แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1019 คนจิตใจดีถูกรังแก



บทที่ 1019 คนจิตใจดีถูกรังแก

“คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป ในเมื่อตอนนี้เรารู้แล้ว พวกเราหาวิธี แก้ไขถึงจะถูก ในเมื่อตอนนี้พูดอะไรไปก็สายแล้ว ไม่มีใครคาด คิด เธอจะลงมือกับคุณ เพราะถึงยังไงคุณก็เป็นสามีของธิดา ธิดาเองก็รักคุณมาก

“หมอคะ ตอนนี้เราต้องส่งนาวินไปสถานบำบัดยาเสพติดมั้ยคะ”

นรมนกลัวที่สุดคือเรื่องนี้

ถ้าเกิดธิดาตื่นขึ้นมาไม่เห็นนาวินจะทำยังไง

ตัวเธอเองจะพูดอย่างไรให้เธออยู่พักฟื้นที่นี่ไม่กลับบ้านเก่า ตระกูลโตเล็กละ

หมอมองนรมน แล้วมองนาวิน

นาวินตอนนี้สีหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นเทา สายตาเต็มไปด้วย ความโกรธแค้น

“ผู้หญิงคนนี้เหี้ยมมาก เธอยังเป็นแม่ธิดา ไม่ได้! ผมจะให้เธอ อยู่ใกล้ธิดาไม่ได้ ลูกผมต้องถูกเลี้ยงจนเสียคนแน่ ยังดีที่เธอ กลับมาหลังจากท้องธิดาแล้ว ไม่อย่างนั้นไม่รู้ลูกผมจะเป็นยังไง บ้าง”

นาวินยิ่งพูดยิ่งโมโห ตอนนี้ถ้ายื่นมีดให้เขาสักเล่ม เขาคงจะต้องสับแพรวาทั้งเป็นแน่

นรมนเข้าใจความรู้สึกเขาดี

นรมนตบบ่านาวิน พูดปลอบใจเขา “เป็นเพราะฉันกับบริศร์ไม่ ใต้คิดให้รอบคอบ ทำให้เธอลำบากแล้ว”

“ไม่สนเรื่องคุณกับประธานบุรีศร์จะเป็นยังไง ผมเคยได้ยินแต่ จับโจร ไม่เคยได้ยินให้ระวังโจร แพรวาทำอย่างนี้ไม่มีใครคาด ถึง ตอนนี้ผมกลัวแต่ธิดารู้แล้วจะรับไม่ได้”

ตอนที่นาวินพูดถึงธิดา น้ำเสียงสงสารจับใจ

เมื่อเห็นนาวินไม่ได้ตำหนิธิดาเพราะแพรวาทำชั่ว และไม่โกรธ เธอ นรมนถึงค่อยวางใจ

“หมอคะ ตกลงเป็นยังไงกันแน่

หมอเข้าใจสถานการณ์ของธิดาแล้ว ตอนนี้ให้นาวินไปเลิกยา เห็นชัดว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ เธอครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “คุณนายบุริศร์ เอาอย่างนี้ละกัน สถานพักฟื้นของเราจัดห้องส่วน ตัวให้คุณนาวินเลิกยาได้ แต่อย่างนี้ก็ต้องอาศัยความมุ่งมั่นของ คุณนาวินยืนหยัดให้ได้ ในเมื่อพวกเราที่นี่ไม่มีหนทางช่วยคุณได้ และมีความเป็นไปได้ ถ้าคุณอยากยาและอาละวาด เป็นไปได้ที่ คุณธิดาก็จะได้รับอันตราย”

นาวินก้มหน้าครุ่นคิด

ท่าทางของเขาทุกข์ทรมาน
เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องนี้ ไม่มีใครรับได้ และตอนนี้ธิดายังเป็น อย่างนี้ นาวินรู้สึกสับสนมาก

นรมนก็ไม่ได้เร่งเขา เผชิญกับเรื่องอย่างนี้คนที่จะตัดสินใจได้

ก็มีแต่ตัวนาวินเอง

นาวินเงียบขรึมไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจ

“ผมจะอยู่ที่นี่ ธิดาต้องการผม เธอเคยรอคอยความรักจากพ่อ แม่ ถ้าให้เธอรู้ว่าแม่ที่เธอรอคอยเป็นอย่างนี้ ผมไม่รู้เธอจะรับ เรื่องทั้งหมดนี้ได้มั้ย ผมก็รู้ เลิกยาที่นี่ ผมอาจจะทนไม่ไหว แต่ผม ไม่มีทางเลือกอื่น ข้างหลังเป็นเมียและลูก ผมยังจะทำอะไรได้ อีก”

นรมนไม่แปลกใจสักนิดที่เขาเลือกทำอย่างนี้ เธอพยักหน้า และให้หมอไปจัดการ

ในห้องเหลือเพียงนาวินและนรมนสองคนอีกครั้ง

นาวินพูดเสียงเบา “พี่สะใภ้ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมปิดเรื่องนี้ กับธิดาไว้ก่อน”

“ไม่ช้าก็เร็วเธอก็จะรู้เรื่องนี้อยู่ดี”

“งั้นก็รอให้ถึงเวลาที่ปิดไม่ได้แล้วค่อยบอกเธอละกัน พวกคุณ อาจจะไม่มีวันเข้าใจเด็กกำพร้าที่รอคอยความรักจากพ่อแม่ และ ยิ่งไม่มีทางเข้าใจเมื่อความรักพ่อแม่แตกร้าวแล้ว พวกเราจะเจ็บ มากแค่ไหน”
“ฉันรู้ค่ะ”

นรมนถอนหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน

ทำกับฉันทำให้ฉันเข้าใจลึกซึ้งการถูกคนที่เคารพรักทำร้ายน่า

กลัวแค่ไหน” นาวินอึ้งไป ถึงนึกขึ้นมาได้นรมนยังมีพ่อแม่เลี้ยงที่คอยสร้าง

ปัญหา

“ช่วงนี้พวกเขาทําเรื่องร้ายๆ อะไรอีกหรือเปล่าครับ

“เรื่องนี้คุณยังไม่ต้องสนใจหรอก ดูแลตัวเองกับธิดาให้ดี ช่วง นี้พวกคุณอยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะ ต้องการอะไรก็บอกสมจิต เธอจะ ช่วยดูแลพวกคุณ”

นรมนมองนาฬิกา ได้เวลาที่เธอต้องกลับแล้ว

นาวินพยักหน้า “ผมทำให้คุณกับประธานบริศร์ลำบากแล้ว” “ไม่ต้องพูดแล้ว รักษาตัวเองให้ดีละกัน เดี๋ยวฉันจัดการเรื่อง

แพรวาแล้วจะมาเยี่ยมพวกคุณ

“ครับ”

นรมนเดินออกไปจากห้อง พูดกับสมจิตที่อยู่ข้างนอก “เอา เบอร์มือถือกับแชทให้นาวิน เขากับธิดาอยู่ที่นี่มีเรื่องอะไรคุณก็ รับผิดชอบช่วยเหลือละกัน”

“ค่ะ”

สมจิตเอามือถือกับแชททิ้งไว้ แล้วขึ้นรถกับนรมน กลับเข้าไปในตัวเมือง

ตลอดทางสมจิตอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออก มา สุดท้ายก็ไม่ได้ถามอะไร ส่วนนรมนก็รู้สึกใจเหนื่อยล้าเหลือ เกิน

คนทรยศรอบตัวโผล่มาทีละคนๆ ทำให้เธอยากจะทนรับไหว

คนชั่วพวกนี้ทําเพื่อเป้าหมายของตัวเอง โดยไม่สนใจวิธีการ ใดทั้งนั้น ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นสักนิด คนอย่างนี้ทำไมถึง มีมากมายนัก

นรมนถอนหายใจ หลับตาลงช้าๆ พักผ่อน

ในเมื่อเธอยังบาดเจ็บ อ่อนล้าเป็นเรื่องปกติ

ขับรถเข้าเขตเมืองแล้วไม่รู้ควรไปไหน อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “คุณนายคะ พวกเราจะไปบริษัทหรือตระกูลโตเล็กหรือจะไปหา ท่านหัวหน้าคะ”

“กลับตระกูลโตเล็ก! ฉันควรจะต้องไปตกลงกับแพรวาแล้ว”

นรมนพูดเรียบๆ

สมจิตพยักหน้า ขับรถกลับไปบ้านเก่าตระกูลโตเล็ก ตอนที่นรมนกลับมา แพรวากำลังทำปลารมควัน ตอนที่เห็นนร มนอึ้งไปนิดหนึ่ง

“กลับมาเร็วจังค่ะ นาวินก็จริงๆ เลย ออกไปซื้อของตอนนี้ยัง ไม่กลับมาอีก เข้ามาพักก่อนเถอะ ดูสีหน้าเธอ ทำให้เป็นห่วงจริงๆ”

แพรวากุลีกุจอต้อนรับ แต่ยิ่งทำให้นรมนรู้สึกอึดอัด

ความรู้สึกนี้ทำไมเหมือนเธอเป็นแขกของบ้านนี้ล่ะ

นรมนเดินเข้าไปในบ้าน นั่งที่โซฟาห้องรับแขก ถอดรองเท้า แตะ นั่งปิดตัวบนโซฟา หยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดทีวี

แพรวาเห็นเธอท่าทางสบายๆ สายตาครุ่นคิด แต่ก็ยังคงยิ้ม แย้ม “นรมนดูทีวีไปก่อนนะ ฉันจะไปทำกับข้าว แล้วจะโทรไปหา นาวินด้วย ถามเขาอยู่ไหนแล้ว”

นรมนตอบรับเรียบๆ

สมจิตอยู่ข้างหลังนรมน หาหมอนพิงหลังให้เธอ

แพรวามองสมจิตแวบหนึ่ง เหมือนคิดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้ พูดอะไร เดินตรงเข้าไปในครัว

ไม่นานเท่าไร สมจิตก็กระซิบ “แพรวาส่งข้อความในครัวค่ะ”

“เธอรู้ได้ยังไง”

นรมนแปลกใจมาก

สมจิตหยิบอุปกรณ์เล็กๆ ออกมาส่งให้นรมนดู

“นี่คือเครื่องดักสัญญาณที่หน่วยพิเศษใช้ ฉันเอามาคิดจะหา เวลามาติด นึกไม่ถึงที่นี่จะมีคนติดตั้งก่อนแล้ว ตอนนี้น่าจะล็อกเบอร์มือถือกับรุ่นมือถือของแพรวา ถ้าเธอใช้มือถือส่งข้อความ หรือโทรออก เครื่องดักสัญญาณของพวกเราก็จะจับได้ค่ะ

นรมนอึ้งไปทันที

ในบ้านมีของอย่างนี้เป็นฝีมือของบุริศร์ใช่มั้ย

ในเมื่อนอกจากเขาไม่มีใครรู้จักของพวกนี้

หรือจะบอกว่าก่อนบริศร์ออกจากเมืองชลธีก็รู้แล้วว่าแพรวา แผนร้าย

หรือเขาสงสัยแพรวานานแล้ว

นรมนไม่รู้ แต่ยืนยันได้อีกครั้ง บุริศร์ถูกคนใส่ร้ายครั้งนี้เขา ซ้อนแผนแล้วจริงๆ

คิดถึงตรงนี้ นรมนก็โล่งใจขึ้นมาก

“เห็นหรือได้ยินเธอส่งข้อความหรือโทรออกมั้ย นรมนพูดจบก็มองไปทางห้องครัว

ตำแหน่งที่แพรวายืนหันหลังให้พวกเธอ ไม่ว่าจะโทรศัพท์ หรือส่งข้อความ ก็ไม่ให้พวกนรมนเห็น

เธอระมัดระวังตัวมาก

สมจิตกระซิบ “เห็นข้อความที่เธอส่งได้ แต่ถ้าโทรศัพท์ล่ะก็

ต้องใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ”

“ดูก่อนว่าเป็นอะไรค่อยว่ากันเถอะ”
นรมนเพิ่งพูดจบ สมจิตก็เปิดระบบเครื่องดักสัญญาณ และ ล็อกหมายเลขของแพรวาอย่างรวดเร็ว

“คุณนายคะ เป็นข้อความแชทค่ะ

“เขียนว่ายังไง”

“ให้คนล้อมบ้านเก่าตระกูลโตเล็กไว้ รอคำสั่ง

คำพูดของสมจิตทำให้นรมนยิ้มเย็น

คงจะคิดแตกหักกับเธอ

ก็ถูก

ธิดาไปโรงพยาบาลกับเธอแต่เธอกลับมาคนเดียว ส่วนนาวิน ไปซื้อของจนตอนนี้ยังไม่กลับมา แพรวาเป็นคนฉลาด ย่อมคิด อะไรได้ แต่ที่ทำให้นรมนผิดหวังเหลือเกินก็คือ แพรวาไม่ถามถึง อาการของธิดาเลย ไม่ถามสักคำเดียว

เธอใช่แม่ของธิดาหรือเปล่า

ไม่ใช่เคยพูดว่าทําได้ทุกอย่างเพื่อธิดาหรือ

ตอนนี้ทำไมถึงได้ใจจืดใจดำอย่างนี้

มีความเป็นไปได้อย่างเดียว นั่นก็คือเธอรู้ว่านรมน ใจอ่อน รู้ว่า นรมนไม่มีทางทำอะไรธิดา ถึงได้กำเริบเสืบสาน

ดั่งค่ากล่าวม้าดีให้คนขี่ คนดีให้คนอื่นรังแก

นรมนถอนหายใจ กระซิบกับสมจิต “ส่งข่าวให้คนของเรา ให้พวกเขาเตรียมพร้อมจับตาดูคนของแพรวาที่เฝ้าข้างนอก

“ค่ะ ท่านหัวหน้าทางนั้นบอกว่า ถ้าคุณต้องการอะไร เขาจะ ช่วยเต็มที่”

นรมนยิ้มนิดๆ

คุณตาของเธอคนนี้ ทำให้รู้สึกอบอุ่นจริงๆ “ตอนนี้ยังไม่ต้อง คนของเราจัดการเรื่องนี้ได้

สมจิตรีบถ่ายทอดคำสั่งนั้นออกไป

แพรวาส่งข้อความแล้วก็มองที่ห้องรับแขกแวบหนึ่ง เห็นนรมน นั่งที่โซฟาดูรายการวาไรตี้ท่าทางสบายๆ เดี๋ยวยิ้มเดี่ยวโกรธ อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด

เธอไม่รู้จริงๆ ตัวเองกำลังทำอะไร หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้

ถ้าแกล้งทำล่ะก็ แพรวาต้องยอมรับ เฉพาะเรื่องนี้เธอเก่งกว่า ธิดาหลายโยชน์

ดวงตาของเธอมีประกาย จากนั้นก็หยิบซองใส่ผงในกระเป๋า ออกมาใส่ในหม้อที่กำลังต้มซุปเป็ด

ทุกอย่างทำอย่างเงียบกริบ

แพรวาทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว และยังทํากับข้าวอีกสองสาม อย่าง จากนั้นค่อยยิ้มออกมา “นรมน มากินข้าวกัน

“ค่ะ”
นรมนเดินไปล้างมือ แล้วเดินมาที่ห้องอาหาร

ในห้องอาหารวางกับข้าวอย่างน้ำแกง หรูหรามาก “รีบมากินข้าวเร็ว ฉันต้มซุปเปิดที่เธอชอบกินด้วย มาชิมเร็ว” แพรวา ใส่ใจตักน้ำแกง ให้เธอซามหนึ่ง นรมนไม่รู้สึกอยากจะ

“คุณน้าแพรวา ในนี้คงจะไม่ได้ใส่อะไรใช่มั้ยคะ”

นรมนยิ้มเรียบๆ ดวงตาคู่งามจ้องมองแพรวา แพรวา อึ้งไปนิดหนึ่ง ยังคงยิ้ม “ก็ต้องใส่สิ ซุปเป็ดถ้าไม่ใส่ เครื่องปรุงจะอร่อยหรือ เด็กนี่ ถามอะไรแปลกๆ

นรมนไม่อยากเล่นละครแล้ว ยิงคำถามตรงๆ ใส่เครื่องปรุง หรือยาไอซ์ หรือเปล่าคะ

เมื่อคําถามนี้ออกไป ทันใดนั้นทำให้แพรวาหน้าเปลี่ยนสี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ