แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1199 ยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้เหรอ?



บทที่ 1199 ยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้เหรอ?

หลังจากกิจจาลงมา กมลยัดของอร่อยให้เขาทันที ทำให้แวว ตาของเขาผ่อนคลายลง

“ขอบคุณนะกมล”

กิจจายิ้มบางๆ แต่กลับจริงใจมาก

กานต์แค่เพียงเหลือบมอง ไม่ได้พูดอะไร นับวันยิ่งเข้าใจวิธี ของกมล

น้องสาวคนนี้ อาจจะกลัวกิจจาไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นใน ครอบครัวจึงปฏิบัติต่อกิจจาอย่างเอาใจใส่เช่นนี้ ส่วนเขาพี่ชาย คนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล จึงไม่ได้สนใจ

รสชาติแบบนี้เจ็บปวดเกินบรรยาย

กานต์เข้าไปเก็บของในห้อง

กิจจาคุยเล่นกับกมล นรมนไม่ได้เข้าไปร่วม ปล่อยทั้งคู่ไปเก็บ ของ ส่วนตนเองมาที่ห้องรับแขก

คุณท่านตนวรกำลังคุยกับบุริศร์อยู่ ท่าทางมีความสุขมาก

นึกถึงนงลักษณ์ที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่รู้ว่าอยู่ไหน นรมนกดดัน แต่ยังฉีกยิ้มเดินเข้าไป

“คุณตา ฉันกับบุริศร์จะพาลูกๆ ออกไปเที่ยว ช่วงนี้ถ้าคุณตามี เรื่องอะไรไปหาอาธรณีของฉันได้เลยนะคะ
“ไม่ใช่ว่าตระกูลพรโสภณไม่ได้ใคร วางใจเถอะ ฉันมันก็แค่ คนแก่ ไม่มีใครคิดร้ายกับฉันหรอก พวกเธอออกไปต้องระวังตัว ให้ดี อย่าทำตัวเป็นจุดเด่นมากเกินไป พยายามดูแลตัวเอง เข้าใจไหม? ”

คุณท่านตนวรสีหน้าเป็นห่วง

นรมนพยักหน้า สุดท้ายแล้วเรื่องของนงลักษณ์ยังคงติดอยู่ที่ ริมฝีปากอย่างลังเล สุดท้ายกลืนลงไป

รอหานงลักษณ์เจอแล้วค่อยพูด

นรมนหรี่ตาเล็กน้อย

บุริศร์เห็นท่าทางของเธอ แน่นอนรู้ว่าเธอคิดอะไร หลังจากพูด กับคุณท่านตนวรอีกไม่กี่คำจึงเดินไปหานรมน

“ไปเถอะ พวกเรากลับไปเก็บของ

นรมนตามบุริศร์ขึ้นไปชั้นบน

ความคิดของนรมนจดจ่ออยู่กับนงลักษณ์ ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะ ไม่ได้ดีมาก แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ ชีวิตขมขื่นที่เธอเล่าก่อนหน้านี้ ทำให้นรมนไม่สบายใจและเห็นใจ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่หรือตาย เธอยิ่งไม่สบายใจ

บุริศร์เพิ่งจะเข้ามาในห้องก็พูดเบาๆ : “ผมไปเข้าห้องน้ำ ก่อนนะ คุณเก็บของด้วย”
“คน”

นโมนไม่สงสัยเขา เดินไปด้านข้างเริ่มเก็บของ

หลังจากบุริศร์เข้ามาในห้องน้ำ คุกเข่าลงไปบนพื้น

ปวดหัวแทบจะระเบิด

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ครั้งนี้ปวดหัวหนักมาก ถ้าไม่ใช่เพราะความอดทนอันน่าทึ่ง ของเขา ตอนนี้เกรงว่าจะมีพิรุธต่อหน้านรมนแล้ว

บริศรปวดจนแทบจะร้องโอดโอย เหมือนในสมองมีอะไรจะ

ทะลักออกมา

แผ่นหลังของเขาชุ่มเหงื่อ เสื้อเชิ้ตของเขาเปียกโชก ใบหน้า ขาวซีด เห็นแล้วน่าตกใจสุดๆ

เขากัดฟันแน่นกลับระงับความเจ็บปวดที่โจมตีไม่ไหว แต่ยัง ก้าวไปเปิดฝักบัวอย่างรวดเร็ว เสียงน้ำไหลดังไปทั่วห้องอาบน้ำ เขาจึงสามารถซุกซ่อนความเจ็บปวดได้ชั่วคราว เขาล้มลงพื้นทันที ขดตัว กอดศีรษะเอาไว้ ต่อต้านอย่างเงียบๆ

“บุริศร์ คุณจะเอาชุดลำลองไปชุด ไม่ได้ร่วมงานเลี้ยง ไม่ต้องเอาไป โอเคไหม? ” ชุดสูท

เสียงไถ่ถามของนรมนดังมาจากด้านนอก มีความนุ่มนวล พร้อมกับความอ่อนนุ่ม ในสมองบุริศร์กลับได้ยินเลือนรางมาก ราวกับมาจากสมัยโบราณกาล
นรมนถามอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจ เดินไปที่ประตูห้องอาบน้ำ

“คุณหยิบเองได้เลย

เสียงของบุริศร์อ่อนแรง แววตามีความเยือกเย็นขึ้นมาแวบ หนึ่ง

“อืม ได้”

นรมนได้ยินเสียงบุริศร์จึงเดินกลับไป

มือของบุริศร์บีบต้นขาด้านในแน่น ความเจ็บปวดรุนแรงไม่ อาจต้านทานความปวดศีรษะที่แทบจะแยกเป็นเสี่ยงๆ ได้

เขาหอบ สุดท้ายเลิกต่อต้าน หวังว่าความเจ็บปวดจะสามารถ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายความเจ็บปวดกลับไม่ลดลงสัก นิดเดียว จนแม้แต่เหมือนเป็นน้ำท่วมฉับพลัน

ความเจ็บปวดครั้งนี้รุนแรง ทำให้บริศร์รับมือไม่ทัน เขาอยาก จะพูดอะไร สุดท้ายกลับไม่มีโอกาส

ราวกับมีภาพผุดขึ้นในสมอง พร้อมกับเลือดสีแดงสด ราวกับ ชมฉากสังหาร คนนับไม่ถ้วนถูกยิง สังหารโหด คนแก่ เด็ก ผู้ชาย ผู้หญิง เสียงร้องไห้มากมายแต่ไม่สามารถต่อต้านได้

ความโกรธ ในใจผุดขึ้นมาทันที อย่างรุนแรง อยากจะเข้าไป แทนที่ แขวนคอปีศาจร้ายที่สังหารคนทั้งหมดถึงจะพอใจ

ความโกรธแค้นที่เหมือนกับปีศาจร้ายลอยขึ้นฉับพลัน ไหลเวียน ซัดสาดอยู่ในใจไม่หยุด จากนั้นยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งแข็งแรงขึ้น ทั้งตัวเหมือนถูกลากลงไปในนรกชั้นสิบแปด เผชิญกับความ ทรมานและการเฆี่ยนตีอย่างไร้มนุษยธรรม ทำให้คนรับไม่ไหว

“อ๊าก!

จนในที่สุดบริศ ทนไม่ไหว ร้องคราม หมดสติไป นรมนอยู่ด้านนอกได้ยินเสียงแว่ว เหมือนเสียงคำรามอย่างอด กลั้น กลับมีเสียงน้ำแทรกจึงได้ยินไม่ชัดเจน

“บุริศร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?

นรมนรีบไปถามตรงประตูห้องอาบน้ำ แต่ข้างในมีแค่เพียง เสียงน้ำไหล ไม่มีเสียงอย่างอื่นดังออกมา

หัวใจเจ็บปวดทันที

นรมนรีบเปิดประตูห้องอาบน้ำ กลับพบว่าล็อคเอาไว้

บุริศร์อยู่ในบ้านตัวเองยังต้องล๊อคประตูอีกเหรอ?

นรมนแปลกใจ และไม่กล้าล่าช้า รีบลงไปเอากุญแจสำรอง จาก โตษิน

การกระทำนี้ทำให้ลูกๆ ที่เตรียมตัวเสร็จแล้วแปลกใจ คุณ ท่านตนวรก็เป็นห่วง

“โตษิน ตามขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น?

โตนินพยักหน้า รีบตามนรมนไป
กานต์กับกิจจาต่างเป็นห่วง กมลคิดจะขึ้นไป ถูกกานต์ดึงเอา

“พี่ ฉันจะขึ้นไปดู”

กานต์ไม่สบายใจ

กิจจาเรียนหมอ แม้จะยังเรียนไม่จบ ก็มักจะเก่งกว่าทั้งสองคน เสมอ และไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ ก็เกิดลางสังหรณ์ เหมือนจะเกิดเรื่อง ขึ้นกับบุริศร์ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขาได้มีเพียงอาการเจ็บเส้น ประสาท

เห็นได้ชัดว่า กิจจาก็คิดแบบนี้

สองพี่สองสบตากัน จากนั้นกิจจาขึ้นไปชั้นบนอย่างไม่ลังเล

“พี่ ฉันอยากขึ้นไปดู”

กมลพยายามดิ้น กลับได้ยินกานต์กระซิบว่า “เธอขึ้นไปก็ เปล่าประโยชน์ พี่ใหญ่เรียนหมอมา สถานการณ์ในตอนนี้ เกรง ว่าอาการเจ็บเส้นประสาทของคุณบุริศร์จะกำเริบ”

“ไม่ได้กินยาเหรอ? พี่กิจจาอ่านหนังสือโบราณของหมู่บ้านดา รายนแล้วไม่ใช่เหรอ? ยังหาวิธีแก้ไขไม่เจออีกเหรอ? ”

หลายวันมาแล้ว บุริศร์ไม่มีอาการเจ็บเส้นประสาท ทำให้พวก

เขาทุกคนผ่อนคลายความระมัดระวัง คิดว่าอาการเจ็บเส้น ประสาทของบุริศร์พัฒนาไปในทิศทางที่ดี แต่วันนี้ท่าทางตื่นตระหนกของนรมนทำให้กานต์กับกมลเกิดความคิดทันที

“รอก่อนเถอะ พวกเราขึ้นไปก็ช่วยไม่ได้

ในใจของกานต์เป็นห่วง แต่ก็ไม่กล้าปล่อยกมล กมลกลับไม่ดิ้นรน แต่หรี่ตาเล็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิด อะไร

บรมนถือกุญแจสำรองเข้าไปในห้อง รีบเปิดประตูห้องน้ำออก มองเห็นบุริศร์ล้มอยู่บนพื้น ใบหน้าขาวซีด จนแม้แต่มีสีม่วง เหมือนไร้ชีวิต

“บริศร์!

นรมนตกใจ

เธอรีบก้าวเข้าไปอุ้มบุริศร์ขึ้น น้ำจากฝักบัวสาดไปทั้งร่างกายของบุริศร์ เปียกชุมนานแล้ว แต่บุริศร์กลับไม่รู้ตัว

โต นรีบปิดฝักบัว มองเห็นสภาพตอนนี้ของบุริศร์ อดพูด อย่างกังวลไม่ได้ “โทรหาคุณชายป้องดีไหมครับ ให้เขามา

ตรวจ? –

นรมนกำลังจะพูดอะไร ร่างเล็กของกิจจากโผล่เข้ามา จับมือ ของบุริศร์เอาไว้ ตรวจชีพจรของเขา

สีหน้าของกิจจาดูไม่ได้ทันที

นรมนสังเกตกิจจาตลอด เห็นท่าทางของเขาตอนนี้ อดหวาดกลัวไม่ได้

“เป็นไงบ้าง?

กิจจาตกใจสุดๆ แต่กลับส่ายหน้า: “แด๊ดดี้ปลอดภัย น่าจะ อาการเจ็บเส้นประสาทกำเริบ แต่ยาที่ผมให้เขาล่ะ?

ในระหว่างที่พูด กิจจาล้วงหาในกระเป๋าของบริศร์ แต่หาเท่า ไหร่ก็หาขวดยาไม่เจอ จู่ๆ นรมนนึกขึ้นได้ว่าหลายวันมานี้ไม่เห็น บุริศร์กินยา เดิมคิดว่าเขาถือโอกาสกินตอนเธอนอนหลับ ตอนนี้ ถูกกิจจาถามถึงพบว่าไม่ใช่แบบนั้น

ทันใดนั้น ในใจเกิดการโทษตัวเองและความเสียใจ

ทําไมเธอถึงไม่ใส่ใจกับอาการเจ็บเส้นประสาทของบุริศร์

เดิมคิดว่าบุริศร์จะตั้งใจกินยาเพื่อตนเองและลูกๆ ใครจะคิด ว่าไม่ใช่แบบนั้น

แต่ความคิดเหล่านี้ที่ซัดสาดในหัวใจสงบลงอย่างรวดเร็ว ใน เมื่อตอนนี้ไม่ใช่เวลาพิจารณา ต้องรู้ว่าทำไมบริศร์ไม่กินยา และ ขวดยาไปไหน?

“ช่วงนี้ไม่เห็นเขากิน หม่าเองก็ไม่ได้ถาม ยังคิดว่าเขากินอยู่ เลย ลูกยังมีสำรองอีกไหม? ”

นรมนมองกิจจาด้วยความหวัง

กิจจาหยักหน้า หันไปพูดกับโตษิน : “คุณอาโตษินครับ อา ย้ายแด๊ดดี้ของผมมาที่เตียงก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เขาถ้าเป็นไปได้ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงกว่านี้หน่อย นรมนแปลกใจ

“ในห้องมีฮีตเตอร์ ตอนนี้อุณหภูมิยี่สิบสามองศาแล้ว ยังต้อง ปรับ นอีกเหรอ?

นัยน์ตาของกิจจาประกายแสง ตอบเสียงทุ้ม “ปรับเป็น สามสิบองศา ตอนนี้ร่างกายของแด๊ดดี้เย็นมาก

คำพูดนี้ทำให้นรมนตระหนักได้ ร่างกายของบุริศร์เย็นผิดปกติ

ถ้าบอกว่าน้ำจากฝักบัวทำให้เขาเปียกไปทั้งตัวจึงปล่อยความ เย็นออกมา ตอนเธอกอดอยู่สักพักคงจะไม่เย็นจนน่าตกใจแบบนี้

นรมนมีลางสังหรณ์ว่าบุริศร์มีเรื่องปิดบังตนเอง แต่ตอนนี้ กิจจาไม่พูด เธอก็ไม่รีบร้อนถาม และให้โตชินจัดการตามที่กิจจา สั่ง

โตษินอุ้มบุริศร์วางลงบนเตียง ปรับอุณหภูมิขึ้นเป็นสามสิบ

องศาตามที่กิจจาเรียกร้อง

ภายในห้องร้อนจนคนรับไม่ไหว แต่สีหน้าของบริศร์เปลี่ยนไป

เล็กน้อย

“ผมจะกลับห้องไปหยิบยา

กิจจาพูดจบก็หันตัวเดินไป

โตษินยังคิดจะถามอะไร กลับมองเห็นแววตาครุ่นคิดของนร มน จึงอดถามไม่ได้ “คุณหนู คุณ……..
“ไม่มีอะไร พี่โตน ขอบคุณค่ะ”

นรมนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ แต่แววตาเต็มไปด้วยความกังวล เธอโทรหาชัยยศ บอกชะลอเรื่องเที่ยวไปก่อน ไปเมื่อไหร่ จะแจ้งเขา ส่วนเกิดเรื่องอะไร นรมนไม่พูดสักคำ

หลังจากวางสาย นรมนมานั่งลงข้างบุริศร์

มือของเขายังคงเย็น เย็นจนน่าตกใจ ภายในห้องร้อนแผดเผา เช่นนี้ ร่างกายเขายังคงแผ่ความเย็นออกมาเหมือนกับน้ำแข็ง ทำให้ความหวาดกลัวและความกังวลพรั่งพรูขึ้นในหัวใจคน อย่างไม่รู้ตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ