บทที่ 1131 ถ้าหากฉันพูดว่าไม่ได้ล่ะ?
สําหรับทางด้านเจตต์ เทย่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ทันที จึงได้แต่ พูดเสียงต่ำว่า “แกจับตัวเธอไว้ก่อน เดี๋ยวฉันคิดหาวิธีได้แล้ว ค่อยโทรหาแกใหม่”
“ได้ครับ แม่ แม่คงจะไม่ได้หลอกผมหรอกนะ? ผมรู้ว่าแม่มี เรื่องของแม่ต้องทำ เพื่อเรื่องใหญ่ของแม่แล้วแม่สามารถทอดทิ้ง ผมได้ด้วยซ้ำ แต่ว่านี่เป็นการขอร้องแม่ครั้งแรกของผม แล้วก็จะ เป็นครั้งสุดท้ายด้วย เป็นแม่ลูกกันครั้งหนึ่ง แม่ก็คิดซะว่าช่วยผม สักครั้งได้ไหม?”
น้ำเสียงของเจตต์แฝงไว้ด้วยความโศกเศร้าเสี้ยวหนึ่ง อยู่ ๆ เทย่าก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา
ลูกชายคนนี้ไม่ว่ายังไงก็เป็นลูกที่ตัวเองอุ้มท้องสิบเดือนคลอด ออกมา และที่สำคัญหลายปีมานี้ ก็มีแต่เจตต์คนเดียวเท่านั้นที่ ปกป้องดูแลเธอมา
อยู่ ๆ เทย่าก็รู้สึกว่าติดค้างลูกชายคนนี้มาก แต่ว่าเธอเองก็ ไม่มีทางออก มาวันนี้ลูกชายมาพูดอย่างนี้แล้ว ขอแค่ไม่กระทบ ต่อแผนการของเธอ เธอก็ยังอยากจะได้ลูกชายคนนี้กลับคืนมา อยู่
“ได้ เดี๋ยวฉันโทรหาแกใหม่
พูดจบเทย่าก็วางสายไป แล้วก็รู้สึกผิดจนเหมือนกับมีคลื่นใหญ่ซัด ใส่
เมื่อก่อนเจตต์เคยดีกับเธอมากจริง ๆ ดีจนเธอเกือบจะอยาก ทิ้งแผนการของตัวเองไป แต่น่าเสียดายก็แค่เกือบเท่านั้น
เทย่าทอดถอนใจ คิดไม่ถึงสักนิดเลยว่าทางด้านเจตต์นั้นจะ
กําลังหน้าตามืดขรึมอย่างน่ากลัวอยู่
ขวัญตาเห็นเจตต์มีท่าทางอย่างนี้ ก็รีบยื่นมือไปจับมือของเขา เอาไว้
มือของเขาเย็นมาก เย็นจนเหมือนกับว่าไม่มีความอบอุ่นเลย
และเขาก็ตัวสั่นอยู่ด้วย ไม่รู้เป็นเพราะว่าเสียใจหรือว่าโกรธ
“เจตต์ อย่าเป็นแบบนี้ คุณยังมีฉันอยู่นะ
ขวัญตากอดเขาไว้แน่น
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของหญิงสาวและอุณหภูมิที่อุ่นร้อนของตัว เธอทําให้ร่างกายของเจตต์นิ่งไปครู่หนึ่ง หัวใจที่เยือกเย็นดวง นั้นค่อย ๆ มีความอบอุ่นขึ้นมา
เขากอดขวัญตาไว้แน่น แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ขวัญตา ผม เหลือคุณคนเดียวแล้ว ครั้งนี้ผมจะต้องจัดการเธอด้วยมือตัวเอง แล้วจริง ๆ”
ขวัญตารู้ว่าใจของเจตต์จะต้องเป็นทุกข์อย่างมาก ในเมื่อก่อน หน้านี้เขาคิดว่าเทย่าเป็นทุกอย่างที่ตัวเองจะต้องรักและปกป้อง แต่คิดไม่ถึงว่าเทย่าจะทำลายความไว้วางใจของเขา และก็ ทำร้ายญาติที่เขาสนิทชิดเชื้อที่สุด
“ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ถ้าหากคุณรู้สึกเจ็บปวดเกินไป เดี๋ยวฉัน จะเป็นคนลงมือเอง”
“ไม่ต้อง เธอเป็นแม่ผมถึงจะตาย ก็จะต้องเป็นผมที่ส่งเธอไป ด้วยมือของตัวเอง”
นัยน์ตาของเจตต์มีความเจ็บปวดและความขัดแย้งกันพาด ผ่านเสี้ยวหนึ่ง แล้วสุดท้ายก็สงบลงมา และแฝงไว้ด้วยความ
เฉียบขาดเสี้ยวหนึ่ง
คนของเทย่าส่งข่าวมาอย่างรวดเร็ว และมีภาพกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐาน ว่าเจตต์ได้ตีขวัญตาจนสลบไปจริง ๆ แล้วก็พา เข้าไปในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมาเลย
พอได้ยินค่าตอบแบบนี้ ดวงตาของเทย่าก็หรี่ลงครู่หนึ่ง
เส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์เธอจะต้องเอามาให้ได้ ไม่งั้นทางบิดาจะต้องโกรธมากแน่
ถึงแม้ว่าจะเป็นบิดาของเธอ แต่ว่าเทย่าก็สามารถสัมผัสได้ว่า บิดาเองไม่ใช่จะขาดเธอไม่ได้ และอีกอย่างในบ้านยังมีพี่น้องอีก หลายคน ทุกคนล้วนไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่าย ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าขวัญตาเป็นเมียของเจตต์ งานครั้งนี้ก็คงไม่ ถึงตาเธอมาจัดการหรอก
นี่เป็นโอกาสที่บิดามอบให้เธอ และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะ ครั้งสุดท้ายแล้ว
เทย่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ ที่หนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “พวกนายรอฉันอยู่ที่นี่ ฉันพาแคมป์ไปคนเดียวก็พอแล้ว”
ฝีมือของแคมป์ดีมาก ต้องสามารถควบคุมตัวเจตต์ไว้ได้แน่ เทย่าลองคิดวิเคราะห์เล็กน้อย แล้วก็ตัดสินใจไปเจอเจตต์
ในตอนที่โทรศัพท์ของเทย่าโทรหาเจตต์นั้น สีหน้าของเจต ได้เปลี่ยนกลับไปเป็นปกติแล้ว
“แม่ แม่ไม่ต้องมาหรอก แค่บอกผมมาว่าอยู่ที่ไหนก็พอ”
เหมือนกับว่าเจตจะไม่อยากให้เทย่ามาหามากเลย แต่ว่ายิ่งเขาเป็นแบบนี้ เทย่าก็ยิ่งรู้สึกว่าเจตต์ไม่มีปัญหา
“เจ้าลูกชายโง่ เรื่องบางเรื่องพูดกันทางโทรศัพท์ไม่ชัดเจน หรอก แกรอฉันก่อนนะ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้
เทย่าพูดจบก็วางสายไป
เจตต์ยิ้มเย็นขึ้นที่หนึ่ง
เขาไม่ได้บอกที่อยู่ที่นี่ให้เทย่า แล้วเทย่าเองก็ไม่ได้ถามเขา แต่เห็นได้ชัดว่าเธอรู้เรื่องเขาดีราวกับว่าอยู่ในกำมือ
พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนอรอุรชาก็เคยรู้การเคลื่อนไหวของตัว เองมาจากเทย่า เจตต์ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากขึ้นมา
เขาโทรศัพท์หาผู้ช่วยของตัวเอง
“ตรวจเช็กบริษัทตระกูลรัตติกรวรกุลทั้งในทั้งนอกให้หมด ตรงไหนมีปัญหาก็ไล่ออกให้หมด
“ได้ครับ ประธานเจตต์
ผู้ช่วยรีบตอบรับคําสั่ง
พอขวัญตาเห็นเจตต์เป็นแบบนี้ ก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก “ที่รัก ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นแน่ค่ะ”
“ขอบคุณนะขวัญตา ขอบคุณที่คุณรักผมคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ อย่างนี้”
เจตต์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ขวัญตากลับส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “คุณไม่สมบูรณ์แบบตรง ไหน? คุณเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ อย่างน้อยอยู่ในสายตา ฉันคุณก็เป็นแบบนั้น”
จิตใจของเจตต์รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีเลย
ผ่านไปไม่นาน ข้างนอกก็เสียงไซเรนดังขึ้นมา
ดวงตาของเจตต์หรี่ลงครู่หนึ่ง
ขวัญตายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันจะต้องแกล้งตายอีกแล้ว”
“วางใจเถอะ ต่อไปจะไม่ให้คุณต้องลำบากใจอีกแล้ว” เจตต์จับมือของขวัญตาเอาไว้ แล้วมีความรู้สึกหลากหลาย
มากมาย ขวัญตารู้สึกว่าหัวใจยิ่งเต้นแรงขึ้นมาก เหมือนกับว่าจะ สามารถเต้นออกมาจากลูกกระเดือกได้เลย จึงอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไป และบนใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าว
ขวัญตาที่เป็นแบบนี้ดูมีเสน่ห์มาก จนเจตต์เกือบจะควบคุมตัว เองไว้ไม่อยู่ แต่ตัวเขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ตัวเองจะมา บุ่มบ่าม
ขวัญตารีบนอนลงบนเตียงแล้วแกล้งสลบ
เจต พยายามผ่อนคลายลง แล้วพยายามข่มอารมณ์ทั้งหมด ลงไป จากนั้นก็นั่งลงข้าง ๆ ขวัญตาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย ความอึมครึม
เทย่าจอดรถเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้แคมป์ลงไปตรวจสอบดู
สักหน่อย หลังจากที่ไม่พบเห็นบุคคลน่าสงสัยแล้วเธอถึงได้ลง จากรถ ทั้งสองคนขึ้นลิฟต์ไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไปเคาะประตูห้องเจต
ตามข้อมูลที่สืบค้นมา
ในตอนที่เจตต์เปิดประตูออกมา พอเห็นว่าเป็นเทย่าก็ตกใจ เป็นอย่างมาก
“แม่มาได้ยังไง?”
ตัวของเขาบังประตูเอาไว้ ท่าทางเหมือนกับว่าไม่อยากจะให้ เทย่าเข้ามาเลย ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
จิตใจของเทย่าเจ็บปวดขึ้นมาทันที
“ฉันเป็นแม่ของแก ฉันจะมาดูแกสักหน่อยมันผิดตรงไหน?”
“แม่รีบไปเถอะ ผมแค่ต้องการให้แม่สอนผมหน่อยเท่านั้น ไม่ ได้คิดว่าแม่จะมา ที่นี่เป็นเมืองชลธี ถ้าบุริศร์รู้ว่าแม่อยู่ที่นี่ เขาจะ ต้องไม่มีทางปล่อยแม่ไปแน่ ผมไม่อยากจะเป็นศัตรูกับพวกเขา แม่รีบไปเถอะ”
เจตต์พูดจบก็จะผลักเทย่าออกไป
ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ เทย่าก็ยิ่งไม่สงสัย
เธอผลักเจตต์ออกไปโดยตรง แล้วก็ยกเท้าเดินเข้าไปในห้อง
“เจ้าเด็กอย่างแกนี่ ไม่ว่ายังไงขวัญตาก็เป็นลูกสะใภ้ของฉัน ฉันจะมาดูลูกสะใภ้สักหน่อยคงจะไม่เกินไปหรอกมั้ง?” เทย่าพูดไปด้วยเดินไปด้วย
ในตอนที่เธอเดินมาเห็นขวัญตาที่นอนอยู่บนเตียงนั้น ก็อดไม่ ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
หน้าตาของขวัญตานั้นสวยงามจริง ๆ
ความงดงามของเธอเป็นแบบสวยงามอย่างเปิดเผย สวย อย่างหยิ่งยโส ไม่เหมือนกับนรมน แต่ว่าก็สามารถเทียบกับนร มนได้อย่างแน่นอน ไม่แปลกใจเลยที่สามารถทำให้เจตต์หลง ไหลได้ถึงขนาดนี้
เทย่าครุ่นคิดอยู่ในใจ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะมานั่งลงข้างกาย ขวัญตา
ขวัญตาไม่กล้าที่จะหายใจแรงเลยสักครั้ง และพยายามที่จะรักษาลมหายใจที่สม่ำเสมออยู่ ท่าทางเหมือนกับว่าสลบไปและ ยังไม่ฟื้นขึ้นมาจริง ๆ
เทย่ามีความรอบคอบ และก็รีบยื่นมือไปแตะขวัญตาดูเล็ก
น้อย
ตัวของขวัญตาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างอัตโนมัติ แต่ว่าก็ยัง พยายามหยุดยั้งเอาไว้อย่างเต็มที่
เจตต์ที่อยู่ข้าง ๆ จ้องมองจนอกสั่นขวัญแขวน
ในที่สุดเทย่าก็ถือได้ว่าโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง แล้วก็ยิ้มและ พูดขึ้นว่า “เจตต์ ฉันจะพาขวัญตากลับไปอยู่ด้วยสักไม่กี่วัน แก วางใจเถอะ ช่วงเวลานี้ฉันจะเกลี้ยกล่อมเธอให้ดี ๆ ในเมื่อแก ชอบเธอซะขนาดนั้น แม่จะไม่ให้เธอไปจากแกแน่นอน”
ดวงตาของเจตต์ขรึมลงไปหลายส่วนทันที
“คุณอยากจะใช้ขวัญตามาแลกเส้นทางเดินเรือกับตระกูลป วนะฤทธิ์เหรอ?”
เทย่าโดนลูกชายมองเจตนาออกจนทะลุปรุโปร่ง แต่กลับไม่มี ความละอายเลยแม้แต่น้อย กลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเรากับ ตระกูลปวนะฤทธิ์เกี่ยวดองกันแล้ว ยืมใช้เส้นทางการเดินเรือสัก หน่อยคงจะไม่มีอะไรไม่ดีหรอก แกจะมาจริงจังมากไปแบบนี้ไม่ ได้นะ?”
“ตกลงคุณจะเอาเส้นทางการเดินเรือไปทำอะไร?”
หัวคิ้วของเจตต์ขมวดกันแน่นขึ้นมา
เทย่าไม่ได้ตอบเขา เพียงแต่พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ลูกชาย แม่ไม่ ได้อยู่สุขสบายอย่างที่ลูกคิดหรอกนะ เส้นทางเดินเรือของตระกูล ปวนะฤทธิ์แม่จําเป็นจะต้องเอามาให้ได้ ไม่งั้นแม่ก็จะไม่มีที่ยืน เลยแม้แต่นิดเดียว แกรักแม่อยู่ใช่ไหม? หลายปีมานี้ แกยอม ทอดทิ้งสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อแม่ งั้นก็ทำเพื่อแม่ ช่วยแม่อีกสัก ครั้งเถอะนะ แกวางใจได้เลย ฉันรับรองว่าตัวขวัญตาจะต้อง ปลอดภัยแน่นอน รับรองว่าจะต้องคืนเมียที่แข็งแรงปลอดภัยให้ แกแน่นอนเลยดีไหม?”
“ถ้าผมบอกว่าไม่ได้ล่ะ?”
เจตต์พูดจบก็เดินหน้าไปก้าวหนึ่งแล้วคว้ามือของเทย่าเอาไว้
“แม่ กลับตัวตอนนี้ยังทันนะ ถ้าแม่ยอมจำนนและมอบตัว ลูก จะต้องเลี้ยงดูแม่ยามแก่เฒ่าแน่นอน”
สีหน้าของเทย่าเปลี่ยนเป็นดูไม่ดีขึ้นมาทันที
“ยอมจำนนและมอบตัวเหรอ? นี่แกกำลังพูดเล่นอยู่ใช่ไหม? เจตต์ เมื่อก่อนแกยอมเป็นศัตรูกับแม่เพื่อนรมน ตอนนี้ก็จะมาทำ แบบนี้กับแม่เพื่อขวัญตาอีก แกรู้ไหม คนที่อุ้มท้องสิบเดือนคลอด แกออกมาคือฉันนะ!”
น้ำเสียงของเทย่าแหลมสูงขึ้นเล็กน้อย เธอรีบส่งสายตาไปให้แคมป์ทีหนึ่ง แคมป์รับรู้ขึ้นมาทันที แล้วก็จู่โจม ใส่เจตต์เลย เจตต่ไม่ทุกข์ไม่ร้อน แววตาที่จ้องมองเทย่าแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดเสี้ยวหนึ่ง เหมือนกับว่าเขาเดาออกว่าเทย่าจะทำแบบนี้ ตั้งนานแล้ว
ภายใต้สายตาแบบนี้ของลูกชาย เทย่ากลับไม่กล้าที่จะสบตา ตรง ๆ ด้วยแล้ว
“แกอย่าโทษแม่เลยนะ แม่เองก็ไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ”
เทย่าเบือนหน้าหนีไป กลับไม่เห็นจุดแดง ๆ จุดหนึ่งส่องตรง มาที่ขมับของแคมป์พอดี
เสียง”พรีบ”ดังขึ้นทีหนึ่ง เป็นเสียงปืนใส่ที่เก็บเสียงไว้ แล้ว แคมป์ก็ล้มตัวลงตรงระยะห่างจากเจตต์ไม่ถึงครึ่งเมตร
ที่ขมับของเขามีรูอยู่วันหนึ่ง เลือดสีแดงสด ๆ ไหลพุ่งออกมา จากตรงนั้น
แน่นอนว่าเทย่ามีประสาทสัมผัสที่รวดเร็วต่อเสียงนี้อยู่แล้ว เธอหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อมือขึ้น มาทีหนึ่ง
“เจตต์ นี่แกทำอะไร?
เทย่าอยากจะสะบัดแขนของเจตต์ออก แต่ว่าเจตต์กลับจับข้อ มือของเธอไว้แน่น เข็มฉีดยาที่อยู่ในมือของเขาค่อย ๆ ดันน้ำยา ฉีดเข้าไปในร่างกายของเทย่า
“นี่แกฉีดอะไรใส่ฉัน?”
ทั้งตัวเทย่าเกือบจะเป็นบ้าไปทั้งตัวแล้ว
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาจำนนอยู่ในมือของลูกชายตัวเอง
เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ ที่เธอกลับมาพบเจตต์ ถึงแม้จะรู้ว่าเจต ยืนอยู่ข้างเดียวกับนรมน ถึงแม้เจตต์จะเรียกตำรวจมา แต่ว่าก็ ยังเหลือเวลาให้เธอหลบหนี แล้วนี่ก็ทำให้เทย่ารู้สึกว่าลูกชายตัว เองยังมีความรู้สึกต่อเธออยู่ แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกหงุดหงิด อยู่บ้าง ลูกชายตัวเองเห็นแก่ความรู้สึกมากเกินไปแล้ว แน่นอน ว่าจะต้องทำงานใหญ่ไม่ได้แน่
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ระแวงเจตต์ เพียงแต่แค่ รู้สึกว่าเจตต์จะไม่มีทางลงมือกับตัวเองจริง ๆ เท่านั้น
หลังจากที่เจตต์ดันยาในเข็มฉีดยาทั้งหมดเข้าไปแล้วถึงได้ ปล่อยตัวเทย่าออก
เทย่าสะบัดมือตบลงบนใบหน้าของเจตต์ที่หนึ่ง เรี่ยวแรงเยอะ
มากจนใบหน้าของเจตต์หันไปอีกทางหนึ่ง รอยนิ้วมือห้านิ้ว
ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าทันที
“ไอ้ลูกอกตัญญู! ฉันเป็นแม่แกนะ! ฉันอุ้มท้องสิบเดือนคลอด แกออกมา แต่แกกลับทำอย่างนี้กับฉัน! เมื่อกี้แกฉีดอะไรใส่ ฉัน?”
เทย่าบ้าคลั่งไปหมดทั้งตัวแล้ว
แล้วในเวลานี้เอง ขวัญตาก็ค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นมานั่ง
ในตอนที่เธอเห็นใบหน้าด้านซ้ายที่บวมแดงของเจตต์นั้น ทั้ง ตัวก็โกรธจนแทบคลั่งขึ้นมา
“ยาที่เขาฉีดให้คุณก็ไม่มีอะไรมากหรอก มันก็แค่ยาที่จะทำให้ กล้ามเนื้อหัวใจของคุณวายตายก็เท่านั้น”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ