บทที่ 108 ในที่สุดเธอก็ได้กลับมาบ้านแล้ว
นั่นเป็นกำไลหยกสีเขียวมรกตชิ้นหนึ่ง เป็นตอนวันเกิด อายุครบยี่สิบของนรมน แม่นรมนเดินทางไปที่ยูนนานเพื่อ เลือกให้เธอด้วยตัวเอง ตอนที่เธอแต่งงานกลับบุริศร์ สิ่ง ของแต่งงานก็คือกำไลนี้
ในวันนี้ผ่านมาหลายปี แม่นรมน ได้เห็นกำไลหยกชิ้นนี้ อีกครั้งจะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงกันล่ะ? นั่นเป็นสิ่งที่นรมนไม่ เคยให้ห่างจากตัว!
ลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหน?” แม่นรมน จับไปที่ไหล่ของนรมนแน่นๆ น้ำตาจากดวงตา ตอนนี้ไหลไม่หยุดแล้ว ร่างกายของเธอค่อยๆ
ภายในใจของนรมนกำลังต่อสู้กันอย่างหนัก เธออยาก จริงๆที่จะบอกคนตรงหน้าเธอ ว่าเธอเป็นลูกสาวของเธอ!
แต่ดวงตาที่ดูรอคอยของบุริศร์และสายตาที่ดูสงสัยของ นั้นทำให้เธอมีสติกลับมา
พวกเขาไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว ผ่านความเจ็บปวดที่สูญเสีย ลูกสาวมาแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถทนรับการเกิดแก่เจ็บ ตายได้อีกครั้ง
นรมนทนความเจ็บปวดภายในใจได้ พูดเสียงเบา เธอ
กำลังรักษาบาดแผลอยู่ในที่ที่ปลอดภัย คุณน้า ฉันมาที่นี้
เพื่อมาบอกพวกคุณ เธอต้องกลับมาหาพวกคุณแน่นอน
แต่ก่อนที่เธอจะมาหาพวกคุณ ขอให้คุณอย่าไปเชื่อคนอื่นและก็อย่าไปที่อื่นๆ รอเธอกลับมา”
“เธอเป็นอะไรหรือ? นรมนของพวกเราเป็นอะไร?” น้ำตาของแม่นรมน กลั้นไม่ไหวและไหลลงมา น้ำตานั้น ตกลงมาที่หลังมือของนรมนร้อนอย่างมาก
นรมนสำลักในลำคอ พูดเสียงเบา “ไฟไหม้ครั้งนั้นทำให้ เธอเสียหน้าของเธอไปหมด เธอกำลังบำรุงและรักษา บาดแผลอยู่ คุณน้า บางทีตอนที่เธอกลับมาหน้าตาอาจ ไม่ใช่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่พวกคุณรู้จัก พวกคุณจะรับได้ ไหม?”
“นั่นคือลูกสาวของฉันนะ! ฉันอุ้มท้องลูกสาวมาสิบเดือน และคลอดออกมา! ทำไมฉันจะรับไม่ได้กัน? ถึงแม้ว่าก่อน หน้านี้พวกเราจะเข้าใจผิดและรู้สึกอึดอัดต่อกัน แต่บนโลก นี้จะมีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าการลาจากไปชั่วนิรันดร? ฉัน กับพ่อของเธออายุปูนนี้แล้ว ชีวิตนี้พวกเราจะอยู่ได้อีกกี่ปี? พวกเราแค่หวังว่าระหว่างที่มีชีวิตอยู่จะได้พบเธอ มองดูเธอ แค่นั้นพวกเราก็พอใจแล้ว”
แม่นรมน น้ำตาไหลจนไม่มีเสียง
ในใจของนรมนรู้สึกยากที่จะรับจนจะเป็นจะตาย
“ฉันมีรูปของเธออยู่บ้าง พวกคุณอยากดูไหม?”
ที่จริงนรมนไม่ได้คิดจะให้พ่อแม่เห็นหน้าที่น่ากลัวของตัว เอง แต่ถ้าตอนนี้ไม่สามารถโน้มน้าวพวกท่านได้ พวกท่าน คงจะไปจากเมืองชลธีแน่ ถูกคนหลอกใช้ อาจเป็นไปได้ มากว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดขึ้น
เธอไม่สามารถมองดูพ่อแม่เกิดเรื่องได้
เพียงแม่นรมน ได้ยิน ก็รีบดึงสติกลับมา
“ดูๆๆ ไม่ว่านรมนในแบบไหน พวกเราก็ต้องการดู!” ถึงแม้พ่อนรมน จะไม่ได้พูดอะไร แต่ดูท่าทางก็รีบร้อน
เช่นกัน
ความรักของพ่อเหมือนภูเขา!
แต่ก่อนนรมนรู้สึกมาตลอดว่าพ่อนรมนนั่นเข้มงวด จน รู้สึกว่าท่านเป็นคนไร้ความปราณี แต่ว่าหลังจากผ่านความ ตายมาถึงได้เข้าใจ ที่แท้ความรักของพ่อนั้นคงอยู่มาตลอด เพียงแต่วิธีการแสดงออกของท่านนั่นค่อนข้างหลบซ่อน ค่อนข้างเก็บไว้ลึกเท่านั้นเอง
นรมนพาแม่นรมนและพ่อนรมนกลับมาที่ตระกูลธนาศักดิ์
ธน
บุริศร์มองเห็นพวกเขาแบบนั้น ก็ก้าวเดินตามเข้าไปก็ได้ ยินพฤกษ์เดินมาอย่างเร็ว พูดเสียงเบา “ประธานบุริศร์ คน ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้รับข่าวมาและตอนนี้กำลังมา ที่นี้”
“พวกเขามาเพราะนรมนมา?”
“เหมือนจะใช่ครับ!”
สายตาของบุริศร์เย็นชาขึ้นอย่างมาก
“พ่อแม่ ที่บริษัทมีเรื่องด่วนผมต้องไปจัดการ ให้แคทเธอ รีอยู่คุยเป็นเพื่อนพวกท่านนะ เดี๋ยวผมค่อยกลับมารับเธอ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ พูดอะไร เดิมทีเธอก็ไม่อยากให้บุริศร์รู้เรื่องของตัวเองเมื่อ ห้าปีที่ผ่านมา
แม่นรมน ก็ชะงักไปเล็กน้อย
“ลูกไม่อยากรู้เรื่องของนรมนหรือไง? เรื่องในบริษัทรีบ ร้อนขนาดนั้น?”
คำพูดนี้แฝงไปด้วยการกล่างโทษเล็กน้อย
พ่อนรมน ยังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง
“เอาเถอะ เขาเป็นผู้นำของบริษัทอีกอย่างข่าวของนรมน เขาก็ไม่ใช่ไม่รู้ กลับไปแคทเธอรีก็คงบอกเขาเอง บุริศร์มี เรื่องก็รีบไปทำลูกวางใจพวกเราอยู่ที่นี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ขอบคุณพ่อครับ”
บุริศร์มองไปยังนรมนอย่างขอโทษ นรมนก็หันหลังให้ พฤกษ์อยากที่จะอธิบายบางอย่าง กลับถูกบุริศร์ห้ามไว้
“ไปเถอะ”
บุริศร์ไม่กล้าช้ากว่านี้
ยากนักที่นรมนจะได้อยู่ด้วยกันกับแม่นรมนพวกเขา นี่ยัง ไม่ได้พูดอะไรมาก หากว่าโดนคนของตระกูลทวีทรัพย์ ธาดามารบกวนเขาไม่มีทางยอม
บุริศร์หันหลังเดินออกไปดูรีบร้อนอยู่บ้าง นรมนไม่รู้ว่าแท้ที่จริงบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงทำให้เขารีบร้อนแบบนี้ แต่ในใจก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อย
เมื่อรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ นรมนก็ ค่อยๆขมวดคิ้วและเก็บซ่อนความผิดหวังนี้ไว้ จากนั้นก็ยิ้ม และพาแม่นรมนและพ่อนรมน เข้าไปในบ้าน
ในบ้านยังเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด รวมไปถึงรูปพวกเขา
สามคนที่ดูมีความสุขบนกำแพงก็ไม่ได้เปลี่ยนที่
ดวงตาของนรมนเริ่มชื้นขึ้นมาอีกครั้ง
เธออดไม่ได้ที่จะมองสถานที่ที่เธอเติบโตมา สายตาเต็ม ไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
แม่นรมนให้คนรับใช้ไปยกน้ำชามาให้
นรมนพูดขอบคุณและนั่งลงที่โซฟา
“คุณน้า นี้เป็นจดหมายที่นรมนเขียนให้พวกคุณ”
นรมนนำจดหมายในมือส่งให้แม่นรมน
พ่อนรมนรีบเข้ามาใกล้
ตอนที่พวกเขาเห็นตัวอักษรของนรมน คนชราทั้งสองคน
ก็ร้องไห้ออกมา
“เป็นนรมนเขียน เป็นเธอ!”
แม่นรมนเพียงแค่ร้องไห้
นรมนไม่ได้ไปรบกวนพวกเขา
นี้เป็นจดหมายที่เธอเพิ่งรีบเขียนตอนอยู่บนรถขึ้นมา ฉบับหนึ่ง เขียนความหลังเกี่ยวกับพ่อแม่กับความรู้สึกในห้าปีที่ผ่านมา และยังบอกพวกเขาว่าตัวเองมีลูกคนหนึ่งชื่อ กานต์ ลูกโตมาอย่างดี สุขภาพแข็งแรง ในช่วงนี้จะให้แคท เธอรีพามาให้พวกท่านดู
ตอนที่คนชราทั้งสองอ่านถึงตรงนี้ก็ดีใจจนบอกไม่ถูก
“พวกเรายังมีหลานชายด้วย! เธอเห็นหรือยัง? ภรรยา พวกเรามีหลานชายด้วย!”
พ่อนรมนรีบหันหน้ามาแต่ไม่ว่าอะไรก็หยุดให้ทั้งตัวสั่นไม่
ได้
ห้าปีที่ไม่ได้ข่าวคราว ตอนนี้ไม่เพียงได้รู้ข่าวว่าลูกสาว อยู่อย่างสุขสบาย ยังได้รู้ว่ามีหลานชายอีกคน พวกเขารอ ไม่ไหวที่จะได้เจอหลายชายของพวกเขา
“หลานชายของพวกเราตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
แม่นรมนมองนรมนอย่างรีบร้อน
นรมนยิ้มและพูด “ตอนนี้เขากำลังฝึกอบรบอยู่ที่สถานที่ แห่งหนึ่ง ช่วงระยะเวลาหนึ่งฉันจะพาเขากลับมา ฉันคิดว่า พวกท่านต้องชอบเขา”
“แน่นอน ชอบแน่นนอน”
แม่นรมนลูบจดหมายฉบับนั้น วางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจ ไม่พูดอะไร แต่นรมนมองออก อารมณ์ของแม่นรมน นั่นตื่น เต้นอย่างมาก
“คุณน้า ทุกอย่างจะเป็นในทางที่ดี คุณไม่ต้องตื่นเต้น เกินไป คุณต้องรักษาสุขภาพไว้ เดี๋ยวตอนที่ได้เจอนรมนคุณค่อยๆมาคุยกันกับเธอ”
“อืมๆ”
แม่นรมน พยักหน้า
ท่าทีของพ่อนรมน ที่มีต่อนรมนเปลี่ยนไปทันที
“แคทเธอรี หากเธอไม่มีธุระอะไร ก็กินข้าวเย็นที่นี้เถอะ ถึงแม้ห้องครัวของเราจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ว่าตั้งแต่เด็กจนโต นรมนชอบกินอาหารฝีมือแม่บ้านหลิวทำ ถ้าเธอไม่ รังเกียจ..
“ฉันไม่รังเกียจ!”
นรมนคิดถึงบ้านอย่างมาก
มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมาอย่างเปิดเผยแบบนี้
ตอนนี้พ่อแม่ก็อายุมากแล้ว เธอแค่อยากมาอยู่ดูแลพวก ท่านอยู่ข้างๆ ถึงแม้แค่วันเดียวก็ยังดี
พ่อนรมนคิดไม่ถึงว่าแคทเธอรีจะรีบร้อนแบบนั้น แต่ว่าดู จากที่เธอนำข่าวของนรมนมาก็ไม่ได้ไปอะไรมาก รีบให้แม่ บ้านหลิวไปเตรียมตัวทำอาหาร
สายตาของนรมนเริ่มชื่นขึ้นมาอีกครั้ง
นี่คือบ้านของเธอ!
อยู่นอกบ้านมาห้าปี ในที่สุดเธอก็ได้กลับบ้านแล้ว! “คุณน้า ฉันสามารถมาเยี่ยมคุณบ่อยๆได้ไหม?” นรมนรู้ว่าตัวเองเป็นเพียงคนแปลกหน้าขอร้องแบบนี้ค่อนข้างมากเกินไป แต่ว่าแม่นรมน กลับพูดอย่างไม่ว่า อะไร “ได้สิ”
สายตาของเธอในตอนนี้ที่มองนรมนต่างกับก่อนหน้านี้ โดยสิ้นเชิง
ได้ยินแม่นรมน พูดแบบนั้น นรมนถึงได้วางใจขึ้นมา
เธอนั่งอยู่ข้างๆแม่นรมน เปิดอัลบั้มในโทรศัพท์ เปิด รูปภาพตั้งแต่ตอนที่เริ่มตั้งท้องให้แม่นรมน ดู
“นี่ถ่ายตอนตั้งท้องได้สองเดือน ตอนนั้นอ้วกรุนแรงมาก จนกินอะไรไม่ได้ แต่ท้องกลับใหญ่มาก ไม่มีวิธีอื่นทำได้ เพียงต้องไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจ หมอบอกว่าเป็น ฝาแฝด”
นรมนพูดกับแม่นรมน อย่างมีความสุข
แม่นรมนมองดูนรมนในรูปภาพที่พันผ้าพันแผลทั่วหน้า ไม่ทันได้ฟังท้องฝาแฝดสามคำนี้ได้ชัดเจน เพียงแค่พูด อย่างเจ็บปวด “ใบหน้านี้….”
“จากตอนที่ไฟไหม้เหลือทิ้งไว้ ไม่เพียงแค่ใบหน้า ยังมี ร่างกายทั้งหมดก็ใช่ แต่ตอนนั้นท้องลูกอยู่ ไม่สามารถกิน ยาได้ ไม่สามารถฝังเข็มได้ ทำได้เพียงนั่งมองดูผิวของตัว เองเน่าเปื่อยไป จึงใช้ยาขับเพื่อลดการอักเสบ ตอนท้องจึง อ้วกรุนแรงมากแถมยังกลัวแสง ทุกวันต้องปิดผ้าม่าน รู้สึก เหมือนอยู่ในนรกแบบนั้น หากไม่ใช่เพราะว่าลูกๆคอยให้ กำลังใจ บางทีอาจจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”
พูดถึงเรื่องในตอนนั้น นรมนยังคงกลัวอยู่บ้าง
ปีนั่นผ่านอะไรมามากเหมือนกับเดินอยู่ในนรกแบบนั้น แม่นรมนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
“นรมนที่น่าสงสารของฉัน ทำไมตอนนั้นเด็กคนนั้นไม่รู้ จักโทรมาที่บ้านนะ? ให้พูดถึงฉันกับพ่อเธอจะโกรธเธอ ตอนนั้นก็ไม่มีทางไม่สนใจชีวิตของเธอนะ”
หลังจากที่นรมนเป็นแม่คนถึงได้รู้ แม่เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ ขนาดไหน
เธอตบที่หลังแม่นรมน เบาๆและพูด “คุณอย่าร้องไห้เลย หากเธอรู้ว่าคุณร้องไห้เพราะเธอมากขนาดนี้ เกรงว่าคงยิ่ง ปวดใจอย่างมาก เธอไม่มาหาพวกคุณ ไม่บอกพวกคุณก็ คงเพราะกลัวพวกคุณเสียใจก็เท่านั้น อีกอย่างตอนนั้นข่าว ลือเรื่องเธอก็ไม่ใช้ว่าดี”
นึกถึงข่าวลือนั้นบอกว่าเธอหนีไปกับผู้ชายคนอื่น ในใจ ของนรมนโกรธเป็นอย่างมาก
แม่นรมนส่ายหัวพูด “เด็กโง่คนนั้น เธอไม่รู้อะไรจริงๆ บุริ ศร์ไม่เคยเชื่อข่าวลือพวกนี้ ตอนที่ข่าวลือออกมาในวันที่ สอง เขาใช้ทุกวิธีเพื่อปิดสำนักข่าวแห่งนั้นไป ทั่วทั้งเมือง ชลธีก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงอีก บุริศร์หาที่อยู่ของนรมนอย่าง บ้าคลั่ง ทุกคนต่างพูดกันว่าเธอตายแล้ว มีเพียงบุริศร์ที่ไม่ เชื่อ เพื่อที่จะไปช่วยนรมนในสถานที่ไฟไหม้นั้น บุริศร์ เกือบจะตายอยู่ในนั้น ถึงแม้ตอนนี้จะดูปกติ แต่ตอนนั้น ปอดเกือบที่จะล้มเหลวไปแล้ว จากนั้นเขาก็ทรุดตัวอยู่ หลายวัน หุ้นของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดลดลงเขาก็ไม่สนใจ ฉันไปเคาะประตูเขาก็ไม่ยอมเจอ เพื่อนของเขามาพังประตูออก ฉันไม่กล้าที่จะเชื่อว่านั่นคือบุริศร์ที่ฉันรู้จัก”
“เธอรู้ไหม? เขาดื่มเหล้าอยู่กับความเศร้าเกือบสัปดาห์ ผอมไปจนดูไม่เหมือนเดิม เขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าห้อง ของพวกเขา ไม่อนุญาตให้ใครมาจับของของนรมน สายตาของเขาว่างเปล่าเหมือนไม่มีสติ เหมือนกับนรมน ตายไปแล้ว วิญญาณของเขาก็ตายไปด้วยแบบนั้น”
ฟังแม่นรมน พูดเรื่องพวกนี้ ใจของนรมนสั่นอย่างมาก
ที่พูดนี้คือบุริศร์จริงๆหรือ?
ชายที่ไม่ค่อยมีความรู้สึก ทำไมถึงเป็นแบบนี้เพราะเธอ?
ในตอนที่นรมนกำลังสั่นอยู่ อยู่ดีๆ โทรศัพท์ด้านข้าง โซฟาก็ดังขึ้น เสียงที่แสบแก้วหูทำให้นรมนตกใจขึ้นครั้ง หนึ่ง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ