บทที่ 1098 และนี่ก็คือความรัก
“มีอะไรเหรอ?”
บริศ เห็นสีหน้าของนรมนเปลี่ยนสีไป ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น มาค่าหนึ่ง
“อ๋อ ไม่มีอะไร เรื่องส่วนตัวของผู้นิดหน่อยของผู้หญิงน่ะ
นรมนรีบพูดขึ้น
เธอเองก็พูดแบบนี้แล้ว แน่นอนว่าบุริศร์ก็ไม่ถามต่อไปแล้ว “ผมไปดูก่อนว่าแถว ๆ นี้มีร้านอะไรอร่อยหรือเปล่า พวกคุณ สองคนเดินเล่นไปก่อนนะ”
“ได้ค่ะ”
บุริศร์พูดจบแล้วก็จากไป
พอเขาเดินไปแล้ว สีหน้าของนรมน
“ที่คุณพูดเป็นความจริงเหรอ?”
“ฉันจะไปหลอกคุณได้ยังไง? นี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันบังเอิญไปได้ยิน มา ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เจตต์จะจัดการยังไง แต่ฉันกลัวว่าเขาจะผ่าน ด่านในใจของตัวเองไปไม่ได้ คุณก็รู้ หลายปีมานี้คนที่เขาสนใจมากที่สุดนอกจากคุณแล้วก็คือเธอ
คำพูดของขวัญตาทำให้สีหน้าของนรมนยิ่งดูไม่ได้มากขึ้น เทย่าโทรศัพท์หาเจตต์แล้ว
นี่เป็นสิ่งที่ขวัญตาเพิ่งบอกตัวเองเมื่อกี้
เทย่า!
ตอนแรกก็เป็นเพราะว่าเธอมีพ่ออยู่ต่างประเทศคนหนึ่ง แล้ว เพื่อจะหลอกล่อพ่อคนนั้นออกมาถึงได้ยอมปล่อยตัวเธอ แต่คิด ไม่ถึงว่าจะมีความสามารถ แล้วถือโอกาสนี้หนีไปได้
ตอนนี้เธอถือได้ว่าเป็นนักโทษหลบหนี แต่กลับยังกล้า โทรศัพท์หาเจตต์!
โทรศัพท์หาเจตต์ในตอนนี้นี่อยากจะทำอะไรกันแน่?
เจตต์จะแต่งงานแล้ว แล้วเธอจะกลับมาก่อเรื่องอะไรอีก?
ในหัวสมองของนรมนเอาแต่คิดถึงปัญหานี้ไม่หยุด สีหน้าก็ดู
ไม่ได้เป็นอย่างมาก
แล้วความรู้สึกที่เจตต์มีต่อเหล่านั้นก็ซับซ้อนมาตลอด หลายปี มานี้คิดมาตลอดว่าเทย่าโดนพ่อของตัวเองบีบจนเป็นบ้า แต่สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าเทย่าจะหลอก ใช้คนทั้งหมด แล้วเจตต์จะให้อภัยเทย่าไหมนะ?
นรมนเองไม่รู้ แต่ว่ากลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
“อีกไม่กี่วันฉันจะไปหาเขาพูดคุยสักหน่อย”
“อย่าพูดว่าฉันเป็นคนบอกกับคุณนะ อย่าเอาฉันไปขายล่ะ นั่น เป็นสามีฉันนะ พวกเรายังจะต้องใช้ชีวิตด้วยกันอีกนะ
คำพูดของขวัญตาทำให้นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที
“คุณจําเป็นต้องขนาดนี้เลยเหรอ? ระมัดระวังขนาดนี้ ฉันว่า คุณเอาเจตต์ได้อยู่หมัดขนาดนี้แล้ว ยังกลัวเขาไม่เอาคุณอีกเห รอ?”
“กลัวซิ ฉันต้องกลัวอยู่แล้ว คุณไม่ใช่ไม่รู้สักหน่อย ที่เขายอม แต่งงานกับฉันก็เพราะว่าฉันเป็นฝ่ายรุกทั้งนั้น ใครจะไปรู้ว่าใน ใจของเขาจะมีพื้นที่สำหรับฉันหรือเปล่า? ถ้าหากเป็นเพราะว่า เรื่องนี้ทำให้เขาโมโหขึ้นมาละก็ ฉันก็คงจะเป็นคุณนายเจตต์ไม่ สําเร็จแล้ว”
ขวัญตาพูดได้อย่างน่าสงสารเป็นอย่างมาก ทำให้นรมนรู้สึก ข่าขึ้นมาทันที
“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ เลยว่าคุณไปถูกใจเขาได้ยังไงกัน? เมื่อ ก่อนเจตต์เป็นคุณชายเจ้าสำราญคนหนึ่งนะคุณไม่รู้เหรอ?”
“รู้ซิ แต่ว่าฉันก็ชอบแบบนี้
ขวัญตาพูดแหะ ๆ ไป แต่ว่าในดวงตากลับจริงจังมาก
“เพราะอะไรล่ะ? บนโลกใบนี้คงไม่มีการชอบอย่างไม่มีเหตุผล หรอกมั้ง?”
ตรงส่วนนั้นรมนคิดไม่เข้าใจ
ขวัญตาครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “ฉันจะบอกคุณ แต่คุณ ห้ามบอกเขานะ ฉันไม่อยากจะให้เขาดีกับฉันเพราะว่าเรื่องของ เมื่อก่อน ฉันอยากจะให้เขาค่อย ๆ พบความดีของฉัน แล้วก็ค่อย ๆ รักฉัน”
“มีความมั่นใจขนาดนี้เลยเหรอ?”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”
ขวัญตาหน้าตาสะสวยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ท่าทางที่มั่นใจในตัว เองของเธอยิ่งทำให้เธอมีเสน่ห์ทำให้คนหวั่นไหวมากขึ้น
นรมนถามขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อยว่า “ตกลงรู้จักได้ยังไงกัน?”
“เจต เคยช่วยชีวิตฉันไว้
คำพูดของขวัญตาทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
“เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่อง? ฉันไม่เคยได้ยิน เจตต์พูดถึงเลยนะ ถ้าเขาเคยช่วยสาวสวยอย่างคุณคนหนึ่ง ก็ คงจะเก็บคุณเข้าสต๊อกตั้งนานแล้ว ยังจะต้องให้คุณมาตามจีบ อย่างตอนนี้อีกเหรอ?”
คำพูดของนรมนนี้ทำให้ขวัญตารู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย
แล้ว
“เป็นเรื่องจริง แต่ว่าเป็นเรื่องตอนที่เขาเป็นทหารแล้ว
“หา?”
ไม่ว่ายังไงนรมนก็คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้
ขวัญตาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ปีนั้นฉันอายุแค่สิบแปด เพิ่งจะ บรรลุนิติภาวะ พ่อของฉันก็เลยให้เงินฉันมานิดหน่อย ให้เอาไป เที่ยวเล่น ฉันก็เลยนัดเพื่อนหลายคนออกไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าฉันจะโชคร้ายขนาดนั้น เดินเที่ยวอยู่ต่าง ประเทศก็เจอกับการจู่โจมของผู้ก่อการร้ายเข้า ตอนนั้นฉันตกใจ แทบแย่ ยังคิดว่าตัวเองจะตายอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว แต่คิดไม่ ถึงว่ากองกำลังรักษาสันติภาพของประเทศเราจะไปที่นั่น นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็น ท่าทางของทหารในกองกำลังรักษาสันติภาพ คุณไม่รู้หรอกว่า เจออันตรายในต่างแดน แล้วในตอนที่เห็นกองกำลังรักษา สันติภาพของประเทศตัวเองนั้นมันเป็นความรู้สึกยังไง
พอพูดมาถึงตรงนี้ ขวัญตาก็เหมือนกับว่าสามารถย้อนกลับไป คิดถึงความหวาดกลัวและความไร้ที่พึ่งในตอนนั้นได้
เธอพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตอนนั้นกระสุนบินเฉียดหูไปทุกหนทุก แห่ง เพื่อน ๆ ของฉันตกใจจนกรีดร้องขึ้น และหลบหนีกันไป ฉัน เห็นพวกเธอมีบางคนโดนยิง เลือดสีแดงสดสาดโดนใบหน้าของ ฉัน ตอนนั้นฉันก็รู้สึกว่า จบแล้ว ฉันคงจะไม่มีทางได้เห็นหน้าพ่อ ฉันอีกแล้ว ตอนนั้นพวกผู้ก่อการร้ายถือปืนไว้แล้วกราดยิง แล้ว ฉันก็อยู่ในรัศมีที่ถูกกราดยิงด้วย ฉันนึกว่าฉันจะถูกยิงจนพรุน เป็นตะแกรงแล้ว แต่ว่าก็ในวินาทีนั้นเอง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาก อดฉันไว้แล้วก็กลิ้งไปกับพื้น และยังปกป้องฉันไว้ในอ้อมกอด อีก”
แววตาของขวัญตามีแววความรักแบบเด็กสาวขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง
“คุณไม่รู้หรอก ว่าตอนนั้นเขาหล่อมากแค่ไหน ฉันจ้องมองจน แทบค้างไปเลย เพื่อช่วยฉันแล้ว เขาก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าเขาก็ยังคงส่งฉันไปถึงเขตพื้นที่ปลอดภัย แล้วก็ยังปลอบใจฉันว่าจะไม่เป็นอะไร ฉันเห็นกับตาว่าเขาโดน ยกขึ้นไปบนเตียงพยาบาล และฉันก็อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง บ้างแล้ว แล้วก็สืบค้นข่าวของเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่ากฎระเบียบ ของกองกำลังรักษาสันติภาพนั้นเข้มงวดมาก ไม่มีทางที่จะได้ ข่าวอะไรของเขาเลย รอจนพวกผู้ก่อการร้ายโดนขจัดไปจนหมด แล้ว แล้วฉันนอนตื่นมา กองกำลังรักษาสันติภาพก็ถอนกำลัง ออกไปแล้ว ฉันตามหาเงาของเขาไปทั่ว ฉันคิดว่าชาตินี้คงจะ ไม่มีไร้วาสนากับเขาแล้ว
พอพูดมาถึงตรงนี้ ขวัญตาก็ยิ้มขึ้นมา ยิ้มได้อย่างหวานชื่น มาก
เธอจ้องมองนรมนแล้วพูดขึ้นว่า “รู้ไหม? ที่หลายปีมานี้ฉันอยู่ ต่างประเทศตลอด ก็เพื่อที่จะเสาะหาเงาของเขาแหละ แต่ว่าข่าว คราวแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี แล้วพอปีนี้ทางบริษัทของพ่อฉันเกิด ปัญหาขึ้นมา ท่านตัวคนเดียวจัดการไม่ไหว ก็เลยไม่ลากฉันกลับ มาช่วยงานไม่ได้ แล้วฉันถึงได้บังเอิญพบว่า ผู้ชายที่ฉันตามหา อยู่กลับอยู่ในเมืองเดียวกับฉัน เพราะฉะนั้น นี่คือพรหมลิขิตที่ สวรรค์กำหนดไว้ดีแล้ว?
พอนรมนได้ยินเธอพูดไปแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้วจริง ๆ
“เพราะฉะนั้นเธอก็เลยเริ่มตามจีบเขาเลยเหรอ?”
“ใช่ ฉันตามหามาหลายปีขนาดนี้ถึงได้หาเจอ ฉันจะยอมถอย เขาให้ผู้หญิงอื่นได้ยังไง? ฉันได้ยินมาว่าเขาได้รับบาดเจ็บทาง ความรู้สึกมาแล้วก็จะออกไปท่องเที่ยวรอบโลก ฉันก็เลยตามไป แล้วก็สร้างสถานการณ์บังเอิญเจอกับเขาไม่หยุด แต่น่าเสียดาย เขาจําฉันไม่ได้เลยสักนิด”
พอพูดมาถึงตรงนี้ ยังไงขวัญตาก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง
นรมนพูดปลอบใจเธอไปว่า “ตอนนั้นเจตต์เป็นทหาร ช่วยคน และรักษาสันติภาพเป็นหน้าที่ของเขา เขาช่วยคนไปเยอะขนาด นั้น จะมาจำได้ได้ยังไงล่ะ? แล้วอีกอย่างตอนนี้เขาก็ปลดประจำ การแล้ว แน่นอนว่าคงจะไม่ไปคิดเรื่องเมื่อก่อนที่เคยช่วยคนไว้ หรอก และที่สำคัญตอนนั้นคุณอายุแค่สิบแปด ตอนนี้คุณก็อายุ ยี่สิบหกแล้ว เรื่องหลายปีขนาดนี้เขาจะไปจำได้ยังไงล่ะ”
“เพราะฉะนั้น จําไม่ได้ก็ช่าง ในเมื่อฉันจำได้ก็พอแล้ว ฉันชอบ แต่เขา ฉันจะยิ่งพยายามชอบเขาให้มากขึ้นอีก ถ้าสามารถทำให้ เขาก็ชอบฉันได้ด้วยก็สมบูรณ์แบบแล้ว”
ขวัญตายิ้มได้สดใสมาก
นี่ก็คือความรักชินะ
นรมนพร่ำบ่นอยู่ในใจ
ผู้ชายอย่างเจตต์นี่ ก็ถือได้ว่าคนโงมีบุญของคนโง่แล้ว
ขวัญตาดีกับเขาอย่างจริงใจ ไม่คำนึงถึงสิ่งตอบแทนและสิ่งที่ ต้องสูญเสียไปเลย หวังว่าพวกเขาสองคนจะสามารถอยู่กันไปจน แก่จนเฒ่าได้นะ
นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าหากว่าคุณเอาเรื่องนี้บอกกับเขา แล้ว รับรองว่าเขาจะต้องดีกับคุณมากขึ้นแน่
“ไม่เอา ฉันต้องการให้เขาชอบฉันเพราะว่าฉันเป็นฉัน แต่
ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องอย่างอื่น
ขวัญตาพูดอย่างมั่นใจขึ้นอีกครั้ง
นรมนกลับรู้สึกว่าขวัญตาถูกใจตัวเองเป็นอย่างมาก
“เอาล่ะ ฉันจะช่วยคุณรักษาความลับไว้ให้ดีเอง อ๋อ ใช่แล้ว อร อุรชาคนนั้นนี่มันเรื่องอะไรกัน? ในเมื่อคุณตามจีบเจตต์มาตลอด คงจะไม่รู้จักอรอุรชาคนนั้นไม่ได้หรอกมั้ง? ทำไมถึงได้ให้เธอมา ฉวยโอกาสไปได้ล่ะ?”
ตอนนีมรมนนึกถึงอรอุรชาแล้วก็รู้สึกว่ามันแปลกมาก ๆ
ขวัญตาพูดขึ้นย่างรู้สึกเซ็งเล็กน้อยว่า “อรอุรชาผู้หญิงคนนี้ เป็นคนตอแหล เป็นผู้หญิงสำส่อน เธอกับเจตต์พบกันนั้นล้วน เป็นเรื่องไม่คาดคิดมาก่อน มีอยู่ครั้งหนึ่งมีงานการกุศลเพื่อ สังคม แล้วเจตต์ผ่านไปพอดี ก็เลยได้ช่วยเหลือสนับสนุน นักศึกษามหาลัยคนหนึ่งไว้ ซึ่งก็คือ รอุรชา ตอนนั้นถึงฉันจะรู้ เรื่อง แต่ว่าเรื่องแบบนี้ฉันก็ไม่มีทางขัดขวางได้ ในเมื่อเจตต์เขา ทำความดี แต่ใครจะรู้ว่าอรอุรากลับหวั่นไหวต่อเขา และตลอด ระยะเวลาฉันก็ไม่เห็นพวกเขาติดต่อกัน และก็ไม่รู้ว่าอรอุรชา ใช้ วิธีอะไร ถึงได้รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างของเจตต์ราวกับอยู่ใน กํามือมาตลอด นี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ เลย
พอได้ยินขวัญตาพูดแบบนี้ นรมนก็อึ้งไปครู่หนึ่ง
“คุณจะบอกว่าหลังจากที่เจตต์ช่วยอรอุรชาแล้ว อรอุรชาก็รู้ การเคลื่อนไหวของเขามาตลอดเลยเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะซิ ไม่งั้นเธอจะไปตั้งใจชนรถของคุณได้ยังไง? แล้วพอ เจตต์เกิดอุบัติเหตุปุ๊บก็รู้เรื่องปั๊บได้ยังไง ขนาดฉันยังไม่ได้รับ ข่าวเลย เธอก็ได้รับข่าวก่อนแล้ว แถมตามคุณกับบริศร์ไปอีก ด้วยผู้หญิงคนนี้จะพูดว่ายังไงดีล่ะ? ฉันมักจะมีความรู้สึกรังเกียจ อย่างพูดไม่ออกอย่างหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นแค่นักศึกษาจน ๆ คน หนึ่ง แต่ว่ากลับมีความสามารถที่จะมาตามสืบการเคลื่อนไหว ของเจตต์ได้ ฉันก็ยอมแล้วจริง ๆ”
ขวัญตาพูดไปอย่างไม่คิดอะไร แต่นรมนฟังไปกลับมีความคิด
เห็นขึ้น
หรือว่าอรอุรชาคนนี้จะสนใจการเคลื่อนไหวของเจตต์เพียง เพราะว่ารู้สึกดีกับเจตต์แค่นั้นจริง ๆ เหรอ?
แต่ว่าจะสนใจการเคลื่อนไหวของเจตต์นั้น และยังรู้แม่นยำ ขนาดนี้ จะบอกว่าเป็นแค่นักศึกษาจน ๆ ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ว่า ยังไงนรมนก็ไม่เชื่อหรอก
บองทีอีกเดี่ยวพอกลับไปแล้วเธออาจจะต้องไปออุรชาสัก
หน่อยแล้ว
หรือไม่แน่งานการกุศลที่เจตต์พบเจอในครั้งนั้นอาจจะเป็นการ ตั้งใจวางแผนไว้ก่อนแล้ว
นรมนไม่ได้อยากจะคิดแบบนี้ แต่ว่าช่วงนี้มีเรื่องเยอะมากเกิน ไปแล้ว อำนาจของแต่ละฝ่ายต่างก็กำลังค่อย ๆ ขยับเขยื้อน งาน แต่งงานของเจตต์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว เธอจะไม่ระแวงไม่ได้แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้นรมนกลับไม่ได้บอกกับขวัญตา
อรอุรชาเป็นใครนั้น เธอจะต้องไปถามก่อนถึงจะรู้ พอถึงตอน
นั้นค่อยบอกขวัญตาก็ยังไม่สาย แล้วทั้งสองคนก็พูดเรื่องอย่างอื่นอีกเล็กน้อย บุริศร์ก็กลับมา
แล้ว
“ข้างหน้านี้มีร้านสุกี้หม้อไฟอยู่ร้านหนึ่ง ไปกินกันสักหน่อย ไหม? อากาศแบบนี้เหมาะที่จะกินสุกี้จะได้อบอุ่นสักหน่อย”
บริศ เป็นห่วงร่างกายและการกินของนรมน แต่กลับไม่กล้า
พูดให้ชัดเจน จึงได้แต่เอาสภาพอากาศมาอ้าง
แน่นอนว่าขวัญตาฟังออกอยู่แล้ว แต่ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ก็ได้ พอดีเลยฉันไม่ได้กินสุกี้หม้อไฟมานานแล้ว พวกเราไปกินด้วยกัน เถอะ”
“ไป!”
ทั้งสามคนเดินมาถึงร้านสุกี้หม้อไปที่อยู่ใกล้ แต่เพราะว่าที่นี่ เป็นสนามบิน การค้าขายจะไม่ดีก็ไม่ได้ ในตอนที่พวกบุริศร์มา ถึงนั้นห้องส่วนตัวก็ได้หมดไปแล้ว
นรมนจึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นก็นั่งห้องโถงข้างนอกก็ได้ นาน ๆ ครั้งสัมผัสชีวิตของคนธรรมดาทั่วไปบ้างก็ดีเหมือนกัน”
เมื่อภรรยาก็พูดแบบนี้แล้ว แน่นอนว่าบุริศร์เองก็ต้องไม่มี ปัญหาอยู่แล้ว แต่ขวัญตากลับยิ่งมีนิสัยง่าย ๆ ไม่เรื่องมาก แล้วก็ พยักหน้าตอบตกลงด้วยเลย
คนทั้งหลายมาถึงโต๊ะที่ติดหน้าต่างอยู่แล้วนั่งลง บุริศร์เอา เมนูยื่นให้ขวัญตาและนรมน ให้พวกเธอสั่งอาหาร
ขวัญตายิ้มแล้วพูดกับนรมนว่าขึ้นว่า “คุณมาสั่งเถอะ ฉันเป็น คนที่กินอะไรก็ได้ คุณสั่งก่อนเลย เดี๋ยวฉันจะไปเข้าห้องน้ำซะ หน่อย”
พูดแล้วเธอก็ลุกขึ้นแล้วไปเลย เพียงแต่ว่าพอเงยหน้าขึ้นมาก เห็นเงาที่คุ้นเคยเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวชั้นสอง
ขวัญตาสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ