บทที่ 1100 นี่มันไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลยนะ
“แบบนี้ก็ดี ฉันกลัวว่าจะเป็นเพราะเรื่องของตุลยาแล้วทำให้ ความเป็นพี่น้องระหว่างคุณกับไมค์ต้องมาห่างเหินกัน
“จะเป็นไปได้ยังไง? ไมค์ไม่ใช่คนแบบนั้น
บุริศร์ได้ยินว่านรมนกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะ หัวเราะขึ้นมา
หลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นรถแล้ว ก็ออกไปจากสนามบิน แล้วไป กินอะไรนิดหน่อยที่ร้านอาหารแถว ๆ นี้
นรมนได้นอนหลับมาพอแล้ว แต่รอบดวงตาของบริศ กลับคํา
เป็นรอบ
การออกไปครั้งนี้มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายจริง ๆ ด้วย แต่ว่าก็
ทรหดมากจริง ๆ
นรมนพูดขึ้นอย่างรักใครว่า “คุณกลับไปนอนพักผ่อนเถอะ มิล นบอกว่าคัมภีร์โบราณให้เธอดูสักหน่อย คุณรู้สึกว่าไงคะ?”
บุริศร์ครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ยังไงก็ได้ ผมจะให้ พฤกษ์คัดลอกออกมาเล่มหนึ่งแล้วส่งไปให้ป้อง ถึงแม้จะเป็นของ ของหมู่บ้านดารายน แต่ว่าในเมื่อป้าโอได้เอาแหวนมอบให้กับกานต์แล้ว คัมภีร์โบราณ กานต์ก็มีอำนาจในการจัดการ ผมรู้สึกว่าต่างก็ เป็นเรียนการรักษา ให้สามีภรรยาป้องดูสักหน่อย ไม่แน่อาจจะมี ผลที่คาดคิดไม่ถึงก็ได้
“ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
หลังจากที่นรมนกับบริศร์กลับไปแล้ว พฤกษ์ก็ไปจัดการแล้ว มิลินยังอยู่ที่ประเทศ ตอนนี้ยังรีบกลับมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น จะคัดลอกคัมภีร์โบราณออกมาเล่มหนึ่งนั้น ก็ยังมีเวลาอยู่
ทั้งสองคนกลับมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก บุริศร์อาบน้ำ เสร็จแล้วก็ไปนอนเลย
นรมนนอนไม่หลับ พอเห็นว่ากิจจาไม่อยู่บ้าน กานต์ก็ไม่อยู่
บ้าน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
“ป้าหวาน พวกเด็ก ๆ ล่ะ?”
“คุณชายกิจจาและคุณชายกานต์บอกว่าจะออกไปเล่น ไม่ให้ คนตาม แล้วก็ไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว ส่วนคุณหนูกมลอยู่บ้านตระกูล ทวีทรัพย์ธาดาค่ะ”
“อ๋อ โอเค”
นรมนยักไหล่เล็กน้อย แล้วรู้สึกว่าออกไปท่องเที่ยวครั้งหนึ่ง
แต่ว่าไม่ได้ซื้อของฝากมาให้พวกเด็ก ๆ มันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอใช้ช่วงเวลาที่บริศร์ยังนอนหลับอยู่ขับรถไปห้างสรรพ สินค้าเที่ยวหนึ่ง
ตอนที่มาถึงเขตของเล่นเด็กนั้น นรมนดูแล้วดูอีก ของเล่น ทั่วไปแบบนี้สําหรับกานต์มาพูดนั้นไม่มีความท้าทายอะไรเลย หรือไม่ก็ซื้อเสื้อผ้าให้ดีกว่า
นรมนซื้อเสื้อผ้าให้พวกเด็ก ๆ คนละชุด หวานอีกนิดหน่อยก็กลับมาเลย จากนั้นก็ซื้อขนม
กานต์กับกิจจายังไม่กลับมา นรมนเองก็ไม่ได้เร่ง
เธอเปิดโน้ตบุ๊คออก แล้วก็โทรวิดีโอคอลหาพริมาโดยตรง
เลย
“ผู้อำนวยการพริมา ทางด้านจยาตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
พริมาคิดไม่ถึงว่านรมนจะโทรวิดีโอคอลหาตัวเองในเวลา แบบนี้ จึงรีบพูดขึ้นว่า “จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังถ่าย ละครอยู่ แต่ว่าเพราะว่าผลกระทบของเรื่องราวในครั้งนี้ จากบท นางเอกได้กลายเป็นบทตัวรองแล้วค่ะ”
“แสดงไปก่อนเถอะ ช่วงนี้ก็เฝ้าดูไว้ดี ๆ หน่อย ฉันกลัวว่ายังจะ มีบริษัทอื่นมาวางหลุมพรางไว้ให้พวกเราอีก
“ได้ค่ะ”
นรมนครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วถามขึ้นว่า “อ๋อ ใช่แล้ว อัลบัมของ
คมทิพย์จะได้ออกตอนไหน?”
“ใกล้แล้วค่ะ แต่ว่าความคิดของฉันคือหาดาวรุ่งพุ่งแรงสักคน หนึ่งมาถ่ายมิวสิกวิดีโอเป็นเพื่อนคุมทิพย์ไปก่อน แบบนี้จะ สามารถทำให้โอกาสเปิดตัวของคมทิพย์เป็นที่รู้จักสูงยิ่งขึ้น และ ยังสามารถขยายผลกระทบของอัลบัมได้ด้วย ประธานนรมนรู้สึก ยังไงบ้างคะ?”
แน่นอนว่าข้อเสนอของพริมานั้นดีอยู่แล้ว
ก่อนหน้านั้นรมนก็เคยคิดถึงปัญหานี้อยู่เหมือนกัน แต่ว่าจาก เรื่องของจยาเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทหาคนได้ค่อนข้าง ยาก
ตอนนี้เรื่องของณัจยาจัดการเรียบร้อยแล้ว จะเซ็นสัญญากับ ดาวรุ่งพุ่งแรงสักคนก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ที่สำคัญคือคนคน นี้ที่จะเลือกนี้เป็นใครดี?
“คุณมีคนที่เหมาะสมไหมล่ะ?”
คำพูดของนรมนทำให้พริมาส่ายหน้าเล็กน้อย
“ตอนแรกฉันกะว่าจะให้ราเชนมานำพาคมทิพย์สักหน่อย แต่ ว่าช่วงนี้ฉันได้ยินมาว่าเขาน่าจะออกจากวงการแล้ว แล้วฉันก็ดู ปาล์มที่เป็นตัวหลักของวงเอ็ม ออเคสตรา แต่ว่าคนคนนี้เรา คงจะเชิญยาก ช่วงนี้เอ็ม ออเคสตรามาแรงมาก ปาล์มก็ยิ่งเพ่ง ประกายสดใสทําให้คนตาร้อน แล้วพวกเราเป็นแค่บริษัทเล็ก ๆ บริษัทหนึ่ง เมื่อวานฉันลองติดต่อผู้จัดการส่วนตัวของพวกเขาดู แล้ว แต่ว่าแค่แม้แต่จะนัดหมายก็ยังทำไม่ได้เลยค่ะ”
พริมารู้สึกอัดอั้นเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าตอนนี้บริษัทของเรายังถือว่าเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่ว่า แบคกราวน์ก็หนาแน่นมาก คนพวกนั้นทำไมถึงได้ตาต่ำกีดกัน คนไว้นอกประตูเลยนะ?
นรมนกลับไม่ได้โกรธเคืองมากขนาดนั้น
บริษัทก็เพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน อยู่ในวงการนี้ก็ไม่ได้มีชื่อเสียง มากเท่าไหร่ แน่นอนว่าถ้าอยากจะนัดเด็กดาวรุ่งพุ่งแรงก็จะต้อง มีความลำบากอยู่แล้ว
แต่ว่านรมนกลับไม่อยากจะยอมแพ้ไป
“ปาล์มคนนี้จะสามารถนำพาคมทิพย์ไปได้จริง ๆ เหรอ?”
“ได้แน่นอน”
พอได้ยินพรมารับประกัน บรมนก็ตบหน้าอกแล้วพูดขึ้นว่า “โอเค เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของฉัน เดี๋ยวฉันลองดูเอง”
พูดจบนรมนก็วางสายวิดีโอคอลไป
เรื่องของวงการบันเทิง แน่นอนว่าต้องให้คนของวงการบันเทิง มาจัดการถึงจะดีกว่า
นรมนนึกถึงราเชนขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเขาในตอนนี้อาจจะกำลังแย่งชิงอำนาจอยู่อย่างแยก ร่างไม่ได้ แต่ว่าเรื่องการโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือหน่อย แบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายราวกับยกมือขึ้นเลยละมั้ง?
นรมนรู้สึกว่าตัวเองคิดแบบนี้ไม่มีอะไรที่ไม่ถูกต้องเลย
แล้วเธอก็โทรศัพท์ออกไปให้ราเชนเลย
ราเชนรู้สึกแปลกใจมากที่ได้รับสายของนรมน เลยอดไม่ได้ที่
จะอึ้งไปเล็กน้อย
“นรมน?”
“กำลังยุ่งอะไรอยู่?”
น้ำเสียงที่ฟังดูสบาย ๆ ปกติของนรมนทำให้ราเชนอึ้งไปเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร ยุ่งไปเรื่อย
“ช่วยอะไรหน่อยซิ”
นโมนเปิดปากพูดขึ้นโดยตรง
ราเชนคิดไม่ถึงว่าที่นรมนเปิดปากพูดมาคือจะขอให้ตัวเอง ช่วยเหลือ จึงรีบถามขึ้นว่า “เรื่องอะไร?”
“คุณรู้จักปาล์มไหม? ฉันอยากจะให้เขาช่วยน้ำเด็กใหม่คม ทิพย์ของบริษัทเราถ่ายมิวสิกวิดีโอหน่อย และเป็นตัวหลักให้กับ อัลบัมของคนทิพย์หน่อย แต่ว่าเรานัดปาล์มคนนี้ได้ค่อนข้างยาก คุณสามารถช่วยนัดให้หน่อยได้ไหม?”
คำพูดของนรมนทำให้ราเชนนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถึงเพิ่งตั้งสติ กลับมาได้ว่าตัวเองก็เป็นคนในวงการบันเทิงเหมือนกัน
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้แย่งชิงอำนาจอยู่ในประเทศ ทำให้เขา เกือบจะลืมเรื่องที่ตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์อยู่ในวงการบันเทิงไป แล้ว
ถ้าหากว่าซินดี้ยังมีชีวิตอยู่ละก็ เรื่องนี้ให้ซินดีไปจัดการก็ พอแล้ว แต่ว่าตอนนี้……..
ดวงตาของราเชนมืดขรึมลงหลายองศาอีกครั้ง
“โอเค ผมจะจัดการให้เอง รอข่าวจากผมนะ
น้ำเสียงของราเชนแฝงไว้ด้วยความแหบแห้งอยู่เสี้ยวหนึ่ง “ขอบใจมาก”
หลังจากนรมนพูดจบแล้ว ก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดขึ้นอีก ว่า “พี่ พี่ยังสบายดีไหม?”
“พี่” ค่านี้เรียกได้จนขอบตาของราเชนแดงขึ้นมาทันที
หลายปีก่อนข้างกายของเขายังมีซินดี้อยู่ แต่พอมาวันนี้กลับ สามารถต่อสู้อยู่ในดงหมาป่าได้แค่ตัวคนเดียวแล้ว ความโหด ร้ายที่มีแต่ความมืดไม่มีวันสว่างเกือบจะบีบเขาให้เป็นบ้าอยู่แล้ว และเขายังรู้สึกกระทั่งความเป็นคนของตัวเองฉีกขาดไปแล้ว
พอมาวันนี้ค่าว่า”พี่ของนรมนราวกับเป็นน้ำใส ๆ ไหลเข้ามา ในใจของเขา จิตใจที่อึมครึมของเขาก็สว่างขึ้นมาทันที
“คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?
“พี่ คนบางคนจากไปแล้วก็คือจากไปแล้ว เอาเขาเก็บไว้ในใจ ก็พอ อย่าทำให้ตัวเองลำบากใจมากไปเลย ฉันรู้ว่าตอนนี้พี่ต้อง ไม่ง่ายเลย แต่ว่ามันจะต้องดีขึ้นแน่ เชื่อฉัน”
นรมนปลอบใจคนไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ แต่ว่าตอนนี้กลับอยาก จะปลอบใจราเชนเป็นพิเศษสักหน่อย
ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป เธอเข้าใจดี ต้องอยู่ เหมือนตายทั้งเป็น แต่เขากลับตายไม่ได้ นี่จึงเป็นความโหดร้าย ที่สุด
ดวงตาของราเชนมีหยดน้ำตาไหลลงมาเป็นทางทันที
เขาเงยหน้าขึ้น สะอื้นไป แต่กลับกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น เขา กลัวว่าพอตัวเองเปิดปากพูดก็จะร้องไห้ออกมาเลย
วินาทีนี้ เขาถึงจะรู้สึกอย่างแท้จริงว่าเขาไม่ได้ตัวคนเดียว
“คุณจะมาเมื่อไหร่?”
ราเชนยังจําได้ว่าบุริศร์รับปากกับตัวเองไว้ว่า รอให้เรื่องของ ทางนี้จัดการเรียบร้อยแล้วจะไปเยี่ยมแม่ของเขาที่ประเทศ
แน่นอนว่านรมนรู้เรื่องนี้ เธออยากจะบอกราเชนจริง ๆ ว่าเธอ เพิ่งกลับมาจากประเทศ แต่ว่าในที่สุดแล้วก็อดกลั้นไว้
“รอหลังปีใหม่มั้ง”
นรมนไม่กล้าบอกวันที่ เรื่องนี้ไม่มีทางที่จะบอกแน่ชัดได้
“ได้ ผมรอคุณ”
ราเชนกลับเชื่อว่าจะเป็นจริง
อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกว่าทำแบบนี้เหมือนกับว่าจะโหดร้ายต่อ ราเชนเกินไปหน่อย
หลังจากที่วางสายไปแล้วอารมณ์ของนรมนยังสงบลงมาไม่ได้ อยู่นาน
บริศร์ยังคงพักผ่อนอยู่ นรมนรู้ว่าตอนที่อยู่ที่ประเทศนั้นเขา ค่อนข้างที่จะเป็นกังวลมาก เพียงแต่ว่าตอนนี้อารมณ์ของเธอ ค่อนข้างจะไม่ค่อยดี
เธออยากจะไปเจอคุณตาสักหน่อย
พอคิดไปแบบนี้ นรมนก็เรียกป้าหวานมา แล้วพูดเสียงต่ำขึ้น ว่า “ฉันจะไปบ้านคุณตาสักเที่ยว ถ้าคุณผู้ชายตื่นแล้วอย่าลืม โทรศัพท์หาฉันนะ”
“ได้ค่ะ คุณนาย”
นรมนเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดหนึ่งแล้วก็ออกไปเลย
ตอนที่มาถึงบ้านคุณท่านตนวรนั้น โตนเห็นนรมนอยู่ที่นอก ประตู ก็อึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ว่าก็ยังพูดอย่างดีใจขึ้นว่า “คุณหนูนรมนกลับมาแล้วเหรอครับ?”
“อืม คุณตาอยู่บ้านหรือเปล่า?”
“อยู่ครับ ดุลยาก็อยู่ครับ
โตษินกลัวว่านรมนจะลืมตุลยาคนนี้ไป จึงรีบพูดตักเตือนขึ้น นรมนหัวเราะขึ้นมาทันทีเลย
“ทำไมละ? ฉันยังจะกลัวเธอด้วยเหรอ?”
โตหินลูบจมูกเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “กลัว คงไม่ต้องถึงขั้นนั้น หลายวันมานี้คุณท่านสั่งสอนไปเยอะแล้ว กำลังร้องโอดครวญว่า จะกลับบ้านอยู่เลย แต่ว่าชาวก็ได้ตายไปแล้ว จะกลับไปไหน ล่ะ?”
ดวงตาของนรมนมืดขรึมลงที่หนึ่ง
ใช่ซิ ชาวีตายไปแล้ว ตุลยาจะต้องรู้แน่ ๆ ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะ เกลียดตัวเองไปมากแค่ไหนแล้ว
พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็เก็บอารมณ์ของตัวเองเล็กน้อย แล้ว
ก็ยิ้มและเดินเข้าไป
“คุณตา หนูกลับมาแล้วค่ะ”
นรมนร้องเรียกอย่างดีใจขึ้นอย่างเต็มปากเต็มคำ แล้วก็ทำให้ คุณท่านตนวรและตุลยาที่อยู่ในห้องรับแขกหันมามองทันที
คุณท่านตนวรยังคงอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ส่วนดุลยานั้นยืนอยู่ที่ มุมหนึ่ง ในห้องรับแขกเหมือนกับว่ากำลังโดนลงโทษให้ยืนอยู่?
นรมนรู้สึกอยากจะขำขึ้นมาทันทีเลย
ตัวโตขนาดไหนแล้ว?
ยังโดนลงโทษให้ยืนอยู่อีก
“คุณตา นี่กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ?”
นรมน ใช้ปากยื่นไปทางตุลยาเล็กน้อย
ดวงตาของตุลยาเหมือนกับว่าจะสามารถกลายเป็นกระบี่ แหลมคมได้ และแทบอยากจะใช้แววตาไปหั่นนรมน ให้กลาย เป็นหมื่น ๆ ใน
ก็คือผู้หญิงคนนี้ทำให้พ่อของตัวเองตาย และแย่งแม่ของตัว เองไปอีก ตอนนี้ยังมาใช้คุณท่านตนวรมาทรมานเธออีก
เธอนสมควรตายเป็นที่สุด!
นรมนกลับไม่เป็นกังวลความโกรธเกลียดที่อยู่ในแววตาของ ตุลยาเลยสักนิด แต่กลับยิ้มหน้าระรื่น
คุณท่านตนวรจ้องมองดูนรมน มองยังไงก็ชอบอย่างนั้น แล้ว มาดูตุลยา มองยังไงก็รู้สึกแปลกอย่างงั้น
ตุลยาอย่างน้อยก็เป็นสาวของคิม ทำไมถึงได้ ไม่เงาของคิมสักนิตเลย
ไม่เท่านี้ แถมยังอรชรอ้อนแอ้น
คนแล้ว
หึ ยังยังไงได้ล่ะ ให้เธอฝึก
ทั้งแววตาและเสียงของคุณท่านตนุวรความรังเกียจอยู่เสี้ยวหนึ่ง
ถ้าหากว่าตุลยาใช่เลือดเนื้อเชื้อของคิม แน่เธอ
หน้ากลมหรือว่าหน้าแบบคุณท่านตนวรคงจะสนใจเลย
หลังจากพูดหน้ากลับจ้องมองนรมนแล้วใบหน้ายิ้มแย้มมาทันทีเลย
ครั้งออกไปท่องเที่ยวมีความสุขไหม”
ยังดีค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อของฝากเลย คุณตาไม่ โกรธคะ?อายอยู่บ้าง
ตอนแรกอยากจะซื้อของอะไรมาฝากคุณท่านตนวรสักหน่อย
แต่น่าเสียดาย เพราะว่าเรื่องขององค์ชายสามทำให้พวกเขาต้อง หนีกลับมาอย่างน่าอนาถ ความแค้นนี้ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องคิดกับองค์ชายสาม ให้
ชัดเจนแน่
คุณท่านตนวรกลับยิ้มแหะ ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “เอาของฝากอะไร แค่หนูมีความสุขตาก็มีความสุขแล้ว
ตุลยาเห็นท่าทางที่มีความสุขแบบนั้นระหว่างคุณท่านตนวร และนรมน แล้วก็นึกถึงความเข้มงวดที่คุณท่านตนวรมีต่อตัวเอง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดวงตาคู่นั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่องประกาย ความชั่วร้ายออกมา
ตาแก่ตัวเหม็น!
นี่มันช่างไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลยนะ
เขากลับชอบนรมนขนาดนี้
ทําไมแต่ละคนต่างก็ชอบนรมนกันขนาดนี้?
แม่คิมก็เป็นอย่างนี้ ตอนนี้คุณท่านตนวรก็ยังเป็นอย่างนี้อีก เธอจะต้องทำให้พวกเขาเสียใจแน่! จะต้องทําได้แน่!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ