แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1188 คนคนนั้นช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ



บทที่ 1188 คนคนนั้นช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ดูหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงชื่อสาย เรียกเข้า แต่กลับเป็นนงลักษณ์โทรเข้ามา

เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะให้อารมณ์แบบไหนไปรับโทรศัพท์ สายนี้

เมื่อก่อนหน้านี้ เธอเคยระแวงนงลักษณ์มาก่อน แต่ว่าการช่วย เหลือสองครั้งติด ๆ ของนงลักษณ์ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็น คนชั่วร้าย

เพื่อคุณท่านตนวร และเพื่อแม่ นรมนอยากจะยอมรับเธอ แต่ ว่าการไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ในครั้งนี้ ทำให้เธอรู้สึกไม่ดี ต่อนงลักษณ์จนถึงขีดสุดแล้ว

ไม่ว่านงลักษณ์จะมีเจตนายังไง แต่ว่าเรื่องที่เธอเคยหลอกใช้ ให้อารองมากระทำต่อพ่อและแม่นั้น ไม่ว่ายังไงในใจของนรมน ผ่านมันไปไม่ได้

เธอกดวางสายโทรศัพท์ไปโดนตรง และก็ไม่สนใจว่าในใจ ของนงลักษณ์จะคิดยังไง แล้วก็เดินไปหาบุริศร์เลย

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
บุริศร์จ้องมองดูรอบข้าง แล้วเห็นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ที่ ยังคงแสร้งทำเป็นน่าเวทนาอยู่บนพื้น แล้วมองนรมนอย่างเป็น ห่วงขึ้นมาทีหนึ่ง

ในมือของเขาถือน้ำเต้าหูปาท่องโก๋อยู่ ดูท่าคงจะไปซื้ออาหาร เช้ามา

นรมนรับอาหารเช้าที่อยู่ในมือเขามา และยิ้มแล้วก็พูดว่า

“ไม่มีอะไรแล้ว จัดการหมดแล้วค่ะ”

“งั้นกลับห้องไปกินอาหารเช้าเถอะ”

บุริศร์ดูยังไม่ดูคุณนายตระกูลจันทรวงศ์สักครั้งเลย

“ได้ค่ะ”

นรมนอารมณ์ดีไม่น้อย แล้วคล้องแขนบุริศร์ไว้แล้วก็กลับห้อง พักผู้ป่วยไปเลย

พอคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นว่าไม่มีใครสนใจตัวเอง ชั่ว ขณะหนึ่งก็นิ่งอึ้งไปเลย

ในเวลานี้เธอถึงเพิ่งจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

ไม่!

เธอไม่อยากติดคุก!

นภดลเองก็ไม่กล้าให้เธอติดคุกหรอก!

แต่ว่าครั้งนี้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลับไม่แน่ใจแล้ว

เธอนึกถึงดวงตาที่เย็นเฉียบคู่นั้นของนภดล คิดถึงความเด็ด ขาดที่อยู่ในดวงตาของนภดล แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ล้างโทรศัพท์ออกมา โทรหา ศาสตราจารย์ฐานทัตอย่างรวดเร็ว

“ฐานทัต เจ้าชั่วนภดลนั่นมันกล้าแจ้งตำรวจจับฉัน! ฐานทัต คุณต้องช่วยฉันนะ! คุณต้องช่วยฉันนะ!”

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดจบก็ร้องไห้ขึ้นมา ร้องอย่างเสียง

โอดครวญ หัวสมองของศาสตราจารย์ฐานทัตรู้สึกหมุนไม่ทัน ทำไมนภดลถึงแจ้งตำรวจจับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์

หมายความว่าไง?

เกิดอะไรขึ้น?

เขารู้ว่าอะไรนิดอะไรหน่อยคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ทุบตี นภดล แต่ว่าเขาพูดไปแล้วคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ไม่ฟัง แถม ยังมักจะทะเลาะกับเขา แล้วยังมาทำการทดลองของเขาพัง ทำให้เขาไม่มีทางที่จะทำการวิจัยต่อได้
เพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะทำการวิจัยได้อย่างสบายใจ เขาก็ เลยปล่อยให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไปรังแกนภดลต่อไป

ในเมื่อเขารู้จักสภาพร่างกายของนภดลดี คุณนายตระกูล

จันทรวงศ์ทุบตีเขาก็ไม่สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ศาสตราจารย์ฐานทัตคิดไปแบบนี้ แล้วก็ไปทำการทดลอง อย่างสบายใจแล้ว บวกกับที่หลายปีมานี้นภดลมักจะอดทนแบก

รับไปศาสตราจารย์ฐานทัตก็เลยเคยชินกับวิธีจัดการแบบนี้แล้ว

พอมาวันนี้อยู่ดี ๆ ก็ได้ยินคุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดว่า นภดลจะแจ้งตำรวจจับเธอ ศาสตราจารย์ฐานทัตก็เลยคิดไม่ตก เล็กน้อยว่าเพราะอะไร

ทำไมจะต้องแจ้งตำรวจจับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ด้วย? ทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกันอีกแล้ว?

ศาสตราจารย์ฐานทัตพูดขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “จะดื้อด้าน อะไรนักหนา? คุณไม่สามารถมีวันที่สงบสุขให้ผมได้สักวันเลยเห รอ?”

ศาสตราจารย์ฐานทัตพูดจบก็วางวายไปเลย
นภดลจะไปมีความกล้าแจ้งตำรวจจับคุณนายตระกูลจันทร วงศ์ได้ยังไง?

นี่มันพูดไปเรื่อยชัด ๆ

ศาสตราจารย์ฐานทัตนึกว่าภรรยาแกล้งสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อที่ อยากจะให้ตัวเองไปโกรธเกลียดและต่อกรกับนภดลด้วย จึงอด ไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย

และเพื่อไม่ให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โทรศัพท์มารบกวนตัว เองอีก เขาจึงปิดเครื่องโทรศัพท์ไปเลย

ไม่ว่ายังไงคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะ มาถึงขั้นนี้ได้ นี่ศาสตราจารย์ฐานทัตไม่สนใจตัวเองแล้วเหรอ?

เธอโทรหาศาสตราจารย์ฐานทัตอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าครั้งนี้ในโทรศัพท์กลับมีเสียงอ่อนหวานลอยมา แจ้งเตือน ว่าศาสตราจารย์ฐานทัตได้ปิดเครื่องไปแล้ว

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โกรธจนปาโทรศัพท์ทิ้งไปเลย

“เจ้าชั่ว! แม้แต่คุณก็ไม่สนใจฉันแล้วเหรอ?”

แต่ว่ากลับไม่มีคนให้คำตอบกับเธอสักอัน ตำรวจมาถึงอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์แล้ว นรมนก็เอาคลิปวิดีโอส่งให้ กับตำรวจ แล้วคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็โดนพาตัวไป

เธอร้องไห้โวยวาย ล้มลุกคลุกคลาน แต่ว่าอยู่ต่อหน้าตำรวจก็ ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น นภดลอยู่ในห้องฉุกเฉิน นรมนและบริศร์กินอาหารเช้าอยู่ที่ ห้องพักผู้ป่วย ไม่มีใครมาสนใจเรื่องของคุณนายตระกูลจันทร

วงศ์เลยสักนิด

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว นรมนก็จ้องมองบุริศร์แล้วพูด ขึ้นว่า “ตอนนี้นภดลเองก็บาดเจ็บอยู่ ปาณีก็ยังไม่หายดี คู่รัก ชายหญิงที่เผชิญความลำบากมานี้ ย้ายให้พวกเขามาอยู่ห้อง เดียวกันไปเลยดีกว่า”

“ได้”

บุริศร์เองก็ไม่ห้ามปราม

เสียงโทรศัพท์ของนรมนดังขึ้นมาอีกครั้ง หัวคิ้วของเธอขมวด กันแน่น

สีหน้าของบุริศร์เองก็ไม่ดีนัก แล้วก็กวาดตาดูหน้าจอโทรศัพท์ ทีหนึ่ง ก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้ามาของนงลักษณ์ ก็รู้เลยว่าทำไม นรมนถึงได้ไม่รับสายโทรศัพท์
“ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร มีความคิดและเป้าหมายอะไร ยังไงก็จะ ต้องเผชิญหน้าอยู่ดี และอีกอย่างทางด้านคุณตานั้นเธอก็ได้ไป สร้างความรู้สึกดีและการมีตัวตนไว้แล้ว ถ้าเราไม่เผชิญหน้า ก็จะ ต้องเป็นคุณตาที่เผชิญหน้ากับเธอ คุณคิดว่าคุณตาจะไม่เห็นแก่ ความรู้สึกเหรอ?”

พอได้ยินบริศ พูดแบบนี้ นรมนก็อยากจะสับนงลักษณ์ไปซะ

เลย

ใช่ซิ เธอยังมีคุณตา

ดูจากระดับความรู้สึกผิดที่คุณท่านตนวรมีต่อนงลักษณ์ใน ตอนนี้ ไม่ว่านงลักษณ์จะทำอะไรคุณท่านตนวร คาดว่าคุณท่าน ตนุวรก็คงจะไม่โกรธเธอหรอก

พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เธอเกลียดความรู้สึกและสถานะแบบนี้ แต่กลับต้องมาเผชิญ

หน้า

นรมนเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วก็รูดหน้าจอรับสายเลย

“มีเรื่องอะไร?”

ทั้งน้ำเสียงและคําพูดของเธอต่างก็ฟังดูหัวนทั้งทั้งนั้น

ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ แต่เธอก็

ควบคุมไว้ไม่อยู่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่านงลักษณ์ พ่อแม่ของเธอคงจะไม่ต้อง

พลัดพรากจากกันทั้งชีวิตหรอก?

แล้วแม่เธอก็คงจะไม่ต้องมาทนทุกข์อยู่ทั้งชีวิตหรอก?

เห็นได้ชัดว่านงลักษณ์ดูจะคิดไม่ถึงว่านรมนจะเสียงหัวนขนาด นี้ จึงอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก็ถามขึ้นว่า “นรมน เธอเป็นอะไรไป?”

“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันก็จะวางแล้วนะ” ตอนนี้นรมนรู้สึกว่าพอได้ยินเสียงเธอแล้วก็รู้สึกไม่ชอบใจและ สะอิดสะเอียน

นงลักษณ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็แค่อยากถาม

ว่า มีข่าวมิลินบ้างหรือเปล่า?”

นรมนนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “นงลักษณ์ มิลินเป็นคนของคุณ แล้วก็ได้รับบาดเจ็บที่ประเทศ ถึงแม้ว่าคุณ จะโดนคนหักหลังไป แต่ว่ากำลังที่ตัวเองสะสมไว้ยังคงมีอยู่มั้ง? ถ้าอยากรู้ว่ามิลินเป็นยังไงบ้าง คุณแค่โทรศัพท์ไปสายเดียวก็พอแล้ว ทำไมจะต้องให้พวกเรายื่นมือ เข้าไปแทรกด้วย? แล้วยังใช้มิลินมาเป็นเหยื่อล่อพวกเราไป ประเทศ ตกลงคุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่? จะให้พวกเราช่วย ราเชนแย่งอำนาจเหรอ? หรือว่ามีเป้าหมายอย่างอื่นอีก? คุณพูด มาตรง ๆ ได้เลย มัวแต่แอบซ่อนมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่อย่างนี้ คุณไม่รู้ สึกเหนื่อยเหรอ?”

นงลักษณ์คิดไม่ถึงว่านรมนจะพูดตรงขนาดนี้ หนำซ้ำแม้แต่ป้า ใหญ่สักคำก็ยังไม่เรียกเลย

นี่คือเธอจะเตะตัวเองออกไปจากขอบข่ายของเครือญาติแล้ว

เหรอ

นงลักษณ์อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นขึ้นมา

“นรมน ฉันรู้ว่าเธออาจจะไม่เชื่อฉัน แต่ว่าฉันไม่ทางอื่นแล้ว จริง ๆ กำลังของฉันโดนคนอื่นเก็บไปหมดแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีคน ให้ใช้แล้วจริง ๆ”

“งั้นก็อยู่ดี ๆ ไปเถอะ”

พูดจบนรมนก็วางสายไปเลย

ไม่มีคนให้ใช้แล้วงั้นเหรอ?

จะเป็นไปได้ยังไง!

นึกว่าเธอนรมนเป็นเด็กสามขวบแล้วจริง ๆ เหรอ?
คนที่สามารถแกล้งตายยี่สิบกว่าโดยไม่มีคนพบเห็นใน ประเทศ ได้ คนที่สามารถพาตัวมิลินมาหลบซ่อนไว้ทางนี้โดยไม่ มีสุ่มเสียงอะไรทั้งหลายขนาดนี้ ตอนนี้เธอจะมาบอกกับนรมน ว่าไม่มีคนให้ใช้แล้วงั้นเหรอ?

นรมนยิ้มเย็นขึ้น ในใจกลับมีความโกรธเคืองและความโศก เศร้าพุ่งขึ้นมาระลอกหนึ่ง

บุริศร์จับมือของเธอเอาไว้ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “อย่าโมโห เลย เพื่อคนอื่นแล้ว โมโหจนตัวเองไม่สบายไปมันจะไม่คุ้มกันนะ ผมได้ให้ชัยยศไปสืบหาเบาะแสของมิลินแล้ว ขอแค่ให้มีข่าวส่ง มาพวกเราก็จะรีบไปช่วยคนทันที”

นโมนตัวสั่นไปทั้งตัว

“นี่มันเกินไปแล้วจริง ๆ อย่างน้อยมิลินก็ติดตามเธอมาตั้ง หลายปี เพื่อเธอแล้วหลายปีมานี้มิลินต้องมีชีวิตอยู่ยังไง? แต่เธอ กลับเอามิลินมาเป็นเหยื่อล้อพวกเรา เพราะเธอโง่หรือรู้สึกว่าฉัน โง่กันแน่?”

แค่คิดว่าคนคนนี้เป็นญาติของตัวเอง เป็นนงลักษณ์ที่มีใบหน้า ที่เหมือนกับคุณแม่ ไม่ว่ายังไงอารมณ์ของนรมนก็ไม่มีทางที่จะ สงบลงมาได้

เพราะกลัวว่านรมนโกรธมากไปจะไม่ดีต่อร่างกาย บุริศร์จึงได้แต่จับมือของเธอไว้ “ถ้าหากว่าคุณโมโหอีก ผมก็จะจูบ คุณแล้วนะ”

นรมนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง พอเห็นบริศร์ที่มีท่าทางจริงจังทั้งหน้า และเตรียมพร้อมที่จะกระทำ ก็โกรธจนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก มา

“คุณอย่ามาทำอย่างนี้ได้ไหมคะ? นี่ฉันกำลังโกรธอยู่นะ”

น้ำเสียงของนรมนแฝงไว้ด้วยความเบื่อหน่ายเสี้ยวหนึ่ง

บุริศร์กลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผมรู้อยู่แล้ว หรือคุณดูไม่ออกเห รอว่าผมกำลังหาโอกาสทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดคุณอยู่?”

“บุริศร์ คุณกลายเป็นคนลามกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?

มุมปากของนรมนคลี่ขึ้นเล็กน้อย อารมณ์ที่กำลังโกรธอยู่เมื่อ ก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นมากแล้ว

บุริศร์กลับหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ผมก็ลามกอย่างนี้มาตลอด ทั้งคุณและผมเราต่างก็ถูกต้องตามหลักตามกฎหมาย ถ้าไม่คิด จะนอนกับคุณนะซิถึงจะไม่ใช่ลูกผู้ชาย
“นี่คุณยังจะพูดอีก”

นรมน โดนเขาฉุดให้หันเหความสนใจไปหมดแล้ว

พอเห็นนรมนอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว บุริศร์ก็ได้แต่ใช้วิธีที่ ธรรมชาติที่สุดมาทำให้ภรรยาไม่โมโห

นงลักษณ์ฟังเสียงเงียบเชียบของโทรศัพท์ที่โดนนรมนวาง สายไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นขึ้นมา

นี่เธอโดนรังเกียจแล้วเหรอ?

ไม่ใช่!

เธอโดนโกรธเกลียดแล้วต่างหาก

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอทุกข์ใจเป็นอย่างมาก

ถ้าหากขนาดนรมนยังไม่เชื่อเธอเลยว่าตอนนี้เธอไม่มีคนให้ ใช้แล้ว แล้วยังจะมีใครเชื่อเธออีก?

คนคนนั้นช่างโหดร้ายจริง ๆ

ตั้งแต่เริ่มต้นเธอก็อยู่ในแผนการของเขา

เธอนึกว่าตัวเองสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาแล้ว นึกว่าตัวเองพบเจออะไรมามากขนาดนี้และก่อตั้งองค์กรและอานาจของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับมิ
ลีน นึกว่าตัวเองสามารถมีเรี่ยวแรงที่จะปกป้องคนในครอบครัว ของตัวเองได้แล้ว แต่ว่าผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว เธอถึงได้รู้ว่า เรื่องทั้งหมดนี้ตัวเธอคิดไปเองทั้งนั้น

เขาเป็นคนที่ให้ทุกอย่างกับเธอ

เขาให้เธอแกล้งตายได้สำเร็จ แต่กลับแอบดูเธอดิ้นรนอยู่ใน โคลนตมจากมุมมืด จ้องมองเธอคิดไปเองทีละก้าวว่าตัวเองได้ ก่อตั้งอำนาจของตัวเองขึ้นมาแล้ว ในขณะที่คิดว่าสามารถหลุด พ้นจากการควบคุมของเขาไปหมดแล้ว เขาก็ลงมือเลย

เหมือนอย่างกับเมื่อก่อน เขาลงมือได้อย่างไม่มีเยื่อใยเลยสัก นิด ลงมือได้อย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม ทำให้เธอไม่มีการ ป้องกัน และทําอะไรไม่ทัน

เพื่อที่จะปกป้องเธอให้จากไป มิลินต้องเป็นตายร้ายดียังไงก็

ไม่รู้

พอตอนนี้เธอมาถึงเมืองชลธีตัวคนเดียว มาถึงที่แห่งนี้ ที่ที่เธอ ถือกําเนิดขึ้นมา ที่ที่เป็นบ้านเกิดของเธอ แต่กลับแปลกที่และน่า กลัว

เธอไม่มีที่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้แต่มาหาบุริศร์และ นรมนแล้ว

เธอนึกว่านรมนจะกลายเป็นที่หลบภัยของตัวเองได้ แต่ สุดท้ายตัวเองก็ชื่อเกินไปแล้ว
ตกลงมันเกิดปัญหาขึ้นตรงไหนนะ?

เป็นเพราะว่าเธอไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาเหรอ?

เป็นเพราะว่าเธอพูดเรื่องอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาออกไป เหรอ?

แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นธรณีหรือว่านรมน ไม่ควรจะไปประเทศเพื่อ อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาหรอกเหรอ?

ทําไมเรื่องราวถึงได้ไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิดไว้ล่ะ?

ทำไมเหมือนกับว่านรมนจะโกรธตัวเองล่ะ?

นงลักษณ์ไม่เข้าใจ

ตอนนี้เธอเหลือแค่ทางเลือกเดียวแล้ว นั่นก็คือคุณท่านตนวร แต่ว่าวินาทีนี้ นงลักษณ์เกิดความลังเลขึ้นมาแล้ว

ถ้าหากว่าคุณท่านตนวรก็ปฏิเสธที่จะช่วยตัวเอง และไม่เชื่อว่า

ตอนนี้เธอไม่มีทางหนีแล้วล่ะ เธอควรจะทำยังไงดี?

นั่นเป็นความอบอุ่นสุดท้ายของเธอแล้ว

นั่นเป็นญาติที่สนิทที่สุดเพียงคนเดียวของเธอ เธอแบกรับการถูกสงสัยและความคาดเดาอะไรอีกไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะถ้ามาจากคุณท่านตนวร

จะทํายังไงดี?

นงลักษณ์แข็งแกร่งมาทั้งชีวิต แต่อยู่ ๆ กลับน้ำตานองหน้าใน วินาทีนี้ และโศกเศร้าเสียใจอย่างที่สุด

เธอเคยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ แต่ว่าวินาทีนี้กลับรู้สึกว่า ตัวเองวางอะไรไม่ลงสักอย่าง ถึงแม้ว่าการมีชีวิตอยู่ก็ยังเป็น ความฟุ่มเฟือยและความตกต่ำหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ