แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1307 ผู้หญิงที่ดื้อด้านคนนี้



บทที่ 1307 ผู้หญิงที่ดื้อด้านคนนี้

อารมณ์ของพรวลัยร้อนรนขึ้นมาทันที

“คุณไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าฉันไม่อยากจะอยู่กับคุณมากแค่ไหน! ทุกคืนฉันต้องพกมีดสั้นไว้ตลอด ฉันคิดอยู่ตลอดว่าจะฆ่าคุณซะ คุณเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของพิรุณ ขอแค่คุณตายไป พิรุณ จะได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้องไป ทุกอย่างที่ ตัวฉันต้องรู้สึก ฉันก็จะให้เขาได้ลิ้มลองบ้าง หนำซ้ำฉันยังคิดว่า จะทายาพิษไว้ตัวฉัน ขอแค่คุณมาสัมผัสฉัน ถึงแม้ว่าจะต้องตาย ฉันก็จะฉุดคุณให้ตายไปด้วย สิ่งเหล่านี้คุณล้วนไม่เคยรู้!

พรวลัยร้องไห้อย่างเจ็บปวดจนสุดใจ และกระทั่งร้องไห้จนมี เสียงเจ็บปวดออกมา

“แต่ว่าฉันกลับไม่มีประโยชน์ ฉันไม่มีประโยชน์จริง ๆ ฉันนึก ນ ໆ ว่าคุณจะเอาฉันตั้งแต่คืนนั้นเลย ฉันเตรียมการมาตั้งนานขนาด นั้น แต่คุณกลับไม่แตะต้องตัวฉัน คุณให้ฉันไปนอนเอง แล้วตัว คุณก็ไปห้องหนังสือเพียงคนเดียว ต่อมาในหนึ่งปีนั้น ฉันได้หา โอกาสมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่าคุณก็ยังคงไม่แตะต้องตัวฉัน ตอน แรกฉันนึกว่าคุณไม่พึงพอใจในตัวฉัน ฉันก็เลยรอปีที่สองคิดว่าคุณคงจะพาเด็กผู้หญิง กลับมาอีก พอถึงตอนนั้นฉันก็จะชักจูงให้เด็กผู้หญิงคนนั้นมา ช่วยฉันทำงาน แต่ว่าการรอของฉันนี้ก็ต้องรอหลายปีเลย

พอเห็นพรวลัยร้องไห้ได้อย่างเจ็บปวดมากขนาดนั้น ดวงตา ของบุณพจน์ก็เปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

“งั้นทำไมคุณถึงไม่ฆ่าผมล่ะ?”

“ฉันอยากจะฆ่า แต่ว่าฉันลงมือไม่ลง ในตอนที่ฉันเห็นคุณโดน หนอนพิษทรมานครั้งแรกนั้น ฉันเคยคิดว่าจะถือโอกาสนี้ฆ่าคุณ ซะ แต่ว่าคุณกลับจับมือฉันไว้ แล้วเรียกหาแม่วินาทีนั้นฉัน เหมือนกับว่าได้เห็นตัวฉันเมื่อตอนอดีตที่อยู่ในอ้อมอกของแม่ ทำไม? ทำไมพิรุณต้องโหดเหี้ยมกับคุณที่เป็นลูกชายเพียงคน เดียวแบบนี้ด้วย? ทำไมเขาถึงไม่เอาอกเอาใจคุณ? ถ้าหากว่า เขาดีกับคุณมาก ๆ ฉันฆ่าคุณไปก็คงจะทำให้เขาทุกข์ใจได้ แต่ ว่าเขาคนนี้นั้นช่างเลือดเย็นเกินไปแล้ว เขาไม่สนใจคุณด้วยซ้ำ งั้นถ้าฉันฆ่าคุณไปจะมีประโยชน์อะไร?”

พรวลัยปิดหน้าตาของตัวเองไว้ ร้องไห้ได้อย่างปลดปล่อยเป็น อย่างมาก

หลายปีมาขนาดนี้ ความขมขื่นที่อยู่ในใจของเธอในที่สุดก็สามารถพูดออกมาได้อย่างเปิดเผยแล้ว

หลายปีมานี้ เธอแทบจะบีบบังคับตัวเองจนเป็นบ้าแล้ว

เธอเกลียดไปด้วย แต่ก็รักไปด้วย และยังต้องคอยเตือนตัวเอง ว่าเป้าหมายที่มีชีวิตอยู่ต่อไปคืออะไร

เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริง ๆ

ถ้าหากบุณพจน์ไม่มีกับเธอก็ช่างเถอะ แต่ว่าบุณพจน์นั้นดีกับ เธอมาก จนทำให้เธอเกลียดเขาไม่ลง

ความรู้สึกแบบนี้ไม่มีใครเข้าใจ เธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่าง สุด ๆ ทุกวันทุกคืน

บุณพจน์ถอนหายใจทีหนึ่ง แล้วก็เดินไปคว้าตัวเธอมากอดไว้ ในอ้อมกอด

“อย่าแตะฉัน! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”

พรวลัยที่อ่อนโยนมาตลอดกลับขัดขืนอย่างแรงกล้าขึ้นมา แต่ ว่าตอนนี้เธอจะไปเป็นคู่แข่งกับบุณพจน์ได้ยังไง?

บุณพจน์กอดเธอไว้แน่น แล้วตะคอกขึ้นเสียงขรึมว่า “ฟังผมพูด”

บางทีน้ำเสียงของบุณพจน์อาจจะแหลมสูงเกินไปหรือพรวลัยอาจจะไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว เธอจึงได้แต่นั่งมองบุณพจน์ อย่างเหม่อลอยเท่านั้น แต่น้ำตายังคงไหลนองอยู่

บุณพจน์รู้สึกว่าน้ำตานั้นดูขัดตาเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงตอนนี้ เขาแทบจะไม่เคยเห็นเธอ ร้องไห้มาก่อนเลย ถึงแม้จะเป็นตอนที่บาดแผลเต็มไปหมด ถึงแม้ จะต้องวิ่งหนีความตาย เธอก็ยังกัดฟันต่อสู้ยืนหยัด ไม่เคยมี น้ำตาไหล แต่ว่าตอนนี้พรวลัยกลับร้องไห้จนเป็นเหมือนมนุษย์ น้ำตาคนหนึ่งยังไงอย่างงั้น

บุณพจน์เคยขุ่นเคืองที่พรวลัยไม่เคยร้องไห้มาก่อน แต่พอ ตอนนี้มาเห็นน้ำตาของเธอแล้วเขาถึงพบว่า เขายินดีที่ชาตินี้ทั้ง ชาติจะไม่ได้เห็นเธอร้องไห้

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงเยอะมาก

“ฟังผมนะ ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตมันจะเป็นยังไง มีความโกรธ แค้นกันแบบไหน มันก็ได้จบลงหมดแล้ว พรวลัย สิ่งที่พิรุณติด ค้างตระกูลแสงนาคของพวกคุณไว้ คุณสามารถทวงคืนกับเขาได้ เต็มที่ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาความผิดบาปเหล่านี้มาคิดใส่หัว ผม คุณเป็นคนของผม ถึงคุณจะเกลียดผมก็ดี จะรักผมก็ช่าง ยังไงชาตินี้ผมก็ไม่มีทางที่จะปล่อยตัวคุณให้ไปจาก ผมได้หรอก ส่วนลูกคุณอยากมีก็มี แต่ถ้าคุณไม่อยากมีผมก็จะไม่ บังคับ ชาตินี้ถึงแม้จะต้องอยู่กันไปอย่างนี้ แต่คุณก็จะต้องอยู่ข้าง กายผม นี่คือชะตาชีวิตของคุณ! ผมบุณพจน์เป็นคนยังไงคุณ ชัดเจนที่สุด ถ้าหากคุณแค่ไม่อยากจะมีลูกกับผม ตอนนี้ผมก็ไป ทำหมันได้เลย แต่ว่าถ้าคุณยังกล้าไปจากผมดูซิ ถ้าคุณทำร้าย ตัวเองแค่นิดเดียว ผมก็จะทำลายแขนของผมข้างหนึ่ง ถ้าหาก คุณยังกินยาพิษอีก ผมก็จะเฉือนเนื้อตัวเองทิ้งชิ้นหนึ่ง คุณไม่ สนใจชีวิตตัวเองก็ไม่เป็นไร ในเมื่อผมมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีความ หมาย ผมก็จะมาดูว่าเราสองคน ใครโหดเหี้ยมกว่าใคร

บุณพจน์ไม่มีท่าทางล้อเล่นเลยสักนิด จนทำให้จิตใจของพร วลัยร้อนรนขึ้นมาทันที

“คุณคิดว่าคุณจะยังสามารถทำให้ฉันกลัวได้อีกเหรอ? บุณ พจน์ ระหว่างเราได้ฉีกหน้ากันแล้ว คุณเอาตัวเองมาข่มขู่ฉันเห รอ? ช่างน่าขำจริง ๆ เลย! ฉันแทบอยากจะให้คุณตายอยู่แล้ว คุณรู้หรือเปล่า? คุณเป็นลูกชายของพิรุณ คุณตายไปฉันถึงจะ ดีใจต่างหาก”

พรวลัยโกรธจนผลักบุณพจน์ออกไปที่หนึ่ง

ใจของเธอนั้นร้อนรนอยู่ ในขณะที่น้ำตากำลังปลิวว่อนนั้นก็ได้รู้สึกกลัวไปด้วย ในขณะเดียวกัน

เธอกลัวบุณพจน์มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อเธอ กลัวจริง ๆ เขาจะไม่เอาลูกได้ยังไงกัน?

เขาเพิ่งจะอายุสามสิบเองนะ ยังมีชีวิตดี ๆ อีกเยอะ ส่วนเธอก็ แค่คนร่างกาย โทรม ๆ คนหนึ่งเท่านั้น หลายปีมานี้ทรมาน ร่างกายขนาดซะขนาดนั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะสามารถมีโอกาสได้ เป็นแม่คนอีกหรือเปล่า

แต่บุณพจน์กลับไม่โต้เถียงกับเธออีก เพียงแต่แค่ล้างมีดสั้น แบบทหารออกมาจากรองเท้าหนัง แล้วก็เฉือนไปที่แขนตัวเองที หนึ่งทันที

มีดขยับขึ้นลง บุณพจน์เจ็บจนเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมา แต่กลับ ๆ ไปร้องสักแอะ แล้วเนื้อชิ้นหนึ่งก็ตกลงบนเตียงของพรวลัยทันที เลือดสด ๆ ไหลอาบ

“อ๊า!”

พรวลัยกรีดร้องขึ้นมาทันที

“บุณพจน์ คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม?

เธอไม่สนใจความอ่อนเพลียของตัวเองจากการขั้นตอนการ ทำแท้งเมื่อคืน ยิ่งไม่สนใจความปวดแสบปวดร้อนในกระเพาะ ในวินาทีที่เห็นบุณพจน์ทำร้ายตัวเองนั้น พร วลัยก็ปวดใจจนแทบจะระเบิดเลย

เธอรีบเปิดผ้าห่มออก แล้วก็รีบร้อนจนกลิ้งลงไปจากเตียง แต่ กลับไม่ได้สนใจร่างกายตัวเอง แต่กลับกุมแขนของบุณพจน์ไว้ แน่น ทั้งสองมือพยายามปิดแผลของเขาไว้อย่างลนลาน

บาดแผลนั้นกระตุ้นให้ไฟโกรธของพรวลัยพุ่งขึ้นมาทันที

“หมอ! หมอ!”

เธออยากจะหมุนตัวไปกดกริ่งฉุกเฉิน แต่กลับโดนบุณพจน์ฉุด แขนไว้อย่างแน่นหนา

“ยังจะกินยาพิษอีกไหม?”

เขาเจ็บจนสีหน้าขาวซีดแล้ว แต่ว่าดวงตาคู่นั้นกลับจ้องพร วลัยเขม็งอยู่ ถ้าหากเธอกล้าพูดว่ากินอีกเขาก็กะว่าจะเฉือนเนื้อ อีกชิ้นแน่

แล้วพรวลัยก็คลุ้มคลั่งขึ้นมาทันทีเลย

“คุณนี่มันเป็นคนบ้า! บุณพจน์ คุณนี่มันเป็นคนบ้าคนหนึ่งจริง ๆ! คุณจะเอาผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดจะฆ่าคุณทุกวินาทีมาไว้ข้างกาย คุณ สมองมีปัญหาหรือเปล่า?”

“ใช่!”
บุณพจน์จ้องมองพรวลัย แล้วพูดขึ้นทีละค่าทีละตัวอักษรว่า “ชาตินี้ผมไม่เคยคิดว่าอยากจะทำอะไร แม้กระทั่งชีวิตนี้ ถ้าพิรุณ อยากจะได้ก็เอาไป แต่ว่าตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมอยากได้ก็คือคุณ พรวลัย ผมไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ถ้าคุณกล้ากินยาพิษอีก กล้าลอง ฆ่าตัวตายอีกครั้งละก็ ถึงแม้ว่าจะต้องขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ผมก็ จะไม่มีทางปล่อยคุณไป คุณเป็นของผม จะเป็นหรือตายก็เป็น ของผม ถ้าผมไม่ตกลง ถึงแม้ยมบาลมาเองก็พาตัวคุณไปไม่ได้ คุณจำที่ผมพูดไว้นะ คุณเป็นผู้หญิงของผมบุณพจน์ และจะเป็นทั้ง ชีวิตนี้ ถ้ายังกล้าตายให้ผมดูอีกครั้ง ผมก็จะแทงร่างกายผมเป็น รู คุณไม่สงสารก็ไม่เป็นไร ถือซะว่าแทงเล่น ๆ ก็ได้”

“คุณนี่มันเป็นคนโรคจิตคนหนึ่ง!!

พรวลัยร้องไห้และตะโกนออกไป แต่ก็ไม่กล้าเสียเวลานัก แล้ว ก็กดกริ่งฉุกเฉินลงอย่างรวดเร็ว

ในตอนที่หมอมาถึงนั้น ในห้องพักผู้ป่วยเต็มไปด้วยกลิ่นคาว เลือด จนทำให้พวกเขาตกใจจนจะรีบเข็นบุณพจน์ไปที่ห้อง ฉุกเฉิน แต่กลับโดนบุณพจน์ปฏิเสธกลับไป

“เย็บแผลให้ผมที่นี่แหละ จะได้ให้เธอได้เห็นชัด ๆ สักหน่อย”
คำพูดของบุณพจน์ทำให้หมอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นเล็กน้อย “คุณบุณพจน์ คุณผู้หญิงคนนี้เพิ่งผ่านขั้นตอนการทำแท้งมา ร่างกายยังอ่อนเพลียอยู่ คุณทำแบบนี้จะทำให้เธอตกใจได้นะ

“ใช่เหรอ? ผมว่าทำที่นี่แหละ!

บุณพจน์ยืนกรานหนักแน่น

พอเห็นใบหน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษของเขา พรวลัยก็ยอม แพ้แล้ว

“รีบเย็บแผลให้เขาเร็ว ๆ เย็บที่นี่แหละ”

น้ำเสียงของเธอแหบแห้ง ร่างกายเหมือนกับว่าโดนล้วงจน โล่งไปหมด แล้วก็ทิ้งก้นนั่งลงไปบนเตียง แต่ก็ยังหลบสายตาขอ งบุณพจน์ไม่พ้น

เธอติดตามบุณพจน์มาสิบสองปี แต่กลับไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าเขาจะดื้อดึงจะบ้าอำนาจได้ขนาดนี้ แต่ว่าความดื้อดึงแบบนี้ กลับทำให้ใจที่ปวดอยู่ของเธอแทบจะแตกสลายไปเลย

และนี่ก็คือจุดที่น่ากลัวของคุณพจน์

เขารู้ทั้งรู้ว่าตัวเองรักเขา และเห็นเขาทำร้ายตัวเองแบบนี้ไม่ได้ แต่ก็ยังใช้ตัวเองมาข่มขู่เธอ
พรวลัยจ้องมองบุญพจน์ ในดวงตามีแววซับซ้อนอยู่

ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็ยุ่งวุ่นวายขึ้นมารอบหนึ่ง ในที่สุดก็ จัดการกับแผลของบุณพจน์จนเรียบร้อยได้ และยังทำตามความ ต้องการของบุญพจน์ ที่ให้เพิ่มเตียงในห้องผู้ป่วยเพิ่มมาอีกหนึ่ง เตียง

หลังจากที่คนทั้งหมดจากไปแล้วนั้น พรวลัยก็เปลี่ยนเป็นสงบ นิ่งเป็นอย่างมาก

เธออยากจะเทน้ำให้กับบุณพจน์เหมือนอย่างเมื่อก่อน แต่กลับ

โดนบุณพจน์รั้งเอาไว้

“ขึ้นไปนอนบนเตียง

“แต่ว่าการรับใช้คุณมันเป็นหน้าที่ของฉัน

คำพูดของพรวลัยทำให้บุณพจน์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ผมบอกให้คุณขึ้นไปนอนบนเตียง อย่าให้ผมพูดรอบที่สาม

ภาคใต้สายตาที่โหดเหี้ยมของบุณพจน์นั้น พรวลัยก็ขึ้นไป นอนบนเตียงอย่างไม่ขึ้นไปไม่ได้

เธอเพิ่งแท้งลูกไป ร่างกายยังอ่อนแออยู่ แล้วก็ผ่านอารมณ์ แปรปรวนมามากมายขนาดนี้ พอขึ้นไปนอนบนเตียงไม่นานก็หลับไปเลย

บุณพจน์จ้องมองพรวลัยที่หลับสนิทอยู่ แล้วก็ให้คนต้มซุป บำรุงเลือดแล้วส่งมาสักหน่อย แต่ตัวเองกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้น มาแล้วเดินไปที่ระเบียง

รวบรวมคนของเราขึ้นมา แล้วถือโอกาสที่พิรุณไม่ยังไม่กลับ ไป แล้วเก็บคนของเขามาให้ฉัน คนที่เชื่อฟังก็ให้เหลือไว้ คนที่ไม่ เชื่อฟังก็ฆ่าทิ้งซะ!”

บุณพจน์ในตอนนี้เหมือนกับเป็นยมทูตเก็บวิญญาณที่มาจาก

นรก ไม่มีความอ่อนโยนให้พูดได้สักเสี้ยว

บนโลกใบนี้ นอกจากสองสามีภรรยาบริศร์และพรวลัยแล้ว ก็ ไม่มีใครที่จะสามารถทำให้เขาเกิดมีใจที่เมตตาได้อีกแล้ว

หลังจากที่วางสายแล้ว บุณพจน์ก็เทน้ำให้ตัวเองแก้วหนึ่ง

บาดแผลที่แขนยังคงเจ็บปวดมาก แต่ว่าสามารถทำให้จิตใจ ของพรวลัยเกิดความเป็นกังวล และไม่ฆ่าตัวตายอีกได้ เขาก็รู้สึก ว่าคุ้มแล้ว

ผู้หญิงที่ดื้อดึงคนนี้นี่
ยอมรับว่ารักตัวเองมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?

คนที่อยู่ข้างหมอนกันมาสิบกว่าปี ใครไม่รู้จักใครกัน ถ้ายังไม่สามารถปราบยัยเด็กดื้ออย่างนี้ได้ เขาคุณชายบุณ พจน์ยังจะอยู่ไปทำไมอีก

ริมฝีปากของบุณพจน์คลี่ขึ้นเล็กน้อย แล้วก็เดินมาถึงข้างเตียง พรวลัย แล้วเอาเส้นผมของเธอไปทัดไว้ที่ข้างหู แล้วจูบลงบน หน้าผากของเธอที่หนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ยัยโง่ ถ้าไม่บีบ คั้นคุณแบบนี้ คุณก็จะหนีไปไกลแสนไกล พรวลัย มีคำพูด ประโยคหนึ่งผมไม่ได้บอกกับคุณมาตลอด และก็พูดไม่ออกด้วย ที่จริงแล้วผมรักคุณนะ ถ้าหากคุณบอกเรื่องพวกนี้กับผมเร็วกว่า นี้ ถึงจะต้องเป็นลูกอกตัญญฆ่าพ่อเพื่อคุณแล้วมันจะยังไง ในเมื่อ เขาก็ไม่ได้คิดกับผมว่าเป็นลูกชายอยู่แล้ว”

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววอ่อนโยน แต่น่าเสียดายพรวลัย ได้นอนหลับไปแล้ว แล้วก็ไม่ได้ยินเรื่องพวกนี้ บางทีบุณพจน์ก็ อาจจะไม่อยากให้พรวลัยได้ยินเรื่องพวกนี้หรอก

ในที่สุดเรื่องที่โรงพยาบาลก็ลอยมาถึงหูนรมนจนได้ เธอรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ว่าอะไรความรู้สึกระหว่างบุณพจน์และพรวลัยมากไม่ได้ จึงได้แต่ให้มิลินไปดู พวกเขาที่โรงพยาบาลสักหน่อย และตัวเองก็ตามไปด้วย

ตอนที่มิลินมาถึงนั้น พรวลัยยังคงหลับอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่า ครั้งนี้ทรหดมากเกินไปแล้ว ร่างกายก็อ่อนแอเกินไป เธอนอนไป หลายชั่วโมงก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา

ตอนแรกบุณพจน์ก็รู้สึกเป็นกังวลอยู่แล้ว พอเห็นนรมนพามิลิ นมา ก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่งทันทีเลย

“มาช่วยดูเธอหน่อยว่าอาการเป็นยังไงบ้างแล้ว

มิลินตรวจร่างกายให้พรวลัยไปรอบหนึ่ง จากนั้นค่อยพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นอะไรมากแล้ว แค่อ่อนเพลียเกินไป ให้พักผ่อนดี ๆ ก็ พอแล้ว”

พอได้ยินว่าพรวลัยไม่เป็นอะไรแล้ว บุณพจน์ถึงได้พูดเสียงต่ำ ขึ้นว่า “พรวลัยไม่ได้ปล่อยพิรุณไป ถ้าตามที่ผมเดานะพรวลัยน่า จะชักจูงพิรุณไปที่ไหนสักแห่งและโดนกักไว้ที่นั่น แล้วปล่อยให้ เขาค่อย ๆ ตายไปเอง ผมรู้ว่าพวกคุณร้อนใจอยากจะได้ยินอะไร จากปากพิรุณ รอให้พรวลัยตื่นแล้ว ผมจะลองช่วยพวกคุณถาม

คำพูดนี้ทำให้นรมนและมิลินรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ว่าก็พอ โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่งแล้ว แล้วก็ในเวลานี้พอดี นงลักษณ์ก็มาถึงข้างกายนามนอย่างรวดเร็ว แล้ว ก็กระซิบที่ข้างหูไปไม่กี่ประโยค แล้วสีหน้าของนรมนก็เปลี่ยนไป ทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ