บทที่ 1304 คุณอย่าร้อนใจเกินไปนะ
รนหาที่ตายเองเหรอ?
นรมนไม่รู้เธอรู้แต่เพียงว่าจะต้องรู้สถานะของปีวราให้ชัดเจน ในเมื่อบุริศร์และกมลต่างก็ไม่อยู่ข้างกาย ในใจของเธอจึงมักจะ
ไม่มีความสบายใจ
“งั้นหรือไม่ฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีกว่า”
นงลักษณ์นั้นเป็นห่วงนรมนมากเลย
นรมนจ้องมองนงลักษณ์ แล้วก็นึกถึงแม่ของตัวเองคิม ถ้าคิม ยังมีชีวิตอยู่ละก็ ตอนนี้ก็น่าจะเป็นห่วงตัวเองมากเหมือนกันมั้ง
ความเจ็บปวดเสี้ยวหนึ่งกะพริบผ่านไปในดวงตา
เธอพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ถ้าหากแม่ของ
ฉันยังมีชีวิตอยู่ละก็ ก็น่าจะเป็นห่วงฉันเหมือนคุณเลย
นงลักษณ์อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ถอนหายใจและพูดขึ้นว่า “เรื่องที่ เสียใจมากที่สุดในชีวิตฉันก็คือไม่รีบกลับมาให้เร็วที่สุด”
“มีเรื่องบางเรื่องสวรรค์คงจะกำหนดมาแล้วมั้ง โชคชะตาบาง อย่างก็ร้องขอมาไม่ได้ รอให้เรื่องราวพวกนี้จบลงแล้ว กลับไปเยี่ยมคุณตากับฉันนะคะ หลายปีมานี้ ท่านคิดถึงคุณมากเลยค่ะ
นรมนรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเชื่อถือนงลักษณ์ได้ทั้งหมด แต่ว่า ความรู้สึกบางอย่างมันก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่จริง ๆ
แต่ว่านงลักษณ์จะไม่ให้เธอผิดหวัง
นงลักษณ์พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันจะไป เตรียมตัวสักหน่อย เดี๋ยวจะได้ไปหมู่บ้านน้ำใสพร้อมกับเธอ”
“ได้ค่ะ”
นรมนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วตัวเองก็หมุนตัวกลับไปเตรียมตัว เล็กน้อยด้วยเช่นกัน
เธอเอาหมู่บ้านดารายนมอบหมายให้กับมิลิน มีมิลินอยู่เป็น
หลัก ที่นี่ก็น่าจะไม่มีปัญหา ที่สำคัญหมู่บ้านดารายนก็ยังเป็นบ้าน
เกิดของมิลินมาตลอด และนรมนก็ทิ้งกิจจาไว้ที่นี่ด้วย
สำหรับการจัดแจงของนรมนนั้น กิจจาเองก็พยักหน้าตอบ ตกลงแล้ว เพียงแต่แค่ขอให้นรมนระวังความปลอดภัยด้วย
ไม่นานหลังจากนั้น นรมนและนงลักษณ์ทั้งสองคนก็ไปหมู่บ้าน น้ำใสแล้ว
หมู่บ้านน้ำใสยังคงเป็นเหมือนกับตอนที่บริศร์อยู่ยังไงอย่าง นั้น ในตอนที่ผู้ใหญ่บ้านเตชิตเห็นนรมนนั้นก็ยังรู้สึกแปลกใจไป บ้าง
“คุณนายบุริศร์? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้? คุณไปหลังเขากับ คุณบุริศร์แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ปีวรากลับมาหรือยังคะ?”
พอผู้ใหญ่บ้านเตชิตได้ยินคำถามของนรมน ก็ส่ายหัวอย่าง รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
“ปีวราพาคุณหนูกมลไปตามหาพวกคุณแล้ว พวกคุณไม่ได้ เจอกันเหรอครับ?”
“ฉันสามารถพบภรรยาคุณหน่อยได้ไหม?”
นรมนไม่ได้ตอบ ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ว่าผู้ใหญ่บ้าน เตชิตเหมือนกับว่าจะมองอะไรออกเล็กน้อยแล้ว
“ใช่ปีวราทำเรื่องอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
“ผู้ใหญ่บ้านเตชิตรู้สึกว่าปีวราสามารถทำอะไรผิดได้บ้างล่ะ?”
นรมนไม่ได้ตอบแต่กลับถามกลับ จนชั่วขณะหนึ่งทำให้ผู้ใหญ่ บ้านเตชิตรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา
“ผม ไม่รู้”
“ยังไงก็ให้ฉันเจอกับคุณนายใจภักดิ์เถอะ”
คุณนายใจภักดิ์เป็นลูกหลานของหมู่บ้านดารายน ยังไงนรมน ก็ยังหวังว่าเธอจะสามารถเห็นแก่ความผูกพันเก่าได้
ผู้ใหญ่บ้านเตชิตครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่ว่าปีวราจะทำอะไรลงไป ผมก็ยังหวังว่าอยู่ต่อหน้าภรรยาผม คุณจะสามารถถนอมน้ำใจหน่อย สุขภาพของเธอไม่ค่อยดี ผมไม่ อยากจะให้เรื่องอะไรของปีวราทำให้เธอเป็นอะไรไป ถือซะว่าผม ขอร้องคุณล่ะ”
นรมนไม่มีทางที่จะรับปากกับผู้ใหญ่บ้านเตชิตได้ ในเมื่อเรื่อง นี้เกี่ยวข้องกับบริศร์และกมล
เธอพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผู้ใหญ่บ้านเตชิต ถ้าหากเป็นไปได้ละก็ ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนการพักผ่อนและการพักฟื้นของคุณนาย ใจภักดิ์หรอกค่ะ แต่ว่าตอนนี้เวราพาสามีและลูกสาวของฉันไป แล้วไม่มีเบาะแสอะไรเลย แล้วสามีของฉันก็เป็นผู้ใหญ่บ้านคน ปัจจุบันของหมู่บ้านดารายน คุณรู้สึกว่าฉันควรจะถามคุณนายใจ ภักดิ์เกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยไหมล่ะ?”
ผู้ใหญ่บ้านเตชิตนิ่งอึ้งไปทันทีเลย
“เป็นไปไม่ได้ เด็กอย่างวราจะไปทำเรื่องอย่างนี้กับคุณบุริศร์และคุณหนูกมลได้ยังไง?”
“ฉันเองก็ไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นก็เลยจะมาทำความเข้าใจ สถานการณ์สักหน่อย ในเมื่อทั้งสามีฉันและฉัน ต่างก็ไม่อยากจะ เป็นศัตรูกับหมู่บ้านน้ำใส”
คำพูดของนรมนทำให้ผู้ใหญ่บ้านเตชิตเงียบขรึมไปเลย
“ยัยลูกอกตัญญูน ดูซิกลับมาฉันจะตีขาเธอให้หักไปเลย!
“นั่นก็ยังจะต้องตามหาตัวเธอให้เจอก่อนถึงจะได้
นรมนพูดไปแล้วก็เดินเข้าไปเลย และครั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านเตชิต ไม่ได้ขัดขวางอีก
นงลักษณ์ตั้งแต่ที่มาถึงที่นี่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ได้แต่ติดตาม อย่างสงบเงียบอยู่ข้างหลังนรมน พอเห็นนรมนเดินเข้าไปก็เดิน ตามเข้าไปด้วย
ผู้ใหญ่บ้านเตชิตไม่รู้จักสถานะของนงลักษณ์ แน่นอนว่าก็ไม่
กล้าขวางด้วยเช่นกัน ในตอนที่นรมนเดินเข้ามาถึงข้างเตียงของคุณนายใจภักดิ์นั้น
คุณนายใจภักดิ์กำลังตื่นอยู่พอดี
“คุณนายบุริศร์ นี่คุณจะ….…..
“คุณนายใจภักดิ์ ฉันสามารถพูดคุณส่วนตัวกับคุณสักหน่อย ได้ไหม?”
แววตาของนรมนอ่อนโยน ให้คนมีความรู้สึกสบายใจอย่าง มากอย่างหนึ่ง
คุณนายใจภักดิ์พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มและพูดกับผู้ใหญ่ บ้านเตชิตขึ้นว่า “ฉันอยากจะกินซุปไก่ดำที่คุณตุ้นเองกับมือ คุณ ไปทำให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
เมื่อภรรยาร้องขอเช่นนี้แล้ว ผู้ใหญ่บ้านเตชิตยังจะพูดอะไรได้
อีกล่ะ?
“คุณอย่าร้อนใจเกินไปนะ
ผู้ใหญ่บ้านเตชิตกำชับขึ้นอีกประโยคหนึ่งแล้วก็จากไป
นงลักษณ์เองก็เดินออกไปหลังจากที่นรมนส่งสัญญาณให้
ในตอนที่ในห้องเหลือแต่นรมนและคุณนายใจภักดิ์นั้น ดวงตา ของคุณนายใจภักดิ์ก็มีความกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณนายบุริศร์ ปีวราของบ้านเราทำเรื่องอะไรผิดพลาดไปใช่หรือเปล่าคะ?”
นรมนเองก็เป็นแม่คนหนึ่ง พอเห็นคุณนายใจภักดิ์เป็นแบบนี้ แน่นอนว่าก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว เธอพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “มีเรื่องนิดหน่อย แต่ว่าคุณอย่าเพิ่งร้อน ใจไป ฉันแค่มาทำความเข้าใจสถานการณ์หน่อยเท่านั้น
พูดจบนรมนก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดกับคุณนายใจภักดิ์รอบหนึ่ง เล่าเรื่องได้อย่างละเอียด ไม่มีตกหล่นสักนิด
สีหน้าของคุณนายใจภักดิ์ดูไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่นา มนพูดจบแล้วก็พูดขอโทษขึ้นว่า “ขอโทษนะคะ คุณนายบุริศร์ เป็นเพราะว่าฉันสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดี ฉันทำผิดต่อผู้ใหญ่บ้าน
“คุณอย่าพูดแบบนี้ ตอนนี้ยังหาวราไม่เจอ ใครก็ไม่รู้ว่า ตกลงมันเป็นเรื่องอะไร ฉันเชื่อว่าปีวราน่าจะไม่ทำร้ายสามีของ ฉันกับลูกสาว เพียงแต่ว่าตอนนี้ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าพวกเขาอยู่ ที่ไหน คุณนายใจภักดิ์ คุณจะสามารถช่วยลองคิดดูหน่อยได้ไหม ว่าปีวราจะสามารถไปที่ไหนได้บ้าง
ว่ากันว่าไม่มีใครเข้าใจลูกสาวได้เท่ามารดา นรมนมักจะรู้สึก ว่าคุณนายใจภักดิ์น่าจะให้เบาะแสอะไรกับเธอได้
เพียงแต่ว่าคุณนายใจภักดิ์กลับส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “เด็กคนนั้นนิสัยเถื่อนมาตั้งแต่เด็ก ฉันกับพ่อของเธอก็ มีลูกแค่คนนี้ แล้วสุขภาพของฉันก็ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นตั้งแต่ เด็กก็มักจะตามใจเธอ ยังจำได้ว่าตอนนั้นที่หัวหน้าคริชณะบอก ว่าจะผลักดันเธอนั้น เธอดีใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ อยากจะเชื่อว่าลูกสาวของฉันจะไปเป็นคนสมรู้ร่วมคิดของผู้อื่น ได้”
นรมนเองก็ไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นก็ได้มาหมู่บ้านน้ำใสเที่ยวหนึ่ง แต่ว่าพอเห็นคุณนายใจภักดิ์เป็นเช่นนี้แล้ว คาดว่าก็คงจะถาม ข่าวคราวอะไรที่เป็นประโยชน์ไม่ได้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวัง ขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันเชื่อความเป็นคนของปีวรา และก็เชื่อว่าบางทีที่เธอทำ แบบนี้อาจจะมีเหตุผลอื่น แต่ว่าคุณนายใจภักดิ์ คุณเองก็เป็นแม่ คนหนึ่ง และน่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉันได้ ลูกสาวของฉันแค่ อายุห้าขวบ สามีของฉันก็สุขภาพไม่ค่อยดี แล้วตอนนี้ก็มา หายตัวไปพร้อมกับลูกสาวของคุณ แล้วฉันจะไม่เป็นกังวลได้ยัง ไงกัน?”
คุณนายใจภักดิ์จ้องมองนรมน แล้วพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็ พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่ว่าคุณนายบุรี ศร์ ลูกสาวของฉันไม่ใช่คนที่ไม่รู้ดีชั่ว ยังไม่พูดถึงว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ แค่พูดถึงนิสัยของเธอก่อน จะต้องไม่มีทางที่จะใน ขณะที่ช่วยคนชั่วทำเรื่องไม่ได้แล้วก็ไม่สนใจความปลอดภัยของ ฉันกับพ่อเธอแน่ ในหมู่บ้านน้ำใสนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านของเรา แต่ว่าถ้าคุณนายบุริศ ต้องการทำที่นี่ให้พังพินาศเป็นราบกองขึ้น มา พวกเราเองก็ไม่มีทางที่จะอยู่ต่อได้ไม่ใช่เหรอ? ถ้าลูกสาวฉัน จะทำผิดกฎหมายจริง ๆ ก็คงจะไม่พาตาแก่อย่างเราสองคนไป ตายด้วยหรอกมั้ง? แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่ได้บอกความเคลื่อนไหว อะไรกับเรา แต่กลับทิ้งพวกเราไว้ที่นี่ นั่นก็พูดได้ชัดแล้วว่า ลูกสาวของฉันไม่ได้เป็นคนทรยศ ไม่ใช่คนเป็นแม่อย่างฉันจะ แก้ตัวแทนลูกสาว เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มีเรื่อง มากมายต่างก็ไม่สะดวกที่จะพูด
นรมนจ้องมองคุณนายใจภักดิ์ที่อ่อนแอที่อยู่ตรงหน้า แล้ว เหมือนกับว่าจะรู้จักผู้หญิงคนนี้ครั้งแรกยังไงอย่างงั้น
เธอพูดได้ไม่ผิด
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่นรมนสงสัยว่าปีวราไม่ได้เป็นศัตรูกับพวก เขาจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าคุณนายใจภักดิ์ก็จะเป็นคนที่มองอะไรทะลุ ปรุโปร่งด้วยเหมือนกัน
“คุณนายใจภักดิ์นี่ทำให้ฉันต้องมองคุณใหม่จริง ๆ เลย”
“คุณนายบุริศร์เองก็จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ ไม่งั้นก็คงจะไม่มาหา
ฉันซึ่งเป็นคนกึ่งพิการคนหนึ่งแบบนี้หรอกใช่ไหมคะ?” คุณนายใจภักดิ์ยิ้มจาง ๆ ขึ้น ท่าทีที่สงบนิ่งแบบนั้นกลับทำให้
นรมนรู้สึกชื่นชมขึ้นมาเล็กน้อย
“พูดอย่างไม่ปิดบังนะคะ มิลินได้รับหนอนพิษส่งสารมาตัว หนึ่ง น่าจะปีวราเป็นคนส่งกลับมา เธอให้พวกเราอยู่นิ่ง ๆ อย่า เพิ่งเคลื่อนไหวใด ๆ ก่อนชั่วคราว และให้คอยรอข่าวอยู่
ตอนแรกนรมนไม่ได้คิดว่าจะพูดเรื่องพวกนี้ แต่ว่าตอนนี้กลับ ไม่พูดไม่ได้แล้ว
คุณนายใจภักดิ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “งั้นฉันรู้แล้ว ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน”
“อยู่ไหนเหรอคะ?”
นรมนร้อนใจเป็นอย่างมาก
แต่คุณนายใจภักดิ์กลับพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องนี้ตอนนี้ยัง บอกคุณไม่ได้ แต่ว่าถ้าคุณอยากจะหาพวกเขาให้เจอ ทางที่ดี ที่สุดต้องหาลูกหลานตระกูลแสงนาคให้เจอก่อน
“ลูกหลานตระกูลแสงนาคเหรอ?”
“ใช่ คนที่รู้เรื่องกลยุทธ์ลูกหลานตระกูลแสงนาค ถ้าหากตาม หาคนคนนี้เจอได้ บางทีพวกเราก็จะสามารถตามหายัยลูกสาว ของบ้านเราและพวกสามีของคุณได้แล้ว”
คำพูดของคุณนายใจภักดิ์ทำให้นรมนรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง เธอ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงพรวลัยขึ้นมา
เมื่อหลายวันก่อนพรวลัยเป็นคนพาพวกเขาเข้าไปในค่ายกล แปดทิศหยินหยาง หรือว่าพรวลัยจะเป็นลูกหลานของตระกูลแสง นาคเหรอ?
ใจของนรมนตื่นเต้นไม่หยุด แต่ว่าก็ยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง
หลังจากที่พรวลัยกินยาพิษไปแล้วก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา ถึงเธอจะ เป็นลูกหลานของตระกูลแสงนาค แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ว่า พอรู้ข่าววันนี้แล้วยังไงก็ยังรู้สึกดีใจอยู่บ้าง
“ขอบใจคุณมาก คุณนายใจภักดิ์ คุณรักษาสุขภาพให้ดี แล้ว ต่อไปฉันค่อยมาดูคุณอีก
นรมนยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น ที่ระหว่างหัวคิ้วล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
คุณนายใจภักดิ์พยักหน้า แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ถึงแม้ว่า ตอนนี้ฉันจะเป็นคนของหมู่บ้านน้ำใส แต่ว่าหมู่บ้านดารายนก็ยัง เป็นบ้านแม่ของฉัน สำหรับคดีทำลายล้างหมู่บ้านในครั้งนั้นฉันก็ ยังจดจำไว้ในใจเสมอ คุณนาย คุณไม่ต้องสงสัยฉัน ยิ่งไม่ต้อง คาดเดาปีวราของบ้านเรา พวกเราสามารถใช้ชีวิตมารับประกัน ได้ว่า ปีวราของบ้านเราจะไม่มีทางเป็นคนทรยศแน่ และยิ่งจะไม่ เป็นคนไม่รักษาสัญญาแน่”
“ฉันเชื่อค่ะ”
นรมนนั้นเชื่อถือคนน้อยมาก แต่ว่าวินาทีนี้กลับยอมเชื่อคุณ นายใจภักดิ์ที่อยู่ตรงหน้านี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอเป็น หนึ่งในไม่กี่คนที่หลงเหลืออยู่ของหมู่บ้านดารายน หรืออาจจะ เป็นเพราะว่าพวกเขาต่างก็เป็นแม่
แล้วทั้งสองคนก็พูดคุณกันไปอีกไม่กี่ประโยค นรมนก็ลุกขึ้น แล้วจากไป
พอนงลักษณ์เห็นนรมนออกมา ก็รีบเดินตามเข้าไป “ถามได้ความอะไรบ้างไหม?
“อืม”
นรมนพยักหน้า แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันอยากไปดูพรวลัยที่ โรงพยาบาลก่อน คุณป้าใหญ่คุณกลับไปก่อนเถอะ
ให้ฉันไปเป็นเพื่อนเธอเถอะ ที่โรงพยาบาลคนวุ่นวายซะ ขนาดนั้น ฉันกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา
การคำนึงของนงลักษณ์กลับทำให้นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง
ได้ค่ะ”
นรมนไม่ได้ปฏิเสธ แล้วก็ไปโรงพยาบาลพร้อมกับนงลักษณ์ เลย
ในตอนที่บุณพจน์เห็นพวกเขามานั้นก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็ก น้อย แต่ว่าก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา เพียงแต่พูดขึ้นเรียบ ๆ ว่า “เธอยังไม่ฟื้น ถ้าหากคุณมาเพราะว่าเรื่องกลยุทธ์ละก็ อาจจะผิด หวังได้”
นรมนอึ้งไปทันทีครู่หนึ่ง
“คุณรู้เรื่องกลยุทธ์ด้วยเหรอคะ?”
ในตอนที่พรวลัยพาพวกเขาเข้าไปในค่ายกลแปดทิศนั้น บุณ
พจน์ไม่ได้อยู่ด้วย แต่ตอนนี้กลับพูดเป้าหมายที่พวกเขามาได้ ชัดเจนแบบนี้ นรมนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาขึ้นมาเล็กน้อย บุณพจน์พูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ในตอนที่ผมหมดสติอยู่ พรวลัยบอกกับผม”
เขาเอาเรื่องที่พรวลัยพูดทั้งหมดบอกกับนรมนและนงลักษณ์
ในใจของนรมนสั่นสะเทือนไม่หยุด เธอคิดไม่ถึงว่าพรวลัยจะมี ชีวิตที่โหดร้ายขนาดนี้ได้
แต่ว่าเธอยังมีเรื่องที่คิดไม่ตกอยู่เล็กน้อย
“พี่ใหญ่ ฉันไม่ได้ตั้งใจสงสัยพรวลัยในทางไม่ดีอะไร เพียงแต่ ว่าถ้าที่คุณพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด งั้นระหว่างพรวลัยและ พิรุณก็น่าจะต้องมีความแค้นใหญ่หลวงอยู่ แต่ว่าทำไมพรวลัยถึง ได้ปล่อยตัวพิรุณไปได้ล่ะ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ