บทที่ 1105 ความปรารถนาที่อยากอยู่รอดแรงกล้ามาก
“สามีคะ คุณว่าจะให้ดุลยาได้รับผลกรรมยังไงดี? นรมนรู้สึกค่อนข้างเศร้า
เฮ้อ ไม่อยากเป็นคนเลวเลยจริงๆ
บริศ เห็นท่าทางลำบากใจของภรรยา ก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “นี่มัน ไม่ง่ายหรอกเหรอ? ก็ให้โดนแบบเดียวกับที่ทำไง
“ยังไงนะ?”
นรมนสนใจขึ้นมาทันที
“ตุลยาวางยาพิษคุณตาไม่ใช่เหรอ? ต้องการให้คุณตาตายไป เงียบๆ งั้นก็ทำกับเธอแบบเดียวกันสิ
บริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ยาที่เธอเอาไว้ข่มเองตัวเองจะไม่ระวังได้ยังไง?
“หลักการเหมือนกันก็พอ ทำไมต้องใช้การข่มพืชของเธอด้วย ล่ะ? เปลี่ยนไม่ได้เหรอ?”
ค่าพูดบริศ ทําให้แววตานรมนเปล่งประกายขึ้นมา
“คุณรู้เหรอ?”
“ฉันไม่รู้ แต่พี่สาวน้องสาวคุณรู้ไม่ใช่เหรอ? ไม่ว่าจะเป็นรมิดา หรือโพนี่ก็จบมหาวิทยาลัยการแพทย์
ได้ยินบุรีศรีพูดแบบนี้ นรมนก็ยิ้มดีใจขึ้นมาทันที
“สามี คุณเลวมากเลย”
“คุณไม่ชอบความเลวของฉันเหรอ?”
บุริศร์ยิ้มร้ายกาจ ทําให้หัวใจนรมนเต้นแรงขึ้นมาทันที
จริงด้วย
เป็นคู่รักที่แต่งงานกันมานานแล้ว แต่เขายังแซวเธอแบบนี้ มัน ดีจริงๆ ใช่ไหม?
นรมนเหลือบมองเขา ในดวงตามีความรักใคร่มากมาย
บริศ ผ่านมาหลายวันแล้ว ถามป้องแล้วว่าสามารถมีเพศ สัมพันธ์ได้ จะทนสายตาเช่นนี้ของนรมนได้อย่างไร
ท่านประธานใหญ่บริศร์กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า กระโจน
เข้าหานรมินทันที
หลังจากเรื่องราวบนเตียงอันเพลิดเพลินสดชื่น นรมนก็ได้
เรี่ยวแรง โดยสมบูรณ์
บริศ เห็นท่าทางอ่อนแอปวกเปียกของเธอ ก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “ยังแซวฉันอีกไหม?
“ออกไปเลย!”
นรมนอยากเตะผู้ชายคนนี้ลงไปจากเตียงจริงๆ น่าเสียดายที่ เธอไม่มีแม้แต่แรงจะยกขา
บุรีศร์ตกหลุมรักท่าทางเล็กๆ ของเธอแทบตาย จุนเก สักพัก จูบจนแทบทำให้นอนเป็นลมหมดแต่ไป
เธอแค่ไม่ตื่นแล้ว
บุริศร์หัวเราะอุดอู้ อุ้มเธอขึ้นมาทันทีแล้วเข้าไปในห้องน้ำ ทรมานในห้องน้ำอีกครั้ง เมื่อกลับมาที่เตียง นรมนก็จะเตียง หลับไป คิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น
แต่บุริศร์กลับมีจิตวิญญาณกระปรี้กระเปร่า ทั้งร่างกายได้ ความวิตกกังวล
เขานอนแนบนรมน นรมนพลิกตัวทันที หาตำแหน่งสบายๆ ฟัง
มุมปากบุริศร์ยกขึ้นอีกครั้ง
ช่างเป็นการนอนหลับฝันดี
วันรุ่งขึ้นนรมนตื่นขึ้นมา บุริศร์ก็ไม่อยู่แล้ว
เธอมองนาฬิกา เพิ่งเจ็ดโมงกว่า
นรมนบิดขี้เกียจ ไม่ต้องถาม บุริศร์ต้องไปออกกำลังกายตอน เช้าแน่นอน
หลังจากเธอล้างหน้าแปรงฟันลงมาข้างล่าง ก็เห็นเจ้าพุดดิ้ง น้อยสองคนตามหลังบุริศร์กลับมาจากข้างนอก
“หม่ามี้ อรุณสวัสดิ์!”
กานต์วันทยหัตถ์ใส่นรมนเท่มาก
เจ้าเด็ก วันนี้สวมชุดออกกำลังกายไนกี้ ดูสดชื่นผ่อนคลาย
มาก
“อรุณสวัสดิ์”
นรมนพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานกลับมาไม่เจอกานต์กับกิจจา เอาแต่อยู่กับบุริศร์ ไม่รู้ว่าเด็กๆ คิดอย่างไรกับพวกเขา
พอคิดถึงตรงนี้ นรมนก็อยากมุดดินหนี
กิจจาก็เดินตามหลังเข้ามา ใบหน้าเล็กมีแต่เหงื่อ เมื่อเห็นนร มนก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “หม่ามี้ อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์”
นรมนรู้สึกกิจจาสูงขึ้น สูงกว่ากานต์นิดหน่อยรางๆ
“กิจจา ลูกก็ออกไปออกกำลังกายตอนเช้ากับพวกเขาเหรอ?” “อืม ได้ออกกำลังกายมากหน่อยก็ดีครับ
เมื่อกิจจายิ้มก็เผยฟันขาวเรียงเป็นแถว โดยเฉพาะเขี้ยวเสือ เล็กๆ สองซีกนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดูมาก
บริศร์หยิบผ้าขนหนูออกมาให้ทั้งสองคน มองนรมนขณะพูด ขึ้น “คุณอยากไปออกกำลังกายตอนเช้ากับเราไหม?”
“ไม่อยาก”
นรมนปฏิเสธทันที
หน้าหนาวอากาศหนาวมาก เธอไม่อยากลุกขึ้นจากผ้านวมเช้า ตรู่ เธอยอมรักใคร่กับผ้านวมตลอดไป
กานต์พูดอย่างค่อนข้างดูถูก “หม่ามี้ คุณเป็นแบบนี้ต่อไปจะ อ้วนเป็นหมูนะ”
มุมปากนรมนคว่ำทันที
“แม่อ้วนแล้วเหรอ?”
“คุณไม่ได้ส่องกระจกใช่ไหม? คุณกลมหมดแล้ว”
กานต์เพิ่งพูดจบ บุริศร์ก็เคาะหน้าผากเขาทันที
“โอ๊ย!”
กานต์มองบุริศร์ด้วยความหดหู ได้ยินบุริศร์พูดขึ้น “เกรงใจผู้ หญิงของพ่อหน่อย อย่างเธอเรียกอ้วนเหรอ? นั่นเรียกอวบ เจริญ อาหารรู้ไหม?”
นรมนอยากร้องไห้แทบตายจริงๆ
อวบเหรอ?
ไม่ใช่อ้วนเหรอ?
“บุริศร์ คุณรังเกียจฉันแล้วเหรอ?”
“เปล่าครับ ภรรยา ฉันบอกแล้ว คุณเจริญอาหาร เจริญอาหารจริงๆ”
บุริศร์รีบอธิบาย
นรมนทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดขึ้น “เล่นลิ้นนะ”
“เฮ้อ ผู้หญิงอ่ะเนอะ”
กานต์ส่ายหน้าพูดประโยคนั้นแล้วก็กลับห้องตัวเองทันทีเพื่อ
ไปอาบน้ำ
“นี่มันหมายความว่าไง?”
นรมนรู้สึกตัวเองโดนกานต์ดูถูกแล้ว
ไม่!
ไม่ใช่รู้สึก โดนลูกชายตัวเองดูถูกจริงๆ
กิจจาเม้มปากยิ้มไม่พูดอะไร เขาไม่อยากเข้าร่วมสงครามนี้ เพื่อจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับหายนะ
“หม่าม ผมกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะครับ
กิจจาเห็นนรมันค่อนข้างหดหู จึงรีบหนีทันที
เมื่อภายในห้องเหลือเพียงบุริศร์และนรมน นรมนก็เบ้ปากพูด ขึ้น “ฉันอ้วนเหรอ?”
บุริศร์ตอบด้วยความปรารถนาที่อยากอยู่รอดแรงกล้ามาก
“ฉันอวบมากเหรอ?”
“ก็นิดหน่อย”
ทุกครั้งที่นรมนพูดหนึ่งประโยคก็จะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ริศร์ทำได้แค่เพียงถอยหลังหนึ่งก้าว โดยไม่รู้ตัว
“คุณหยุดนะ!”
นรมนครามทันทีทันใดนั้นบุริศร์ก็ยืนนิ่งไม่ขยับ
“พูดมา ฉันอ้วนหรือไม่อ้วน?
นรมนถามอย่างอุ่นเคือง
ผู้หญิงอ่อนไหวกับปัญหาเรื่องอ้วนผอมมาตลอด ในขณะนี้บริ ศร์รู้สึกว่าตัวเองไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็ตายทั้งนั้น
ทําอย่างไรดีนะ?
หัวสมองเขาคิด แล้วรีบพูดขึ้น “โพนี่บอกว่าหลังจากคุณแท้ง แล้วร่างกายต้องฟื้นตัวไม่ใช่เหรอ ได้ยินว่าจัดเตรียมยาบาง อย่างให้คุณ ว่ากันว่ายาพวกนั้นมีฮอร์โมน สามารถทำให้อ้วน ขึ้นนิดหน่อย เดี๋ยวร่างกายคุณดีขึ้นก็จะฟื้นตัว
“แสดงว่าฉันยังอ้วน?”
นรมนไม่ได้ติดกับดักเขา
พระเจ้า!
ไม่คิดว่าเธออ้วนแล้วจริงๆ
นรมนรีบวิ่งกลับไปที่ห้องนอน
บริศร์ยืนทำหน้างุนงงอยู่ตรงนั้น สรุปแล้วคำตอบนี้พอใจหรือ ไม่พอใจนะ?
นรมนหาชุดฤดูใบไม้ร่วงมาสวมร่างกาย รู้สึกใส่ไม่ค่อยได้ แล้วอย่างที่คิดไว้เลย เสื้อผ้าช่วงนี้บุริศร์ก็ให้คนตัดส่งมาให้ เธอไม่ได้ดูว่ามันไซซ์
อะไร แค่รู้สึกว่าสวมใส่พอดีและสบายมาก นึกว่าเป็นไซซ์เดิม
ในขณะนี้เมื่อเทียบดู มันไซส์ใหญ่ขึ้นหนึ่งไซซ์
นรมนรู้สึกแตกสลายทันที
ตอนนี้บริศร์ก็ไม่กล้าเข้าไป ทำได้แค่ไปที่ห้องกานต์ กานต์เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ทั้งร่างห่อผ้าขนหนูไว้ เมื่อเห็นบุรี ศร์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณบุริศร์ เข้ามาไม่รู้จักเคาะประตูเหรอ?”
กานต์ไม่ค่อยพอใจอย่างเห็นได้ชัด ต้องการดึงเสื้อผ้ามาคลุม ตัวเองด้วยซ้ำ
บุริศร์พูดอย่างค่อนข้างดูถูก “หุ่นเล็กๆ ของลูกมีอะไรดูดี?” “อย่าดูถูกเด็กนะ!”
ใบหน้าเล็กของกานต์แดงก่ำ
เกลียดมาก!
บริศ พ่นหัวเราะออกมา
“อย่าดูถูกเด็กเหรอ ลูกโตแล้วแต่ยังหุ่นไม่ดีเท่าพ่อหรอก อยากดูไหม?”
ท่าทางยั่วยุของบุริศร์ทำให้คิ้วกานต์ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย คุณบุริศร์อวดดีแบบนี้ดีจริงๆ เหรอ?
เขามองบุริศร์อย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้น “รอผมโตก่อน คุณก็แก่ แล้ว ถึงตอนนั้นผิวหนังหย่อนคล้อย ยังดูดีกว่าหุ่นผมเหรอ? รอ หุ่นผมมีกล้ามซิกแพ็ค ผมจะไม่ใส่เสื้อเดินต่อหน้าหม่ามี้ ผมจะดู ว่าหม่าจะมองคุณหรือมองผม
ยิ้มบุริศร์แข็งทื่อแล้ว
“เจ้าเด็กแสบ ลูกกวนเหรอ?”
“คุณแหย่ผมก่อนนะ”
กานต์พูดจบก็หยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งเข้าไปห้องน้ำทันที แล้วปิด ประตูดัง “ปัง”
บุริศร์ตกตะลึงทันที เขามาทำอะไรที่นี่?
ไม่คิดว่าจะลืมเพราะปีศาจน้อยคนนี้
นรมนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบน และเดินเตาะแตะลงมาข้าง
ล่าง
บุริศร์ก็ไม่สนใจกานต์แล้ว รีบเดินออกไปจากห้องแล้วถามขึ้น “จะไปไหนอ่ะ? นี่มัน!”
“ไปออกกำลังกาย
นรมนเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายแล้ว เป็นบุรีศร์แล้วเดินไป
ทันที
“ไม่ใช่ คุณรอก่อน”
บุริศร์รู้สึกว่าสถานะของครอบครัวตัวเองกำลังสั่นคลอน
“คุณยังไม่กินข้าวเช้าเลยจะไปออกกำลังกายเหรอ?”
นรมนมองพึ่งตัวเอง พูดขึ้นอย่างรังเกียจเล็กน้อย “กินอะไร ล่ะ? คุณดูพุ่งฉันสิ มีเนื้อเพิ่มมาอีกชั้น ไม่กินแล้ว”
“การลดน้ำหนักก็ต้องกินให้อิ่มก่อนถึงมีแรงไปลดไม่ใช่เหรอ? ถ้าคุณหิวจนเป็นลมที่ฟิตเนส ถึงตอนนั้นคนอื่นคิดว่าผมทารุณ คุณล่ะ เร็วเข้า กินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จแล้วผมจะไปกับคุณ
ในใจบุริศร์แอบเสริม “ให้นรมนไปฟิตเนสคนเดียวไม่ได้ หุ่น ของโค้ชที่นั่นแต่ละคนหุ่นสุดยอดทั้งนั้น ถ้าคนไหนไม่มีตาไป ชอบภรรยาเขาล่ะจะทำยังไง?
นรมนไม่รู้เลยสักนิดว่าในใจบุริศร์มีความคิดแบบนี้ คิดสักพัก ก็จริง ท้องก็หิวมากจริงๆ ถ้าหิวจนเป็นลมไปชื่อเสียงบุริศร์ก็แย่
คิดแบบนี้แล้วเธอก็ลังเลมาก
ในเวลานี้กานต์ก็ออกมาพอดี
เห็นนรมนสวมชุดออกกำลังกายก็รู้ว่าหม่าจะทำอะไร
เขาถอนหายใจพูดขึ้น “หม่ามี จุดธูปไหว้พระชั่วคราวมันไม่มี ประโยชน์หรอก คุณต้องไปออกกำลังกายตอนเช้ากับพวกเราทุก วันต่างหาก”
“กานต์ ลูกหุบปากนะ!!
บุริศร์รู้สึกว่าเจ้าเด็กแสบนี้ขวางหูขวางตาพิเศษเลยวันนี้ อย่างที่คิดไว้ หน้าบรมนคว่ำลง
“กานต์ แม้แต่ลูกก็รังเกียจหม่ามี้แล้วเหรอ?”
ท่าทางจะร้องไห้ของนรมนทำให้กานต์รู้สึกอกสั่นขวัญหาย จริงๆ
เขารีบเปลี่ยนคำพูด “หม่าม ช่วงนี้ข้างนอกเขานิยมสาวอวบ กัน เป็นประเภทที่ใส่เสื้อผ้าแล้วดูผอม ถอดเสื้อแล้วมีกล้ามเนื้อ ผมว่าคุณอยู่ในประเภทนี้นะ”
“จริงเหรอ?”
สีหน้านโมนจากมืดมนกลายเป็นสดใสขึ้นมาทันที
กิจจาก็เดินออกมาเช่นกัน ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ก็รีบ พูดขึ้น “เรียนแพทย์เขาบอกว่า ผู้หญิงอ้วนนิดหน่อยจะมีสุขภาพ แข็งแรงครับ”
“งั้นเหรอ?”
รอยยิ้มนรมนกว้างขึ้นอีกครั้ง
บริศ แอบโล่งใจเงียบๆ
ผู้หญิงน่ะนะ ห้ามพูดว่าอ้วนต่อหน้าเธอ
นี่เป็นประสบการณ์อันลึกซึ้งที่สุดของเขาในปัจจุบัน
กิจจารีบพยักหน้า
“แน่นอนครับ หม่า ตอนนี้คุณอยู่ในเกณฑ์ปกติ ผอมขึ้นอีกจะ ไม่สวยแล้ว ถึงตอนนั้นโภชนาการไม่ดีก็จะป่วยง่าย
กานต์เห็นกิจจาพูดโกหกอย่างโจ่งแจ้ง หลักๆ คือต้องพูด หน้าตาจริงจัง ในใจเขาคิด กิจจาเจ้าเด็กนี่ เรียนเสียหมดแล้ว
ความปรารถนาที่อยากอยู่รอดแรงกล้ามากอย่างที่คิดไว้เลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ