แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1283 พรุ่งนี้ฉันกลัวว่าจะไม่ทันแล้ว



บทที่ 1283 พรุ่งนี้ฉันกลัวว่าจะไม่ทันแล้ว

เห็นท่าทางงุนงงของคุณพจน์ บุริศร์ก็ยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูดขึ้น “คิดไม่ถึงเลยใช่ไหม? ในใจของนายเธอเหมือนนางฟ้า บางที พ่อของนายก็อาจจะบอกนายว่าเธอดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้ นายมีความเพ้อฝันเกี่ยวกับเธอมากเกินไป แต่สำหรับฉัน เธอไม่ คู่ควรกับการเป็นแม่ ไม่คู่ควรเลยสักนิด!”

บุริศร์พูดคำนี้ด้วยความรู้สึกค่อนข้างแย่ มีความเยาะเย้ยด้วย เล็กน้อย และมีอารมณ์แฝงด้วย

นรมนฟังออก เธอกลัวอารมณ์ของบุริศร์ได้รับผลกระทบจาก ทองคำแล้วจะทำร้ายบุณพจน์ขึ้นมาจริงๆ จึงรีบกอดแขนบุริศร์ เอาไว้

อุณหภูมิร่างกายอันอบอุ่นและสัมผัสอันอ่อนโยนทำให้ความ

หดหู่และความโกรธ ในก้นบึงหัวใจของบุริศร์หายไป

เขามองใบหน้ากังวลของนรมน ยิ้มขณะพูดขึ้น “ฉันไม่เป็น อะไร”

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

นรมนถอนหายใจ

บุณพจน์เห็นนรมนใส่ใจบุริศร์แบบนี้ ก็ถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “นายเป็นอะไร? ร่างกายนายมีปัญหาอะไรเหรอ?”
“ไม่เกี่ยวกับนาย ในเมื่อนายอยากบอกพวกเราเรื่องคุณอา บุญทิวา งั้นก็รีบๆ ซะ ไม่แน่ฉันยังมีความรู้สึกดีๆ กับนายใน ความสัมพันธ์นี้”

“บุริศร์ นายน่ารังเกียจมากจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันสนใจอะไร ตอนนี้ยังเอามิตรภาพพี่น้องมาฉันอีกเหรอ?”

บุณพจน์รู้สึกน้อยใจเป็นพิเศษ

ชีวิตนี้เมื่อสามสิบปีก่อนก็ถือว่าราบรื่น ทำไมมาเจอน้องชาย ชั่วไม่ชอบแบบนี้ล่ะ?

บุริศร์กลับพูดขึ้นอย่างไม่สนใจเลย “ก็นายแล้ว ทำไมเหรอ? ไม่พอใจเหรอ? ไม่พอใจก็ไปได้เลย ไม่มีใครขอให้นายอยู่

“บุริศร์ นาย———”

นรมนเห็นสองพี่น้องเริ่มไม่พอใจกันและกันแล้ว รู้สึกอยากขา อย่างช่วยไม่ได้ เธอรีบพูดขึ้น “บุริศร์ เขามาให้ข่าวเกี่ยวกับคุณ อาบุญทิวาของฉัน”

“อ๋อ ใช่ เกือบลืมไปแล้ว ภรรยาฉันพูดแล้ว นายรีบบอกเรามา

เร็วๆ”

ท่าทางสูงส่งโดยธรรมชาติของบุริศร์ มันทำให้บุณพจน์โกรธ จริงๆ แต่คนคนนี้ดันเป็นบุริศร์ เขาโกรธหดหู่และหมดหนทางอยู่ นานมากก่อนจะพูดขึ้น “เรื่องอื่นๆ ฉันบอกพวกนายไม่ได้ บอกได้ แค่ว่าคุณอาบุญทิวาของพวกนายอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ถ้าพวกนายมี ปัญญาก็ไปตามหาเขา ไม่มีปัญหาก็ใสหัวกลับไปซะ อย่าอยู่ที่นี่อีก นี่คือการเตือนพวกนายเป็นครั้งสุดท้ายของฉัน ถ้าเดินไปข้าง หน้าต่อไป พวกนายจะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ

คำพูดนี้ของบุณพจน์ไม่ใช่การคุยโวโอ้อวดสักนิด แต่บุริศร์ยัง คงพูดอย่างราบเรียบ “มันเป็นเรื่องของเรา แต่นายบอกเราเรื่อง ที่เราอยากรู้ก็พอแล้ว เรื่องอื่นๆ ไม่ต้องกังวล

“บุริศร์ ฉันหวังดีกับนายนะ”

“ฉันขอบคุณ”

เมื่อสองพี่น้องกำลังจะเริ่มไม่พอใจกันอีกครั้ง นรมนก็รีบเอ่ย ปากพูดขึ้น “แล้วคุณอารองของฉันตอนนี้อยู่ทิศทางไหน?”

“คุณอารองของเธอเขาอยู่……

คำพูดของบุณพจน์ยังไม่ทันจบ จู่ๆ ก็มีกระสุนนัดหนึ่งผ่าน อากาศมาหาบุริศร์

“ระวัง!”

บุณพจน์ผลักบุริศร์โดยไม่รู้ตัว กระสุนเฉียดแขนเขาไป ทิ้งรอย เลือดเอาไว้

นรมนควักปืนออกมายิงไปยังทิศทางกระสุนอย่างรวดเร็ว แต่ ถูกบุริศร์คว้าเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วกลิ้งไปหลบด้านหลังหิน

ดวงตาบุณพจน์กลายเป็นมืดมนเย็นชาอย่างยิ่งในพริบตาเดียว

“ออกมา!”
จิตสังหารของเขาแบบนี้นรมนไม่เคยเห็นมาก่อน บุริศร์ก็ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็รู้สึกโล่งใจ

เดิมทีแล้วเป็นคนมาจากกองทัพ ฝึกฝนนักฆ่าหลายชุด บุณ พจน์จะเป็นคุณชายลูกเศรษฐีได้อย่างไรล่ะ?

ด้านนอกไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิด

สีหน้าของบุณพจน์แย่มาก ควักปืนยิงไปที่ด้านนอกทันที การ ยิงชุดนั้นแสดงให้เห็นว่าก้นบึงหัวใจเขาไม่สงบอย่างมาก

บริศร์ดึงนรมนไปด้านข้างเงียบๆ แต่บุริศร์เพิ่งจะขยับ กระสุน ด้านออกก็ยิ่งมาทางบริศร์ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเล็งเป้ามาที่บุริศร์

สีหน้าบุณพจน์ยิ่งแย่ขึ้นไปอีก

“ฉันบอกให้หยุด! ไม่ได้ยินเหรอ? ใครกล้าทำร้ายบุริศร์ ฉันจะ เอาชีวิตทั้งครอบครัวมัน!!

บุณพจน์โกรธจนตาแดงไปหมดแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ฟังบุณพจน์ เลย ไล่ยิงบุริศร์

นรมนก็มองออกเช่นกัน ว่าอีกฝ่ายต้องการให้บริศร์ตาย

ช่วงเวลานี้ นรมนรีบคว้าบุริศร์เอาไว้ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “จุด ประสงค์ของพวกมันคือคุณ คุณอยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ฉันจะล่อพวก มันออกไป

“ไม่ได้ บุริศร์อย่างฉันไม่มีนิสัยให้ผู้หญิงกันปืนเพื่อฉัน

“บุริศร์ มันถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังมีความคิดเรื่องชายเป็นใหญ่อีก! คุณดูไม่ออกหรือไงว่าคนข้างนอกพวกนั้นจุดประสงค์พวก มันคือคุณ ถึงฉันจะออกไป พวกมันก็ใช่ว่าจะย้ายเป้าหมายมาที่ ฉันสักหน่อย ฉันแค่จะออกไปลองดู คุณก็อย่าดื้อรั้นมากได้ ไหม?”

นรมนครามเสียงทุ้มอย่างหดหูเล็กน้อย

จู่ๆ บุริศร์ก็รู้สึกว่านรมนแบบนี้น่ารักเกินไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือท่าทางของเธอที่ใส่ใจตน ในขณะนี้ ดวงตานั้นเป็นประกาย มันสุก ใสเป็นพิเศษ

จู่ๆ เขาก็คว้าศีรษะนรมนไว้ แล้วโน้มศีรษะลงไปทันที จูบปาก นรมนอย่างลึกซึ้ง

สมองของนรมนระเบิดเต็มที่แล้ว

นี่มันสถานการณ์อะไร?

ตอนนี้มีคนอยู่ข้างนอกคิดจะเอาชีวิตเขา เขาก็สุดยอดไปเลย เวลานี้ยังจะตื่นขึ้นสมอง อยากพัวพันกับเธออีก

นรมนกำลังจะผลักบุริศร์ออก ก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง ครั้งนี้เอาแต่ ใจมากจนทำให้นรมนรู้สึกว่าทั้งร่างตัวเองจะถูกบุริศร์ดูดเข้าไป

เธอดิ้นรน สูญเสียกำลังทีละนิด ซึมซับความอ่อนโยนของบุรี ศ อย่างช้าๆ

บุณพจน์กำลังต่อต้านเหมือนเป็นบ้า กระสุนพวกนั้นมันอ้อมเขาแล้วพุ่งไปยังสถานที่ที่บริศร์ซ่อนอยู่

เขาโกรธจนแทบตะโกนเสียงดัง เดิมทีแล้วอยากจะหันศีรษะ

ไปมองว่าบุริศร์เป็นอย่างไรบ้าง ไม่คิดว่าจะเห็นฉากร้อนแรง รู้สึกเจ็บปวดอย่างช่วยไม่ได้ “เฮ้ๆๆ ฉันต้านกระสุนให้พวกนายอยู่ ไม่คิดว่าพวกนายจะ

กำลังพลอดรักกัน พี่ไม่ได้หวังว่าจะทำแบบนี้โอเคไหม?”

บุณพจน์รู้สึกตัวเองได้รับความเสียหายหนึ่งหมื่นแต้ม

นรมนราวกับตอบสนอง รีบผลักบุริศร์ออก เพราะออกแรงผลัก มากจนบุริศร์ออกไปด้านนอกวัตถุกำบัง

การยิงเป็นชุดยิงมาทางบริศร์อย่างบ้าคลั่งทันที

หัวใจนรมนกำลังจะหยุด

เธอโง่จะตายอยู่แล้ว

เมื่อเธออยากออกไปช่วย บุณพจน์ก็มาขวางด้านหน้าบุริศร์ ทันที กระสุนจึงหยุดกะทันหัน

บุริศร์ฉวยโอกาสนี้กลับไปซ่อนข้างกายนรมนอีกครั้ง

สีหน้าบุณพจน์ยิ่งมืดมนขึ้น

เพราะมีบุณพจน์อยู่ เสียงปืนอีกฝ่ายจึงไม่ดังขึ้นอีก

บุณพจน์มองบุริศร์ แล้วพูดขึ้นอย่างราบเรียบ “ไปกับฉัน ห้ามออกไปนอกขอบเขตร่างกายฉัน เดินไปโดยใช้ฉันเป็นโล่

บุริศร์ชะงักไป แต่ก็ไม่ลังเล ยื่นมือไปจับคอบุณพจน์ทันที แล้ว

พูดด้วยเสียงเย็นชากับข้างนอก “ถอยไป! ไม่งั้นฉันจะฆ่ามัน อีกฝ่ายก็เหมือนกังวลและหลีกเลี่ยงจริงๆ เสียงปืนไม่ดังอีกต่อ

ไป

บุริศร์และนรมนก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปหรือยังไม่ไป ไม่กล้าวางใจ ง่ายๆ เดินออกไปจากถ้ำโดยเอาบุณพจน์เป็นโล่

ด้านนอกยังคงไม่มีใครสักคน ไม่รู้ว่าซ่อนอยู่ในที่มืดหรือหนี

ไปแล้วจริงๆ

บุริศร์และนรมนประกบบุณพจน์ซ้ายขวากลับไปที่หมู่บ้านน้ำ

ใส

หลังจากบุณพจน์เห็นพวกเขากลับมาถึงหมู่บ้านน้ำใสแล้วก็ พูดเสียงทุ้ม “พวกนายกลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ฉันไปแล้ว นะ จำคำที่ฉันพูดเอาไว้ไม่มีอะไรก็อย่าเดินไปข้างหน้า ฉัน สามารถปกป้องนายได้ชั่วคราว ไม่สามารถปกป้องได้ตลอดไป ฉันไม่อยากเก็บศพให้นาย

พูดจบบุณพจน์ก็หันตัวเดินไป แต่บุริศร์เรียกเอาไว้

“บุณพจน์ เรื่องในอนาคตนายไม่ต้องสนใจ นายควบคุมมันไม่ ได้หรอก คนเมื่อกี้นี้เป็นคนของพ่อนายใช่ไหม? พวกมันไม่กล้า ทําร้ายนาย จุดประสงค์ของพวกมันก็คือฉัน ฉันรู้ความคิดในใจ นาย นายอยากเป็นพี่น้องกับฉัน แต่ตั้งแต่ที่พ่อนายอยากฆ่าฉันเราก็ไม่มีโชคชะตาได้เป็นพี่น้องกันอีกแล้ว เขาคือพ่อของนาย นายไม่มีทางไม่เชื่อฟังเขา นายอยากปกป้องฉันอีก บนโลกนี้มัน มีเรื่องสมบูรณ์แบบอย่างนั้นที่ไหนกัน? ยังไงแล้วนายกับพ่อนาย ก็ต้องเลือกที่จะยอมรับหรือปฏิเสธ ฉันรู้ว่านายรู้สึกซับซ้อนกับ ฉัน แต่นายเที่ยงตรงกับพ่อของนาย ในเมื่อลำบากใจแบบนี้ งั้น ก็ไม่ต้องเลือก เลือกพ่อนายดีกว่า ถ้าจะเป็นคนเลวก็เลวให้ สมบูรณ์แบบหน่อย อย่าอ่อนไหวเหมือนพวกผู้หญิง”

คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้คุณพจน์รู้สึกแย่อย่างอธิบายไม่ถูก คนที่นี่ไม่ใช่คนโง่ เรื่องในวันนี้ทุกคนมองออกกันหมดว่ามัน เกิดอะไรขึ้น

เขาปรารถนาอยากเป็นพี่น้องกับบริศร์ ปรารถนาความรักของ ครอบครัว ปรารถนาอยากมีวันเวลาที่มีความสุขเหมือนตอนที่มี กับตรินท์ แต่บริศ พูดถูก เมื่อพิรุณวางแผนเอาชีวิตบุริศร์ ทุก อย่างมันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

บุณพจน์ไม่คิดว่าคนเลือดเย็นจิตใจโหดเหี้ยมอย่างตัวเอง แต่ เมื่ออยู่กับบุริศร์แล้วจะจิตใจลังเลไม่เด็ดขาดแบบนี้

น้ำตาใสหยดหนึ่งไหลออกมาจากหางตาเขา มันไหลออกมา อย่างไร้เสียงและหดหู

บุณพจน์พูดเสียงทุ้ม “คุณอาบุญทิวาอยู่หลังภูเขา จะหาเขา เจอไหมก็ขึ้นอยู่กับพวกนายเอง นายพูดถูก ฉันทำตัวเป็นคนเลว ไม่เก่ง มันล้มเหลวจริงๆ ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่มา เจอนายอีก บางทีตอนที่เจอนายอีกครั้ง เราก็เป็นศัตรูกันแล้ว บุรีศร์ ดูแลตัวเองให้ดีนะ

พูดจบเขาก็ยกเท้าเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

มองแผ่นหลังจากไปของบุณพจน์ นรมนก็พูดขึ้นอย่างสะเทือน อารมณ์ “จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้เลวร้าย” “เขาจะเลวหรือไม่เลวฉันไม่รู้ ฉันแค่รู้ว่ายังไงเขาก็เป็นลูกชาย

ของพิรุณ ฉันกับเขาไม่มีทางเป็นพี่น้องดีๆ กันได้

ในใจบริศร์ทำไมไม่รู้สึกเศร้า เมื่อครู่นี้บุณพจน์เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องเขาจริงๆ

ตั้งแต่เล็กจนโต เขานึกว่าตัวเองคือเฮียในครอบครัว เขาคือ ทายาทในครอบครัว ดังนั้นจึงบังคับให้ตัวเองแข็งแกร่ง บังคับ ให้ตัวเองดูแลผู้สูงอายุ ดูแลน้องชาย เขาถูกบอกว่าเขาคือความ หวังของทุกคนในตระกูลโตเล็กตั้งแต่ยังเด็ก เขาห้ามขี้ขลาด ห้ามอ่อนแอ ดังนั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าสักวันหนึ่งจะมีพี่ใหญ่ มาปกป้องเขาอย่างกล้าหาญแบบนั้น

ความรู้สึกแบบนี้มันประหลาดมาก แต่ก็น่าประทับใจมาก ประทับใจจนบุริศร์อยากร้องไห้นิดหน่อย และแฝงไปด้วยความ เจ็บปวดเล็กน้อย

นรมนจับมือเขาแน่น ไม่รู้ว่าควรปลอบเขาอย่างไร ก็เลยเงียบ ไป บางทีบุริศร์ในเวลานี้อาจจะต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น

ทั้งสองคนยืนอยู่ประตูทางเข้าหมู่บ้านน้ำใสนานมาก จน กระทั่งไม่เห็นเงาบุณพจน์แล้ว บุริศร์ก็ยังไม่ได้สติกลับมา
นามนก็ไม่พูดอะไร อยู่กับเขาเงียบๆ ลมยามค่ำคืนของที่นี่หนาวมาก หนาวจนทนไม่ค่อยไหว

บุรีศรีบถอดเสื้อโค้ตไปคลุมไหล่นรมน พูดขึ้นด้วยความเศร้า และหนักแน่น “ไปกันเถอะ กลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้เริ่มตามหาคุณ อารองทั้งภูเขาเรากัน”

“พรุ่งนี้ฉันกลัวว่าจะไม่ทันแล้ว

ดวงตานรมนยับยั้งอย่างลึกซึ้ง สิ่งที่พูดออกมาทำให้บริศ ตก ตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ