แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1247 ภรรยาผมทำอะไรก็ถูกทั้งนั้น



บทที่ 1247 ภรรยาผมทำอะไรก็ถูกทั้งนั้น

หลังจากลูกน้องได้รับคำสั่งก็รีบไปสืบหาอย่างรวดเร็ว เกวลินที่อยู่ในห้องหลังจากได้ยินคำพูดนี้ ภายในใจก็สั่นไหว เธอจะเป็นน้องสาวแท้ๆของทรรศยาได้เหรอ? เกวลินไม่รู้ แต่ในใจค่อนข้างตื่นเต้น

ตั้งแต่เด็กเธอก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตนเองเป็นใคร เธอมาจาก ไหน ตั้งแต่ที่เริ่มรู้เรื่องรู้ราวเธอก็อยู่ในสถานสงเคราะห์ที่เต็มไป ด้วยชาวต่างชาติที่มีนัยน์ตาสีฟ้าผิวสีขาวแล้ว ส่วนเธอก็เหมือน คนต่างชนชาติที่โดนรังแก จนกระทั่งเธอได้พบกับบุณพจน์

ตอนนี้ไม่นึกว่านรมนจะสงสัยว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของทร รศยา สายเลือดเดียวกันนั้นเหรอ?

ถ้าเป็นจริง งั้นเธอทำอะไรลงไปล่ะ?

ไม่คิดว่าเธอจะแทงพี่เขยของเธอด้วยมือของตนเอง

ตอนนี้เขาเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้

ใจของเกวลินเริ่มกระวนกระวายใจ ร้อนรนบ้างแล้ว นโมนตั้งใจพูดอย่างนี้ที่หน้าห้องของเกวลิน

สิ่งที่เธอต้องการก็คือความไม่สบายใจของเกวลิน ความ ละอายใจของเกวลิน ถ้าสุดท้ายยืนยันว่าเธอเกี่ยวข้องกับทรรศยาจริงๆ บางทีวินเซนต์อาจจะได้รับการช่วยเหลือ

ไม่ว่ายังไง วินเซนต์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของบุริศร์ ตอนนี้วินเซนต์ กลายเป็นอย่างนี้ ในใจของบุริศร์ก็ทนไม่ได้ ถ้าพอจะช่วยบุริศร์ แบ่งเบาได้ นรมนไม่หลบเลี่ยงอยู่แล้ว

หลังจากทำเรื่องทั้งหมดเสร็จ นรมนกลับมาที่ห้องนอน พบว่า บุริศร์ตื่นแล้ว

เขามองผ้าพันแผลที่พันใหม่บนข้อมือของตนเอง ขมวดคิ้ว แน่น ท่าที่เหมือนหงุดหงิดมากอย่างนั้น

“ยังเจ็บอยู่ไหม?”

นรมนมาถึงข้างกายเขาอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปแตะๆที่

หน้าผากของเขา

อุณหภูมิไม่ได้สูงมาก

ใจของเธอถึงผ่อนคลายลงได้บ้าง

บุริศร์มองนรมน นึกถึงท่าทีก่อนหน้านี้ของตนเอง จึงถามขึ้น เบาๆ “คุณยกผมเข้ามาเหรอ?”

“หาคนมาช่วย ตอนนี้คุณยังไม่สบายตรงไหนอีกไหม?”

บุริศร์ส่ายหัว

เขาไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าไม่สบายตรงไหน แต่กลับรู้สึก กระปรี้กระเปร่า ร่างกายผ่อนคลายดีมาก

เพียงแต่ความรู้สึกนี้จะพูดกับนรมนยังไงล่ะ
นรมนยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ จึงพูดขึ้นเบาๆ “ฉันไปตาม หมอมาดูคุณหน่อย”

พูดแล้วเธอก็จะออกไป แต่กลับโดนบุริศร์ดึงข้อมือเอาไว้ทันที แค่ดึงนรมนก็เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้ว

นรมนร้องออกมาด้วยความตกใจ บุริศร์โอบเอวบางๆเอาไว้

โดนกักตัวให้นั่งอยู่บนต้นขาของเขา

บรรยากาศที่มีเลศนัยอย่างนี้ทำให้สีหน้าของนรมนแดงระเรื่อ “คุณทำอะไร? ปล่อยฉัน เดี๋ยวจะโดนแผลของคุณนะ

“ผมไม่ปล่อย”

บุริศร์กอดนรมนแน่นเหมือนคนพาลๆแล้วพูดขึ้น “ปัญหาของ ผมหาหมอไม่มีประโยชน์หรอก”

“งั้นก็ต้องแก้ไข คุณไม่รู้นี่นา ว่าเมื่อคุณทำให้ฉันตกใจจะ แย่ พิษทองคำในร่างกายของคุณก็เหมือนระเบิดที่คาดเดาไม่ ได้ ไม่มีใครรู้ว่าจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่? เอาออกมาจะรู้สึก ปลอดภัยกว่าหน่อยนะ”

นรมนคิดอย่างนี้ แล้วทำไมบริศร์ถึงไม่คิดอย่างนี้ล่ะ? แต่จะกำจัดพิษทองคำ เรื่องนี้ไม่รู้จะจับต้นชนปลายยังไง จริงๆ

“เรื่องนี้ผมจะค่อยๆค้นหาดู

“ฉันรอไม่ไหวแล้ว บุริศร์”
เสียงของนรมนเด็ดเดี่ยว อดไม่ได้ที่จะทำให้บริศร์ซะงักเล็ก

น้อย

“คุณคิดจะทำยังไง?”

“ฉันคิดจะจับกุมกล้าณรงค์

ดวงตาของนรมนจ้องไปที่บุริศร์ พูดขึ้นเบาๆ “ไม่ว่าจะเป็นพวก เรา หรือตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตระกูลพรโสภณ แล้วไหนจะตระ กูลทวาทสินอีก ตอนนี้โดนควบคุมกันหมด โดนจับมัดรวมกันไว้ ฉันไม่สนใจว่าเส้นสายเบื้องหลังจะแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ขนาดไหน ฉันแค่รู้ว่าฉันไม่อยากโดนกล้าณรงค์จูงจมูกเดินแล้ว ถ้าไม่ จัดการเขา ไม่ว่าพวกเราจะท่องเที่ยวหรือทำอะไรก็ต้อง ระมัดระวังตัว คนๆนี้พุ่งเป้ามาที่พวกเราแต่แรก ดังนั้นถ้าจะจับ โจรต้องจับหัวหน้าก่อน จับกุมเขาได้พวกเราถึงจะคลายกังวล คุณก็จะได้ไปกำจัดพิษทองคำอย่างเต็มที่

จริงๆแล้วเรื่องนี้บริศร์ก็เคยคิด เพียงแต่เป็นห่วงความ ปลอดภัยของนรมนกับเด็กๆ ตอนนี้ได้ยิน นรมนพูดอย่างนี้ เขา จึงพูดขึ้นด้วยความกังวล “แต่จับตัวกล้าณรงค์ไม่ง่ายเลยนะ

“ต่อให้มีความหวังแค่หนึ่งในหมื่นฉันก็ไม่อยากปล่อยมันไป

“คุณมีแผนแล้วเหรอ?”

นรมนส่ายหัว

“ไม่มี แค่มีความคิดนี้ ถ้าจะวางแผน ฉันว่าให้คุณลงมือดีกว่า สมองฉันไม่ไหว”
ได้ยินนรมนเยินยอตนเอง จู่ๆบุริศร์ก็อารมณ์ดีขึ้นมา

“ยิ้ม ได้ เดี๋ยวผมจะคิดหาวิธีการอย่างดีเลย

“อั้ม”

นรมนเห็นบุริศรฟื้นตัวแล้ว ก็เบิกบานใจ

“หิวไหม? ให้ฉันทำอะไรให้คุณกินหน่อยไหม?”

“ไม่ต้องหรอก ผมไม่หิว แค่อยากกอดคุณอย่างนี้

บุริศร์ไม่ได้โง่นะ

ก่อนหน้านี้นรมนยังโกรธเขาอยู่เลย เขายังง้อไม่สำเร็จด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆพิษทองคำออกฤทธิ์ เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำให้นร มนให้อภัยเขาได้ไหม

นึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของตนเอง ตอนนี้บริศร์สงบลง แล้วก็รู้สึกว่าตนเองเลวจริงๆ

นรมนวางยาเขาก็เพื่อไม่ให้มือเขาเปื้อนเลือดของธิดาวีร์ เธอ เจตนาดี

ภรรยาของตนเองคนนี้ ตอนที่คิดถึงปัญหาก็ให้เขามาก่อน เสมอจนลืมตัวเองไป นี่เป็นการแสดงออกว่าแคร์เขาไม่ใช่เหรอ?

งั้นทำไมเขาถึงต่อว่านรมนที่ลงมือตามลำพังล่ะ?

คิดถึงตรงนี้ บุริศร์กอดนรมน แล้วพูดเบาๆ “ภรรยาครับ ขอโทษนะ”
“ต๊ะ?”

นรมนยังปรับตัวไม่ค่อยทัน

ทำไมจู่ๆถึงขอโทษขึ้นมาเฉยๆ

แค่บุริศร์มองก็รู้แล้วว่านรมนลืมเรื่องนั้นไปแล้ว

ในใจของเขาจึงทนไม่ได้

นรมนมักจะลืมที่เขาทำไม่ดีต่อเธอโดนอัตโนมัติแต่กลับจดจํา สิ่งที่เขาทำดีกับเธอเสมอ

ตั้งแต่แต่งงาน ความเป็นเฉยสามปีแรกเธอก็ไม่กล่าวโทษเขา แม้จะเป็นกองเพลิงครั้งนั้นเมื่อห้าปีก่อน หลังจากแก้ไขความ เข้าใจผิด เธอยังคงเลือกที่จะให้อภัยเขา

บุริศร์รู้ดี ไม่ใช่ว่านรมนมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่หรอก แต่เป็นเพราะ เธอรักเขา

เพราะรัก เธอสามารถอดทนต่อข้อบกพร่องเล็กๆของเขาได้ แต่นี่ไม่เพียงพอที่จะกลายเป็นเหตุผลและข้ออ้างที่เขาสามารถ ทำร้ายและรังแกเธอได้

บางทีนรมนก็ไม่มีเหตุผลอยู่บ้าง แล้วยังคิดว่าตนเองทำถูกอีก แต่ในใจของเธอมีเพียงบุริศร์เท่านั้น

ภรรยาอย่างนี้เขายังจะต่อว่าอะไรอีก

บุริศร์กอดนรมนไว้แน่นพูดขึ้น เรื่องที่ห้องผ่าตัด เป็นผมเองที่ ทำไม่ถูก คุณจะตีผมด่าผมก็ได้ แต่อย่าไม่สนใจผม ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้กับคุณอีก แล้วก็ เรื่องที่วางยาผมก็เป็นผม เองที่ทําเกินไป ขอโทษนะ”

ความน้อยใจของนรมนจางหายไปทันที

“เป็นฉันเองที่คิดว่าตัวเองทำถูกต้อง โทษคุณไม่ได้หรอก คุณ อาจจะพูดถูกด้วยซ้ำ ถ้าคุณอยู่ กานต์คงจะไม่บาดเจ็บ

นรมนก็กำลังทบทวนการกระทำของตนเอง

“ไม่หรอก ภรรยาของผมทำอะไรก็ถูกทั้งนั้น

บริศ อวยจนเกินเหตุอย่างนี้ ทำให้นรมนไม่รู้ว่าควรจะพูด อะไรต่อเลย

ทั้งสองคนคุยๆกันไปก็รู้สึกเลี่ยนขึ้นมา

นรมนสาบานเลยว่าตนเองไม่คิดจะทำอะไรกับบุริศร์ในตอน กลางวันแสกๆเลยจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองคุยกันอยู่ ดีๆก็คุยไปถึงบนเตียง แล้วก็มีความเร่าร้อนปะทุขึ้นมา

ตอนที่รอให้นรมนตอบสนองก็โดนบุริศร์จับกินไปซะแล้ว

ทั้งสองคนนอนพักผ่อนอยู่ด้วยกัน ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่น ของความอ่อนโยน

นรมนสภาพจิตใจตึงเครียดเพราะเรื่องของกานต์ ตอนนี้อยู่ใน อ้อมกอดของบุริศร์จึงค่อนข้างผ่อนคลาย โดยไม่รู้ตัว บวกกับ การออกกำลังเมื่อครู่ เธอจึงเผลอหลับไป

ตอนที่บุริศร์ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย แล้วห่มผ้าให้นรมนอย่างอบอุ่น

ตอนนี้ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามมาด้วยหัวเล็กๆ ยืนเข้ามา

“แต๊ดดี้ หม่ามี้หายโกรธหรือยังคะ?”

กมลนั่นเอง

บุริศร์ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่ทำตัวไม่ถูกต่อหน้าลูกสาว

ของตนเองอย่างนี้

เขารีบดึงผ้าห่มมาคลุมตนเองไว้ พูดขึ้น “กมล ทำไมถึงเข้ามา

อย่างนี้?”

“หนูเคาะประตูแล้วนะ”

กมลพูดอย่างมั่นใจ แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

“เห็นไหม หนูถึงบอกไงคะ ไม่มีเรื่องอะไรที่นอนสักตื่นแก้ไขไม่ ได้ ถ้านอนสักตื่นไม่พอก็นอนสองตื่น

กมลคิดยังไงก็พูดยังงั้น แต่บุริศร์กลับขมวดคิ้วขึ้นมา

“คำพูดนี้ใครเป็นคนสอนลูก?”

กมลเพิ่งห้าขวบ จะรู้อะไร?

ต่อให้โตเกินวัย เป็นเด็กเฉลียวฉลาด คำพูดนี้ก็ไม่ควรจะออก มาจากปากของกมลได้

กมลไม่เห็นแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของบุริศร์ กลับยิ้มหวานพูดขึ้น “คุณอาเจตต์พูดค่ะ

เจตต์?

ในใจของบริศร์ครามอย่างเย็นชา

เจ้านั่นรอฉันก่อนเถอะ!

“ต่อไปค่พูดเขาลูกไม่ต้องฟังแล้วนะ”

“ทำไมคะ?”

กมลไม่ค่อยเข้าใจ

บุริศร์พูดขึ้นทันที เพราะเขาปัญญาอ่อน ลูกก็อยากจะ ปัญญาอ่อนเหรอ?”

“ปัญญาอ่อน? เป็นไปได้ยังไงคะ?”

กมลรู้สึกว่าเจตต์ปกติดีนี่นา

บุริศร์ยิ้มเยาะ “ลูกดูนะเขากับแด๊ดดี้จีบหม่ามี้ของลูกด้วยกัน สุดท้ายแด๊ดดี้เป็นคนที่จีบติดไม่ใช่เหรอ?”

กมลคิดๆแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จึงพยักหน้า

บริศ พูดต่อ “ลูกดู ตอนแรกเขากับพ่อมีร้านค้าที่ประสบ ความสำเร็จอยู่ที่ถนนห้วยยางเมืองชลธีกันคนละครึ่ง แต่ตอนนี้ เหลือแค่นิดหน่อยแล้ว ลูกว่าถ้าเขาไม่ปัญญาอ่อนจะทำให้ สิ่งของในมือหายไปไหมล่ะ?”

“นั่นสิคะ”
สีหน้าของกมลเข้าใจเรื่องราวในทันที

ดูแล้วคุณอาเจตคงจะปัญญาอ่อนจริงๆ

บริศ เห็นกมลยอมรับความคิดนี้แล้ว จึงพูดเบาๆ “ออกไป เถอะลูก หม่ามีเพิ่งจะหลับ หม่ามี้ตกใจมากที่พี่ชายลูกได้รับบาด เจ็บ อย่าเพิ่งรบกวนการพักผ่อนของหม่าเลย

“รับทราบค่ะ”

กมลปิดประตูให้พวกเขาอย่างรู้เรื่องและเอาใจใส่

แววตาของบริศร์เย็นยะเยือก

เจ้าบ้าเจตต์ ถ้าไม่เห็นว่าเขาเพิ่งเสียพ่อแท้ๆไป แล้วก็เห็นแก่ที่ กำลังจะสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองนะ ตอนนี้คงได้เห็นดี กันแล้ว

แต่ว่าลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย ฝากไว้ก่อนเถอะ

ในใจของบุริศร์กำลังเย้ยหยัน มองนรมนที่หลับสนิท แล้วถึง ลุกขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเดินออกไปจากห้องนอน

ตอนที่ลูกน้องเห็นบุริศร์ก็ชะงักเล็กน้อย แต่ยังคงเดินเข้ามาพูด ด้วยความนอบน้อม “เฮียครับ เรื่องคุณนาวินจัดการเรียบร้อย แล้ว หาพยาบาลพิเศษมาดูแลแล้ว เพียงแต่ธิดาวีร์ในคุกใต้ดิน เหมือนจะเสียเลือดรุนแรง มีแนวโน้มว่าจะเกิดอาการช็อคนะ ครับ”

ตอนนี้บุริศร์ไม่อยากฟังเรื่องใดๆที่เกี่ยวข้องกับธิดาวีร์เลยเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างเย็นชา “ให้คนไปรักษาเธอ จำไว้ ว่า ก่อนที่เด็กจะคลอดเธอต้องไม่ตาย ส่วนเรื่องจะรักษายังไงไม่ ต้องบอกฉัน ฉันไม่สนใจ

“ครับ”

ลูกน้องขดตัวด้วยความตกใจ แล้วรีบถอยออกไป ตามมาด้วยลูกน้องอีกคนที่เดินเข้ามา

“เฮียครับ เรื่องที่พี่สะใภ้ให้พวกเราไปสืบมีเบาะแสแล้วครับ

“เรื่องอะไร?”

บุริศร์ชะงักเล็กน้อย

ลูกน้องรีบพูด “เรื่องระหว่างเกวลินกับทรรศยา ผลทางด้านนั้น ออกมาแล้วครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ