อยู่ข้างเขา เท่านั้น

เมื่อผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาหันกลับมา นรมน ก็พบว่าเธอดุลยา

ตุลยามองเธอด้วยสายตาเย้ยหยันพลาง พูดว่า “นรมน ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันจะแย่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเธอมา ตอนนี้แค่บุรี ศร์เท่านั้น อีกไม่นานจะเป็นเรื่องของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา ยังมีแม่บุรีศร์และลูกๆ ของเธอ ด้วย ฉันจะให้พวกเขาเรียกฉันว่าแม่ เมื่อฉัน โกรธก็จะระบายอารมณ์กับพวกเขา ดูสิว่าคุณ จะทําอะไรฉันได้?

“ไม่! ไม่นะ!”

นรมนลุกพรวดขึ้นนั่งอย่างฉับพลัน เหงื่อ ออกทั่วร่างกาย

“ตื่นแล้วเหรอ? ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว คุณ รู้ไหมว่า ผมกลัวแทบตาย!

เจตต์มองไปที่นรมนด้วยความเป็นห่วง เป็นใย

นรมนมองไปรอบๆ และจำได้ว่าตนเอง อยู่ที่ไหน

ที่แท้มันเป็นแค่ความฝัน!

โชคดีที่มันเป็นแค่ความฝัน! นโมนตัวสั่นเทา เหงื่อโทรมกาย

เจตต์รีบยื่นแก้วน้ำอุ่นให้เธอพลางกล่าว ว่า “ดื่มน้ำหน่อยนะ คุณมีไข้สูงมาก ถึงจะ เหงื่อออก แต่ร่างกายก็ยังอ่อนแอ โชคดีที่ไข้ ของคุณลดลงแต่ก็ยังประมาทไม่ได้

“ขอบคุณค่ะ”

นรมนรับแก้วน้ำมา เธออดไม่ได้ที่จะ คิดถึงความดูแลเอาใจใส่ที่เจตต์มีให้เธอ ในเดือนแรกที่เธอแท้งลูก บุริศร์ก็ดูแล เธอทุกสิ่งทุกอย่าง หรือว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วน จอมปลอม?

ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับบุริศร์เป็น ความปรารถนาแต่ฝ่ายเดียวงั้นหรือ?

ไม่

ไม่ใช่!

เธอไม่ใช่มนุษย์หิน ย่อมรู้สึกได้ถึงความ รักของบุริศร์ที่มีต่อเธอ แต่ทำไมคนที่รักเธอ มากอย่างบุรีศร? เมื่อเขาเห็นภาพวาบหวิว เหล่านี้จึงยอมกินยามากกว่าสัมผัสเธอ?

เขาเชื่อจริงหรือ?

เขาเชื่อว่านรมนเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย เป็นผู้หญิงที่มั่วกับผู้ชายไปทั่วงั้นหรือ?

ถ้าเขาเชื่อ ทำไมเขาถึงดีกับเธอขนาดนี้? แต่ถ้าไม่เชื่อ ทำไมถึงไม่ถาม? ปล่อยให้หนาม ในใจทําร้ายตัวเองอยู่ตลอดเวลา? นรมนรู้สึกว่าตัวเธอไม่เข้าใจในตัวบริศร์ มองเขาไม่ออก

เธอรู้แค่ว่าในตอนนี้เธอคิดถึงบุริศร์มาก แค่ได้ยินเสียงของเขาก็พอแล้ว

นํ้าตาเอ่อล้นในดวงตาของเธอ

บางทีคนเราอาจจะเปราะบางเป็นพิเศษ เมื่อยามป่วย

ไม่ว่าจะเข้มแข็งแค่ไหนเธอก็มักจะ นึกถึงคนที่ดีกับตัวเองที่สุดเมื่อเวลาป่วย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในหัวใจของนรมน บุ ริศ เป็นคนที่ดีที่สุดคนนั้น

แต่เธอกลับมองไม่เห็นเขาในตอนนี้

เพื่อเขาและตระกูลโตเล็ก เธอจำเป็น ต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขา

เมื่อเจตต์เห็นนรมนพยายามกลั้นน้ำตาก็ อดถอนหายใจไม่ได้พลางพูดว่า “ถ้าคุณอยาก รู้สถานการณ์ของบริศร์จริงๆ ทำไมคุณไม่โทร หาเขา ก็แค่โทรศัพท์เท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก

“ไม่ล่ะ คุณอาจจะไม่รู้ว่าเขามีความ สามารถแค่ไหน ฉันรู้ดี เขาสามารถค้นหา ตำแหน่งของฉันโดยอาศัยการโทรศัพท์เพียง ครั้งเดียวได้ ถ้าให้เขาบุริศร์ว่าฉันอยู่ที่ไหน ไม่ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคาดว่าเขาก็จะพาฉันกลับไป ให้ได้ แล้วมันจะไม่สูญเปล่าที่ฉันอุตส่าห์ซ่อน ตัวมาขนาดนี้เหรอ

นรมน บ ข่มความคิดถึงของเธอ

คุณนายตระกูลโตเล็กดีกับเธอมาก เด็กๆ ก็ไม่อาจให้เข้ามาพัวพันได้ เธอจำต้องออกมา จากตระกูลโตเล็กตามลำพังและกระชากคนที่ ซ่อนตัวอยู่ในความมืดออกมาให้ได้

เมื่อเห็นเธอนึกถึงตระกูลโตเล็กและบุรี ศร์ในทุกเรื่อง เจตต์ก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้

“ชาติก่อนบริศ ต้องเคยช่วยเหลือทั่วทั้ง ทางช้างเผือกแน่ๆ ชาตินี้ถึงได้แต่งงานกับผู้ หญิงดีๆ แบบนี้” นรมนรู้สึกขบขันกับคำพูดของเขา

“คุณนี่พูดจาตลกดีจัง”

“สิ่งที่ฉันพูดมันคือความจริง

“เอาล่ะ อย่ามาประจบฉันเลย ฉันต้อง หายให้ไวที่สุดแล้วค่อยออกไปแสดงตัว มี ฉะนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังอาจจะทำอะไรกับ ตระกูลโตเล็กก็ได้ ฉันซ่อนตัวอยู่แบบนี้ พวก เขาหาฉันไม่เจอก็จะเริ่มเล่นงานบริศร์ สาดน้ำ สกปรกใส่เขา ผลักดันให้ดุลยาเข้าไปใน ตระกูลโตเล็ก แต่น่าเสียดายที่บุริศร์ไม่ใช่คนที่ ถูกคนอื่นจูงจมูกได้ง่ายๆ

เมื่อเจตต่ได้ยินนรมนพูดเช่นนั้นก็ตก ตะลึงไม่น้อย

“หมายความว่ายังไง? ในที่สุดคุณก็ ยอมรับว่าคุณถูกบริศร์ใส่ร้าย?”

“อืม ฉันเพิ่งเป็นไข้ สมองไม่ค่อยแจ่มใส ตอนนี้ไข้ลดลงแล้ว สมองก็ย่อมฟื้นตัวเช่นกัน คุณพูดถูก คนฉลาดอย่างบุริศร์ ถ้าเขาอยาก เล่นสนุกกับผู้หญิงจริงๆ เขาจะไม่เลือกช่วง เวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนี้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่า นั้นยังถูกจับได้ว่าลักลอบเป็นชู้บนเตียง เขาไม่ ได้เป็นคนสะเพร่าขนาดนั้น เว้นแต่เขาจะถูก จัดฉากใส่ร้าย ฉันคิดว่าอีกฝ่ายต้องการใช้ เรื่องนี้เพื่อล่อให้ฉันออกไป ในเมื่อตุลยาเข้า มามีส่วนเกี่ยวข้อง เธอต้องมีความเกี่ยวข้อง กับคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่เรา จับตาดูดุลยาไว้ เราจะต้องได้เบาะแสบาง อย่างแน่นอน

นรมนโยนความเสียใจและเจ็บปวดในใจ เธอทิ้งไป มองเห็นเรื่องราวทุกอย่างได้ค่อน ข้างชัดเจนแล้ว

เมื่อได้ยินเธอวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เจคต์ก็นึกชื่นชมเธอ

“ความหมายของคุณคือต้องการให้ผม หาคนมาจับตาดูดุลยา?”

“ใช่ มาดูกันว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป จะติดต่อกับใครบ้าง บางทีเราอาจจะพบ เบาะแสบางอย่าง

สมองของนรมนแจ่มใสแล้ว เธอรู้สึก ราวกับว่าตนเองป่วยมาแล้วระยะหนึ่ง

บริศ เป็นคนแบบไหน หลายปีมานี้เธอ เป็นคนที่รู้ดีที่สุดไม่ใช่หรือ?

ตลอดห้าปีที่เธอจากไป บุริศร์ก็ไม่เคยไป หาผู้หญิงคนไหนเลย แล้วทำไมเรื่องแบบนี้ถึง เกิดขึ้นได้ในเวลานี้

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าบุริศร์จะไม่ชอบให้เธอ ถูกถ่ายภาพวาบหวิว แต่ความรักและ ทะนุถนอมที่เขามักแสดงออกนั้นไม่ใช่เรื่อง โกหก

ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะแสดงได้ดีแค่ไหนแต่ สายตาของเขาก็ไม่สามารถหลอกลวงคนอื่น ได้ สายตาที่เขามองเธอในยามปกติไม่ได้เส แสร้งแน่นอน

เมื่อคิดได้แบบนี้นรมนก็รู้สึกดีขึ้นเล็ก

น้อย ไม่ว่าจะเป็นการปลอบใจตัวเองหรือไม่ เธอก็คิดเช่นนี้ไปก่อนแล้วกัน

เจตต์รู้สึกโล่งใจที่เห็นนรมนคิดได้อย่าง

“เอาล่ะ ผมจะไปจัดการ คุณกินข้าวก่อน แล้วกัน ผมกลัวว่ามันจะเย็นเลยเอาไปอุ่นอีก รอบ”

“ขอบคุณค่ะ!”

นรมนรับอาหารมา แม้ว่าเธอจะไม่มีความ อยากอาหาร แต่ก็ต้องบังคับตัวเองให้กินบ้าง

อย่างไรก็ตามเธอต้องรักษากำลังเอาไว้

ไม่สามารถปล่อยให้คนที่อยู่ในมุมมืดนิ่ง นอนใจนานเกินไป

เจต เห็นเธอกินอะไรบ้างแล้วจึงออกไป ไม่นานเจตต์ก็น่าข่าวใหม่มาบอกนรมน

“มีบางเรื่องผมไม่รู้ว่าควรบอกคุณดีไหม แต่ถ้าไม่บอกก็กลัวว่าคุณจะถูกหลอก ดัง เมื่อเห็นเจตต์พูดจาตะกุกตะกัก นรมน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

มันเรื่องอะไรกันแน่? ฉันรู้สึกแย่มากที่ เห็นพวกผู้ชายอย่างคุณพูดแบบนี้

นรมนคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เธอรับไม่ได้ อีกแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังรู้สึกว่าตนเองกำลัง จะกลายร่างเป็นนักรบพระโพธิสัตว์ที่เป็นอมตะ

แต่เจตต์ยังคงลังเล

“รีบบอกมาเถอะ อย่าชักช้าไร” นรมนเกลียดสถานการณ์แบบนี้ที่สุด

เจตต์สูดหายใจเข้าลึกๆ พลางกล่าวว่า “ผมไปสืบเรื่องตุลยาตามคำสั่งของคุณ ดุลยา ถูกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาส่งตัวไปโรง พยาบาล”

“ส่งเธอไปโรงพยาบาลหมายความว่ายัง ไง? บุรีศร้ลงมือทำร้ายเธอเหรอ?”

นี่คือคําถามแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของนร

มน

ด้วยนิสัยของบุรีศร์ แม้ว่าปกติเขาจะเป็น คนเย็นชา แต่เมื่อเขาถูกยั่วยุให้โกรธเป็นไฟ เขาจะทุบตีไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายหรือผู้ หญิงก็ตาม

ถ้าเรื่องนี้เป็นการวางแผนใส่ร้ายของตุล ยาจริง บังคับให้บุริศร์มีชื่อเสียงกับเธอ บุริศร์ก็ อาจจะลงมือใช้กำลังจริงๆ ก็ได้

ดังนั้นนรมนจึงถามเช่นนี้

แต่เจดต่กลับส่ายหน้าพลางมองนรมน จะพูดอะไรแต่ก็ยังไว้

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? คุณรีบพูดเดี๋ยวนี้ นะ! คุณอยากให้ฉันร้อนใจตายเหรอ?”

นรมนรู้สึกว่าวันนี้มีบางอย่างผิดปกติกับ เจตต์ เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่นะ? เจตต์มองนรมนก่อนจะพูดเบาๆ “คุณจะ มาก่อนไหม? ผมเกรงว่าถ้าผมพูดออกมา แล้วคุณจะรับไม่ได้”

“ตอนนี้ยังมีอะไรที่ฉันทนไม่ได้อีกหรือ? สิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทนรับได้หรือทนไม่ได้ ฉันล้วนผ่านมาหมดแล้ว ต่อให้คุณบอกว่าตอน นี้บริศร์ไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันก็ยังทนได้! ”

แม้ว่านรมนจะพูดอย่างนั้น แต่เจตต์ก็ยัง รู้สึกกังวล

“เจตต์ คุณจะบอกหรือไม่บอก?”

ในที่สุดนรมนก็โมโห

เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ เจตต์ก็พูดด้วย

เสียงอันเบา “ชาวตุลยาเข้าโรงพยาบาลนั้นถูก ปิดข่าวไว้ ผมไหว้วานคนเข้าไปจึงรู้เรื่อง เธอ ถูกส่งไปโรงพยาบาลเพราะอวัยวะส่วนล่างฉีก ขาดอย่างรุนแรงจากการถูกข่มขืน ว่ากันว่ามี บาดแผลหลายแห่งบนร่างกาย คุณนายทวี ทรัพย์ธาดาสบถ าบุริศร์ว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน ตอนนั้นหลายคนก็ได้ยิน

สีหน้าของนรมนเปลี่ยนไปทันที

“คุณพูดอะไรนะ? คุณได้ยินผิดไปหรือ เปล่า? หรือว่ามีใครเจตนากระจายข่าวแบบนี้? เพื่อเป็นการใส่ร้ายป้ายสีบุริศร์?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ