บทที่ 1279 อยู่ๆก็โดนป้อนอาหารหมา
ความตื่นเต้นของนรมนเห็นได้อย่างชัดเจน
บริศร์จึงมองไปที่หน้าจอ ตอนที่เห็นว่าเป็นนงลักษณ์ก็ชะงักไป “เธอส่งข้อความมาตอนนี้ หรือว่าจะรู้ตำแหน่งที่หายไปของ คุณอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้ว?”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น
นรมนเปิดข้อความของนงลักษณ์ด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
“นรมน คุณอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ในมือของพิรุณ
ประโยคสั้นๆที่ทำให้บุริศร์กับนรมนตะลึงงัน
พิรุณ?
โดยเฉพาะบุริศร์
ก็ไม่นานก่อนหน้านี้เขายังคุยกับบุณพจน์อยู่เลย ถ้าตอนนั้นรู้ ว่าคุณอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ในมือของพิรุณ ยังไงเขาก็ ต้องถามให้ได้ หรือที่บุณพจน์บอกว่าไม่ให้เขาเข้ามายุ่งเรื่องพวก นี้ ที่แท้เขารู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วงั้นเหรอ?
สีหน้าของบุริศร์แย่มาก
นโมนขมวดคิ้วแน่น
“พิรุณอยู่ที่ไหน?”
เหมือนเธอกำลังถามตนเอง ค่อนข้างกลัดกลุ้มใจ
บุริศร์มองเธอ ลังเลที่จะพูดออกมา “พิรุณอยู่ไหนผมไม่รู้หรอก แต่ลูกชายเขาบุณพจน์น่าจะอยู่แถวนี้
“W?”
นรมนมองบุริศร์ด้วยความประหลาดใจ
บุริศร์ถอนหายใจพูดขึ้น “ผู้ชายคนนั้นที่คุณเจอหน้าป้ายชื่อ หลุมศพตนนท์คือบุณพจน์
“อะไรนะ?”
แม้นรมนจะเดาได้ว่าตัวตนของผู้ชายคนนั้นไม่ธรรมดา แต่ กลับคิดไม่ถึงว่าคนๆนั้นจะเป็นพี่ชายต่างพ่อของบุริศร์ จึงอดไม่ ได้ที่จะตกใจ
บุริศร์ฝืนยิ้ม “อย่าคิดมากนะ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังคุณ แค่รู้สึก ว่าไม่จำเป็นต้องบอก เขา…….จะพูดยังไงดีล่ะ น่าจะไม่ได้มีเจตนา ร้าย แค่มาโน้มน้าวไม่ให้ผมยุ่งเรื่องของพี่คริชณะ แต่โดนผม ปฏิเสธไปแล้ว”
“โอ๊ะ? เขาโน้มน้าวไม่ให้คุณยุ่งเรื่องของพี่คริชณะ? เรื่องที่ค ริชณะเกี่ยวกับเขางั้นเหรอ?”
“เป็นไปได้ว่าน่าจะเกี่ยวกับพิรุณด้วย ตอนนี้ผมยิ่งรู้สึกว่าเรื่อง ปีนั้นพิรุณก็มีเอี่ยวด้วย”
บุริศร์หรี่ตาลงเล็กน้อย มองทิวทัศน์ด้านนอก พูดขึ้น “ความพินาศของหมู่บ้านดารายนเป็นเพราะพิรุณมอบแผนที่เข้าหมู่บ้าน ให้ธนเดช เขาบอกว่าเนื่องจากป่า โอเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านตา รายน จึงต้องมีความรับผิดชอบต่อหมู่บ้าน ไม่สามารถอยู่กับเขา ได้ถึงได้ทําอย่างนั้น บอกว่าถ้าไม่มีหมู่บ้านดารายน ป้าโอก็จะ อยู่กับเขาโดยที่ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น แต่ในระหว่างนั้นมีปัญหา หนึ่งที่ผมไม่เข้าใจมาโดยตลอด”
“ปัญหาอะไร?”
นรมนมองบุริศร์แล้วถามขึ้น แค่เขารู้สึกว่ามีปัญหา ส่วนใหญ่ มักจะเป็นประเด็นสำคัญ
บุริศร์พูดขึ้นเบาๆ “หมู่บ้านดารายนเป็นหมู่บ้านปิด หลาย พันปีมาแล้วที่พวกเขาแต่งงานกันระหว่างคนในหมู่บ้าน ไม่ ติดต่อกับคนภายนอกเด็ดขาด งั้นที่พิรุณไม่ใช่คนของหมู่บ้านดา รายน แล้วเขาเข้าไปในหมู่บ้านดารายนได้ยังไง? บอกว่าซ่อนตัว อยู่ในภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านดารายน แต่คุณก็เห็นภูเขาที่อยู่ ด้านหลังของหมู่บ้านดารายนจำเป็นต้องผ่านหมู่บ้านดารายน หรือแม้แต่หอบรรพบุรุษด้วยซ้ำ อยากจะพาคนนอกเข้าไปเงียบๆ คุณว่าเป็นไปได้เหรอ? ต่อให้ป๋าโอเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เรื่องนี้น่า จะปิดบังเอาไว้ได้ไม่นาน แต่พิรุณไม่เพียงเข้าไป กลับยังมีลูกกับ ป้าโอด้วย หลังจากให้กำเนิดลูกคนนี้แล้วถึงกับทำให้หมู่บ้านดา รายนพังพินาศ ภายในระยะเวลาเกือบปีกว่าๆ ในหมู่บ้านมีคน ซ่อนตัวอยู่แต่ไม่นึกว่าจะไม่มีใครสักคนที่รู้สึกได้เลย คุณว่าเป็น ไปได้เหรอ?”
ได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ นรมนก็ตอบสนองกลับมาทันที
“ความหมายของคุณคือป้าโออาจจะไม่ได้แอบพาพิรุณเข้าไป แต่เข้าหมู่บ้านไปอย่างสง่าผ่าเผย ถึงขั้นเป็นไปได้ว่าอาจจะมี อำนาจใหญ่โตในหมู่บ้านด้วย ดังนั้นจึงสามารถเข้าไปอยู่กับคน ของหมู่บ้านดารายนที่ปฏิเสธการเข้ามาของบุคคลภายนอกใน ระยะเวลาปีกว่าๆงั้นเหรอ?”
“ใช่ แต่หมู่บ้านดารายนที่ปฏิเสธไม่ให้คนนอกเข้าไปมาโดย ตลอด ทำไมพิรุณถึงเป็นข้อยกเว้นล่ะ? หรือหมู่บ้านเคยเกิดเรื่อง อะไรที่พวกเราไม่รู้ขึ้น ผมหมายถึงเรื่องสำคัญบางอย่างที่เกิดขึ้น แล้วปีกว่าก่อนที่หมู่บ้านจะพังพินาศไป
บุริศร์ไม่เข้าใจเรื่องนี้
บางทีถ้าเข้าใจปัญหานี้ เรื่องของหมู่บ้านดารายนคงจะชัดเจน มากขึ้น
ตอนนี้เข้าใจสาเหตุที่หมู่บ้านดารายนพังพินาศแล้ว แต่ก็เป็น แค่เปลือกนอกเท่านั้น คนที่รู้ความจริงคงมีเพียงคุณอารอง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคนเดียวแล้ว แต่น่าเสียดายที่คุณอารอง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ในมือของพิรุณ
ยังมีใครที่รู้เรื่องปีนั้นของหมู่บ้านดารายนอีกบ้างล่ะ?
บุริศร์เข้าใจดี ที่บุณพจน์โน้มน้าวให้ตนเองออกไปจากที่นี่ ไม่ อยากให้ยุ่งเรื่องพวกนั้น เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจจริง เขาหวังดีกับ ตนเอง แล้วก็เพราะในใจของเขาเห็นว่าตนเองเป็นพี่น้อง
อาจจะเพราะเหตุผลที่มีตรินท์อยู่ บางทีผู้ชายคนนั้นคงเฝ้า ปรารถนาความรักจากครอบครัวจริงๆ แต่ถ้าจะให้บุณพจน์หันปากกระบอกปืนไปหาพิรุณ บุริศร์ก็แน่ใจว่า บุณพจน์ทำไม่ได้อยู่ แล้ว
ดังนั้นต่อให้บุณพจน์รู้เรื่องอะไรของหมู่บ้านดารายน เขาก็คง ไม่พูด ยิ่งไม่พุ่งเป้าไปหาพ่อของตนเองเพื่อคนที่เรียกว่าเป็นพี่ น้องอย่างเขาหรอก
นอกจากนี้ บริศร์ไม่รู้แล้วจริงๆว่าจะไปถามเรื่องนั้นจากใคร
ได้อีก
กมลกับกิจจาฟังอยู่เงียบๆ ราวกับไม่มีอะไรเข้าไปในหูเลย แต่ แล้วในเวลานี้จู่ๆกมลก็เอ่ยปากขึ้น
“หนูรู้จักคนๆหนึ่งบางทีอาจจะรู้ความจริงที่หมู่บ้านดารายนฟัง พินาศ ในปีนั้นก็ได้
“ang?”
นรมนค่อนข้างแปลกใจ มองลูกสาวของตนเองไม่ออกขึ้น
เรื่อยๆแล้ว
กมลโดนมองอย่างนั้นจึงรู้สึกเคอะเขินขึ้นมา เก่าๆหัวพูดขึ้น “หม่ามี้ อย่ามองหนูแบบนี้ ก็ปีวราคนนั้นไงคะ หม่ามีของเธอเป็น คนของหมู่บ้านดารายน ตอนนี้น่าจะอายุมากแล้ว อีกอย่างนั้น ตอนที่หมู่บ้านดารายนพังพินาศหม่ามีเธอโดนขับไล่ออกจาก หมู่บ้านถึงเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิด บางทีอาจจะรู้อะไรบ้าง ก็ได้”
นรมนกับบุริศร์จึงนึกถึงปีวราคนนั้นขึ้นมา
ในสายตาของปุริศร์ ปีวราเป็นคนของคริชณะ เพื่อเป็นการ ปกป้องเธอหรือให้เธออยู่ทำงานลับที่ด้านนี้ จึงจำเป็นต้องสร้าง ประวัติส่วนตัวที่พิเศษสักหน่อย ดังนั้นตัวตนของปีวรา ในตอนนั้น ที่บอกว่าเป็นลูกหลานของหมู่บ้านดารายนริศร์ไม่ได้เก็บมา ใส่ใจเลย ถึงยังไงที่หมู่บ้านดารายนโดนทำลายไปเป็นคู่ความ ทรงจําของเขาที่ให้คำตอบออกมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคนๆนั้นที่ ดูไม่ได้โดดเด่นไปกว่าคนอื่น แม้แต่กมลก็ยังรับมือไม่ได้ไม่นึก เลยว่าปีวราจะเป็นลูกหลานของหมู่บ้าน ดารายนจริงๆ
ตอนนั้นแค่คิดว่าปีวราไม่ได้รู้สึกถึงร่างกายของเขาที่มี ทองคำ ทั้งๆ ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านดารายนที่ดำรง ตำแหน่งขณะนั้น ดังนั้นบุริศร์ถึงคิดว่าตัวตนของเธอเป็นเรื่องที่ แต่งเติมมา เพื่อความสะดวกในการทำงาน ตอนนี้คิดๆดูแล้ว สงสัยว่าจะเป็นเพราะแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นบนร่างกาย ของเธอถึงไม่มีความทรงจำ ถึงตัวตนที่แท้จริงของบุริศร์ไม่ ได้
**( เป็นวิชาอาคม ที่เอาสัตว์มีพิษทั้ง 5 มารวมกัน ในไห (1) คือ งูพิษแมงปอง-ตะขาบ-คางคก-แมงมุมพิษซึ่งสัตว์มีพิษทั้ง 5 ชนิด จะฆ่ากันเองภายใน และจะมีสัตว์มีพิษ 1 ตัวเท่านั้นที่จะ ชนะ เพราะกินสัตว์พิษตัวอื่นเข้าไป ทำให้กลายเป็นสัตว์ที่มีพิษ ร้ายแรงที่สุด สามารถฆ่าคนให้ตายได้ในทันที ซึ่งในละครจะมี ผ้ายันต์ และหน้ากาก ที่ใช้สะกด บังคับสัตว์พิษให้ฆ่าคนหรือ ควบคุมคน)
หาคำตอบในจุดนี้ได้แล้ว บุริศร์จึงรู้สึกโล่งขึ้นมา
“บ้านของเราอยู่ไหน? พวกเราต้องกลับรถไหม?”
“ไม่ต้องค่ะ หม่ามีของเธออยู่ที่ที่พวกเรากำลังจะไป เป็นหมู่ บ้านเล็กๆ เรียกว่าหมู่บ้านน้ำใส
กมลยิ้มกริ่มพูดขึ้น
นึกถึงปีวราที่ยังติดค้างมื้ออาหารอร่อยๆกับตนเองอยู่ อารมณ์ ของเธอก็ดีทีเดียว
บริศ เห็นกมลอย่างนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ลูบหัวของเธอ “เก่ง จริงๆ”
“แน่นอนค่ะ!”
กมลค่อนข้างภูมิใจ
นรมนเห็นฉากนี้ ก็ยิ้มเล็กน้อย
กิจจายังไม่ค่อยชินกับการเปลี่ยนไปของกมลเลย ถามขึ้น เบาๆ “ปีวรานั่นเธอเพิ่งได้เจอแค่ครั้งเดียวไม่ใช่เหรอ? ข้อมูล พวกนี้ไปรู้มาได้ยังไง? กานต์ช่วยเธอสืบเหรอ?”
“ไม่ใช่ เธอเป็นคนบอกหนูเอง”
“ตอนไหน?”
กมลชะงักไปครู่หนึ่ง คงบอกว่าเป็นตอนที่กิจจาโดนหม่าม ทำให้หมดสติแล้วเอาไปซ่อนไว้ในครัวไม่ได้สินะ พูดอย่างนั้น เรื่องที่ตนเองเป็นมือปืนซุ่มยิงก็จะโดนพี่กิจจารู้เข้าใช่ไหมล่ะ? เท่าที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้พี่กิจจายังแทบจะยอมรับไม่ได้อยู่แล้ว ถ้ารู้เรื่องที่เธอยิงปืนได้……..
กมลรู้สึกว่าตนเองต้องคนมีเมตตาสักหน่อยดีกว่า จิตใจดีอีก หน่อยจะดีกว่า
“หนูลืมแล้ว จําได้แค่เธอบอกว่าจะเลี้ยงข้าวหนู บอกว่าที่ด้าน นี้มีของอร่อยเยอะแยะ เธอจะเลี้ยงหนูด้วยเมนูเนื้อสัตว์ที่บินอยู่ บนฟ้า วิ่งอยู่บนพื้น ว่ายอยู่ในแม่น้ำ ส่วนเรื่องอื่นๆหนูจำไม่ได้
เท่าไหร่แล้ว”
อยู่ๆตอนนี้ปีวราก็จามไปตั้งหลายครั้ง เอาแต่รู้สึกว่าคนๆจมูก ใครกําลังพูดถึงเธออยู่
บุริศร์ได้ยินกมลพูดอย่างนี้ จึงหัวเราะออกมาโดยปริยาย นรมนก็ไม่ได้แฉค่าพูดของกมล
แม้กิจจาจะยังสงสัยอยู่บ้าง แต่ทว่ามองดวงตาโตๆ ใสแจ๋ว
ของกมล สุดท้ายก็ถอนหายใจพูดขึ้น “เธอมีความสุขกับการเป็น
นักกินไปดีกว่านะ”
“หนูก็คิดอย่างนี้ ทั้งยังพยายามมาโดยตลอดด้วย
กมลพยักหน้าอย่างจริงจัง ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนพากันข ออกมา
บรรยากาศกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
นรมนค่อนข้างคาดหวัง
เดิมทีรู้สึกว่าพวกเขามาเพราะเรื่องของพี่คริชณะ แต่กลับไม่คิดว่าเรื่องของครีขณะกับเรื่องที่พวกเขาต้องสืบหาค่อยๆรวมเข้า ด้วยกันแล้ว ไม่สิ อาจจะเป็นเรื่องเดียวกันตั้งแต่แรกก็ได้
เพราะเรื่องของหมู่บ้านดารายนคริขณะจึงโดนควบคุมเอาไว้
บุริศร์อาจจะพูดถูก คริชณะต้องรู้อะไรแน่ๆ บางทีอาจจะไป แตะต้องความจริงที่หมู่บ้านดารายน โดนทำลายในปีนั้นถึง ประสบโชคร้าย โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
นรมนกำลังมองถนนข้างนอก คาดหวังเหลือเกินว่าเรื่องนี้จะ สืบเจอความจริงได้ในเร็ววัน
พิรุณ!
ชื่อนี้ที่เคยได้ยินมานานจนลืมไปแล้ว ผู้ชายที่ไม่เคยปรากฏตัว ออกมาเลย คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นตัวการสำคัญของเรื่องนี้
ปีนั้นเขาไปหมู่บ้านดารายนเพราะอะไรกันแน่? สำหรับเขาที่
เป็นข้อยกเว้นของหมู่บ้านดารายนจนทำให้เกิดความสงสัย อาจ
จะอีกไม่นานแล้วที่จะได้รู้คำตอบ
นรมนกำลังรอคอย ในใจค่อนข้างตื่นเต้น
เรื่องของหมู่บ้านดารายนเป็นปัญหามาถึงคนสองรุ่นแล้ว ยิ่ง ไปกว่านั้นยังทำให้ชีวิตของบุริศร์กับตรินท์แย่มากๆด้วย ตอนนี้ ถ้าพอที่จะหาช่องโหว่เจอ พอที่จะเจอทางสว่างเพื่อแก้ไขการถูก ใส่ร้ายในปีนั้นได้ ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
นรมนจับมือของบุริศร์เอาไว้แน่น เต็มไปด้วยความคาดหวังกับวันข้างหน้า
ในใจของบุริศร์ก็ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว มองดวงตาที่อ่อนโยน ราวกับสายน้ำของนรมน ในใจก็อ่อนยวบไปหมด
ภารกิจที่ไม่มีใครแทนที่ได้ของตนเองกับโชคชะตาที่โดนลอบ ทำร้ายทำให้เขาเจ็บปวด โชคดีที่เรื่องพวกนี้ผลักนรมนมาอยู่ ข้างกายเขา ยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกที่มีต่อกันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นี่อาจ จะเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่พลิกกลับมาเป็นโชคดีก็ได้
กมลเห็นท่าทีของพ่อแม่ที่อบอวลไปด้วยความรัก จึงอดไม่ได้ที่ จะหงุดหงิด
รู้สึกอิ่มขึ้นมากะทันหันเลยทำยังไงดี?
ไม่มีธุระแล้วจะมาอยู่บนรถคันนี้ทำไม?
จู่ๆก็โดนป้อนอาหารหมาซะแล้ว
กมลกัดแก้วมังกรไปหนึ่งคำด้วยความท้อแท้ แกล้งทำเป็น มองไม่เห็นอะไรเลย
กิจจาเม้มปากยิ้มๆ
รถขับใกล้จะถึงหมู่บ้านน้ำใสแล้ว เห็นหมู่บ้านเล็กๆข้างหน้าที่ ทิวทัศน์สวยงาม จู่ๆกมลก็เบิกบานขึ้นมาทันที
เธอหยิบมือถือออกมาถ่ายรูป แล้วส่งไปให้ปีวรา นอกจากนั้น ยังถือโอกาสพิมพ์ข้อความเพิ่มเติมไปด้วย
“ปีวรา ฉันถึงบ้านเธอแล้วนะ อย่าลืมเลี้ยงข้าวฉันด้วย” หลังจากส่งออกไปกมลกำลังจินตนาการถึงอาหารเต็มโต๊ะอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆก็โดนบุริศร์ดึงเข้ามา ท่าทางที่เคร่งขรึมของบุรีศร ทําให้กมลอดตกใจไม่ได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ