บทที่ 378 คิมฆ่าตัวตาย
นรมนไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็รู้ว่า ถ้าตัวเอง ยังอยู่ที่นั่นต่อ คิมอาจจะไม่พูดอะไรออกมา
ไม่รู้ว่าทําไม เธอมีความรู้สึกว่าวันนี้คิม แปลกๆไป หรือว่าโดนตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ทําอะไรมาอีก?
หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีความสุข กับการใช้ชีวิตจริงๆ?
นรมนไม่รู้ แต่ก็ไม่เคยถามออกไป
เธอไม่อยากถามเรื่องของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา กลัวว่าถ้าถามแล้ว จะได้เรื่องที่ คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ออกเชื่อใจดุลยา
นรมนอ่อนไหวกับเรื่องนี้มาก
ดังนั้นในตอนที่คิมบอกให้เธอกลับก่อน เธอจึงเลือกที่จะกลับ
หลังจากขึ้นมาบนรถ เธอก็พูดกับบริศร์ ว่า “คุณรู้สึกว่าวันนี้หัวหน้าคิมแปลกๆไป ไหม?”
“ไม่นะ ทําไมเหรอ?”
บริศร์กับคิมรู้จักกันแค่เวลาสั้นๆ พอได้ มนรมนถามมาแบบนํ เขาก็ชะงัก
“เปล่า ฉันคงคิดมากไปเอง ฉันรู้สึกว่าวัน นี้เธอดูเศร้าๆ”
“บางทีเธออาจจะคิดถึงพ่อของคุณก็ได้”
คำพูดของบริศ ทำให้นรมนพยักหน้า
คงใช่ เพราะตอนที่ได้เห็นแววตาของคิม ที่มีต่อชินทร ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังเศร้า
“ในชีวิตของคนเราเรื่องที่เศร้าที่สุดก็คือ การที่คนรักต้องพรากจากกัน ถึงความรักจะยัง อยู่ แต่ตัวคนกลับไม่อยู่แล้ว ตลอดหลายสิบปี ที่ผ่านมานี้เธอจะใช้ชีวิตยังไงนะ”
นรมนถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ จู่ๆเธอก็ก่าคอเสื้อของบุรีศร์แล้วพูดว่า “คุณต้องตายทีหลังฉันนะ ฉันไม่อยากเผชิญ หน้ากับความโดดเดี่ยว ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับ การคิดถึงคุณ
“เพ้อเจ้ออะไรอยู่ เราจะอยู่ด้วยกันจนผม หงอก จะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ผมรับปากคุณ ว่าผมจะไม่ตายก่อนคุณอย่างแน่นอน”
“คุณพูดแล้วนะ”
นรมนรู้ว่าคำพูดของตัวเองไม่ค่อยเป็น มงคล แต่เธอก็ยังพูดออกมา เธอรู้สึกไม่สบาย ใจแปลกๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป
“ครับ!”
บริศ ไม่ได้คิดมากกับคำพูดที่ไม่มีมูล สายปลายเหตุของเธอ จากนั้นทั้งสองคนก็ขับ รถออกไป
กานต์กับกมลถูกทิ้งไว้ที่คฤหาสน์ตระกูล โตเล็กเป็นเวลาสองวัน ในระหว่างนี้จึงถือ เป็นการให้บริศร์และนรมนได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ตามล่าพัง แต่เอาตามความจริงก็คือคุณนาย คิดถึงเด็กๆก็เลยเอามาอยู่ด้วย
หลายปีมานี้คุณพ่อและคุณแม่นรมน สาบากมามากแล้ว จึงกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
ส่วนคมทิพย์กับพฤกษ์ก็ไม่รู้ว่ากำลังยุ่ง อยู่กับอะไร ช่วงนี้ถึงได้ออกเช้ากลับค่ำตลอด เหมือนกับว่าเรื่องของเจตต์จะจบไปแล้ว แม้ว่า เจตต์จะไม่ได้ออกมาขอโทษอะไรเลย แต่ดู เหมือนพฤกษ์กับตระกูลรัตติกรวรกุลจะไม่ได้ ติดต่ออะไรกันแล้ว
ทุกอย่างดูเหมือนคลื่นลมที่เงียบสงบ จนกระทั่งได้รับสายโทรศัพท์จากธรณี ความ สุขในชีวิตของนรมนก็พลันพังทลายลง
อืมฆ่าตัวตาย!
นรมนนิ่งอึ้งกับเรื่องที่ได้รับรู้
เธอยังจําท่าทางเมื่อสองวันก่อนตอนที่ คิมเอาของขวัญวันเกิดมาให้เธอ จากนั้นเธอก็ นึกไปถึงแววตาแสนรักของคิมตอนที่มองภาพ ชินทรบนป้ายหิน แล้วทําไมถึงฆ่าตัวตายล่ะ? “หยุดร้อง เราไปดูที่โรงพยาบาลกัน
เถอะ”
บริศ เองก็ไม่รู้ว่าควรต้องปลอบนรมน อย่างไรดี
ทั้งสองตรงไปยังโรงพยาบาลอย่างเร่ง รีบ ในตอนที่ได้เห็นธรณี นรมนก็ร้อนรนใน ทันที
“คุณอา แม่ฉันเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อเธอพูดออกมา คุณนายทวีทรัพย์ ธาดาก็หันขวับมาทันที ในตอนที่เห็นนรมน ก็ ตวาดออกมาด้วยความโกรธ
” แกพูดอะไรกับแม่แกกันแน่? หลังจาก เธอกลับมาเธอถึงได้เปลี่ยนไปราวกับเป็น คนละคน แกรู้ไหม เธอไม่ได้แค่ฆ่าตัวตาย อย่างเดียว แต่ยังจะเอาดุลยาไปด้วย! เธอ วางยาพิษให้ดุลยากิน! ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบดุล ยา แต่แกก็ไม่สมควรบอกให้แม่แกพาน้องแก ไปดาย เพียงเพราะแกไม่ชอบ” แม่ หยุดพูดได้แล้ว!” ”
ธรณีหมดคําจะพูดกับแม่ตัวเองจริงๆ
ด้านนรมนกลับนิ่งไป
*หมายความว่ายังไง? ทำไมบอกว่าแม่ ฉันต้องพาดุลยาไปตายด้วย? ตกลงเกิดอะไร ขึ้นกันแน่?”
นโมนจับแขนเสื้อของธรณีเอาไว้
ธรณีถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ไม่รู้ ว่าพี่สะใภ้เป็นอะไรไป สองสามวันมานี้เธอถึง ได้จัดการทุกเรื่อง แล้วบอกว่าจะพาตุลยากลับ อเมริกา ฉันกับแมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ จน กระทั่งวันนี้ พี่สะใภ้ทำอาหารให้ดุลยากิน ทั้ง สองคนกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินเสร็จก็เกิด เรื่องขึ้น คุณหมอวินิจฉัยว่า ในอาหารมีสารพิษ อยู่ด้วย”
“เป็นไปได้ยังไง?”
นรมน งอยู่กับ แม้เธอจะรู้ว่าคิมไม่ชอบดุลยา แต่การพา ตุลยาไปตาย มันไม่ดูเกินจริงไปหน่อยเหรอ?
อีกอย่างเธอก็รู้สึกว่าคิมไม่มีทางทําอะไร แบบนี้แน่
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาร้องไห้พร้อมกับ พูดออกมาว่า “คิมเป็นลูกสะใภ้ที่ดี ยัยตุลยา เป็นเด็กดี แล้วทำไมแกถึงไม่ยอมปล่อยพวก เขาไป?”
“ฉันเปล่า”
นรมนรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกปรักปรำ
บุรีศร้เดินเข้ามา แล้วดึงนรมนไปหลบ ข้างหลัง จากนั้นก็มองมาที่คุณนายทวีทรัพย์ ธาดาแล้วพูดว่า “คุณนาย พูดอย่างนี้ไม่ได้นะ ครับ นโมนไม่ได้ทําอะไรทั้งนั้น”
“ไม่ได้ทํางั้นเหรอ? แล้วสองวันก่อนไม่ ใช่ว่าค็มไปหาเธอหรือไง? หลังจากดิมกลับมา ก็ผิดปกติไป โลกใบนี้จะมีแม่คนไหนกล้าฆ่า ลูกตัวเอง? แต่คิมก็ทํามันลงไป! แล้วคิดว่าคิม ทำเพื่อใคร? ถ้าไม่ใช่เพราะยังนรมน?”
แล้วคุณรู้ไหมว่าสองวันก่อนหัวหน้าคม มาหานรมนทําไม? ก็เพราะว่าเป็นวันเกิดของ นรมนยังไงล่ะ! หัวหน้าคมก็แค่มาอวยพรให้ ลูกสาวตัวเอง แล้วมันผิดตรงไหน?”
บริศ รู้สึกว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาได้ เหตุผลเป็นที่สุด
หรือว่าตราบใดที่เรื่องมันเกี่ยวโยงมาถึง นรมน ก็ถือเป็นความผิดของนรมนแล้วอย่าง นั้นหรือ?
เรื่องไม่ดีทุกเรื่องต้องเป็นฝีมือของนรมน เท่านั้นใช่ไหม?
ตรรกะแบบนี้เอามาแต่ไหนกัน?
คุณนายทวีทรัพย์ธาดานิ่งไปเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้เรื่องวันเกิดของนรมน และไม่ได้ติดตามการถ่ายทอดสดของเมือง ชลธี แล้วยิ่งตอนที่บุรีศรีขอนรมนแต่งงานยิ่ง ไม่ต้องพูดถึง ตอนนีมรมนเสียใจเป็นอย่างมาก เธอไม่ ได้สนใจสักนิดว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจะคิด ยังไงกับเธอ
คนๆหนึ่งถ้าได้มีอคติกับใครแล้ว ต่อให้ พูดอะไรออกไปก็เปล่าประโยชน์
“คุณอา ตอนนี้แม่ฉันเป็นยังไงบ้าง?”
นรมนเดินผ่านคุณนายทวีทรัพย์ธาดา และสอบถามเรื่องราวกับธรณี
ธรณีรู้สึกว่าแม่ของตัวเองทำไม่ดีกับนร มน แต่ก็ห้ามแม่ตัวเองไม่ได้ จึงถอนหายใจ ออกมาแล้วพูดว่า “ยังอยู่ในระหว่างการช่วย ชีวิต ไม่รู้ว่าอาการจะเป็นยังไง
นรมนไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำเพียง แค่รอเงียบๆอยู่ตรงนั้น ทว่าไม่สามารถทำใจ ให้สงบได้เลย
คนที่นอนอยู่ในนั้นคือแม่ของเธอ แม่ที่ คลอดเธอออกมา
บริศ รู้ว่าในใจของนรมนไม่สามารถรับ ได้ เขาจึงตึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แล้วพูด เสียงเบาว่า “ไม่เป็นไรนะ สวรรค์จะต้องเห็น ทุกอย่าง”
“อืม”
นรมนไม่มีอารมณ์พูดอะไรทั้งนั้น หัวใจ ของเธอวุ่นวายไปหมด
ไฟในห้องผ่าตัดยังคงสว่าง หัวใจของ ทุกคนลอยเคว้ง แม้แต่คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ก็ไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรออกมา
เวลาผ่านไปทุกวินาที เป็นเวลาสอง ชั่วโมงในที่สุดการผ่าตัดก็สิ้นสุดลง
ตอนที่คุณหมอเปิดประตูออกมา จู่ๆนรมน ก็รู้สึกว่าขาทั้งสองขยับไปไหนไม่ได้
บุริศร์รู้ว่าเธอกำลังเครียด
ผู้หญิงคนนี้มักจะแสดงออกว่าเป็นคน เฉยชา และเย็นชา แต่จริงๆแล้วในใจของเธอ อ่อนไหว งกว่าใครเสียอีก บุรีศรีประคองนรมนเดินมาหาคุณหมอ
“หมอ คนไข้เป็นยังไงบ้าง?
ธรณีรับเอ่ยพูดออกมา
คุณหมอถอดหน้ากากอนามัยออก แล้ว พูดว่า “คุณดุลยาโดนพิษแค่บางเบา ตอนนี้จึง พันขีดอันตรายแล้ว แต่คุณคิมค่อนข้างสาหัส พวกเราพยายามเต็มที่แล้ว ตอนนี้เธอยังไม่ ได้สติ จะสามารถฟื้นขึ้นมาได้หรือเปล่านั้นก็ งต้องดูความเป็นไปหลังจากนี้ถึงจะสามารถ ตัดสินได้”
นรมนไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป ยังดีที่มีบุริศร์คอยประคองอยู่ข้างๆ
“ไม่ต้องกลัว กำลังอยู่ในระหว่างการซวย ชีวิตไม่ใชเหรอ? ผมเชื่อว่าหัวหน้าคิมต้องรอด แน่ๆ”
คำพูดของบริศ ทําให้นรมนอยากร้องไห้
ออกมา “จริงไหม?”
“จริงส์!”
เขาพยักหน้า
ตุลยาและคิมถูกเข็นแยกกันเข้าห้องพัก
ผู้ป่วย
เมื่อคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเห็นใบหน้า ซีดขาวของตุลยา ก็พูดออกมาอย่างสงสารว่า “ช่างน่าสงสารเสียจริง ต้องฝังใจไปทั้งชีวิต แน่ๆ ที่ถูกแม่ตัวเองทำร้ายขนาดนี้ คิดว่าชาตินี้ คงไม่มีทางเดินออกมาจากบาดแผลนั้นได้”
นรมนกลับไม่ฟังคําพูดปลงตกของเธอ แต่เดินตรงมายังเตียงของคิม
คิมนอนอย่างสงบนิ่ง ราวกับว่าเธอได้ เตรียมตัวมาแต่เนิ่นๆแล้ว พอเห็นแบบนั้นรมน ก็ร้องไห้ออกมาทันที
“แม่ แม่ตื่นข้นมาสิ ตื่นขึ้นมาได้ไหม? ฉัน ผิดเอง วันนั้นฉันรู้สึกว่าแม่แปลกๆไป แต่ฉัน กลับไม่ได้อยู่เคียงข้างเพื่อปลอบใจแม่เลย แม่ อย่าเพิ่งไปหาพ่อ แม่ยังติดค้างฉันนะ แม่ยัง ไม่ได้อยู่กับฉันเลย แล้วแม่จะทิ้งฉันไปทั้ง อย่างนี้เหรอ?”
นรมนคิดมาตลอดว่าคงเรียกเธอว่าแม่ไม่ ได้ แต่ตอนนั้นรมนกลับพูดออกมาอย่างเป็น ธรรมชาติ
เธออยากให้มมตื่นขึ้นมา เธออยากบอก ว่าเธอไม่โกรธคิมแล้ว
แต่คิมในตอนนี้กลับนิ่งราวกับกำลังหลับ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย
คุณนายทวีทรัพย์ธาดากำลังจะพูดอะไร ออกมา แต่กลับถูกธรณีลากออกไปก่อน
แกลเกฉันออกมาทำไม?”
“แม่ พอได้แล้ว นรมนไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แม่ก็เอาแต่โยนความผิดไปให้เธอโดยไม่รู้จัก แยกแยะ นี่แม่เป็นย่าของเธอจริงๆหรือเปล่า? เมื่อก่อนก็พยายามตามหาลูกสาวของพี่ใหญ่ มาตลอดไม่ใช่เหรอ ตอนนี้พอหาเจอแล้ว ทําไมแม่ทํากับเธออย่างนี้ล่ะ? แม่ไม่กลัวว่า ใหญ่จะไม่สบายใจเหรอ? แล้วสาเหตุที่พี่สะใภ้ ทำแบบนี้ แม่ก็ยังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ป้ายความผิด ไปให้นรมนแล้ว ตกลงแม่เป็นอะไรถึงได้อคติ กับเธอถึงขนาดนั้น?”
เมื่อเห็นลูกชายเอ่ยถามมาอย่างนี้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็นิ่งไปทันที
ใช่!
นรมนเป็นหลานสาวแท้ๆของเธอ แต่ ทำไมเธอถึงได้อคติกับนรมนถึงเพียงนี้?
” แกจะไปรู้อะไร ฉันเคยเห็นกับตาว่าเธอ รังแกย้ยตุลยาที่โรงพยาบาล
“ถึงแม่จะเห็นกับตา แต่แม่รู้ไหมว่าตุลยา ทําอะไรกับนรมนบ้าง? หลานแท้ๆของตัวเอง ถูกดุลยาทําร้ายจนเกือบตาย แม่เคยรู้ไหม? แม่เคยถามหาความยุติธรรมให้เธอหรือเปล่า? เคยจัดการให้เธอบ้างไหม?”
ธรณ์ไม่รู้ว่าทำไมแม่ของเขาถึงเปลี่ยน ไปแบบนี้ แต่เขารู้สึกผิดหวังมาก ทางด้าน คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็เงียบไปเป็นเวลานาน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ