บทที่ 818 เธอไม่ใช่แม่ที่คุณรู้จักแล้ว
นรมนรู้สึกแปลกใจทันที
“คุณมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร?
หลังจากการต่อสู้เมื่อห้าปีก่อนได้มาเจอกับรเมศอีกครั้ง สีหน้า ของนรมนค่อนข้างเย็นชา
มองเห็นผู้หญิงในดวงใจตอนนี้มองตนเองอย่างเย็นชา รเมศ สึกเจ็บปวดอย่างพูดไม่ออก
เขายังจำช่วงเวลาห้าปีที่นรมนกับเขาฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วย กัน จนแม้แต่ยังจำความสุขตอนพวกเขาสี่คนอยู่ด้วยกันได้ด้วย
ซ้ำไป
เพียงแต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้?
แม้แต่นรมนก็เกลียดชังตนเอง
หรือการรักคนคนหนึ่งคือเรื่องผิด
รเมศมองนรมน พูดอย่างเสน่หา “พวกเราหนีกันไม่พ้น นอก
เสียจากคุณจะแต่งงานกับผมในฐานะของฉัตรยาแต่โดยดี”
“คุณเรื่องนี้มานานแล้วเหรอ? ”
นรมนจำได้ว่ารเมศเป็นคนศัลยกรรมใบหน้านี้ให้แก่ตนเอง จึง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ
เป็นเวลาห้าปี ถ้าเขารู้ทุกอย่างมานานแล้ว และยังทำเช่นนี้กับ ตนเองและลูก ๆ เช่นนั้นเธอคงไม่สามารถทนได้จริง ๆ
รเมศส่ายหน้าและกล่าวว่า “ผมไม่รู้ ห้าปีก่อนการช่วยคุณ อาจเป็นความต้องการของคุณย่า แต่ผมกลับไม่รู้ว่ามีเบื้องหลัง มากมายเช่นนี้”
“คุณช่วยเหลือฉันคือความต้องการของคุณย่าคุณ?
“ใช่ ตอนแรกผมไม่จำเป็นต้องไปทำธุรกิจอะไรที่เมืองชลธี เป็นคุณค่าของผมที่สั่งให้ผมต้องไปที่นั่น และยังให้ที่อยู่ของคุณ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็ไม่ดีที่จะไม่ทำตามคำสั่งของเธอ ดัง นั้นจึงไปที่ปั๊มน้ำมันนั้น คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญพบคุณ จึงถือ โอกาสช่วยคุณเอาไว้ ผมคิดมาตลอดว่าพระเจ้าให้โอกาสนี้กับ ผม กลับคิดไม่ถึงว่า ทั้งหมดนี้มีคนคำนวณและวางแผน แต่ไม่ว่า จะพูดอย่างไร ผมขอบคุณห้าปีก่อนที่ได้เจอกัน ผมไม่เสียใจที่ห้า ปีนั้นได้ใช้ชีวิตกับคุณ ถ้าเป็นไปได้ ผมไม่รังเกียจที่คุณจะใช้ ฐานะของฉัตรยามาใช้ชีวิตกับผมต่อ สำหรับผม ตราบใดที่เป็น คุณ คุณจะเป็นนรมนหรือฉัตรยาก็ไม่สำคัญ
“แต่ฉันรังเกียจ !”
นรมนได้ยินรเมศพูดแบบนี้ อ้าปากปฏิเสธทันที
“ฉันก็คือฉัน ฉัตรยาก็คือฉัตรยา พวกเราเป็นคนละคนกัน ใคร ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะลบล้างพวกเราคนใดคนหนึ่ง รเมศ อยู่ร่วมกันมา ห้าคุณน่าจะรู้จักนิสัยของฉันนะ แตงที่ฝนเด็ดจากต้น ย่อมไม่ หวาน ฉันขอบคุณนะ แต่ฉันไม่ชอบคุณ นี่มันคนละเรื่องกัน และฉันคิดมาตลอด ครั้งที่แล้วบุริศร์สั่งสอนพวกคุณตระกูลวัชโรทัย ไป พวกคุณตระกูลวัชโรทัยก็น่าจะหลาบจำสักหน่อย
เมื่อรเมศได้ยินนรมนพูดถึงบุริศร์ก็มีสีหน้าและท่าทางภูมิใจ ในตนเอง รู้สึกอิจฉาตาร้อนไม่ได้
“ผมมีตรงไหนที่สู้บุริศร์ไม่ได้?
“เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก รักก็คือรัก ถึงแม้เขาจะเป็น ขอทานฉันก็ไม่สนใจ
นรมนรู้สึกว่าตอนนี้พูดเรื่องเหล่านี้กับรเมศไปก็ไร้ประโยชน์ สิ่งที่ควรจะพูด เธอได้พูดไปหมดแล้ว แต่รเมศยังคงดื้อดึงยิ่งนัก เธอยังจะพูดอะไรได้อีก
รเมศได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ สีหน้ากลายเป็นดูไม่ได้ นรมนรู้ดี พูดต่อไปก็มีแต่เสียเวลา
“หลีกไปซะ! หรือจะให้ฉันทำให้คุณหลีกไปเอง! คุณเลือก มา! ”
ในระหว่างที่นรมนพูดก็เตรียมตัวลงมือ
แน่นอนว่าเมศมองเห็นความตั้งใจของนรมน
เขาพูดอย่างเสียใจ : “ตอนนี้คุณคิดจะลงไม้ลงมือกับผมเห รอ? นรมน คุณจะลงมือกับผมจริง ๆ เหรอ? ผมอยากรู้ว่า ถ้าห้า ปีก่อนไม่มีผม ไม่เพียงแค่คุณ แม้แต่ลูกในท้องของคุณคงไม่มี ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้”
“ตอนนี้คุณถึงยังได้มีชีวิตอยู่ ตอนนี้บนโลกใบนี้ถึงยังมีตระกูล วัชโรทัยอยู่ ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณกับตระกูล วัชโรทัยทำกับฉันและลูก ๆ บุริศร์จะปล่อยคุณไปเหรอ?”
คำพูดของนรมนกระทบกระเทือนจิตใจของรเมศอีกครั้ง
“บุริศร์ บุริศร์! ตอนนี้คุณเอาแต่พูดว่าบุริศร์! ต้องให้มันตาย ใช่ไหมคุณถึงจะกลายเป็นของผมจริง ๆ ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้น ให้มันตายไปซะ!
ในขณะที่พูด รเมศหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา
นรมนรู้ความตั้งใจของรเมศทันที
คราวนี้เธอไม่พูดอะไรสักคำ ก้าวขึ้นไปทันที ยกขาขึ้นสูง เตะ วิทยุสื่อสารในมือของรเมศลอยไป จากนั้นบีบคอของรเมศทันที
“คุณอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม? หรือคิดว่าการช่วยชีวิตฉันเมื่อ ห้าปีก่อนอย่างมีเจตนาแอบแฝงจะสามารถปกป้องคุณไปได้ ตลอดชีวิต? คุณใช้ประโยชน์จากความผูกพันที่กานต์กับกมลมี ต่อคุณเพื่อวางแผนทำร้ายพวกเราก็แล้วไป ตอนนี้คิดไม่ถึงว่ายัง จะมีความคิดเพ้อเจ้ออยากครอบครองฉันอีก รเมศ คุณอยาก อายุสั้นเหรอ? ”
“คุณกล้าฆ่าผมเหรอ? คุณฆ่าผมได้ลงคอเหรอ?
รเมศไม่ใส่ใจกับการกระทำของนรมน ราวกับไม่กังวลว่านร มันจะลงมือกับตนเองจริงหรือเปล่า
ห้าปีที่ผ่านมา นรมนอ่อนแอมากเกินไป ถึงแม้จะไม่เคยทอดลูก แต่ในด้านอื่น รเมศมองเห็นความอ่อนแอและความเข้ม ของนรมน
แต่เข้มแข็งไม่พอเธอกล้าฆ่าเขา
นี่คือกำแพงป้องกันรเมศ เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงยุนรมนอย่างไร้ยางอาย อย่างไรเสียนรมนไม่มีความเด็ด เดี่ยวเหมือนบุริศร์
นรมนต้องยอมรับจะได้คิดถึงลูก แต่ก็คิดถึงบุริศร์
เพียงแต่การฆ่าคนแปล
นรหัวเราะอย่างไม่แยแส ทุบไปคอของรเมศทันที
รเมศแปลกใจอย่างยังทันได้พูดอะไรสลบไป
นรมนโยนเข้าไว้ข้าง หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา จากนั้นพวก
เธอก็รับเข้าไปในห้องของฉัตรยา
ร่างของฉัตรหาย
นี่เป็นแรกพบหลังพวกเข้ามาในห้อง
“ฉัตรยาล่ะ
ดรฐานทัตค้นหาไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง
สีหน้าของนภดลบึงตึงอย่างน่ากลัว
นรมนว่า ฉัตรยาต้องเรณุกาเอาศพไปซ่อนแน่นอน
ผู้หญิงคนนี้น่าเกลียดชังเกินไป
แม้แต่คนตายก็ไม่เว้น!
ตราบใดที่ใช้ได้อย่างคุ้มค่า เธอจะเล่นมันอย่างเต็มที่ถึงจะ ปล่อยไป
“ไปเถอะ! ”
นโมนไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีก
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ฉัตรยาตายไปแล้ว ตอนนี้นภดลยังมีชีวิต อยู่ คนเป็นสําคัญกว่าคนตายเสมอ
เธอดึงแขนของนภดล ใช้โทรศัพท์ในห้องของฉัตรยาโทรหาบุ ริศร์ บอกเรื่องระบบป้องกันตนเองของตระกูลจันทรวงศ์
บุริศร์ได้ยินเสียงของนรมนถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คุณปลอดภัยใช่ไหม? ”
“ฉันปลอดภัย ฉันกำลังจะพานภดลออกไปเพียงแต่ศพของ ฉัตรยาหายไป”
“ไม่เป็นไร เรณุกาจะตามหาพวกคุณอีก คุณมาที่ซอยด้านหลัง
ผมได้แครกระบบป้องกันตนเองของพวกเขาแล้ว มีเวลาสองนาที ผมจะคอยช่วยพวกคุณอยู่ที่ประตู
ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ ในที่สุดนรมนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ราวกับว่าตราบใดที่มีเขาอยู่ ไม่ว่าจะต้องเจอคลื่นลมแรงเพียง ใดเธอก็ไม่หวาดหวั่น
“ได้”
หลังจากนรมนวางสาย ในขณะที่ดร.ฐานทัตยังคงตามหาร่าง ของฉัตรยาอยู่ ดึงมือของนภดลออกมา
เธอเดินไปพูดไปว่า “ฉันรู้ว่าตอนนี้นายอยากตามหาร่าง ของฉัตรยามาก ๆ แต่นายฟังฉันพูดนะ ตราบใดที่เรณุกาอยาก ให้ฉันตาย เธอจะมีวิธีอื่นมาบีบบังคับฉัน ร่างของฉัตรยาอาจจะ อยู่ในนั้นเหมือนกัน ฉันรับปากนาย ฉันจะพาร่างของฉัตรยาออก มาจากตระกูลจันทรวงศ์ให้ได้ แต่ตอนนี้ปัญหาอย่างแรกคือ นาย ต้องไปกับฉัน นายจำเป็นต้องออกไปก่อน เมื่อปลอดภัยแล้วฉัน ถึงจะทำเรื่องอื่นได้ นอกจากนั้นภดล ฉันท้องอยู่ ถึงแม้จะไม่ใช่ อย่างอื่นก็ตาม เห็นแก่ลูกในท้องของฉันที่ไม่สามารถทำงานหนัก ได้มากเกินไป นายอย่าพูดจาอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควรกับฉันตกลง ไหม? ”
นภดลอึ้งไป
เขามองท้องของนรมน ด้วยแววตายากที่จะเข้าใจ
เงียบไปสามวินาที นภดลเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ กลับทำให้นรมน รู้สึกว่าไม่จริง
“นายพูดอะไร? ”
“ผมพูดว่าพวกเราออกไปกัน
นภดลไม่มีความลังเลใด ๆ พลิกฝ่ามือดึงนรมนตรงออกไปดรฐานทัตยังคงร่างของฉัตรยาอย่างบ้าคลั่ง จนรู้สึก วิกลจริตเล็กน้อย
นรมนายหน้าอย่างเห็นอกเห็นใจ ออกจากห้องของฉัตร ยานภดลอย่างรวดเร็ว
บนทางเดินยังคงมีคนส่วนหนึ่งคอยสกัดอยู่โดยปริยาย เพียง แต่นรมนไม่หยุดเลยสักนิด รีบวิ่งตรงไปที่ซอยด้านหลัง
เมื่อใกล้จะถึงด้านหลัง เธอมองเห็นบุริศร์ยืนอยู่ประตู
หลัง
เขาเหมือนประภาคาร ให้พละกำลังกับความกล้าหาญแก่ นรมน ในชั่วพริบตาเดียว
นรมนร้อง
ในช่วงเวลาบุริศร์หันมา นรมนเกิดความรู้สึกจําตลอด
เธอไม่ไหวดึงของนภดลตรงไปหาบุริศร์
เมื่อบริศร์อย่างในภดลทำเพื่อ
แววตาแห่งความเชื่อใจและต้องมอบโลก ให้ใบก็คุ้มค่า
บริศ อ้าแขนกว้าง กอดนรมินที่โผเข้ามาแน่น
เขาถามอย่างอ่อนโยน : 1 บาดเจ็บหรือเปล่า? ให้ผมดู หน่อย”
นรมนสูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย ส่ายหน้ากล่าวว่า “ฉันไม่ เป็นไร ฉันคิดถึงคุณจังเลย”
เป็นครั้งแรกที่นรมนรู้สึกว่าจากบุริศร์ไปนานมาก
บุริศร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน
นภดลมองเห็นทั้งสองรักกันดีแบบนี้ ก็อดเจ็บปวดใจไม่ได้
ถึงฉัตรยายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาอาจจะมีความสุขด้วยกันแบบนี้ น่าเสียดาย ฉัตรยาไม่อาจรอถึงวันนี้ได้
แววตาของนภดลเศร้าสลดขึ้นมา
“พวกเราออกไปก่อนแล้วค่อยคุยเถอะ”
เขาใจไม่แข็งพอที่จะขัดจังหวะการปลอบใจของนรมนกับบุรี
ศร์ แต่ตรงนี้ไม่ใช่สถานที่ที่จะคุยกันจริง ๆ
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?
บริศ เหลือบมองนภดล เห็นทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วย เลือด จึงเอ่ยถามออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ยังไม่ตาย”
นภดลกัดฟัน มองตระกูลจันทรวงศ์อย่างเคียดแค้น มองที่ที่กักขังตนเองตั้งแต่เด็ก สุดท้ายกลับเพราะฉัตรยาจึงเต็มใจที่จะ อยู่ที่นี่ วันนี้ไม่มีฉัตรยาแล้ว เขาอยากจะเผาที่นี่ให้วอดวาย
แต่เขายังมีสติ
บุริศร์เห็นสภาพเขายังดีอยู่ จึงรีบกล่าวว่า “ออกไปจากที่นี่ ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“ได้”
กลุ่มคนเพิ่งออกจากประตูหลังกลุ่มคนเพิ่งออกจากประตูหลัง เสียงของเรณุกาดังขึ้น
อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไป! รีบปิดประตูซะ!
ฝีเท้าของบุริศร์ชะงักไปเล็กน้อย เสียงที่คุ้นเคยเช่นนี้ ถึงแม้จะกลายเป็นเถ้าถ่านเขาก็ยังจำได้
“เป็นเธอจริงเหรอ? ”
“อืม”
ถึงแม้จะรู้ก่อนหน้านี้ว่าเรณุกายังมีชีวิตอยู่ แต่ในชั่วขณะที่ ได้ยินเสียงของเรณูกาเองกับหู บุริศร์ยังคงประหลาดใจอยู่บ้าง
นรมนเข้าใจความรู้สึกของเขา จึงบีบมือเขาแน่นและกล่าว ว่า “เธอไม่ใช่แม่ที่คุณรู้จักแล้ว หรือจะพูดให้ถูกก็คือ เธอไม่ เคยเป็นแม่ของคุณ หลายปีที่ผ่านมา คนที่เลี้ยงดูคุณคือป้าโอ คนที่ให้กำเนิดคุณคือป้าโอ เธอแค่เพียงต้องการควบคุมคุณกับ ตรินท์แค่นั้น”
“ผมเข้าใจแล้ว พวกเราไปเถอะ
แววตาของบริศ เศร้าสลด
เมื่อกลุ่มคนเดินมาตรงที่จอดรถกลับพบว่า รถของพวกเขาไม่ อยู่แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ