บทที่ 1259 นายแน่ใจเหรอว่าเป็นลูกแท้ ๆ ของฉัน
การเงียบขรึมของกานต์ทำให้นรมนรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร เธอได้แต่มองลูกชายอยู่อย่างเงียบ ๆ แล้ว รู้สึกว่าลูกชายคนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหมือนบุริศร์เข้าไปจริง ๆ แล้ว
เขาหนักแน่น โตก่อนวัย แล้วก็มีเหตุมีผล แถมยังแฝงไว้ด้วย ความทรงอำนาจและเย็นชาเสี้ยวหนึ่ง
ไม่ได้แตกต่างกับบุริศร์สักเท่าไหร่เลยจริง ๆ
นรมนจ้องมองลูกชายที่อยู่ตรงหน้า แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดขึ้น
มาว่า ในอนาคตข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหนถึงจะ สามารถเอาลูกชายอย่างนี้อยู่ได้
ในขณะที่เธอรู้สึกตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่นั้น อยู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้น
มา
กานต์แค่ห้าขวบเอง เธอมาคิดถึงเรื่องอนาคตแล้ว มันเร็วเกิน ไปหน่อยหรือเปล่า?
พอเห็นว่าอยู่ ๆ นรมนก็หัวเราะขึ้นมา กานต์ก็อึ้งไปเล็กน้อย แล้วถามขึ้นว่า “หม่าม หม่าเป็นอะไรครับ? ผมมีอะไรน่าตลกเห รอครับ?”
“ไม่อะไร ก็แค่คิดว่าหนูจะหาภรรยาแบบไหนได้ในอนาคต แล้วชั่วขณะหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นกังวลมากเกินไปแล้ว
ไม่ว่ายังไงกานต์ก็นึกไม่ถึงว่าจะสามารถได้ยินคำพูดแบบนี้ ออกมาจากปากหม่ามีของตัวเองได้ จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปที่หนึ่ง จากนั้น ใบหน้าเล็ก ๆ ก็แดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
“หม่ามี้ ผมยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่งอยู่นะครับ
“อืมอึม ใช่ ใช่ หนูยังเป็นเด็กอยู่ เป็นหมานี้เองที่คิดเร็วเกินไป แต่ว่าลูกชายของหม่ามี้หล่อขนาดนี้ แล้วก็รู้เรื่องขนาดนี้ อนาคต ข้างหน้าจะต้องมีเด็กผู้หญิงมาชอบหนูมากมายแน่ แต่กลัวว่า อนาคตหนูมีดอกไม้งามมาให้เยอะแยะนั้น อาจจะเลือกยากอยู่ นะ”
ในหัวสมองของนรมนเกิดภาพตอนที่ลูกชาย โตแล้วขึ้นมา
ลูกชายของเธอหล่อขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องไม่ขาดการที่มี เด็กผู้หญิงมาชอบแน่ พอถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเหมือนบุริศร์ที่ ทำตัวเป็นห่างเหินเป็นพันหรือเปล่า
กานต์ฟังนรมนพูดเรื่องพวกนี้ไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกเด็กผู้ หญิงคนนั้นที่อวดดีหยิ่งยโสกระทั่งอาจจะป่าเถื่อนไปบ้าง
หนำซ้ำเด็กหญิงคนนั้นยังมาดูเขาอย่างไร้ยางอายด้วยซ้ำ
เธอชื่ออะไรนะ?
ชั่วขณะหนึ่งกานต์เกิดเหม่อลอยขึ้นมาเล็กน้อย
นรมนพูดจบแล้วก็มองไปที่ลูกชาย แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าไป หน่อยแล้ว ที่พบว่ากานต์เกิดเหม่อลอยขึ้นมาต่อหน้าตัวเองครั้ง แรก
“กานต์ หนูกำลังคิดอะไรอยู่จ๊ะ?”
กานต์ตั้งสติกลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดอย่างหนักแน่น ขึ้นว่า “ไม่มีอะไรครับ ผมกำลังคิดว่ามิลินจะรู้เรื่องอะไรบ้างหรือ เปล่า แด๊ดดี้กับหม่ามีสามารถติดต่อมิลินได้หรือเปล่าครับ? หรือ ว่าให้พี่กิจจาลองถามเธอดู?”
นรมนเองก็เคยนึกถึงมิลิน แต่ว่าพวกเขาไม่เหมาะสมที่จะไป หมู่บ้านดารายนอย่าง โอ่อ่าเปิดเผย เพราะฉะนั้นนรมนก็พูดเสียง ขึ้นว่า “เรื่องนี้รอให้ไปถึงหมู่บ้านดารายนแล้วค่อยว่ากันเถอะ ตอนนี้คาดว่าเธอคงจะตามฆ่านงลักษณ์อยู่มั้ง เอาล่ะ เรื่องอื่น มอบให้หม่ามี้กับแด๊ดดี้หนูเถอะ ระหว่างที่เราไม่อยู่ข้างกายหนู นั้น หนูต้องดูแลตัวเองดี ๆ ที่นี่เป็นฐานทัพใหญ่ของสหภาพ แล้วหนูก็ถือว่าเป็นนายน้อยของที่นี่ รออีกหน่อยคุณอาวินเซนต์หาย ดีแล้ว เขาก็จะมาดูแลหนูเป็นอย่างดี แต่ช่วงระยะเวลานี้หนูจะ ต้องรู้จักดูแลตัวเองให้ดีรู้ไหม?”
“รู้แล้วครับหม่ามี้ ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก แต่ว่าหม่ามี้และ แต๊ดดี้ไปหมู่บ้านดารายนจะต้องระวังตัวนะครับ ยังมีอีกอย่าง กมลไปทางนั้นอาจจะมีเรื่องด้วย ถึงแม้ยัยเด็กนี่ปากจะไม่พูด แต่ ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของคุณลุงครชนะแน่ พอถึงตอนนั้นก็ จะต้องระวังมากขึ้นหน่อยนะครับ ในเมื่ออยู่ที่นั่นที่ทางก็ไม่คุ้น เคย อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นละครับ
คำพูดของกานต์ทำให้นรมนพยักหน้าขึ้นเล็กน้อย
เธอกอดกานต์ไว้ในอกอย่างอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างมาก
วินาทีนี้ กานต์เองก็ไม่ได้ขัดขืน และพยายามซึมซับความรักที่ นรมนมีต่อตัวเองอยู่ ตั้งแต่เล็กเขาก็รู้แล้วว่าหม่ามีนั้นรักตัวเอง อยู่ แต่ว่าเรี่ยวแรงของคนคนหนึ่งนั้นมันมีขีดจำกัด ที่จริงแล้ว หม่ามี้ก็ลําบากมาก
กานต์ยื่นมือเล็ก ๆ ออกไปกอดหลังนรมนเอาไว้เบาๆ จากนั้นก็พูดเสียงต่ำว่า “หม่ามี้ รักกับคุณบุริศร์ หม่ามเสียใจ ไหมครับ?”
ถ้าหากว่าหม่ามชอบคนอื่น อย่างเช่นรมศคนก่อนหน้านั้น ก็
คงจะไม่ต้องลำบากเช่นนี้แล้วใช่ไหม? เขารู้ว่าตัวเองถามแบบนี้แล้วมันไม่ดีกับแด๊ดดี้ของตัวเองเอา
มาก ๆ แต่ว่าวินาทีนี้กานต์เป็นแค่ลูกชายคนหนึ่ง
ถ้าเทียบกับบริศแล้ว นรมนได้เอาชีวิตตัวเองคลอดเขาออก มา แล้วก็เพียงดูเขาตามลำพังมาห้าปี ในระยะเวลาห้าปีนี้ เขาได้ เห็นความยากลำบากของหม่ามมา และก็เคยได้เห็นสภาพที่ เกือบจะย่ำแย่ของหม่าม
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน คนที่เขารักที่สุดก็คือหม่ามี้
ไม่ว่ายังไงนรมนก็คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้มาจากปาก ลูกชายตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่าง อ่อนโยนมากขึ้นมา
เธอจ้องมองกานต์ จ้องมองสายตาที่มึนงงเล็กน้อยของเขา ยิ้ม แล้วก็พูดขึ้นว่า “ไม่เสียใจหรอก ชีวิตคนเราชาติหนึ่งก็จะต้องรู้ว่า สิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไร ชีวิตนี้ของหม่ามีสิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือความรักจากแด๊ดดี้หนู ขอแค่มีสิ่งนี้อยู่ ถึงแม้ว่า เส้นทางข้างหน้าจะต้องบุกน้ำลุยไฟ หรือมีหน้าผาสูงชัน หม่ามี ไม่กลัว
“แต่ว่าถ้าเปลี่ยนคนแล้วละก็ หม่ามีอาจจะมีชีวิตที่สบายขึ้น หรืออาจจะมีความสุขด้วย
“แต่ว่าคนคนนั้นก็ไม่ใช่แด๊ดดี้ของหนู”
นรมนรู้ว่าตอนนี้พูดสิ่งเหล่านี้กับลูกชายอาจจะเร็วเกินไป แต่ ว่าเธอก็ยังอยากจะให้กานต์เข้าใจ ชีวิตคนชาติหนึ่งนั้น ใช่ว่าจะ สามารถทุ่มเทหมดทุกอย่างเพื่อคนคนหนึ่งอย่างไม่สนใจอะไร เลยได้
ถึงแม้ว่าจะไม่มีสิ่งตอบแทน ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้เดิน ไปด้วยกัน แต่ความรักที่ไม่สนใจอะไรนั้นเลยถึงจะสามารถทำให้ ชีวิตตัวเองไม่มีเรื่องเสียใจ
“เด็กโง่ ตอนนี้หนูยังเด็ก ยังไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ รอให้หนู โตขึ้น แล้วเจอกับเด็กผู้หญิงที่ตัวเองชอบจริง ๆ หนูก็จะรู้ ถ้า หากว่าคนที่ยืนอยู่ข้างกายไม่ใช่เธอที่อยู่ในใจคนนั้น ถึงแม้ว่าจะ เอาทั้งโลกยกให้หนู หนูก็จะไม่รู้สึกมีความสุขหรอก”
กานต์ไม่เข้าใจ แต่กลับจดจำคำพูดของนรมนไว้ในใจอย่าง ลึกซึ้ง
เขาไม่รู้ว่าในอนาคตตัวเองจะชอบผู้หญิงแบบไหนเข้า แต่ว่า ถ้าเป็นแบบหม่าล่ะก็ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองก็จะต้องไปปกป้องเธอ คนนั้นอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแน่
เป็นอย่างกับที่คุณบุริศรปกป้องหม่ามี
กานต์ยิ้มขึ้นมา
เขายิ้มขึ้นมาเหมือนดวงดาวสว่างไสว เหมือนอย่างกับว่าทั้ง จักรวาลถูกเก็บไว้ในดวงตาเขายังไงอย่างงั้น ดวงตาราวกับหงส์คู่นั้นที่เหมือนกับบริศร์ทำให้นรมนรู้สึกชื่น
ชอบขึ้นมาบ้าง
“หม่าม อนาคตถ้าผมหาแฟน จะต้องกตัญญูต่อหม่ามีแน่ ถ้า หากเธอไม่ชอบหม่ามี้ ถึงแม้ว่าผมจะชอบเธอมากแค่ไหนผมก็จะ ไม่แต่งงานกับเธอหรอกครับ”
คำพูดของกานต์ทำให้นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที
“ตอนนี้ที่หนูพูดแบบนี้ได้ ก็เพราะว่าหนูยังไม่รู้จักความรัก มี บางครั้งหม่ามีหวังจริง ๆ ว่าหนูจะสามารถทำทุกอย่างราบรื่นได้ เอาล่ะ พวกเราไม่พูดถึงปัญหานี้แล้ว หม่ามีรู้ว่าหนูกตัญญู งั้นก็ เป็นเด็กดีเชื่อฟังรักษาร่างกายของตัวเองให้ดี ๆ รู้ไหม?”
“รู้แล้วครับ”
สองแม่ลูกพูดคุยกันไปอีกพักหนึ่ง นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ กอดเข่าคุยกันกับลูกชายแบบนี้มานานแล้ว
กานต์เองก็รู้สึกว่าวินาทีนี้มันสวยงามเป็นอย่างมาก
เขารู้ว่าจะแย่งเวลาที่ได้อยู่ส่วนตัวกับหม่ามาจากมือของคุณ บุริศร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตัวเองได้รับ บาดเจ็บ ไม่ใช่เพราะว่าสภาพของตัวเองในตอนนี้ คาดว่าคุณบุริ ศ น่าจะเข้ามาแย่งคนแล้ว
กานต์จ้องมองเงาที่เดินไปเดินมาไม่หยุดที่ซอกประตู แล้วก็อด ไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “หม่าม หม่ามีรีบออกไปเถอะ ผมกลัว ว่าถ้ายังไม่ปล่อยตัวหม่ามออกไปอีก ก็คงจะมีคนเข้ามาแย่งคน แล้ว”
นรมนอึ้งไปเล็กน้อย ยังคิดความหมายของคำพูดประโยคนี้ไม่ ออก ประตูก็โดนบุริศร์เปิดเข้ามาแล้ว
สีหน้าของบริศร์ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“เจ้าเด็กตัวเหม็น ฉันไม่ดีกับนายเหรอ? นายถึงได้อยากจะให้ หม่ามีของนายออกไปใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายอื่นอีก? นายแน่ใจนะ ว่าเป็นลูกแท้ ๆ ของฉัน
“บางทีอาจจะไม่ใช่ก็ได้ หรือไม่คุณจะทำการตรวจดีเอ็นเอสก หน่อยไหมล่ะ?”
กานต์สบตาเข้ากับบริศ อย่าไม่กลัวตาย คำพูดที่พูดออกมาก ลับทำให้พรมนอึ้งจนตาค้างไปเล็กน้อย
บริศ ร้อนรนขึ้นมาทันทีเลย
“พูดจาไม่เรื่อยอะไร?”
“คุณเป็นคนสงสัยก่อนว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ ๆ นี่ กานต์ยักไหล่ขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ แต่กลับทำให้บริศร์รู้สึกเหมือน กับว่าตัวเองยกก้อนหินมาตกใส่เท้าตัวเองเลย
“ที่รัก คุณอย่าฟังเจ้าเด็กนี่พูดไปเรื่อยเลยนะ คือว่าพวกเรา
สองคนไปดูวินเซนต์กันเถอะ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้าง
แล้ว ก่อนจะไปยังไงก็ต้องไปสั่งงานไว้สักหน่อย”
นรมนจ้องมองความเป็นห่วงที่อยู่ในแววตาของบุริศร์ ก็รู้เลย ว่าบุริศร์กลัวตัวเองจะคิดมากเกินไป ก็เลยยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ได้
เธอขยี้หัวของกานต์เล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า
“โทรหาหม่ามีได้ทุกเวลาเลยนะ”
“ครับ”
กานต์พยักหน้า อย่างเป็นเด็กดีเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
บริศ รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ปฏิบัติกับเขาและนรมนนั้นช่างต่างกันราว ฟ้ากับดินเลยจริง ๆ นี่มันเป็นเสื้อขนมิงค์ของนรมนจริง ๆ เลย
แต่ว่าเขาเองก็มีคนรักตัวเล็ก
บริศร์ปลอบใจตัวเองอย่างนี้ไป แล้วก็กอดเมียตัวเองเอาไว้ แล้วมองไปที่กานต์อย่างเยอะเย้ยมากทีหนึ่ง
“ปัญญาอ่อน”
กานต์พูดโพล่งออกมาคำหนึ่งจากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีกเลย แต่ กลับเอาหนังสือแฮกเกอร์เล่มหนึ่งออกมาแล้วก็เริ่มอ่านไป
โดนลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองรังเกียจ แต่บุริศร์กลับทําเป็น เหมือนมองไม่เห็น ขอแค่ภรรยาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง เจ้า เด็กตัวเหม็นนั่นจะรังเกียจก็รังเกียจไปซิ อย่างเยอะสุดก็แค่รอให้ เขาถึงอายุสิบแปดปี แล้วก็จะรีบให้เขาแต่งงานมีภรรยาเลย จากนั้นก็ให้เขาไสหัวออกไปจากรังรักของเขาและนรมนก็พอแล้ว เด็กผู้ชาย อายุสิบแปดปีก็ไม่เด็กแล้ว ตอนนี้อายุห้าขวบ อืม ยังเหลืออีกสิบสามปี เขาจะอดทนไว้
บุริศร์ปลอบใจตัวเองไปอย่างนี้ จากนั้นก็กอดนรมนไว้แล้ว ออกไปจากห้องของกานต์เลย
นรมนจ้องมองท่าทางที่ปัญญาอ่อนของบุริศร์ แล้วก็อดไม่ได้ที่ จะหัวเราะขึ้นมาแล้วพูดว่า “คุณนี่จะเปรียบเทียบกับลูกชาย ตลอดเลยทําไมคะ? นั่นมันเป็นพันธุ์ของคุณนะคะ”
“ถ้าเขาไม่ใช่พันธุ์ของผมละก็ ผมคงจะเอาเขาไปโยนลงทะเล แปซิฟิกใต้ตั้งนานแล้ว ยังจะให้เขามาหยิ่งยโสอยู่ต่อหน้าผมได้ เหรอ? อ๋อ ใช่แล้ว ที่รัก คุณว่านิสัยอย่างกานต์นี้จะมีผู้หญิงแบบ ไหนสามารถเอาเขาอยู่ได้บ้างนะ?
เมื่อกี้ตัวนรมนเองยังกำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่ พอตอนนี้มา ได้ยินบุริศร์ถามขึ้น จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้มาคิดเรื่องพวกนี้มันเร็วเกินไปแล้ว ค่ะ”
“ไม่เร็วหรอก เขาอายุตั้งห้าขวบแล้ว ความรู้สึกพวกนี้มันควร จะปลูกฝังกันไปตั้งแต่เด็ก คุณดูซิลูกชายเราฉลาดซะขนาดนี้ อนาคตจะต้องบรรลุนิติภาวะเร็วแน่ หรือไม่ก็หมั้นตั้งแต่เด็กให้ เขาเลยไหม รอให้เขาอายุสิบแปดแล้วก็ให้เขาไปมีชีวิต ครอบครัวเล็ก ๆ ของเขาไปเลย
นรมนอึ้งไปทั้งตัวเลย
เธอจ้องมองบุริศร์ที่หนึ่ง พอเห็นเขาคิดวิเคราะห์เรื่องพวกนี้ อย่างจริงจังเป็นอย่างมาก ก็อดไม่ได้ที่จะดึงเขาที่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น ว่า “บุริศร์ คุณนี่เป็นพ่อเลี้ยงใช่หรือเปล่าคะ?”
“ใช่ที่ไหน ผมนี่เป็นพ่อแท้ ๆ แน่นอน”
“คุณอย่าพูดเลย ความรักของลูกชายฉันคุณห้ามเข้ามายุ่ง เขามีเพชรพลอยในดวงใจของตัวเอง คุณอย่าไปสร้างคู่หมายไป เรื่อยเลย ฉันจะบอกคุณนะ ในด้านปัญหาทางความรู้สึกของ ลูกชายนั้น ถ้าคุณกล้าเข้าไปยุ่งทุกอย่างละก็ ฉันรับประกันได้เลย ว่าชีวิตต่อไปนี้ของคุณอย่าหวังว่าจะได้ขึ้นเตียงฉันอีกเลย
พอคำพูดของนรมนพูดออกไป บุริศร์ก็ทำตัวดีขึ้นมาทันทีเลย
“ได้ ได้ ได้ ผมไม่ยุ่งก็ได้ไม่ยุ่งแล้วโอเคหรือยัง? ถ้าเทียบกับชีวิตที่มีความสุขทั้งชีวิตของผมแล้ว ชีวิตของเขา กานต์ปล่อยเลยตามเลยไปเถอะ”
“พูดจาไปเรื่อย”
อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย
สองคนพ่อลูกนี่ขัดแย้งกันทุกวัน ไม่มีใครเกินเลย
บุริศร์รีบพูดไปตามคำพูดของภรรยาตัวเอง ทั้งสองคนเดินไป ถึงหน้าประตูอย่างหัวเราะไปพูดคุยไป แต่แล้วก็เห็นคนคนหนึ่ง เดินมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
หัวคิ้วของบุริศร์ขมวดกันแน่น ฝีเท้าหยุดนิ่งลงครู่หนึ่ง แล้วก็ ดึงดูดความสนใจของนรมนไปทันที ทำให้เธอมองไปที่คนคนนั้น ที่หนึ่งอย่างอัตโนมัติ แต่กลับพบว่าคนคนนั้นได้เดินมาถึงตรง หน้าแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ