บทที่ 1014 เขาอยากเป็นก้างขวางคอไหม
“ขอโทษครับ ผมจะรับทําอีกรอบ
เสียงของอีกฝ่ายยังเป็นเด็ก ดูเสียใจแต่ก็ยังอดทน
กานต์ไม่หวั่นไหวสักนิด วางวีดิโอคอลด้วยสีหน้าเย็นชา เมื่อ หันหลังกลับมาเจอนรมนยืนอยู่ข้างหลัง ท่าทางเย็นชาก็พลัน สลายไป
“หม่ามี้!”
เขารีบกระโดดลงมาจากเก้าอี้ และรีบตรงดิ่งมาทางนรมน ก่อนจะแสดงความเคารพแบบวันทยาวุธใส่นรมนด้วยเคารพ
“รายงานคุณแม่ ผมมาแล้ว!!
มุมปากของเขาแย้มยิ้ม ท่าทางคล้ายกับบุริศร์
หัวใจของนรมนละลาย
“เด็กน้อย! หล่อจริงเลย”
มีร่องรอยของน้ำตาปรากฏอยู่ในดวงตาของนรมน กานต์รีบรินน้ำให้นรมนก่อนจะเอามาให้
“หม่าม มาได้ยังไงครับ? ไม่คิดเลยว่าจะมาหาผม “ดูพูดเข้า หม่ามี้มาเยี่ยมลูกชายแม่ไม่ได้เหรอ?”
นรมนูรับแก้วที่กานต์ส่งมาให้ ใจรู้สึกปลงอนิจจัง
“ลูกส่งดอกไม้มาเหรอ?”
“คุณบุริศ เป็นคนจ่ายเงินครับ
กานต์กระโดดขึ้นเก้าอี้ เขากระดิกขา รอยยิ้มบนใบหน้าของ เขาดูน่าเสน่หามาก
“หม่ามีชอบมาก”
“อย่างนั้น คือแววตาของผมใช่ไหม”
กานต์รู้สึกว่านรมนผอมมาก นึกตำหนิบุริศร์ที่ไม่ดูแลหม่ามีให้ ดี อดไม่ได้ที่จะพูด “หม่าม อย่าทำงานหนักมากนะครับ ในบ้านมี ผมกับคุณบุริศร์ที่เป็นผู้ชายสองคน หม่ามีอยู่ในบ้านกับน้อง อย่างมีสุขเถอะครับ เงินที่เราหามาพอที่จะให้หม่ามีใช้ชีวิตนะ ครับ”
นรมนนิ่งไปนิด ยิ้มทันทีก่อนจะพูด “เด็กน้อย จะให้แม่อยู่ เฉยๆที่บ้านเหรอ?”
“ผู้ชายหาเงินผู้หญิงใช้เงิน มันสมเหตุสมผลแล้ว มีปัญหาตรง
ไหนครับ?”
กานต์ขบขันท่าทางของนรมน
“ไปเอาคำพูดนี่มาจากไหน? เด็กเมื่อวานซืนนี่ กล้าพูดคำอะไร พวกนี้ จริงสิ เมื่อกี้สั่งสอน ใครกัน? เข้มงวดมาก แม่ได้ยินเสียง เหมือนเด็กน้อยจะร้องไห้เลย
“รับไม่ไหวก็อย่าอยู่ที่นี่เลยครับ”
คำพูดของกานต์ค่อนข้างไร้อารมณ์ นรมนขมวดคิ้วและพูดว่า “กานต์อย่าปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างนี้ นะลูก”
“หม่ามี อยู่ที่นี่ไม่แบ่งแยกชายหญิงหรอกนะครับ แม่อย่า สนใจเลย คุณบุริศร์ทำอะไรอยู่? เขาอยากส่งดอกไม้ให้แม่แล้ว ทำไมต้องให้ผมทำ? ส่งเองจะแสดงความจริงใจกว่าไหม? คุณบุ ริศร์นี่ จีบผู้หญิงไม่เป็นจริงเลย ไม่รู้ว่าเขาจีบหม่ามีติดได้ยังไงนะ ครับ”
กานต์บ่น
บรมนสําลักทันที
บุริศร์ต้องจีบผู้หญิงที่ไหนเล่า?
ไม่วิ่งตามตูดของผู้หญิง ถ้าจะไล่ตามหญิงสาวจริงละก็ เกี่ยว
อะไรกับเขาละ
แต่ประโยคนี้ไม่ต้องไม่เอาไปพูดกับกานต์
“เข้าไปเยี่ยมชมเขตฐานของลูกหน่อยได้ไหม?”
นรมนกําลังคิด ในเมื่อเธอมาที่นี่แล้ว ก็ต้องแย่งชิงสิทธิ ประโยชน์ยิ่งใหญ่ในการสำรวจดู บางทีครั้งนี้ในชีวิตเธออาจจะ เป็นโอกาสเดียวที่จะเข้าสู่เขตทหารได้
กานต์สายศีรษะ ก่อนพูด “หม่ามี เขตฐานของเราอยู่ในแผนกกลางของเขตทหาร ไม่ได้จริงๆครับ ขอโทษนะ “ขอโทษหม่ามีทำไมลูก หม่ามีแค่ถามเอง
“แต่หม่ามีไปดูหอพักของผมได้นะครับ
กานต์กลัวนรมนจะผิดหวัง เขาเลยรีบเสนอ
ได้เหรอ?”
“แน่นอน!”
กานต์พูดพลางจูงมือนรมนเดินไปยังหอพักของเขา
หอพักสะอาดสะอ้าน มีเตียงสี่เตียง แต่ละเตียงมีผ้าห่มพับเอา ไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
“เตียงไหนของลูก?”
“ล่างสุดครับ”
กานต์ ไปที่เตียงของตัวเอง
นรมนมองไปเห็นการจัดการที่เป็นระเบียบ
“พับผ้าห่มเองเหรอ?”
“ใช่สิครับ ต้องทําเอง
กานต์พูดอย่างภาคภูมิใจในตัวเองเป็นพิเศษ
นรมนชื่นชมเขามาก
“ลูกชายแม่โตแล้ว”
“หม่าม ผมไปล้างผลไม้มาให้หม่ามีทานดีกว่า” กานต์รีบลุกขึ้น
นรมนอยากจะพูดว่าไม่ต้อง แต่กานต์วิ่งออกไปเสียแล้ว
บางทีมันอาจจะเป็นผลทางจิตใจ นรมนรู้สึกว่าการดูแล ทําความสะอาดเตียงของกานต์นั้นดีมาก
เธอมองดูทุกอย่างที่นี่ และในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจ ดูท่ากานต์อยู่ที่นี่คงไม่เลวเลย ไม่นานนักกานต์ก็กลับมา พร้อมกับผลไม้ที่ล้างสะอาดแล้วใน
จากนั้นนรมนก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าของที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ กานต์อยู่บนรถของธรรศ
“ตายละ หม่ามีลืมเอาของลูกมาด้วย อยู่ในรถของอาสาม
“ไม่เป็นไรครับหม่ามี เดี๋ยวผมไปเอามาเอง”
กานต์ส่งแอปเปิ้ลให้นรมน
นรมนต้องการกอตกานต์ แต่กลับถูกเขาหลีกเลี่ยง
“เป็นอะไรไป?”
นรมนรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
กานต์พูดอย่างเขินอาย “หม่า ที่นี่คือเขตทหาร ผมเป็นทหาร คนหนึ่งแล้ว ถ้าแม่กอดผมแล้วคนอื่นเห็นเข้าจะเป็นอย่างไรละครับ ผมก็เป็นหัวหน้าทีมคนหนึ่งนะ” “อ้อ ตอนนี้ลูกชายของหม่ามีเป็นหัวหน้าทีมแล้ว
นรมนพูดอย่างหยอกล้อ เธอไม่ได้บังคับกานต์
“เอาละ หม่ามี้เห็นลูกอยู่ที่นี่อย่างสบายดีก็สบายใจแล้ว คุณ ตาลูกฝากมาบอกลูกด้วยนะ”
“ผมรู้แล้ว ผมเดาได้ว่าเขาจะฝากมาพูดว่าอะไร หม่า จะอยู่ที่ เมืองชลธนานแค่ไหนครับ?”
จู่ๆกานต์ก็ถามออกมา นรมนนิ่งไปนิด
“หมายความว่ายังไงลูก? ”
“หม่ามีไม่ได้เริ่มต้นบริษัทภาพยนตร์ที่เมือง เหรอ? ไม่กลับ
ไปเมืองชลธีเพื่อพัฒนามันเหรอครับ? ถึงแม้บุริศร์จะไม่ได้พูดอะไรกับเขา แต่ว่าเมื่อกานต์อยากจะรู้ เรื่องอะไรเขาต้องได้รู้
นรมนกระซิบ “หม่ามี้จะอยู่ที่เมืองชลธีประเดี๋ยว
“ถ้าอย่างนั้นวันเกิดคุณบุริศร์ หม่ามีก็ยังอยู่ที่เมืองชลธีใช้ไหม?”
นรมนซะงักไปครู่หนึ่ง
อันที่จริง เธอออยากฉลองวันเกิดบริศร์เพียงลำพังกับเขาสอง คน ไม่คิดว่ากานต์ลูกชายตัวเองจะจำวันเกิดของแด๊ดดี้เขาได้ ด้วย จังหวะอะไร ?
ต้องการเป็นก้างขวางคอเหรอ?
แต่นรมนไม่ได้พูดอะไรให้ชัดเจน จึงพูดอย่างคลุมเครือไปว่า
“ไม่แน่ใจเลย ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีนะลูก” กานต์ช่วงนี้ที่กลายเป็นคนมีไหวพริบขึ้นเมื่ออยู่ในกองทัพ ก็ พอมองท่าทางขอไปที่ของนรมนออก ทันใดเขาก็เข้าใจ
“เข้าใจแล้ว อยากฉลองวันเกิดกันสองคนใช่ไหมละครับ?
หลอกผมไม่ได้หรอก”
“พูดอะไรไร้สาระ?”
นรมนแทบอยากจะทุบเจ้าเด็กคนนี้ ถึงจะเป็นอย่างนี้ ก็ไม่ควร พูดออกมา
พ่อแม่เขาไม่ขายหน้าเหรอ?
กานต์กลับหัวเราะขึ้นมาอย่างสนุกสนาน
“หม่ามี หม่ามี้นี่เรียกว่าพาล โกรธนะครับ”
“ลูกก็เรียกว่าสั่งสอนเด็กนะ! มานี่เลย ตัวดี!
นโมนพูดพลางไล่ตามกานต์
กานต์รีบวิ่งอย่างเร็ว แต่จงใจก้าวขาช้าๆ เมื่อตอนหันกลับมา ก็ถูกนรมนที่มีฝีมือจับเข้าจนได้
เขาตกอยู่ในอ้อมแขนของเธอ มือเล็กๆก็อยู่บนคอนรมนกด้วย
“หม่ามี้ คิดถึงจังเลย”
ทันใดกานต์ก็พูดเสียงอ่อนโยน ทำให้ใจของนรมนเหลวเป็น
“หม่ามี้ก็คิดถึงลูก”
นรมนกระชับแขนกอดกานต์แน่น
กลิ่นคาวเลือดจางๆคละคุ้งอยู่ในโพรงจมูกของกานต์
เขาขมวดคิ้วมุ่น แต่กลับไม่พูดอะไร เพียงแค่อยู่เงียบๆ ในอ้อม กอดของนรมน เพียงแค่เพลิดเพลินไปกับความรักใคร่เอ็นดูของ มารดา
เวลาเยี่ยมเยือนใกล้หมดแล้ว
นโมนไม่อยากจากไป แต่อย่างไรก็ต้องกลับ
พลันดวงตาเขาเริ่มแดง
“ลูกชายแม่ หม่ามีรู้สึกเสียใจ พวกเราไม่อยู่ที่นี่แล้วไหม? กลับบ้านกับหม่ามีนะ หม่ามีไม่อยากจากลูกไปเลย
ร่องรอยของความจําใจปรากฏบนดวงตาของกานต์ “หม่ามี้ ผมเป็นทหาร
“ลูกเป็นลูกชายแม่!”
“ผมปิดเทอมแล้วจะกลับไป
กานต์รู้สึกเหนื่อยหัวใจมาก
หม่ามีของเขายิ่งอยู่ยิ่งงอแงราวกับเด็กได้อย่างไรกัน? บริศ ทำอะไรกันแน่? เห็นได้ชัดว่าปัญญาของหม่าลดลง แต่เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านี้
เมื่อนรมนเห็นสิ่งที่กานต์แสดงก็รู้ เด็กน้อยใจ ชอบที่นี่
เธออดทนต่อความปวดใจ ก่อนจะพูด “ถ้าอย่างนั้นลูกก็อย่า ลืมกลับมาเยี่ยมหม่ามี้ตอนปิดเทอมนะ อย่าผิดคำพูด อนาคตแม้ จะมีภรรยาแล้ว ก็อย่าลืมมองมาทางหม่ามี ลูกก็รู้ เพื่อที่จะให้ กําเนิดลูกกับกมล ตอนนั้น……..
“หม่ามีผมสัญญา ถึงแม้ผมจะมีลูก ผมก็จะพาลูกมาหาหม่าม คนแรกเลย โอเคไหม?”
กานต์รู้ว่านรมนพยายามปกปิดตัวตนด้วยการปลอมตัว พูดไปพูดมา บุริศร์นั่นแหละที่ไม่ดี
นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงของตัวเองก็ไม่สามารถรักและดูแลได้ ไม่มี คุณสมบัติเหมาะสมเลย!
กานต์นินทาภายในใจ แต่บนใบหน้ากลับยิ้มหวาน
นรมนจูบไปยังใบหน้าเล็กกานต์หลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะ ออกจากหอพักไปอย่างไม่เต็มใจ
ธรรครออยู่ข้างนอกแล้ว
เมื่อเขาเห็นดวงตาที่แดงสองข้างของนรมน ก็พูดอย่างไม่ อาจเข้าใจว่า “เป็นอะไรไป? กานต์ทำให้โกรธเหรอ?”
“เปล่าค่ะ แต่ไม่อยากห่างจากลูก
“ตามใจลูกเกินไปแล้ว นี่คือกองทัพ! พวกผู้หญิง จะคอยดึง รั้งพวกลูกๆเอาไว้ไม่ให้ก้าวหน้า
คำพูดของธรรคทําให้นรมนจ้องตาแข็งขึ้นมา
“อาสาม ในที่สุดหนูก็รู้เสียทีว่าทำไมสามสิบกว่าปีมานี้อาถึง หาเมียไม่ได้ คนอย่างอาควรเป็นโสดไปตลอดชีวิต ใครที่แต่ง
กับอาต้องเป็นเพราะตาบอดแน่
“พูดอะไรอย่างนี้เล่า
ธรรศรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำให้นรมนขุ่นเคืองนะ ทำไมหลานสาว คนโตถึงพูดจาไม่ดีกับเขาเนี่ย?
นรมนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับเขา พูดไปก็ไม่เข้าใจ เปลืองน้ำ ลายเปล่าๆ
หลังจากที่นรมนออกไป กานต์ก็เปิดแล็ปท็อปของเขา ตัดขาดกับระบบเครือข่ายภายในของพื้นที่ทหาร และเชื่อมต่อ
กับระบบภายนอกทันที
นี่ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขา
เมื่อเขาเห็นข่าวในWeiboว่า นรมนได้รับบาดเจ็บเพราะเนตรา และเรื่องที่ยังถูกพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนบีบคั้น ดวงตาของ
กานต์ก็หนักแน่นขึ้นมาทันที
เขาคลิกไปมาเพื่อดูข่าว และข่าวที่ว่า บุริศร์ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมที่ผ่านเข้ามาในดวงตาของเขา
ฝ่ามือของกานต์บีบเข้าหากันแน่น
ไม่แปลกใจเลยที่คุณบุริศร์ให้เขาส่งดอกไม้ให้หม่ามีไม่ แปลกใจเลยที่บนตัวของหม่าจะมีกลิ่นคาวเลือด ไม่แปลกใจ เลย ตอนแรก คุณยายธนาศักดิ์ธนให้ตัวเองเข้าไป คุณบุริศร์ให้ เขากลับกองทัพ ตอนที่เขาไม่อยู่เกิดเรื่องขึ้นมากมายนี่เอง
แต่หม่ามกลับไม่พูดอะไรสักคำ
ตอนนี้คุณบุริศร์ถูกจับแล้ว มันคงอันตรายมากสำหรับหม่ามีที่ จะกลับไปเมืองชลธีเพียงลำพัง
ทันใดนั้น กานต์ก็จำสิ่งที่หม่ามีพูดก่อนจะกลับไปได้ เธอพูดว่า “ลูกชายเรากลับบ้านกันดีไหม?” กานต์รู้สึกผิดเล็กน้อย
เขาไม่ควรพูดกับหม่ามีอย่างนั้นเลย
ตอนนี้หม่ามีต้องการให้เขาอยู่ข้างกายมากที่สุด แต่เขากลับ
ไม่รู้
กานต์ออกจากระบบ ก่อนจะหันกายเดินจากไป
ไม่ได้!
คุณบุริศร์ไม่อยู่ เขาเป็นผู้ชายในครอบครัว เขาต้องอยู่ข้าง กายหม่ามีถึงจะถูก!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ