บทที่ 1339 เป็นความสะเพร่าของผมเอง
“ถึงแล้วหรือ”
นรมนผลักบุริศร์ออก มองไปข้างนอกตื่นเต้นมาก
ประเทศ ทันสมัยมาก มองไปทางไหนก็เห็นอาคารสไตล์ยุโรป ตะวันออก นรมนมองจนตาลาย
“สมชัยคนนี้ย้ายอาคารประเทศยุโรปตะวันออกมาที่นี่หรือไง มิน่าล่ะไม่เปิดประเทศ ถ้าถูกประเทศอื่นรู้ว่าอาคารสัญลักษณ์ ของตัวเองมาอยู่ที่นี่ จะไม่ฟ้องเขาละเมิดสิทธิ์หรือ
นรมนพูดพึมพำ ทำให้บริศร์รู้สึกตลก
การสังเกตของเธอไม่เหมือนใครจริงๆ
“ไปกันเถอะ ลงเครื่องบินก่อน เครื่องบินลำนี้ไม่ได้จดทะเบียน ที่นี่ รีบบินกลับไปก่อนที่พวกมันจะรู้
บริศรพูดขึ้น
นรมนอดตะลึงไม่ได้
“บินกลับไปหรือคะ งั้นพวกเราทำยังไง พวกเราแค่สองคนอยู่ ที่นี่ ไม่ใช่มั้ง บุริศร์ คุณพูดจริงหรือคะ”
นรมนเดิมทีก็กังวลอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินเครื่องบินจะบินกลับ ก็รู้สึกกังวลยิ่งขึ้น
บุรีศร์ลูบหัวเธอ ยิ้มพลางพูด “ไม่เป็นไร เรามีพรรคพวกที่นี่
“เอ๊ะ”
“ลืมแล้วหรือไง หงส์อยู่ที่นี่
ได้ยินบริศ พูดอย่างนี้ นรมนก็นึกขึ้นมาได้
“จริงสิ หงส์อยู่ที่นี่ หงส์เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สวยหรือหล่อกัน แน่”
ตอนนั้นรมนเหมือนเด็กเล็กๆ อยากรู้อยากเห็น ตั้งคำถาม มากมาย
บุริศร์รู้ว่าเป็นเพราะเธอตื่นเต้นเกินไป ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ จูงมือนรมนลงจากเครื่องบิน
นักบิน มืออำลาพวกเขาแล้วก็บินจากไป
นรมนจู่ๆ ก็รู้สึกโดดเดี่ยว
“พวกเขาไปง่ายๆ อย่างนี้หรือคะ”
มองเห็นสายตาอาลัยของนรมน บุริศร์รู้สึกเซ็ง
“คุณอาลัยเขา งั้นผมให้เขาพาคุณกลับไปด้วยดีมั้ย “อย่าๆๆ ฉันก็แค่พูดไปงั้นๆ
นรมนฟังออกความอิจฉาในคำพูดของบุริศร์ ก็รีบแก้ตัว
บริศ เหลือบมองเธอ จากนั้นก็จูงมือเธอเดินไปข้างหน้า
โชคดีที่ผิวพรรณของคนประเทศที่เหมือนกับพวกเขา เมื่อน มนเดินตามท้องถนนจึงไม่โดดเด่นนัก
พวกเขามาลงที่เนินเขาเล็กๆ แห่งหนึ่ง หลังจากลงเขาแล้ว บริ ศร์เปิดด้านหลังมือถือ แล้วโยนซิมการ์ดเต็มทิ้งจากนั้นก็ใส่ มการ์ดใหม่”
นรมนถามแปลกใจ “ทำไมต้องโยนทิ้งคะ”
“กลัวว่าคนอื่นจะใช้ซิมของผมติดตามร่องรอยได้ ของคุณก็ โยนทิ้งเหมือนกัน ผมใช้บัตรของคนอื่นซื้อซิมใหม่แล้ว ต่อไปอยู่ ที่นี่ก็ใช้ซิมเบอร์ใหม่
บุริศร์พูดพลางหยิบมือถือนรมนมา เปลี่ยนซิมใหม่นรมนรู้สึกเสียดาย “ซิมนั้นฉันใช้ตั้งนานแล้ว เสียดายถ้าจะ โยนทิ้ง”
“กลับไปค่อยขอซิมใหม่ก็ได้ ลืมแล้วหรือไง”
คําพูดของบุรีศ ทำให้นรมนเซ็งก็ได้ เธอลืมเรื่องนี้ไปจริงๆหลังจากเปลี่ยนซิมเรียบร้อย บุริศร์ก็เปิดมือถือโทรไปหาเบอร์
หนึ่งทันที “หงส์ ผมมาถึงประเทศ แล้ว เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้คุณ ส่งคนมารับผมด้วย แล้วก็หาที่พักให้ผมด้วย
เสียงผู้หญิงดังกังวานมาจากปลายสาย
เสียงใสกังวานนั้น เหมือนหยกตกลงในจานกระเบื้อง เสียง ไพเราะเสนาะหูมาก
นรมนแค่ฟังเสียงก็ชอบหงส์คนนี้แล้ว “ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับคุณคะ
บริศร์มองหน้าอยากรู้ของภรรยา ก็ยิ้มออกมา “คุณโง่หรือไง เธอคือหงส์ในสหภาพ คุณคิดว่าเป็นอะไรกับผมล่ะ นรมน ทำไมผมสังเกตเห็น ตั้งแต่คุณมาประเทศ คุณลืมสมองไว้ที่บ้าน หรือไง ให้ผมกลับไปหามั้ย
“รําคาญ”
นรมนจ้องมองบุริศร์ ในใจแอบด่าตัวเองโง่
“งั้นเรารอที่นี่ใช่มั้ยคะ”
“อึม หนาวมั้ย”
อากาศประเทศ ค่อนข้างหนาว นรมนกับบริศ สวมค่อนข้าง บาง ตอนนี้ลมเย็นพัดมา นรมนอดตัวสั่นไม่ได้
บุริศร์คิดจะเปิดกระเป๋าเดินทางหยิบเสื้อคลุมออกมาคลุมให้ นรมน ถึงได้พบว่าในกระเป๋าของพวกเขาไม่มีเสื้อคลุมหนาๆ เลย
หมู่บ้านดารายนอากาศอบอุ่นทั้งปี ไม่คิดว่าจะมาที่นี่กะทันหัน จึงไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาว ตอนนี้เห็นอย่างนี้ บริศร์ถอดเสื้อ คลุมตัวเองออกโดยไม่ลังเล คลุมให้นรมน
“ฉันไม่เอาค่ะ คุณไม่ใช่มนุษย์เหล็ก คุณก็หนาวเหมือนกัน” นรมนปฏิเสธ
บุริศร์พูดขึ้น ร่างกายผมแข็งแรงกว่าคุณ อย่าเป็นหวัดเด็ด ขาด ถ้าเป็นหวัดละก็ กลัวว่าจะเป็นไข้ เราไม่คุ้นเคยที่นี่ ป่วยจะ รําบาก เด็กดี”
เขาพูดอย่างนี้แล้ว นรมนก็เกรงใจที่จะปฏิเสธอีก
เธอมองเสื้อผ้าบางของบุริศร์ จู่ๆ ก็พูดขึ้น “ไม่อย่างนั้นพวก เราสองคนคลุมเสื้อตัวนี้ละกัน คุณคลุมเสื้อกอดฉัน พวกเราจะได้ อบอุ่น”
พูดพลางนรมนส่งเสื้อคลุมคืนให้บริศร์ จากนั้นก็ยืนหน้าบุริศร์ หันหลังให้เขา ตัวเองซบในอ้อมกอดของบริศร์ จากนั้นก็ยื่นมือ ไปดึงแขนบุริศร์ โอบกอดตัวเอง
กลิ่นหอมอ่อนๆ ในอ้อมแขนทำให้บริศร์รู้สึกมีความสุข ก็ได้
ยินนรมนถาม “อุ่นมากไหมคะ”
“อืม”
บริศ เสียงแหบพร่านิดหนึ่ง
มันอบอุ่นมาก อบอุ่นเกินไป
บุริศร์ยิ้มบาง นรมนยิ้มมุมปาก
“บุริศร์ คุณบอกว่าที่นี่ชานเมืองไม่ใช่หรือคะ ทำไมไม่มีคนเดิน ไปมา พวกเรามาถึงที่นี่ตั้งนานแล้ว ไม่เห็นรถสักคันหรือคนผ่านมาเลย”
ความรู้สึกไวของนรมนสังเกตความรกร้างของที่นี่
บริศร์ดวงตาเคร่งขรึมขึ้น มองไปรอบๆ พูดเสียงเบา “ไม่รู้
เหมือนกันเพราะอะไร แต่อย่าไปพ้นสายตาผมละกัน
“อากาศหนาวอย่างนี้ ฉันจะไปไหนได้คะ
นรมนพูด รู้สึกว่าเท้าเริ่มเย็น เธอเริ่มกระทืบเท้า คิดว่าใช้วิธี การออกกำลังกายอบอุ่นร่างกาย
บุริศร์ถูมือของเธอ พ่นลมหายใจ มองจมูกนรมนูที่หนาวจน แดง ในใจรู้สึกสงสาร
“เป็นความสะเพร่าของผมเอง ก่อนมาที่นี่ควรจะดูรายงาน อากาศที่นี่ก่อน”
“จะตำหนิคุณก็ไม่ได้ออกจากหมู่บ้านดารายนขึ้นเครื่องมาที่นี่เลย ต่อให้คุณอยากซื้ออะไร ที่หมู่บ้านดารายนก็ไม่มีอะไรให้ซื้อได้ หงส์ใกล้จะมาถึงแล้วใช่มั้ยคะ พวกเราทนอีกหน่อย ทนอีกหน่อย”
นรมนยิ้ม อารมณ์ที่มองโลกในแง่บวกแผ่มาถึงบริศร์ ทำให้ เขาไม่รู้สึกหนาวมากแล้ว
สองคนรอที่นี่ชั่วโมงกว่าแล้วก็ยังไม่เห็นคนของหงส์มา สีหน้า ของบุริศร์ก็เคร่งเครียดเขาโทรไปหาหงส์
“คนของคุณอยู่ที่ไหนแล้ว
“อยู่ระหว่างทางแล้วค่ะ ที่อยู่พวกคุณไกลมาก ที่นั่นเป็นเขต ปลอดคน อยากจะเข้าไปต้องพยายามและลำบากหน่อย เฮียบุรี ศร์ ทำไมพวกคุณไปลงที่นั่น
หงส์ก็จนปัญญา
บริศ ขมวดคิ้วนิดๆ
เขตปลอดคนหรือ
ประเทศ ไม่ใหญ่โต ทำไมถึงได้มีเขตปลอดคน
“เขตปลอดคนไม่มีคนตั้งแต่แรกหรือ ที่นี่จะมีนิวเคลียร์มั้ย คุณ ต้องบอกผม ผมพาภรรยามาด้วย
เสียงของบุริศร์ร้อนใจและเย็นเยียบ
นรมนตกใจ
นิวเคลียร์หรือ
ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง
หงส์เกือบสำลักเพราะคำพูดของบุริศร์
นี่คือเฮียบุริศร์ที่สงวนท่าทีของพวกเธอใช่มั้ย ทำไมถึงได้พูด
เรื่องตลก
พลังแห่งรักยิ่งใหญ่จริงๆ
หงส์ไอทีหนึ่ง ปิดบังความประหลาดใจ พูดเสียงเบา “ไม่มีนิวเคลียร์อะไรค่ะ แต่ได้ยินว่าที่นั่นมีสัตว์ป่า เคยทำร้ายคนตาย ถึงได้ติดป้ายเป็นเขตปลอดคน หลายปีมานี้ไม่มีคนผ่านก็ เท่านั้น”
ได้ยินหงส์พูดอย่างนี้ นรมนค่อยโล่งใจ เมื่อนึกได้ว่าเรื่องน่า กลัวนี้เป็นบุริศร์พูดขึ้น ก็ต้องบุริศร์แวบหนึ่ง
บุริศร์ยิ้มมุมปาก รู้สึกว่าท่าทางของนรมนอย่างนี้น่ารักดี ได้ ความนิ่งสุขุมและเป็นผู้ใหญ่ เธอตอนนี้กลับเหมือนตอนสมัยอยู่ มหาลัย
ความทรงจำสวยงามย้อนกลับมา ทำให้สีหน้าบุริศร์อ่อนโยน
ลงมาก
“พวกเราแอบเข้ามา ลงจอดที่สนามบินไม่ได้ จอดที่เขตปลอด คนไม่มีอะไรไม่ดี คุณรีบมาละกัน พวกเราไม่มีเสื้อกันหนาว หนาวจนจะเป็นหวัดแล้ว”
คำพูดนี้เป็นความจริง
บุริศร์รู้สึกค่อนข้างหนาว และสภาพร่างกายของนรมนาน
หนาวไม่ได้แน่ๆ
หงส์ได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกเป็นห่วง
“ฉันจะให้พวกเขาแวะซื้อเสื้อกันหนาวให้ค่ะ เฮียบุริศร์ ก่อน พวกเราไปถึง คุณกับพี่สะใภ้หาที่หลบลมหนาวก่อน พยากรณ์ อากาศบอกว่าเดี๋ยวจะมีฝนและหิมะตกค่ะ”
คำพูดของหงส์ทำให้บุริศร์และนรมนเซ็ง
ฝนและหิมะหรือ
จากหมู่บ้านดารายนที่อบอุ่นตลอดปีมาถึงที่นี่ เหมือนเข้าฤดู หนาวกะทันหัน แต่พวกเขาสวมเสื้อผ้าบางๆ ที่นี่ก็เป็นเขตปลอด คน จะไปหลบลมหนาวได้ที่ไหนกัน
แต่บุริศร์ก็รู้ ตอนนี้หงส์ก็ทำอะไรไม่ได้
“รู้แล้ว พอถึงแล้วโทรมาหาผมละกัน ผมจะไปหาที่หลบก่อน
“ค่ะ”
สองคนวางสายแล้ว จมูกนรมนก็แทบจะเป็นน้ำแข็งแล้ว
เธอถูจมูกแดงแล้ว พูดเบาๆ “พวกเราเดินไปดูทางนั้นหน่อย มั้ยคะ ไม่แน่อาจจะมีที่อย่างกระท่อมอยู่
บริศร์รู้สึกว่านรมนอ่านนิยายประโลมโลกมากไปแล้ว แต่อีก ฝ่ายคือภรรยาตัวเอง เขาจะแสดงท่าทางไม่ชอบใจชัดเจนไม่ได้ ได้แต่พูดเสียงเบา “เดินหน่อยก็ดี ออกกำลังช่วยคลายหนาวได้
“งั้นเดินเถอะ”
นรมนจูงมือบุริศร์เดินไปทางใต้
เพราะหงส์เพิ่งพูด ที่นี่มีสัตว์ป่า นรมนเดินระมัดระวัง ขณะที่บุรี ศร์ก็เตรียมตัวพร้อมตลอด
สองคนเดินไปทางใต้สองกิโลเมตร นรมนปวดฉี่แล้ว
“เดี๋ยวก่อน บุริศร์ ฉันอยากเข้าห้องน้ำ
บุรีศร์มองนรมนกลั้นจนไม่ไหวแล้ว มองซ้ายขวาพูดขึ้น “ที่นี่ คือเขตปลอดคน ไม่มีห้องน้ำแน่ อย่างนั้นคุณไปหาที่ใกล้ๆ ละกัน ผมจะคอยระวังให้
นรมน ในใจคัดค้าน แต่ร่างกายรอไม่ไหว ได้แต่พยักหน้า วิ่ง ไปที่พงหญ้ารกร้างข้างทาง
บุริศร์ก็ไม่วางใจ ตามมาข้างหลัง ก็ได้ยินนรมนูพูด “คุณอย่า
ไปไกลมาก ฉันกลัว”
“โอเค”
บุรีศรีบเดินตามไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงนรมนร้อง “เอ๊ะ ใจเขาก็กระตุกทันที”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ