แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 899 คุณบุริศร์ ยินดีต้อนรับกลับบ้าน



บทที่ 899 คุณบุริศร์ ยินดีต้อนรับกลับบ้าน

ชัยยศเห็นบริศร์ออกมา ก็รีบตามไป

“ประธานบริศร์ เราจะไปไหนครับ?”

“นายอยู่เฝ้าคุณนายเทวิน จำไว้นะ เฝ้าปกป้องเธอด้วยชีวิต ของนาย รู้ไหม?”

คำพูดบุริศร์จริงจังอย่างยิ่ง

ชัยยศชะงักไป จากนั้นก็รีบพยักหน้า

เขาได้รับการเลื่อนขั้นจากนรมน แน่นอนว่าค่อนข้างจริงใจกับ นรมน โดยเฉพาะตอนนี้นาวินถูกส่งตัวออกไปแล้ว เหลือแค่เขา เป็นบอดี้การ์ดให้กับนรมน ชัยยศรู้สึกตัวเองเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

“ประธานบริศ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะต้องปกป้อง

คุณนายเทวินด้วยชีวิต”

“ฝากด้วยนะ”

บุริศร์พูดจบก็เดินออกไป

เขาขับรถคนเดียว และไม่มีใครกล้าตามเขา

บุริศร์รีบกลับไปที่คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็ก เขาจำได้ว่า ยังมีใครบางคนที่หน้าเหมือนตนกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ใน ห้องทำงานตน และไม่รู้ว่ากานต์จะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อยามเห็นบุริศร์ก็อึ้งเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ไม่นานประธานบุรี ศร์เข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ออกมาตั้งแต่เมื่อไร?

“อึ้งทำไม ไปปิดประตูใหญ่ทุกบานให้เรียบร้อย ถ้าไม่มีรหัส คำของฉัน ใครก็ห้ามเปิดประตู ฉันจะปิดประตูตีหมา

ท่าทางเย็นชาเคร่งขรึมของบุริศร์ทำให้พวกเขาตกตะลึงกัน เล็กน้อย แต่สิ่งที่พูดออกมาทำให้พวกเขารู้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้ คือประธานบริศร์ของพวกเขาจริงๆ

ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคนที่เข้าไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ?

ถึงแม้ทุกคนจะงุนงง แต่ก็ยังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

หลังจากบุริศร์ขับรถเข้ามา ก็ลงรถทันที แล้วล็อกกุญแจ ภาริชได้ยินเสียงที่ห้องทำงาน มองลงมาจากหน้าต่างบาน ใหญ่ ก็เห็นบริศร์กลับมาแล้ว

ซวยแล้ว!

เขายังหาสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่เจอเลย ตอนนี้ปะทะกับบริศร์

ทําอย่างไรดี?

ภาริซนึกถึงกานต์ทันที

ใช่!

แอบอ้างโอรสสวรรค์แล้วสั่งการเจ้าเมือง คนที่บุริศร์เป็นห่วงมากที่สุดก็คือกานต์เหล่าเด็กๆ ถ้าเขามี กานต์ในมือ จะกลัวตัวเองออกไปไม่ได้เหรอ?
เมื่อคิดแบบนี้ ภาริชก็รีบเปิดประตูห้องทำงาน ตั้งใจจะไปหา กานต์ แต่เขาไม่ได้สังเกตว่านอกประตูห้องทำงานมีใครเอา น้ำมันทําอาหารมาเทตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

เมื่อการิชเพิ่งออกมาจากห้อง ก็เหยียบมันเข้า ทันใดนั้นลื่นจน เกิดเสียง หกคะเมนทันที

“เอ้ย!”

ภาริชต้องการคว้าอะไรบางอย่างไว้ แต่ตัวเองอยู่ห่างจากราว ทางเดินค่อนข้างไกล

ในขณะนี้ เขาได้ยินเสียงกานต์ดังขึ้นข้างหู

“ต้องการความช่วยเหลือไหมครับ?”

“แน่นอนสิ”

เห็นกานต์ ภาริชก็มีความหวังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับเขา เด็ก คนนี้ยังไงก็ยังเป็นเด็ก อาจจะไม่แน่ใจว่าเขาคือใคร เขารีบยิ้มขณะพูดขึ้น “รีบดึงแด๊ดดี้ขึ้นมาหน่อย

กานต์มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยิ้มเยาะ แต่เขาก็ยังยื่นมือออก

ไป

ภาริชจับมือกานต์ ต้องการลุกขึ้นด้วยการใช้ประโยชน์ของอีก ฝ่ายโจมตีอีกฝ่าย และทำอะไรล่วงหน้า โดยไม่ไตร่ตรอง ตอนนี้ จับกานต์ได้แล้ว เขาก็ไม่ตั้งใจจะปล่อยมือ

เมื่อคิดแบบนี้ ดวงตาภาริชก็มีความมืดมนผ่านไป
แต่เขายังไม่ทันได้ปฏิบัติตามแผนใหญ่ของตัวเอง กานต์ก็ ลากและดึงเขาทันที จากนั้นก็ทำท่าทุ่มเหนือไหล่โยนออกไป แถมเตะอย่างต่อเนื่องตลอดทาง

ทั้งร่างการชสับสนไปหมดแล้ว

เขาเห็นรอยยิ้มแตกกันที่มุมปากกานต์กลางอากาศ ในใจก็ ตกใจมาก น่าเสียดายที่สายไปแล้ว

เกิดเสียง “ปัง” ร่างหนักของภาริชก็ล้มลงบนทางเดิน เพราะ น้ำมันอาหาร ร่างเขาจึงลื่นไปข้างหน้าระยะหนึ่ง มาตรงหน้า บันไดพอดี

“อ๊าก! อย่า!”

ภาริชราวกับทนายอะไรบางอย่างได้ ต้องการจับราวบันได

เอาไว้ แต่ที่ราวจับก็ไม่รู้ว่าใครมันผูกหนามเอาไว้ เขาเพิ่งจับมัน ลงไป หนามก็แทงที่ฝ่ามือเขา เขาร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด รีบปล่อยมือ

ด้วยความช่วยเหลือจากน้ำมันพืช ภาชบ่นพึมพำขณะตกลง ไปจากหน้าบันไดทันที

กลิ้งตกจากบันไดตั้งแต่หน้าบันไดจนถึงชั้นหนึ่งตลอดทาง ภา ริชยังไม่ทันตอบสนอง ก็มีเท้าใหญ่คู่หนึ่งเหยียบบนร่างกายเขา

ทันที

“สนุกไหม?”

บุริศร์เอ่ยปากเรียบๆ แต่พายุซัดกระหน่ำในดวงตาทำให้ภาริชหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก

“คุณบุริศร์ หน้าที่ผมเสร็จแล้ว ที่เหลือให้คุณนะ”

กานต์เรียกคนมาทําความสะอาดน้ำมันพืช

บุรีศ ทํามือ OK ให้กับลูกชาย

ภาริชถึงได้ตระหนักทีหลังว่า ตัวเองโดนพ่อลูกคู่นี้วางแผนเอา

ไว้แล้ว

“ได้ยังไง? มันเป็นแค่เด็ก!”

ภาริซไม่ค่อยอยากยอมแพ้

เขารู้ว่าตัวเองไม่มีการเผยได้ตรงไหน ทำไมถึงโดนวางแผนได้

ล่ะ?

กานต์มองท่าทางโง่เขลาของเขาไม่ลงจริงๆ ส่ายหน้าอย่างอด ไม่ได้มาตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้น “คุณโยนตัวเองเข้าไปในแหเอง จะโทษใครได้? ตอนแรกผมกับหม่ามกำลังคิดว่าจะเอาจับตัวคุณ มาจากที่ไหน ไม่คิดว่าคุณจะมาหาถึงที่อัตโนมัติเลย ถ้าผมไม่ ฉวยโอกาสนี้จัดการคุณ จะคุ้มกับการทำงานหนักของหม่ามี้ผม ไม่กี่วันนี้ได้ยังไง?”

“ว่าไงนะ?”

หัวสมองภาริชหยุดทำงานอย่างสมบูรณ์

“ฉันกับแด๊ดดี้เธอหน้าเหมือนกันเป๊ะ และคุยกับฉันแค่ไม่กี่ ประโยค เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่เขา?”
นี่เป็นสิ่งที่ภาริชไม่เข้าใจมากที่สุด

กานต์กอดอก พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ข้อแรก ผมไม่เคยเรียกเขา ว่าแอ๊ดดี้ ผมเรียกเขาว่าคุณบุริศร์เท่านั้น ข้อสอง ผมไม่เคยมีชุด เอี๊ยม เรื่องนี้คุณบุริศร์รู้ แต่เมื่อผมถามคุณ คุณบอกให้ผมไปหา เอาเอง ดังนั้นถึงคุณจะหน้าตาเหมือนคุณบุริศร์เป๊ะ แล้วมันยัง ไง? คุณมันตัวปลอม สุดท้ายมันก็เปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้

ได้ยินกานต์พูดแบบนี้ ภาริชก็เข้าใจทันที

อย่างไรเขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้อยู่ในมือเด็กน้อยคน หนึ่ง

“ฉันไม่ยอม!บริศร์ ถ้านายแน่จริงก็ปล่อยฉัน เรามาสู้กันอย่าง เปิดเผยตรงไปตรงมา

“นายไม่คู่ควรที่จะสู้กับฉัน ยังไงแล้วนายก็ใช้ชีวิตภายใต้เงา ของฉันเหมือนหนูตั้งแต่เล็กจนโต ในเมื่อนายอยากเป็นบริศร์ ขนาดนั้น งั้นก็ได้ ฉันจะให้โอกาสนายเป็นบริศร์”

บริศ มัดเขาไว้ทันที จากนั้นก็พูดกับคนข้างกาย “เอามันส่งให้ คุณนวิน บอกว่าคดีการเสียชีวิตของภาริซมีเบาะแสใหม่ คนคนนี้ ปลอมตัวเป็นฉันแล้วฆ่าคน”

ภาริชก็เข้าใจทันที

“นายอยากให้ฉันติดคุกแทนนายเหรอ? บุริศร์ ฉันเป็นน้อง แท้ๆ ของนายนะ!”

“ไม่ นายไม่ใช่ นายก็แค่คนดัดแปลงพันธุกรรมเท่านั้น”
คนอื่นอาจจะฟังไม่เข้าใจคําพูดของบุริศร์ แต่ภาริชฟังเข้าใจ สีหน้าเขาซีดเซียวขึ้นมาทันที

บุรีศร์พูดต่อ “ฆ่านายไปแล้ว บางทีก็อาจจะมีการิชคนที่สอง ภาริชคนที่สาม ก็เหมือนภาริชที่หัวใจบกพร่องตั้งแต่กำเนิดที่ ตายไป จริงๆ แล้วฉันกับเขาก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แค่อาสอง ฉันต้องการ เขาก็สามารถสร้างภาริชออกมาได้นับไม่ถ้วน ดังนั้น นายจึงไม่ใช่แค่คนเดียว ในเมื่อนายออกตัวมาหาเองถึงที่ งั้นก็ แก้สิ่งยุ่งเหยิงที่อาสองทิ้งไว้ให้แล้วกัน เดิมทีชีวิตนี้พวกนาย เป็นคนทําขึ้น แน่นอนว่าพวกนายก็ควรแบกรับมัน”

พูดจบ เขาก็ไม่ให้โอกาสใดๆ กับภาริชอีก ให้คนส่งเขาออก ไปทันที

กานต์กะพริบตา เห็นบุริศร์ยืนหน้าตน ทันใดนั้นเขาก็อ้าแขน

สองข้าง ยิ้มขณะพูดขึ้น “คุณบุริศร์ ยินดีต้อนรับกลับบ้าน

“ขอบคุณนะ ลูกชายที่รักของฉัน”

บริศ กอดกานต์แน่น ในใจประทับใจอย่างยิ่ง ถึงขนาด ซาบซึ้งนรมนนิดหน่อย

เธอเป็นผู้ให้กำเนิดลูกชายที่โดดเด่นแบบนี้ให้กับตน และเธอ ทำให้ตนสัมผัสกับความห่วงใยและความอบอุ่นของคนใน ครอบครัว

สิ่งเหล่านี้ทรัพย์สมบัติมากมายก็ซื้อไม่ได้ หลังจากกานต์รู้ว่าบุริศร์ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ก็วางใจ
“เอาล่ะ ตอนนี้ผมต้องไปพักผ่อนให้เต็มที่สักหน่อย ไม่กี่วันนี้ เหนื่อยแทบตาย”

กานต์พูดอย่างค่อนข้างเจ้าเล่ห์

บริศ ลบศีรษะเขา พูดอย่างอ่อนโยน ไปนอนเถอะ มีอะไรพ่อ จะเรียกลูก

“ผมนอนตื่นแล้วอยากไปเยี่ยมหม่ามี

“ได้”

ตอนนี้แค่เป็นคำขอของกานต์ บุริศร์ก็ตกลงทั้งหมด

จิตใจเด็กคนนี้ดีมาก เขาไม่ต้องเป็นห่วงเกินไป

จัดระเบียบกลุ่มนี้ในบ้านให้ชัดเจนแล้ว ดวงตาบุริศร์ก็หรี่ขึ้น

มา

สิ่งที่สถาบันวิจัยของคุณอารองเชษฐ์ศึกษามันคืออะไร บางที นรมนอาจจะไม่รู้ แต่บุริศร์ ภาริชมาที่ตระกูลโตเล็กเพื่อต้องการ หาอะไร ในขณะนี้เขารู้แล้ว

บริศร์ผลักประตูห้องทำงาน เห็นของกระจัดกระจายเต็มไป หมด ก็ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้

เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาจากชั้นวางหนังสือ ทันใดนั้นชั้น วางหนังสือก็แยกออกเป็นสองข้าง เผยให้เห็นทางเดินยาวด้าน

ใน

ที่นี่คือห้องลับ
ในครอบครัวคนรวยมักมีสถานที่ซ่อนของสำคัญไว้สักที่สองที่ สถานที่แห่งนี้ไม่อาจเป็นที่ปลอดภัย ทำได้แค่วางหมากไว้ใน บ้าน แผนการ นอกจากบุริศร์ก็ไม่มีใครรู้

หลังจากบุริศร์เดินเข้าไปแล้ว ชั้นวางหนังสือก็เปิดขึ้นอัตโนมัติ

เขาเดินไปข้างหน้าตามทางเดินสักระยะ ก็เห็นโต๊ะแปดเซียน ตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีการประดิษฐานและนมัสการแผ่นป้ายวิญญาณ ของปู่บุริศร์ ข้างๆ เป็นคุณพ่อ

เขาให้ธูปหอมสองแท่งกับพวกเขา จากนั้นก็พูดเสียงทุ้ม “คุณ ปู่ คุณพ่อ อาสองหาเจอแล้ว และคงมาเพื่อข้อมูลวิจัยฉบับนั้น ของคุณปู่ในตอนนั้น ตอนนี้ผมคงเข้าใจได้แล้วว่าทำไมอาสองถึง ได้ไปหาเรื่องตระกูลเจริญไชย เรื่องนี้มันยืดเยื้อมาสามชั่วคนอายุ แล้ว มันควรจบลงแล้ว

พูดจบ เขาก็หยิบกล่องเล็กด้านหลังแผ่นป้ายวิญญาณออกมา เปิด ในนั้นมีกระดาษคำนวณแต่ละแผ่น ถ้าให้คุณอารองเชษฐ์ เห็นข้อมูลการคำนวณในนั้นล่ะก็ เดาว่าคงเป็นบ้าแน่

บุริศร์จัดระเบียบสิ่งเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว กำลังจะหยิบข้อมูล วิจัยแผ่นสุดท้ายออกมา ถึงแม้มันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว แต่ เขารู้ว่ากระดาษแผ่นนี้มีประโยชน์มากแค่ไหน

ในบรรดากระดาษคำนวณ บุริศร์พบรายการหนึ่ง

รายการมีชื่อสี่คน ถึงบุริศร์จะไม่รู้จัก แต่เขาเดาได้ คนเหล่านี้ คงเป็นชื่อของนักวิจัยเหล่านั้น ในตอนนั้น
บริศ บรรจุทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ถึงได้เดินออกไปจากห้อง

ลับ

ท้องฟ้าด้านนอกมืดมน เหมือนฝนจะตก เหมือนตระกูลโตเล็ก ในขณะนี้ ก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเช่นกัน เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่างแท้จริง

บุริศร์จุดบุหรี่ด้วยความสับสนวุ่นวายจิตใจนิดหน่อย ใน หมอกควันรอบๆ นั้น ไม่มีใครเห็นหน้าเขาชัดเจน

สิบกว่านาทีต่อมา โทรศัพท์บุริศร์ก็ดัง

เขาเห็นหมายเลขโทรศัพท์ กดปุ่มรับสายตามใจชอบ

“ประธานบริศร์ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณ

เสียงคือเสียงของนาวิน

บุริศร์ไม่แปลกใจสักนิด แต่คิดว่านาวินโทรหาตน ในตอนนี้ มันสายไปหน่อย

ดูเหมือนเขาจะเป็นคนจริง

“นาวิน นายน่าจะรู้ บางเรื่องฉันมีสิ่งสำคัญและหลักการ เมื่อ ก่อนฉันสามารถให้อภัยได้ เพราะพวกนายไม่ได้มาแตะต้องสิ่ง สำคัญของฉัน แต่ครั้งนี้ ฉันให้อภัยไม่ได้ ยังไงแล้วเธอเกือบ ทำร้ายภรรยาและลูกชายฉัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ