บทที่ 152 ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
นรมนพลางครุ่นคิดไปด้วยและเดินตามธรณีไปด้วย เดิน ไปถึงคุกใต้ดินโดยไม่รู้ตัว แต่เธอสะดุดล้มเพราะไม่ได้มอง ทางพื้นต่างระดับ ทั้งตัวล้มไปทางของธรณี
ทุกอย่างเดินขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว พฤกษ์อยากจะคว้าไว้ก็ ไม่ทันแล้ว นรมนล้มไปบนตัวของธรณีอย่างแรง พร้อมกับ นั่งลงไปบนต้นขาของธรณี
ความรู้สึกนุ่มนวลทำให้ธรณีชะงักไปชั่วขณะ เขาจับเอว ของนรมนไว้โดยจิตใต้สำนึก
เอวของเธอนั่นทั้งนุ่ม ทั้งบาง ราวกับงูน้ำ ใจของธรณีอด ที่จะนิ่งไม่ได้
นรมนรู้สึกได้ถึงมือคู่ที่ใหญ่และแข็งแกร่งตรงเอว พร้อม กับความร้อนระอุ ราวกับกำลังเผาไหม้ผิวของเธอ ทำให้ เธออยากจะลุกขึ้นโดยจิตใต้สำนึก แต่ก็กะทันหันไปหน่อย ทำให้เธอเงยหัวขึ้นมาก็กระทบโดนคางของธรณี
ที่แท้ไม่รู้ว่าธรณีก้มศีรษะลงมาเมื่อไหร่ เหมือนจะมองดู ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง แต่มีแค่ธรณีรู้แก่ใจคนเดียวเท่านั้น ว่าเมื่อครู่นี้เขาได้คิดเลยเถิดไปกับหญิงสาวตรงหน้านี้
ถ้าไม่ใช่ว่านรมนเงยหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาไม่รู้ว่า ตัวเองจะจูบนรมนเลยหรือเปล่า
เมื่อนึกถึงการกระทำและความคิดของตัวเองในเมื่อกี้ ในใจของธรณีก็เกิดเขินอายุขึ้นมาเล็กน้อย ตอนนี้ก็มาปะทะ สายตาที่ลุกลี้ลุกลนของนรมน ธรณียิ่งรู้สึกว่าตัวเอง เหมือนคนร้ายที่น่าสมเพช
“ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
ธรณีรีบปริปากพูด แต่น้ำเสียงแหบเล็กน้อย สายตามืด สลัวขึ้นมา
นรมนก็ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว ดูสายตาตอนนี้ของธรณีออก เธอรีบลุกขึ้นมา แล้วพูดอย่างเกรงใจว่า “ขอโทษนะ เมื่อกี้
คิดเรื่องอยู่ ขอโทษจริงๆนะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
น้ำหนักและความอบอุ่นหายไปจากขาอย่างกะทันหัน ใจ ลึกๆของธรณีรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย เหมือนกับว่ามีบางอย่าง ไหลรั่วออกจากใจไป เขาอยากจะจับไว้ แต่สุดท้ายสติก็ เอาชนะอารมณ์ ถอนมือออกอย่างเงียบๆ
“ไม่เป็นไรครับ ที่นี่พื้นต่างข้นข้างเยอะ คุณระวังด้วยนะ
ครับ”
ธรณีพูดนิ่งๆ แต่สายตาไม่กล้ามองไปที่นรมนอีก สายตา เขาในตอนนี้หลอกนรมนไม่ได้หรอก
พฤกษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆเห็นได้อย่างชัดเจน ขมวดคิ้วเบาๆ แล้วรีบเดินเข้ามาตรงกลางระหว่างนรมนกับธรณี พูดกับ นรมนเสียงเบาว่า “คุณนรมน เดี่ยวผมพยุงคุณไว้นะครับ ที่
นี่เดินยาก”
เมื่ออยู่ข้างนอก พฤกษ์เรียกนรมนว่าคุณนรมน เพราะตัวตนของเธอยังไม่สามารถเปิดเผยตอนนี้ได้
นรมนพยักหน้า รู้สึกอึดอัดมาก
อุบัติเหตุนี้ทำให้ระหว่างธรณีและนรมนไม่รู้ควรจะพูด อะไรดี ทำได้เพียงเงียบแล้วเดินตรงไปข้างหน้า
ไฟในคุกใต้ดินเป็นแบบประสาทสัมผัส เมื่อมีคนเดินมาก็ จะสว่างขึ้นมาทีละดวงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นรมนเอาใจจดจ่อที่คุกใต้ดิน รู้สึกว่าตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาคล้ายกับตระกูลทหารในอดีตนั้นมาก ในคุกใต้ดินนี้มี กลิ่นของเลือดจางๆลอยมา
ธรณีราวกับคิดอะไรได้ขึ้นมา พูดเสียงเบา “ที่นี่มีกลิ่น เลือดคลุ้ง คุณนรมนรอผมตรงนี้ดีกว่านะครับ เดี่ยวผมไป พานาวินมาให้”
นรมนทนกลิ่นในนี้ไม่ค่อยได้ ถามเสียงเบาว่า “แบบนี้ เหมาะสมเหรอ? ถ้าเกิดเขาหนี้..
“เขาหนีไม่ได้หรอกครับ”
ธรณีพูดอย่างมั่นใจมาก นรมนก็ได้เพียงพยักหน้า ช่วย ไม่ได้ กลิ่นคลุ้งลอยไปทั่ว เดินเข้าไปต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ
พฤกษ์หาเก้าอี้มาให้นรมนนั่ง
ที่นี่น่าจะเป็นที่พักผ่อนชั่วคราว มีชาร้อนวางอยู่บนโต๊ะ อุณหภูมิพอดิบพอดี
พฤกษ์เห็นนรมนมองไปทางกาน้ำชา รีบถามว่า “คุณนร มน คุณหิวน้ำเหรอครับ?”
OF
“เปล่า แค่รู้สึกแปลกๆ กาน้ำชานี้ยังอุ่นอยู่”
นรมนพูดความสงสัยของตัวเองออกมาเสียงเบา พฤกษ์ตอบ “คนตระกูลทวีทรัพย์ธาดารู้เบาะแสของลูก หลานตัวเอง สอบสวนนาวินอยู่ตลอดทุกวัน คาดว่า คุณชายธรณีคงมาที่นี่ไม่น้อย”
นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
“นาวินรู้เบาะแสของลูกหลานตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?”
“ว่ากันว่ามีเด็กกำพร้าอีกคนหนึ่งที่ถูกส่งไปยังสถานที่ เลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมกับนาวิน หลายปีที่ผ่านมานี้นาวิน ดูแลเขาตลอด นาวินบอกว่าตัวเองเป็นลูกหลานของ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ถ้าหากเขาไม่รู้ความจริง ใครจะเชื่อ ล่ะ? ตอนนี้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีลูกหลานน้อย สามารถ หากลับมาได้คนหนึ่งก็คนหนึ่ง คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ อยากจะรีบหาลูกหลานให้เจอ”
เมื่อได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ นรมนนึกถึงกมลลูกสาวตัวเอง ขึ้นมา
เธอเป็นแม่คนหนึ่ง เข้าใจถึงความเจ็บปวดที่คิดถึงลูก ลูกชายทั้งสามของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเสียชีวิตใน ขณะสู้รบ ตอนนี้เหลือเพียงธรณีคนเดียว และขาทั้งคู่ของ ธรณีก็ไม่สามารถเดินได้อีก
ทันใดนั้นนรมนรู้สึกนับถือตระกูลทวีทรัพย์ธาดาขึ้นมา ไม่ว่าคุณย่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะเคยพูดอะไร ทำ
อะไรมาก่อน ผู้ชายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเหล่านี้ล้วนสมควรได้รับความเคารพ
นรมนไม่ได้พูดอะไรอีก นั่งรออย่างเงียบๆ ไม่นานนาวินก็ ถูกพาตัวออกมา และนรมนเข้าใจทันทีว่าทำไมธรณีถึงพูด ว่าเขาหนีไม่ได้
ขาทั้งคู่ของนาวินนั้นเนื้อฉีกเลือดไหลโทรม ถูกคนลาก ออกมา เห็นได้ชัดว่าขาทั้งคู่เดินไม่ได้แล้ว นาวินในสภาพ แบบนี้ นอกจากว่าจะมีคนมาช่วยคน ไม่งั้นคงหนีออกไป ด้วยตัวเองไม่ได้
ในขณะที่เห็นนรมน นาวินรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็รีบก้ม ศีรษะลง ในใจเขารู้อย่างชัดเจนว่านรมนมาเพื่อถามอะไร กับเขา
“คุณนรมนมีเรื่องจะถามนาย นายตอบไปตามตรงซะดีๆ ไม่งั้นฝีมือของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาฉันว่านายเข้าใจดี”
ธรณีพูดอย่างเย็นชา ให้ความรู้สึกกดขี่อย่างไร้ร่องรอย นาวินขมวดคิ้วเบาๆ ตัวสั่นไปทีหนึ่ง ดูออกว่าในใจยังคงมี ปม แต่กลับไม่ได้ปริปากพูดอะไรสักอย่าง
นรมนมองเขา ไม่ได้เห็นใจเลยสักนิด เรื่องพวกนั้นที่ นาวินทำ เขาต้องได้ชดใช้กับสิ่งที่ตัวเองกระทำไป
ถ้าไม่ใช่ว่ากานต์เป็นเด็กที่ฉลาด และถ้าบุริศร์ไม่ได้ตาม หาอย่างทันเวลา ตอนนี้เธอคงได้เสียลูกชายที่รักไปแล้ว
นรมนมองนาวินอย่างเย็นชาแล้วถาม “คดีที่ลักพาตัว ลูกชายฉันนายเป็นคนทำใช่ไหม? ใครเป็นคนสั่ง?”
เธอไม่สามารถถามเรื่องห้าปีก่อนโดยตรง อีกอย่างธรณี ก็ยังอยู่ที่นี่
คิ้วของนาวินขมวดชนเข้าหากัน ราวกับกำลังคิดอยู่ว่า ควรพูดหรือเปล่า จะพูดดีมั้ย
นรมนพูดอย่างเย็นชา “ฉันอาจจะไม่ได้มีฝีมือเหมือน ตระกูลโตเล็กและตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แต่คนที่นาย อยากปกป้อง ฉันสามารถค้นหาเจอได้ อยากคิดว่ามีคน ปกป้องเธอเอาไว้ แล้วฉันจะหาไม่เจอ นาวิน ธิดาจะมีชีวิต อยู่หรือตายขึ้นอยู่กับนาย”
เธอดูออกตั้งนานแล้วความสัมพันธ์ระหว่างนาวินกับธิดา ผู้ชายคนหนึ่งที่ทนทุกข์ทรมานแต่ไม่ยอมบอกเบาะแส ของธิดาออกมา นี่แสดงให้เห็นถึงอะไร? แสดงว่าธิดา สำคัญกับเขามากๆ
แน่นอน นาวินได้ยินชื่อของธิดานั้น เงยหน้าขึ้นมาทันที
“อย่าแตะต้องเธอ!”
ดวงตาของธรณีหรี่ลง
เขาอยากรู้เบาะแสของธิดามาโดยตลอด แต่หาคนไม่ เจอ ตอนนี้กลับได้ยินจากปากนรมนว่าเธอรู้เบาะแสของ ธิดา ธรณีรู้สึกดีใจเล็กน้อย
นรมนกลับพูดอย่างเย็นชา “นายลักพาตัวลูกชายสุดที่รัก ของฉันไป เกือบทำให้ลูกชายฉันเกิดอุบัติเหตุ นายมีสิทธิ์ อะไรมาขอให้ฉันไม่แตะต้องธิดา? นายยังคิดว่าเขมิกาสา มารถปกป้องนายได้งั้นเหรอ? ฉันสามารถบอกนายได้เลยเขมิกาบ้าไปแล้ว และอยู่ในคุก รู้ไหมว่าทำไมเธอถึงบ้า? เพราะว่ามีไฟไหม้ครั้งใหญ่ในคุก เธอเกือบถูกเปลวไฟลุก ไหม้เผาเป็นถ่าน เหมือนกับไฟไหม้ในห้าปีก่อน”
สายตาของเธอแหลมคมขึ้นมา
นาวินตัวสั่นสะท้าน
เขามองมาที่นรมนตรงๆ
เขาไม่รู้จักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้เลยสักนิด แต่ว่าสายตา คู่นั้นของเธอคล้ายกับสายตาที่มองมาที่เขาโดยตรงใน พื้นที่ไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อน
เขาตัวสั่นขึ้นมา อยากจะถอยหลัง แต่ทำไม่ได้
นรมนเดินขึ้นมาก้าวหนึ่งแล้วพูด “นายเชื่อไหมว่าในโลก นี้มีกฎแห่งกรรม? นายเชื่อไหมว่าวิญญาณที่ถูกไฟเผาจะ เกิดใหม่และกลับมาชำระแค้น? นาวิน นายคิดว่าฉันจะ ปล่อยนายไปไหม?”
สีหน้าของนาวินซีดราวกับกระดาษเปล่าทันที
“คุณ คุณคือ…”
“ใช่ นายทายไม่ผิด ไฟสามารถทำให้คนสมองปลอด โปร่ง และยังทำให้คนบ้าคลั่ง ดั่งเช่นเขมิกา ร่างกายแบบ ธิดา นายคิดว่าจะทนอยู่ต่อในไฟได้นานแค่ไหน? ในขณะ ที่ผิวของเธอถูกไฟมอดไหม้ คาดว่ารสชาติน่าจะมาหอม มาก”
“ไม่! อย่า! อย่าทำแบบนั้นกับธิดา! เธอไม่รู้อะไรเลย!เรื่องของเมื่อห้าปีก่อนไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด!”
ทันใดนั้นนาวินกรีดร้องขึ้นมาทันที
“ไม่เกี่ยวกับเธอ แล้วเกี่ยวกับใคร? เรื่องนี้ต้องมีความจริง ปรากฏไม่ใช่เหรอ? นายคิดว่าบนโลกใบนี้จะความจริงจะ ถูกปกปิดเหรอ? นายคิดว่าคนดีจะต้องตายไปเสียเปล่า แบบนี้เหรอ? นาวิน ธิดาเป็นสมบัติล้ำค่าของนาย แต่ลูก ของคนอื่นใครไม่ใช่สมบัติล้ำค่าของพ่อแม่เขาล่ะ? ในอดีต คนคนนั้นขอร้องกับนาย นายได้คิดไหมว่าตัวเองจะมีวันนี้? ตอนนั้นที่นายผลักเธอเข้าหากองไฟ นายเคยคิดไหมว่าสัก วันหนึ่งคนที่นายรักจะต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้? คนทำไร ฟ้ามีตา ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ว่าตอนนี้ฉันจะทำอย่างไร กับธิดา นั้นก็เป็นเพราะกรรมของนาย อย่าเจรจาเงื่อนไข กับฉัน และไม่ต้องพูดอะไรที่ไร้ประโยชน์กับฉัน เรื่องที่ฉัน อยากรู้ใช่ว่าจะต้องรู้จากปากนายอย่างเดียว ฉันแค่ให้ โอกาสนาย ถ้าหากนายไม่เห็นค่า งั้นชีวิตของธิดา ฉันจะ เอามันไปเอง!”
คำพูดสุดท้ายของนรมนแข็งแกร่งไม่เกรงกลัว ทำให้ชาย ทั้งสามนั้นตกตะลึง
นรมนในตอนนี้ไม่ใช้ผู้หญิงที่อ่อนแอคนนั้นอีกแล้ว ราวกับเธอได้สวมชุดเกราะ ที่ยืนอยู่ในสนามรบ ท่าทางที่ เอ้อระเหยและกล้าหาญของเธอไม่แพ้ใครในตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา
ธรณีดูหลงใหลเล็กน้อย พฤกษ์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อารมณ์ในตอนนี้เป็นอย่างไร
คุณหญิงเปลี่ยนไป
คุณหญิงในห้าปีก่อนกับนรมนในตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว
จริงๆ!
เธอไม่อ่อนแออีกต่อไป มีคนที่ตัวเองอยากจะปกป้อง เธอ ยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนบุริศร์
พฤกษ์ยืนอยู่ข้างๆปกป้องเธออย่างเงียบๆ เตรียมพร้อม สำหรับการโต้ตอบของนาวิน
สีหน้าของนาวินราวกับเทียนขาว ทั้งคนก้มหน้าคิดอะไร บางอย่าง เหมือนกับว่ากำลังครุ่นคิด และเหมือนว่าสับสน แต่นรมนไม่รีบ
เธอนั่งลงที่นั่งอย่างช้าๆ มือเคาะบนโต๊ะโดยไม่คิดอะไร เสียงเคาะแต่ละครั้ง ราวกับเคาะโดนบนหัวใจของใคร
ธรณีมองดูเธอที่ใจเย็นนิ่งเงียบในตอนนี้ราวกับว่าเห็นเงา ของชินทรผ่านตัวเธอ
เมื่อก่อนพี่ใหญ่เขาก็เผชิญหน้ากับคนน่ารำคาญอย่าง ใจเย็นนิ่งเงียบแบบนี้
ทันใดนั้นเขาส่ายหัวแรงๆ
นี่เป็นอะไรไป?
ถึงได้รู้สึกว่านรมนแอบคล้ายกันกับชินทร
ธรณีรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองคงบ้าไปแล้ว
นรมนกับชินทรไม่มีส่วนไหนคล้ายกันเลย ยิ่งไม่มีความ สัมพันธ์อะไรกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ทำไมเขาถึงได้นึกถึงพี่ใหญ่
คงเป็นเพราะเขาคิดถึงพี่ใหญ่มากไปแน่ๆ
ธรณียิ้มอย่างเจื่อนๆ ส่ายหัวเบาๆ
และในขณะนี้ นาวินลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน พุ่งเข้ามา หานรมนโดยตรง ท่าทีแบบนี้ราวกับจะพังพินาศไปด้วยกัน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ