บทที่ 939 ฉันรอคุณ
นรมนคิดหนักอยู่เป็นเวลานาน นานขนาดที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้อง พูดออกไปไหม ก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว
คมทิพย์ลงจากรถก่อน และมาพยุงคุณลุงนารธิป ส่วนนรมน
ลงตามหลังมา
ทั้ง 3 คนเข้าไปที่ด้านใน และหลังจากอธิบายอาการราย ละเอียดของคุณลุงนารธูปแล้ว นรมนก็ได้จัดเตรียมขั้นตอนการ รักษาในโรงพยาบาลเลย
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น คมทิพย์เหลือบมองดูนาฬิกาและพูด ด้วยเสียงต่ำ “ฉันมีเรื่องให้ที่ต้องจัดการนิดหน่อย คงต้องออกไป สักพัก ฉันได้จ้างพยาบาลมาดูแลแล้ว อีกครู่หนึ่งคงมา ฉันจะ กลับไปเขียนสัญญากู้ยืมและนำมาให้เธอ เธอห้ามปฏิเสธนะ”
นโมนพยักหน้า
คมทิพย์เป็นคนดื้อรั้น เพราะเธอเป็นแบบนี้ เธอไม่ต้องทำตัว
ราวกับว่าเธอเก่งมาก
เมื่อเห็นนรมนพยักหน้า คมทิพย์ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เธอไม่ถามฉันเหรอว่าฉันจะไปที่ไหนทำอะไร?”
“ฉันเชื่อว่าการตัดสินใจต่างๆ ที่เธอนั้นคิดมาอย่างดีแล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงหุนหันพลันแล่น เธอมีความคิดเป็นของตัวเอง เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำคืออะไร และต้องการอะไร ในฐานะเพื่อน สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือเข้ามาช่วยเธอเมื่อเธอต้องการความช่วย เหลือ ฉันไม่ถามหรือพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องอื่น แต่เธอต้อง ดูแลตัวเอง จำไว้ว่า ฉันจะเป็นกำลังใจให้เธอทุกเมื่อที่เธอ ต้องการ”
นรมนพูดและจับมือคมทิพย์ ตาของคมทิพย์ชื้นขึ้นเล็กน้อย
“ขอบคุณนะ นรมน ฉันรู้ว่าวันที่เธอถูกเชษฐ์กักขังต้องยากลำ บากแน่ๆ และฉันก็รู้สภาพร่างกายตอนนี้ของเธอเช่นกัน ไม่ต้อง กังวล ฉันจะดูแลตัวเอง เธอก็เช่นกัน ดูแลตัวเองดีๆ นะ ช่วงนี้ฉัน อาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะช่วยเธอเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เท่าไหร่”
“ไม่เป็นไร เธอแค่ทำให้ส่วนของตัวเองก็พอ ระหว่างเราไม่ จําเป็นสิ่งเหล่านี้หรอก”
คมทิพย์พยักหน้า และหลังจากพูดคุยกับคุณลุงนารธิบสอง สามประโยคเธอก็ออกไป
นรมนไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพฤกษ์
จนกระทั่งเธอออกจากโรงพยาบาล
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังที่อ่อนแอของคมทิพย์ นรมนก็อดถอน หายใจไม่ได้
หลังจากเตรียมการให้คุณลุงนารธูปเสร็จแล้ว เธอก็ไปที่ห้องผู้ ป่วยของพฤกษ์
“เป็นอย่างไรบ้างคะ?”
บริศ เห็นนรมนเข้ามา มองข้างหลังเธอและพูดว่า “เข้ารับการ รักษาในห้องไอซียูแล้ว ยังไม่ตื่น คุณไม่เจอคมทิพย์เหรอ?”
“เจอแล้วค่ะ แต่ไม่ได้บอกเธอ”
นรมนถอนหายใจและพูดว่า “ตอนนี้คมทิพย์ค่อนข้างลำบาก ปัญญ์ดูแลตัวเองไม่ได้ คุณลุงนารธิปก็มาเป็นแบบนั้นอีก ถ้าบอก เธอว่าพฤกษ์เป็นอย่างนี้ตอนนี้ คุณจะให้เธอทำอย่างไร? ตอนนี้ เครียดมากจนแทบจะลุกไม่ไหวแล้ว ถ้าบอกเธอเกี่ยวกับพฤกษ์ ฉันกลัวว่ามันจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะบดขยี้เธอ”
บริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย และหยุดพูด
“ทำไมเหรอคะ? หรือคุณคิดว่าที่ฉันทำแบบนี้มันไม่ดีรึเปล่า?
“เปล่าครับ”
บริศ หายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยเสียงเบาว่า “พฤกษ์อาจไม่ ตื่นขึ้นมา กลายเป็นเจ้าชายนิทรา”
“อะไรนะคะ?”
นรมนตกตะลึง
“ร้ายแรงขนาดนี้ได้อย่างไร? เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้อย่างไรกัน? คนอื่นมาชนหรือว่าเขาชนเอง?”
“คนขับที่ก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว ที่นั่นไม่มีกล้องวงจรปิด หาไม่ เจอ ตอนแรกผมนึกว่าพฤกษ์เมาและยังไม่ตื่น แต่ตำรวจมาตรวจ เลือดแล้วไม่พบ ระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งหมายความว่าพฤกษ์ขับรถสภาวะตอนนี้เลยเขียนสรุปว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิด ขึ้นอย่างไรไม่เลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของบุริศร์ นรมนเป็นอย่างนั้นอย่างไร?
ผมไม่แน่ใจ ไม่ใครว่าเกิดอะไรขึ้น พฤกษ์มีญาติที่ไหน ผมเป็นญาติคนเดียวของเขา ผมได้จ้างพยาบาลดูแลแล้ว ค่า รักษาพยาบาลของเขาพวกเราจ่ายไปก่อน แม้ว่าพฤกษ์จะบริษัทของเขาเอง ในสถานการณ์นี้ เขาได้แค่ระงับเงินทุน เขาพินัยกรรมใดเงินของเลยไม่สามารถมาใช้ได้
เมื่อได้ยินคำ
เอาตามคุณเลยค่ะ แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันว่าฉัน ต้องคุยกับคมทิพย์ และคมทิพย์
นรมนรู้สึกเป็นห่วง
เธอออก
ทางด้านคมทิพย์ดูเหมือนจะเสียงดังออกมา จะบน
“นรมน มีอะไรรึเปล่าพ่อฉันเป็นอะไรรึเปล่า?”คมทิพย์กังวลมาก
ในสําคอของนรมนเหมือนมีอะไรมาอุดไว้อยู่ แต่เธอก็ต้องพูด
“เปล่าๆ เกี่ยวกับพฤกษ์นะ คมทิพย์ ฟังฉันนะ พฤกษ์ประสบ อุบัติเหตุ”
บรมนบอกผมทิพย์เกี่ยวกับสถานการณ์ของพฤกษ์
ไม่มีเสียงจากคนทิพย์
“คุมทิพย์ เธอยังอยู่ไหม?”
นรมนกังวลเล็กน้อย จากนั้น โทรศัพท์ก็ถูกตัดการเชื่อมต่อ บริศ เห็นท่าทางของนรมน และถามด้วยความสงสัยว่า “เกิด อะไรขึ้น?”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
นรมนยิ้มแล้ววางโทรศัพท์ไว้ ดมทิพย์ไม่สนใจพฤกษ์แล้วเหรอ? หรือว่ายังไม่ได้สติกลับมา?
นรมนไม่รู้
บุริศร์จับมือเธอและพูดอย่างทุกข์ใจ “คุณกังวลเกินไปแล้ว ครับ เอาแบบนี้ไหม ผมจะให้ชัยยศส่งคุณกลับไปก่อน ส่วน พฤกษ์เดี๋ยวผมดูเอง”
“ฉันอยู่รอสักครู่ดีกว่าค่ะ ตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ช่วงนี้มี หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ฉันต้องทำความเข้าใจสักหน่อย อ่อใช่ค่ะ คุณจะไปหาเชษฐ์ไม่ใช่เหรอคะ?”
นรมนยังคงจำสิ่งที่บุริศร์พูดได้
บริศ มองไปที่ห้องผู้ป่วยของพฤกษ์ และพูดว่า “พฤกษ์ต้องมี ใครสักคนที่ต้องเซ็นชื่อ ตอนนี้ผมยังไปไม่ได้”
“คุณไปเถอะค่ะ ฉันจะอยู่ที่นี่เอง”
“ร่างกายคุณไม่ไหวหรอกครับ”
นรมนส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้จักร่างกายของตัว เองดี เคลื่อนไหวบ้างก็ดีเหมือนกัน แต่ฉันแค่รู้สึกไม่สบายใจนิด หน่อย คุณกลับมาเร็วๆ ก็พอค่ะ”
บริศ ลังเล
ด้านเชษฐ์มีบางเรื่องที่เขาอยากรู้จริงๆ หลังจากลังเลอยู่ครู หนึ่ง เขาก็ให้ชัยยศมาอยู่กับนรมน แล้วถึงจะจากไป
ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป คมทิพย์ก็หอบหายใจวิ่งเข้ามา
“เขาอยู่ที่ไหน?”
ดวงตาของคมทิพย์เต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้า ทำให้พร มนรู้สึกเจ็บปวดใจมาก
“ใจเย็นๆ ก่อน เขาอยู่ในห้องไอซียู ถึงตอนนี้คุณจะเข้าไป เขา ก็ไม่ได้ยินเสียงคุณ”
“ฉันอยากเจอเขา”
ในท้ายที่สุดน้ำตาของคมทิพย์ก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้ และก็ ไหลลงมา
นรมนรู้ดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร ในตอนนั้นที่บริศร์เข้าในโรง พยาบาล เธอรู้สึกเหมือนฟ้ากำลังถล่มลงมา ถ้าไม่ใช่เพราะ ความเชื่อของเธอ เธอไม่รู้ว่าเธอจะผ่านมันไปได้หรือไม่ ตอนนี้ พฤกษ์มาเป็นอย่างนี้ มีแต่ข่าวร้าย
“คมทิพย์ ใจเย็นๆ ก่อน พวกเธอเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“มันก็แค่คำประชด ถ้าเขายังดีอยู่ เลิกกันก็คงไม่เป็นไร ฉันไม่ อยากเป็นภาระเขา แต่ตอนนี้เขาเป็นอย่างนี้ ฉันจะเลิกกับเขาได้ อย่างไร?”
คมทิพย์เปิดประตูและเดินเข้าไป
นโมนไม่ได้ตามไป แต่รออยู่ข้างนอก
คมทิพย์มองไปที่ชายที่นอนอยู่บนเตียงที่พ้นไปด้วยผ้าก๊อซ ทันใดนั้นก็ปิดปากและเริ่มร้องไห้ แต่ก็กลัวจะทำให้เขารำคาญ เธอค่อยๆ ผ่อนคลายก้าวขาไปข้างหน้าเบาๆ และมาหยุดตรง หน้าพฤกษ์
ไม่ได้เจอกันแค่คืนเดียว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?
“พฤกษ์ ได้ยินฉันไหม? รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? นรมนบอกว่า ตอนนี้คุณไม่รับรู้อะไรแล้ว แต่ฉันไม่เชื่อ คุณคงไม่แม้แต่เสียง ของฉันก็ไม่ได้ยินใช่ไหม? คุณจะนอนแบบนี้ไปตลอดชีวิตไม่ได้ นะ คุณเก่ง ถึงแม้ว่าสถานะของคุณจะทำให้คุณอ่อนน้อมถ่อมตนแต่ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆ คุณบอกว่าจะพาฉัน ไปตุรกี ไปปารีส ไปที่ต่างๆ ที่ฉันอยากไป ฉันจำได้หมด ที่ฉัน บอกเลิกกับคุณเมื่อวานนี้ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าฉันไม่ เลิกกับคุณ ครอบครัวของฉันจะทำให้คุณลำบากได้ในอนาคต น เป็นความรับผิดชอบของฉัน ไม่ใช่ของคุณ ฉันไม่สามารถลาก คุณมาเกี่ยวข้องได้ แต่ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ คุณมานอนที่ นี่แบบนี้ได้ยังไง?”
คมทิพย์พูดและจับมือพฤกษ์
“ฉันรู้ว่าคุณได้ยิน? พฤกษ์ คุณตื่นมาได้ไหม? ฉันไม่อย ให้ คุณเป็นอะไรจริงๆ ฉันหวังว่าคุณจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากที่เราเลิก กัน ไม่ใช่อย่างตอนนี้ ลุกขึ้นมาสิ คุณลุกขึ้นมา!
เธอจับมือของพฤกษ์และอยากจะดึงเขาขึ้นมา แต่เธอทำอะไร ไม่ได้ สุดท้ายเธอก็นอนบนร่างของพฤกษ์และเริ่มร้องไห้
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทำไมล่ะ?”
แต่คําตอบของเธอเป็นเพียงห้องแห่งความเงียบงัน
พฤกษ์ดูเหมือนจะหลับไปโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนอง
คมทิพย์ร้องไห้อยู่สักครู่ ก่อจะยืดตัวตรง เช็ดน้ำตาและมองไป ที่พฤกษ์ ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร ถ้าคุณเหนื่อยก็พักผ่อนไปก่อน ฉันจะอยู่กับคุณ รอคุณพักผ่อนให้เต็มอิ่มดีไหม?”
พฤกษ์ยังคงไม่ตอบสนอง แต่คมทิพย์รีบปรับอารมณ์ของตัว เองอย่างรวดเร็ว
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันรู้ว่าความทุกข์นั้นอยู่แค่ชั่วคราว ไม่นานก็จะผ่านไป ฉันก็รู้เช่นกันว่าทะเลสีฟ้าและท้องฟ้าสีคราม จะมาหลังจากที่คุณผ่านพ้นปลอดภัยไป คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉัน จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ฉันจะมาหาคุณทุกวัน คุยกับคุณทุกวัน ฉันจะ รอคุณ พฤกษ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร ฉันก็เป็นของคุณ ตลอด
คมทิพย์เอื้อมมือออกไปและสัมผัสใบหน้าของพฤกษ์ นัยน์ตา มีแต่ความคิดถึงและความอ่อนโยน
“ฉันได้ยินมาว่านรมนจ้างพยาบาลมาดูแลคุณ ฉันอยู่กับคุณที่ นี้ไม่ได้ เพราะต้องออกไปหาเงิน แต่ฉันจะมาทุกวัน ไม่ต้องห่วง
คมทิพย์คุยกับพฤกษ์ด้วยเสียงเบา พูดถึงอดีตของพวกเขา พูดถึงความปรารถนาของพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จัก เหน็ดเหนื่อย
นรมนที่มองจากด้านนอกอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็น เธอเป็นแบบนี้
เธอรู้ว่าคมทิพย์จะไม่ทิ้งพฤกษ์ แม้ว่าพฤกษ์จะไม่ตื่นขึ้นมาอีก ในชีวิตนี้ แต่เธอก็จะอยู่กับเขา
บางครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนนั้นลึกซึ้งเกินกว่า อะไรจะแยกจากกันได้ แต่เธอแค่รู้สึกเป็นห่วงคมทิพย์
ร่างกายที่อ่อนแอของเธอตอนนี้ต้องดูแลชายร่างใหญ่ถึง 3 คน หากไม่เข้มแข็งพอและมองโลกในแง่ดีพอ เธออาจจะทรุดไป นานแล้ว
นรมนหันหลังกลับ ให้พื้นที่ส่วนตัวแก่พวกเขา และเดินออกไป ข้างนอกคนเดียว
ชัยยศต้องการจะตามไป แต่เธอปฏิเสธ ในช่วงเวลานี้คนรอบ ข้างเธอโชคร้ายไปหมด เธอแค่รู้สึกอึดอัดในใจและอยากจะไป เดินคนเดียว
นรมนเดินไปที่สวนหลังโรงพยาบาล แต่บังเอิญพบบุคคลที่คุ้น
เคย
ทําไมเธอถึงอยู่ที่นี่?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ