แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1271 ฉันจะยิงขานายให้ใช้การไม่ได้เลย



บทที่ 1271 ฉันจะยิงขานายให้ใช้การไม่ได้เลย

“บริศร์!”

“กมล!”

ในใจของนรมนกับกิจจากำลังคิดถึงคนๆหนึ่งขึ้นมาพร้อมกัน แต่เสียงปืนด้านนอกดังตัวมากเกินไป ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหว

ไม่ได้

“กิจจา ฟังหม่ามี้นะ ตอนนี้ออกไปไม่ได้”

ในดวงตาของนรมนมีน้ำตา แต่แววตากลับเด็ดเดี่ยวมาก

“หม่าม แต่กมลทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่ทักษะป้องกันตัวขั้น พื้นฐานเธอก็ไม่มี ต่อให้พวกเราเคยฝึกฝนกันมาก่อน แต่สุขภาพ ของกมลต่างจากคนอื่น กานต์จึงใช้เส้นสายให้ผ่านไปได้โดยที่ ไม่ได้ฝึกฝนจริงๆ หม่ามี้ เธอกับแด๊ดดี้อยู่ด้วยกันต้องโดนจับจ้อง แน่ๆ ผมจะไปช่วยเธอ !”

กิจจาพูดแล้วก็ดิ้นรนจะออกจากอ้อมกอดของนรมน แต่กลับ โดนนรมนดึงเอาไว้แน่น

“ฟังนะ ข้อแรก กมลเป็นลูกสาวของบุริศร์ เขาต้องปกป้องเธอ สุดชีวิตอยู่แล้ว ข้อสอง ลูกเป็นลูกเพียงคนเดียวของตนท์ ต่อให้ กมลกับกานต์เกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ไม่ใช่หน้าที่ของลูกที่จะไปช่วย พวกเขา กิจจา ชีวิตของลูกมีค่ากว่าชีวิตของพวกเขาเข้าใจ ไหม?”
คำพูดของนรมนทำให้กิจจาตะลึงงัน

“หม่ามี้ พูดอะไรน่ะ?”

“หม่ามี้พูดอะไร? หม่ามีบอกว่าลูกเป็นคนของตระกูลโตเล็ก เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตนท์ ความเสียใจที่ใหญ่หลวง ที่สุดในชีวิตของบุริศร์ก็คือช่วยพ่อของลูกเอาไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ฝัง แน่นอยู่ในใจของเขา ความหมกมุ่นในใจที่ปล่อยวางไม่ได้ ดัง นั้นจะเกิดเรื่องกับใครก็ได้ ยกเว้นลูกเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นก มล หรือกานต์ก็ตาม ในเวลาที่ประสบอันตรายพร้อมๆกับลูก พวกเขาจึงต้องปกป้องลูก ที่ลูกรู้สึกว่าตนเองเอาแต่พึ่งพาอาศัย คนอื่น เป็นเพราะพวกเราทำได้ไม่ดีพอ ตระกูลโตเล็กเป็นบ้าน ของลูก พวกเราเป็นครอบครัวของลูก ถึงหม่าจะเป็นห่วงกมล แต่ก็ให้ลูกไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้ ดังนั้น ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ต้องฟังหม่ามี้!”

น้ำตาของนรมนกำลังไหลรินออกมาเงียบๆ

เธอก็เป็นห่วง เสียใจ ถึงกับค่อนข้างร้อนรน เสียงปืนด้านนอก ดังรัวขนาดนั้น บุริศร์กับกมลไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว พวกเขาอยู่ไม่ไกล แต่กลับไม่ได้ยินเสียงของกมลกับบุริศร์เลย นี่ หมายความว่าอะไร?

ไม่ว่าจะเพราะพวกเขาส่งเสียงไม่ทัน ไม่ว่าจะเพราะพวกเขา เกิดเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนสำหรับนรมนแล้วก็ทนไม่ ได้ทั้งนั้น

แต่กิจจายังอยู่ เธอจะไม่ยอมให้กิจจาเป็นอันตรายเด็ดขาด
ในใจของกิจจาสั่นไหว จู่ๆก็เหมือนอะไรในใจระเบิดออกมา เป็นบาดแผลใหญ่ เลือดหยดย้อยออกมาอย่างเจ็บปวด

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนี้ หม่า ไม่ใช่ ผมไม่ควรพูดคำพูดพวกนั้น ผมไม่ควรคิดอย่างนั้น เป็นผมเองที่เลว เป็นผมเองที่ไม่ดี ผมไม่ ได้สำคัญขนาดนั้น ไม่มีจริงๆ ในใจของผม กมลกับกานต์เป็น น้องของผม ผมไม่สามารถให้พวกเขาสละชีวิตเพื่อผมได้ หม่ามี เคยบอกว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวเดียวกันก็ ไม่มีอะไรสำคัญไม่สำคัญใช่ไหมครับ? หม่าให้ผมออกไปได้ ไหม? กมลสุขภาพไม่ดี เสียงปืนดังขนาดนั้น เธอต้องกลัวแน่ๆ!”

กิจจาร้องไห้แล้ว ร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เขาไม่ต้องการ!

เขายอมให้ตนเองเกิดเรื่องดีกว่า จะให้กมลกับกานต์เกิดเรื่อง เพราะเขา

วินาทีนี้ เขาสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า ครอบครัว

ตรินท์กับเขมิกาเป็นพ่อแม่ของเขา แต่พวกเขาเพียงแค่ให้ชีวิต เขาเท่านั้น เป็นบริศร์กับนรมนูต่างหากที่สอนให้เขาใช้ชีวิต เป็น กานต์ที่ทำให้เขารู้ว่าความรักจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เป็นก มลที่ทำให้เขากลายเป็นที่พึ่งพิง

พวกเขาคือครอบครัวของเขานะ คนที่เสียชีวิตก็เสียชีวิตไปแล้ว เขาคิดเล็กคิดน้อยมากมายขนาดนั้นจะมีประโยชน์อะไร?

พ่อกับแม่ฟื้นคืนมาไม่ได้แล้ว แต่แด๊ดดี้หม่ามีของเขายังอยู่ พี่ น้องของเขายังอยู่ เขากำลังพัวพันอยู่กับอะไรกันแน่?

เขาทําอะไรอยู่กันแน่? กิจจาร้องไห้คร่ำครวญ พยายามจะวิ่งออกไปข้างนอก แต่กลับ โดนนรมน ใช้สันมือสับทำให้หมดสติไป

“ขอโทษนะ กิจจา หม่ามี้ให้ลูกออกไปไม่ได้”

นรมนซ่อนกิจจาไว้ในตู้ทั้งน้ำตา

เมื่อครู่เธอเห็นแล้ว ตู้ของที่นี่ใช้วัสดุกันกระสุนทำขึ้น ไม่แน่ ตอนที่ทำ บุริศร์คงจะนึกถึงเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงพวกนี้ จึงทำขึ้น มา

หลังจากก่อนกิจจาแล้ว นรมนหยิบปืนพกขนาดเล็กออกมา

จาก ในกระเป๋า

ตอนมาที่นี่เธอก็เตรียมป้องกันตัวจากอันตราย ของสิ่งนี้จึงพก ติดตัวอยู่ตลอด ตอนนี้ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ขึ้นมาจริงๆ

เสียงปืนดังรัวราวกับหยดน้ำฝน นรมนจึงกลิ้งออกไปจากห้อง ครัว ตอนที่เห็นฉากด้านนอกก็ตกตะลึงเล็กน้อย

บริศร์กำลังกราดยิงอยู่ที่ด้านหน้าหน้าต่าง ทำให้เกิดห่า กระสุนขนาดใหญ่ ไม่แน่ว่าคนพวกนั้นคงจะพุ่งเป้ามาที่บุริศร์ นี่ เป็นสิ่งที่สายตาของนรมนสามารถคาดเดาได้ แต่สิ่งเดียวที่ทําให้เธอคาดเดาไม่ได้ก็คือกมล

แค่เห็นเธอหมอบอยู่บนหลังของห้องรับแขก หาจุดซุ่มยิงที่ดี มากๆ ในมือกำลังถือปืนซุ่มยิงที่ดัดแปลงใหม่ เหนี่ยวไกปืนเล็ง ไปที่ด้านหน้า

นรมนตกตะลึงไปเลย

นี่คือกมลที่รู้จักแต่เรื่องของกินจนเป็นภาพจำของเธอไปแล้ว งั้นเหรอ?

การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วได้มาตรฐานของเธอ ท่าทางที่ เคร่งขรึมของเธอ แววตาของเธอเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเห็นมา ก่อน

นรมนคิดว่าตนเองกำลังตาลาย หลังจากที่พยายามขยี้ตากลับ ยังเห็นกมลลั่นไกอย่างใจเย็น เหมือนเหยี่ยวที่นอนจําศีลอยู่ใน ความมืด ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกหวาดผวา

วินาทีนี้ ในหัวของนรมนมีเรื่องราวในอดีตของกมลเด้งขึ้นมา ทันที

อาจจะตั้งแต่เริ่มต้น ที่เธอไม่เคยเข้าใจลูกสาวของตนเอง

อย่างแท้จริงเลย

เอาแต่คิดมาโดยตลอดว่าเป็นคนที่ต้องได้รับการปกป้อง คุ้มครองที่สุด แต่กลับทำให้เธอตกใจและประหลาดใจมาก ขนาดนี้

นรมนรีบสงบจิตใจ หลังจากแน่ใจว่ากมลกับบุริศร์อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการให้ตนเองเข้าไปช่วยเหลือ เธอจึงรีบ กลับเข้าไปในครัว เปิดหน้าต่างที่ด้านหลังแล้วกระโดดออกไป

เพราะกำลังหาที่ซ่อนตัว นรมนจึงเห็นทหารรับจ้างมากมาย เดินมาทางนี้ ในมือของพวกเขามีแต่อาวุธหนักๆทั้งนั้น

ทหารรับจ้าง?

ใครกันที่อยากให้บริศ ตายอยู่ที่นี่?

นรมนก็ไม่ทันได้คิดอะไรมากมาย ยกมือขึ้นยิงไปทางพวกเขา จากมุมลับทันที

เธอยิงออกไปหนึ่งนัดแล้วก็ย้ายตำแหน่ง เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้

ไม่พบตำแหน่งของเธอในทันที กมลเห็นร่างของนรมนจากกล้องส่องทางไกล จึงพูดขึ้นเบาๆ

“แด๊ดดี้ หม่ามออกไปแล้ว

บุริศร์หรี่ตาลงเล็กน้อย

“ลูกจัดการเองได้ไหม?”

กมลมือสั่นขึ้นมาทันที

“แด๊ดดี้ ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย? หนูเป็นแค่เด็กนะ! แด๊ดดี้จะให้ หนูเผชิญหน้ากับทหารรับจ้างตั้งเยอะแยะคนเดียวได้ยังไง? แด๊ด ดี้แน่ใจใช่ไหมว่าเป็นพ่อแท้ๆของหนู?”

“อย่าโวยวายหน่า หม่ามีสุขภาพไม่ดี แด๊ดดี้ต้องไปช่วยเธอ อย่าคิดว่าแด๊ดดี้ไม่รู้นะว่าลูกมาทำอะไรที่หมู่บ้านดารายน เจ้าดนัยน่ะในเมื่อให้ลูกออกมาส่งข่าวให้เขา ก็ต้องมีคนคอยรักษา การณ์อยู่ที่นี่แน่ๆ อย่างเช่นปีวราคนนั้น ว่าไง?

บุริศร์ยิงไปพูดไป ทำให้กมลอ้าปากกว้างด้วยความตกใจ ทันที

“ต่อหน้าแด๊ดดี้ พวกลูกยังขาดประสบการณ์อยู่อีกหน่อย ที่ พวกลูกเล่นกันอยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งที่แด๊ดดี้กับคุณลุงคริชณะเล่นค้าง เอาไว้จากตอนนั้น ติดต่อเรา ให้เธอพาคนมาช่วยเหลือ แด๊ดดี้ ให้เวลาลูกหนึ่งนาทีจัดการเรื่องนี้ เสร็จแล้วแด๊ดดี้จะไปช่วยหม่า

ได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ กมลก็พ่ายแพ้ย่อยยับ

เธอคิดว่าตนเองเล่นละครเนียนพอตัวแล้วนะ ไม่คิดว่าจะโดน บริศ มองออก ไม่เพียงมองออกเท่านั้น แต่ยังเขย่ารายละเอียด ทั้งหมดของเธอออกมาอีก

น่าเบื่อจริงๆเลย!

กมลบ่นพึมพำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หยิบมือถือออกมาโทรหาปี

วรา

“นี่เธอถ้ายังคิดจะบิดพลิ้วต้องเลี้ยงของพวกนั้นฉันนะ ฉันกล้า รับรองเลยต่อให้เป็นผีก็จะไปทารุณเธอในความฝันทุกวันแน่ๆ

น้ำเสียงราวกับนางฟ้าของกมลกำลังพูดข่มขู่เหมือนกับปีศาจ ร้าย ทําให้ปีวราเกือบจะสำลักน้ำลายตนเองตายแล้ว

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ บอกตนเองอยู่ตลอดว่ากมลเป็นคนของนายน้อย ห้ามล่วงเกิน แล้วจึงพูดขึ้นเบาๆ “ฉันพาคนมาถึง แล้ว อีกหนึ่งนาทีจะถึงสนามรบ

“ละเลยหน้าที่จริงๆ ถ้าฉันเป็นคุณหนูที่อ่อนแอ ตอนนี้เธอคง เข้ามาเก็บศพฉันแล้วแหละ พี่ดนัยคนที่เชื่อใจได้ขนาดนั้น ทำไม คราวนี้ถึงแนะนำลูกน้องที่ไม่น่าไว้ใจขนาดนี้ให้ฉันนะ?”

กมลพูดจบก็ตัดสาย น้ำเสียงที่เหยียดหยามแทบจะทำให้ชีว ราโมโหแย่แล้ว

เธอยังบาดเจ็บอยู่เข้าใจไหม?

ถ้าไม่ใช่คนของบุริศร์ทำร้ายเธอจนเป็นแบบนี้ เธอจะมาช้าได้ ยังไงล่ะ?

เธอได้รับบาดเจ็บอยู่ต่างหาก!

พ่อลูกคู่นี้ใจร้ายใจดำเหมือนกันจริงๆ

ปีวราบอกตนเอง ต่อไปถ้าเจอพวกเขาอีกต้องเดินอ้อมไปเลย น่ากลัวเหลือเกิน

บุริศร์นั่น เห็นๆอยู่ว่าต้องปล่อยเธอไปจะได้เรียกกำลังคนมา ช่วย แต่กลับข่มขู่เธอให้หาหลักฐานว่าตนเองบริสุทธิ์ จัดการเธอ จนเกือบตาย ตอนนี้ยังจะให้มาช่วยชีวิตพวกเขาสองคนพ่อลูกอีก

ปีวราคนอย่างเธอทำไมโชคชะตาโหดร้ายขนาดนั้นถึงได้มา เจอกับพ่อลูกจิ้งจอกคู่นี้?

ที่ร้ายที่สุดก็คือ ไม่ต้องพูดถึงที่ตนเองเจ็บตัว แต่ยังต้องเสียเงินอีก!

นี่มันเวลาอะไรแล้ว?

ยัยกมลนั่นไม่นึกว่าจะยังห่วงกินอยู่อีก

พระเจ้าคะ เธอจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ

ดวงตาของปีวราแดงขึ้นเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างดุดัน “ถ้าวันนี้ไม่ จัดการทหารรับจ้างพวกนั้น ให้ราบคาบ พวกนายก็ไม่ต้องทำ แล้ว!”

“ครับ!”

ลูกน้องยี่สิบกว่าคนที่สวมชุดเหมือนกัน ตอบอย่างพร้อม

เพรียง

“เข้าสนามรบ

ภายใต้คําสั่งของปีวรา ยี่สิบกว่าคนนั้นก็เข้าไปร่วมมืออย่าง

รวดเร็ว

เพราะมีการร่วมมือจากพวกเขา สถานการณ์จึงเปลี่ยนแปลง

ไปมาก

บุริศร์ไม่รีรอ กระโดดออกจากหน้าต่างวิ่งอ้อมไปหานรมินทัน

กมลเห็นตนเองโดนแด๊ดดี้ทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย จึงอดไม่ได้ที่ จะคร่ำครวญ “ถ้ารู้แต่แรกฉันคงเป็นเด็กผู้หญิงที่แสนว่าง่ายจะไม่ ดีกว่าเหรอ? วันๆเอาแต่กินๆดื่มๆไม่สุขสบายเหรอ? จะเปิดเผยพละกำลังของตนเองทำไม? ต่อไปแด๊ดดี้ก็จะไม่ตามใจเธออีก แล้ว ฮือๆ ฉันน่าสงสารจัง

พูดๆอยู่ก็รู้สึกว่าตนเองน่าสงสารจริงๆ ถือปืนซุ่มยิงพุ่งไปทาง

ทหารรับจ้างพวกนั้นที่อยู่ด้านหน้า

“ใครให้พวกนายทำลายภาพลักษณ์นางฟ้าของฉัน! ฉันจะยิ่ง ขาพวกนายให้ใช้การไม่ได้อีกเลย!”

เพิ่งพูดจบ กระสุนก็ทะลุเข้าไปที่ขาซ้ายของทหารรับจ้าง นาย คนนั้นจึงร้องโหยหวนล้มลงไปบนพื้นทันที

กมลเล็งไปที่อีกคนหนึ่ง พูดขึ้นเบาๆ “ใครให้พวกนายทำลาย ภาพลักษณ์นักกินของฉัน ต่อไปฉันจะไม่ให้นายได้จับตะเกียบอีก ดูสินายจะกินยังไง”

พูดๆอยู่ กระสุนก็ทะลุผ่านฝ่ามือของอีกฝ่ายไปแล้ว

ยังไงซะกมลก็เป็นแค่เด็ก กระสุนที่ยิงออกไปจึงไม่ทำร้าย จนถึงชีวิต ถึงได้สร้างความลำบากมากๆ ให้กับพวกปีวรา เมื่อ ทหารรับจ้างไม่ตาย ก็ต้องยิงอยู่ตลอด

“หัวหน้าปีวรา มือปืนซุ่มยิงฝ่ายศัตรูส่งมาหรือเปล่า?”

มีสมาชิกในกลุ่มค่อนข้างหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆแล้ว เอ่ยปาก

บ่น

ปีวราก็โมโหอยู่บ้าง

“ฉันจะรู้ได้ไง? รีบๆจบงาน เคลียสนามรบ! โธ่โว้ย! มือปืนซุ่มยิงเป็นใครเนี่ย? อีกเดี๋ยวฉันจะถลกหนังเขาให้ได้!” หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็โดนคำพูดนตบหน้าอย่างจัง

เนื่องจากกมลกำลังเช็ดปืนซุ่มยิงอยู่ พูดขึ้นอย่างไม่รู้สึกผิด “ฉันก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงอายุห้าขวบ ฆ่าคนเรื่อง ที่โหดร้ายอย่างนี้จะเหมาะสมให้ฉันทำได้ยังไงล่ะ? ฉันช่วยพวก เธอยังพวกเขาให้บาดเจ็บได้ก็ไม่เลวแล้วนะ คนๆนั้นน่ะ เธอจะ เลี้ยงของอร่อยฉันเพื่อเป็นรางวัลหน่อยไหม?”

ปีวรายกมุมปากขึ้นมาทันที เธออยากกลับบ้าน

เธอคิดถึงแม่!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ