แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1245 ผมไม่ให้คุณเข้ามา



บทที่ 1245 ผมไม่ให้คุณเข้ามา

ตอนนี้บุริศร์ไม่เจ้าอารมณ์และใจร้อนเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว นรมนก็รู้ว่าที่เขาทำอย่างนั้นแค่กลัวว่าจะทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ แต่เธอยังไม่อยากสนใจเขา

ผู้ชายคนนี้มีเหตุผลอะไรถึงคิดว่าหลังจากต่อว่าตนเองอย่าง นั้น แล้วตนเองก็จะให้อภัยเขาอย่างรวดเร็ว?

นรมนยื่นมือออกไปรับน้ำของบุริศร์ แต่กลับไม่พูดกับเขา

เธอบิดฝาเปิดแล้วดื่มน้ำไปหนึ่งคำ มองไปทางห้องผ่าตัดไม่ พูดไม่จา ทำเหมือนบุริศร์เป็นมนุษย์ล่องหนอย่างชัดเจน

บุริศร์ฝืนยิ้มเล็กน้อย

บางครั้งภรรยาของเขาก็น่ารักมาก บางครั้งก็ดื้อรั้นมาก ตอน

นี้คงจะทำสงครามเย็นกับเขาแล้วล่ะสิ

อย่างนี้ก็ดี อย่างน้อยที่สุดจะได้ไม่ต้องกระตุ้นให้พิษทองคำ ในร่างกายของตนเองเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาเพราะคำพูดอีก

บุริศร์ไม่ได้อธิบาย ไม่ได้พูดอะไรอีก แค่นั่งรอเป็นเพื่อนนรมน อยู่ตรงนั้นเงียบๆ

นรมนคิดว่าบุริศร์จะพูดอะไรบ้าง แต่รอตั้งนานแล้ว บุริศร์กลับ ไม่พูดอะไรสักคำเลย แต่เธอก็ไม่ได้โกรธ อันที่จริงลูกชายของพวกเขายังนอนอยู่ด้านใน
ตอนที่หมอเปิดประตูห้องผ่าตัด นรมนก็ค่อยๆยืน น “หมอคะ ลูกชายฉันเป็นยังไงบ้าง?

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โชคดีที่เอียงห่างจากหัวใจเล็กน้อย ไม่ งั้นพวกเราคงไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ ตอนนี้ร่างกายค่อนข้าง อ่อนแอ ยาชาหมดฤทธิ์ไปแล้ว ยังไม่ได้สติ แต่ทว่าพักผ่อนสัก ระยะก็ดีขึ้นแล้วครับ

หมอคลายกังวลลงได้

เขาไม่รู้จักบุริศร์ แต่ท่าทางของผู้ชายคนนี้แล้วไหนจะ สหภาพQT ที่อยู่ด้านหลังอีก เขาพอรู้ว่าคนที่สหภาพโคอยคุ้ม กัน ตัวตนของผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ตอนนี้ลูกของพวก เขาไม่เป็นไรแล้ว ในที่สุดหมอก็วางใจที่เป็นกังวลลงได้

บุริศร์ให้คนรับกานต์กลับสำนักงานใหญ่ทันที ตอนนี้ตัวตนของพวกเขาค่อนข้างเปราะบาง ถ้ากานต์อยู่ที่โรง พยาบาลจะไม่สะดวกในหลายๆด้านเลยจริงๆ

กลับมาถึงสำนักงานใหญ่ นรมนถึงได้พบว่าที่นี่มีห้องที่จัดเอา ไว้เพื่อเป็นห้องคนไข้แล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆครบครัน และบริศร์ยังเรียกตัวไฟฟ้าม่วงกลับมาทันที

นรมนไม่รู้รหัสลับที่เป็นชื่อเรียกของคนพวกนี้ บุริศร์จึงอธิบาย อย่างใจเย็น

“ไฟฟ้าม่วงเป็นหมอ ฝีมือดีมาก ไม่ด้อยไปกว่าพวกรมิดากับ โพนี่เลย แต่ว่าไฟฟ้าม่วงไม่ได้อยู่ในประเทศ เขาออกเดินทางไปพื้นที่ยากจนตลอดทั้งปี นอกจากมีเรื่องสำคัญ ปกติแล้วไม่ค่อย กลับมาเท่าไหร่หรอก ตอนที่ผมรู้ว่ากานต์ได้รับบาดเจ็บจึงโทรไป หาเขา เวลานั้นเขาก็จองตั๋วเครื่องบินแล้วรีบกลับมาทันที ดังนั้น แค่ไฟฟ้าม่วงกลับมา ต่อให้ขาข้างหนึ่งของกานต์เข้าประตูนรก ไปแล้ว เขาก็จะช่วยให้กลับมาได้ อยู่ที่นี่ ผมเชื่อใจแค่ไฟฟ้าม่วง เท่านั้น”

นรมนพยักหน้า

เธอได้ยินมาแล้ว หลังจากที่บุริศร์ฟื้นตอนที่รู้ว่าธิดาวีร์ทำร้าย กานต์ เขาไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลทันที แต่ไปจัดการธิดาวีร์ก่อน ตอนแรกยังรู้สึกว่าบุริศร์ไม่ได้ใส่ใจความปลอดภัยของกานต์ เลย ตอนนี้สงสัยว่าเธอจะคิดผิดแล้ว

เหมือนกับที่บุริศร์พูดทั้งหมด ลูกน้องที่เขาเชื่อใจรีบกลับมา แล้ว ส่วนกานต์ก็มีหมอช่วยชีวิตแล้ว ดังนั้นเขาจึงไปจัดการธิดา วีร์อย่างไม่กังวลสินะ

แต่ว่านรมนยังไม่พูดกับเขา

บุริศร์ นรมนกำลังโกรธ ก็ไม่ได้อธิบายอะไร ไปดูกานต์ด้วย ตาตัวเอง

สีหน้าของกานต์ขาวซีด แต่ลมหายใจคงที่ ดูแล้วไม่มีอะไรน่า กังวล

โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรมากแล้ว

กมลกับกิจจารู้ว่ากานต์กลับมา จึงพากันวิ่งออกมาจากในห้อง
“แด๊ดดี้ หม่ามี้ พวกเราเข้าไปดูพี่ได้ไหมคะ?”

แววตาของกมลเต็มไปด้วยความเป็นห่วง นรมนอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด พูดเบาๆ “รอให้พี่ตื่นก่อนนะ ตอน นี้เขายังต้องพักผ่อนจะ

กิจจากลับมองกานต์อยู่ที่ด้านนอก เห็นกานต์ไม่เป็นอะไรก็ สบายใจได้แล้ว

“กมล กานต์ไม่เป็นอะไรแล้ว เราเงียบๆหน่อย ให้เขาพักผ่อน ก่อน รอเขาตื่นแล้วพวกเราค่อยมาดูเขาดีไหม?”

ด้วยคำพูดของกิจจากมลถึงได้เชื่อ

เธอพยักหน้า

กมลสังเกตออกว่าระหว่างแด๊ดดี้กับหม่ามีอะไรแปลกๆไป

นิดหน่อย

“แด๊ดดี้ ทะเลาะกับหม่ามีเหรอคะ?”

บุริศร์ชะงักเล็กน้อย แล้วพยักหน้าพูดขึ้น “อั้ม แด๊ดดี้หาเรื่อง ให้หม่ามโกรธซะแล้ว”

“งั้นแด๊ดดี้ยังไม่รีบๆอหม่ามีอีก?”

กมลรู้สึกว่าแด๊ดดี้ไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้นนี่นา ทำไมตอนนี้ถึงไม่รู้จักง้อหม่าล่ะ?

นรมนกลับหน้าแดงระเรือเล็กน้อย
ระหว่างอย่างพวกเขาสองคนเล่นแง่ใส่กัน ทำไมยังต้อง ให้เด็กน้อย น่านะ?

บุริศร์มองนรมน แล้วพูดเบาๆ “แด๊ดดี้ทำไม่ได้”

กมลอยากจะมองค้อน ใส่แล้ว

ทําไม่ได้?

หลอกผีสินะ?

แต่ก่อนใครกันที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงเพื่อหยอกเย้าให้หม่าม

ร่าเริง?

ตอนนี้บอกว่าทําไม่ได้ เห็นๆอยู่ว่าเป็นแค่ข้ออ้าง

“แด๊ดดี้ ก็ไปซื้อดอกกุหลาบให้หม่ามีสักช่อไม่ได้เหรอคะ? หรือไม่ก็ซื้อเครื่องประดับ ผู้หญิงชอบของพวกนี้กันหมดแหละ ค่ะ”

ค่าพูดของกมลทำให้นรมนขยับมุมปากเล็กน้อย

“หม่ามีไม่ชอบ”

คำพูดของหม่ามีอาการงอนเป็นส่วนประกอบอยู่จำนวนหนึ่ง กมลรู้สึกว่าเรื่องครั้งนี้คงแย่แล้ว

ไม่นึกว่าต่อหน้าพวกเขาหม่าจะไม่ให้หนทางเอาตัวรอดกับ แด๊ดดี้เลย นี่แด๊ดดี้ผิดใจอะไรกับหม่ามี้เนี่ย? กมลขยิบตาให้บริศ อยู่ตลอด
บริศร์รู้สึกว่าลูกสาวช่างอบอุ่นจริงๆเลย

เขาพูดเบาๆ “ลูกช่วยแด๊ดดี้ถามหม่ามีที่สิ ว่าเธอชอบอะไร? ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ

กมลกำลังจะเอ่ยปาก ก็ได้ยินนรมนพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ยังไง ก็ไม่หายโกรธ ก็แค่ความหวังดีที่โดนมองว่าเป็นเจตนาร้าย เป็น หม่ามี้เองที่ไม่คู่ควร

ค่าพูดนี้เจ็บปวดจริงๆ กมลพูดอะไรไม่ออกแล้ว

สองคนนี้กำลังทะเลาะกันจริงๆ ใช่ไหม? ต้องให้ตนเองส่งต่อคำพูดจริงๆเหรอ?

ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนโดนป้อนอาหารหมาอย่างไม่มีสาเหตุ ได้นะ?

กิจจากระแอมพูดขึ้น “กมล จู่ๆพี่ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้พวกเรายัง

ต่อจิ๊กซอว์ไม่เสร็จเลย ไม่งั้น…….

“ใช่ๆๆ เรากลับห้องกัน ยังต่อจิ๊กซอว์ไม่เสร็จ

กมลกระโดดออกจากอ้อมกอดของนรมน ตอนที่เดินผ่านข้าง กายของบุริศร์จึงพูดขึ้นเบาๆ “แด๊ดดี้ เป็นผู้ชาย ก็พูดขอโทษ หม่ามีสักคำ ถ้าหม่ามี้ยังไม่ให้อภัย แด๊ดดี้ก็พาหมาเข้าห้อง ไม่มีเรื่องอะไรที่การนอนสักตื่นจะแก้ไขไม่ได้ ถ้านอนครั้งเดียวยัง ไม่หายโกรธ ก็นอนสองครั้งสิคะ”
“กมล! ลูกพูดเหลวไหลอะไรเนี่ย?

นรมนอยากจะเป็นลมจริงๆแล้ว

นี่ลูกสาวของเธอเหรอ?

นี่เป็นคำพูดที่เด็กห้าขวบควรพูดเหรอ?

ขอร้องล่ะ!

ช่วยคิดถึงความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างเธอบ้างได้ ไหม?

ในวินาทีที่นรมนดุเหมือนสิงโตคำรามนั้นกมลก็ดึงกิจจาวิ่ง

แจ้นออกไปทันที

ฟี้ววว!

ตอนนี้หม่ามน่ากลัวจัง

ทิ้งไว้ให้แด๊ดดี้จัดการแล้วกัน

เห็นเด็กน้อยสองคนหนีเอาตัวรอด นรมมหายใจเข้าออกอย่าง แรง หลังจากมองบุริศร์แล้วก็หันหลังเดินออกไป

จริงๆ ในใจของเธอก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเท่าไหร่แล้ว แต่ผู้ชายคน นี้ไม่ยอมขอโทษ ไม่อธิบาย แล้วจะให้เธอไปต่อยังไง?

คงไม่ถึงขนาดที่ตนเองต้องเข้าไปพูดด้วยความละอายใจ หรอกนะ ขอโทษนะ บุริศร์ เป็นฉันเองที่คิดว่าตัวเองทำถูก ทำให้ คุณต้องเป็นห่วง คุณอย่าโกรธฉันได้ไหมแบบนี้น่ะเหรอ?
แม้พูดอย่างนี้จะไม่เป็นอะไร แต่นรมนก็แค่น้อยใจ

เธอคิดว่าเธอคงโดนบุริศร์ตามใจจนเคยตัวแล้วแน่ๆ

แต่คิดๆดูที่นี่ก็ห้องโถง มีลูกน้องมากมายกำลังมองอยู่ บุริศร์ อยากจะขอโทษดงค่อนข้างเดอะเขินนะ นรมนรู้สึกว่ากลับห้อง ไปจัดการจะดีที่สุด

เพียงแค่กลับห้อง บุริศร์ตามเข้ามาแล้ว ถ้าต่อให้เธอไม่ได้ยิน

คำขอโทษ สงครามเย็นครั้งนี้ก็ถือว่าจบลงแล้วกัน

แต่ตอนที่นรมนก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องโถง บุริศร์ก็อยาก จะตามไป

กมลพูดเอาไว้ไม่ผิดเลย

เขาเป็นผู้ชาย ต้องขอโทษ ต่อให้นรมนจะไม่สนใจตนเองอีก ตนเองก็จะล่อลวงด้วยการเสียสละร่างกายสักที คงไม่ถึงกับที่ ครอบครัวอันแสนสงบสุขของตนเองจะโดนทำลายเพราะคน อย่างธิดาวีร์หรอกนะ

แต่เขาเพิ่งก้าวเท้าก็รู้สึกได้ถึงความไม่ค่อยปกติของร่างกาย

ความรู้สึกร้อนรุ่มภายในร่างกายวิ่งขึ้นมาทันที กันที่หน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว มากระจุกรวม

บุริศร์โซเซ คว้าพนักพิงโซฟาที่อยู่ด้านข้างถึงพอจะทำให้

ตนเองยืนอยู่ได้

“ออกไปให้หมด!”
เขาพูดเบาๆ แต่น้ำเสียงกลับกันเย็นชา

กี่วันมานี้ลูกน้องรู้ดีว่าอารมณ์ของบุริศแปรปรวน คาดเดาไม่ ถูก นึกถึงความน่ากลัวและความอึมครึมของเขาอีกครั้ง ชั่วพริบ ตาก็เดินออกไปกันหมด

ส่วนบุริศร์หลังจากที่ทุกคนออกไป “พลัก” เสียงหัวเข่า กระแทกลงไปบนพื้น เหงื่อเม็ดใหญ่ร่วงลงมาจากมุมหน้าผาก

สีหน้าของเขาแย่มาก

เจ็บ!

ความเจ็บปวดที่เข้าไปในกระดูกกำลังกัดกินหัวใจของเขา ราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัวอย่างนั้น

ต่อให้เป็นบุริศร์ที่ทนความเจ็บเก่ง ตอนนี้ก็ทนไม่ไหวจนตัวสั่น

ขึ้นมา

เม็ดเหงื่อหยดลงบนพื้นที่ละหยดทีละหยด

บุริศร์กัดริมฝีปากแน่น ยืนหยัดไม่ให้ตนเองส่งเสียงออกมา แม้แต่นิดเดียว

และในตอนนี้นรมนที่เพิ่งกลับไปถึงห้องนอน จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บ หน้าอก เธอคว้าลูกบิดประตูโดยไม่รู้ตัว ความกระวนกระวาย ความไม่สบายใจปรากฏเข้ามาในหัวใจ

เกิดอะไรขึ้น?

นรมนพยายามสงบจิตใจ รีบเปิดประตูห้องแล้วเดินออกมา ก็เห็นบุรีศร์คุกเข่าก้มหน้าอยู่ที่พื้นอย่างน่าเวทนา ราวกับแบกรับ ความเจ็บปวดก้อนใหญ่ เห็นได้ลางๆว่าร่างกายของเขากำลังสั่น ไหวเล็กน้อย

ในใจของนรมนร้องออกมาเบาๆ แล้วรีบวิ่งไปหาบุริศร์

“คุณเป็นอะไรไป?”

เวลานี้ ทั้งสงครามเย็น ทั้งความน้อยใจอะไรพวกนั้นก็ทิ้งไว้ ข้างหลังหมดแล้ว ในสายตาเห็นแค่ บริศร์ที่กำลังเจ็บปวดอย่าง ถึงที่สุด

“อย่าเข้ามา!”

บริศ เงยหน้าขึ้นมาทันที แต่กลับทำให้นรมนต้องตกใจ

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ความเย็นชาด้านใน ทำให้นรมนตกใจจนแทบยืนไม่อยู่

“ผมไม่ให้คุณเข้ามา!”

บุริศร์กัดฟันตะโกนออกมาราวกับเขาใช้พละกำลังทั่วทั้ง ร่างกาย พูดออกมาอย่างชัดเจน “ฟังผม นรมน ตอนนี้กลับห้อง ไป แล้วล็อคประตู ไม่ว่าด้านนอกจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่ต้อง เปิดประตู ไป!”

นรมนกำลังมองเขา มองผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจกำลังเจ็บปวดเช่นนี้ มองลูกตาสีเหลืองทองที่ผิดปกติของเขา มองหยก เลือดที่หน้าอกของเขาเหมือนกับสีเข้มขึ้นอย่างชัดเจน นรมนสาย หัวพูดขึ้นด้วยความแน่วแน่ “ฉันไม่ไป! ฉันเป็นภรรยาของคุณ ไม่ ว่าคุณจะกลายเป็นอะไร คุณก็คือสามีของฉัน!

พูดจบ นรมนก็เดินเข้ามาหาบุริศร์ทีละก้าวๆอย่างเด็ดเดี่ยว แต่บุริศร์เหมือนกับตื่นตกใจ วินาทีนั้นที่เห็นนรมนเดินเข้ามา หาตนเอง เขาก็ยืนขึ้นแล้วถอยไปทันที

“นรมน คุณฟังผมสักครั้งได้ไหม? คุณรู้ไหมว่าผมกลัวอะไร มากที่สุด?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ