แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 808 ช่างเป็นคนใจกล้าระมัดระวังจริงๆ เลยนะ



บทที่ 808 ช่างเป็นคนใจกล้าระมัดระวังจริงๆ เลยนะ

ความคิดของธรรคเหมือนกับบุริศร์

เขาจับคอเสื้อมินทร์เอาไว้ หิ้วเขาขึ้นมา

“ไม่พูดใช่ไหม? ฉันคิดว่านายเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวนายได้ นะ บางทีพวกแกสองพี่น้องอาจจะมีคำพูดมากมายอยากจะพูด กว่า ”

มินทรหดตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ยังคงกัดปากพูดขึ้น “ฉันไม่ รู้จริงๆ ว่าพวกนายอยากให้ฉันพูดอะไร ฉันยอมรับแล้วว่าพัสดุ ด่วนฉันเป็นคนส่ง พวกนายยังต้องการอะไรอีก?”

“นายเป็นคนส่งพัสดุด่วน แต่นายไม่รู้ว่าในนั้นมีของอะไรเห รอ?”

บริศ มองมินทร์ด้วยความเย็นชา ประโยคเดียวเปิดโปงคำ

โกหกของเขา

ดวงตามินทร์ล่องลอยอย่างสับสนวุ่นวายไปทั่ว ไม่กล้ามองบุรี

“ฉันลืมแล้วไม่ได้เหรอ? ความจํฉันไม่ดี”

“ไอ้เวร……
ธรรศ โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ได้ยินบุรีศร์พูดขึ้น “ช่างเถอะ ถามอะไรจากปากมันไม่ได้ เราไปกันดีกว่า

“ไป? ยอมมันแบบนี้เหรอ? แล้วถ้านรมนเจอของอะไรแปลกๆ อีกจะทํายังไง?”

เมื่อธรรศนึกถึงความเป็นไปได้หนึ่งก็โกรธจัด

บริศ เห็นว่าเมื่อมินทร์ได้ยินว่าจะปล่อยเขาไปก็แอบยิ้ม ก็ยิ้ม เยาะพูดขึ้น “เราระดมคมจำนวนมากมาหามินทร์แบบนี้ จากนั้น เราก็ปล่อยมันไปแบบนี้ ทำให้มันไม่บาดเจ็บอะไรเลย คุณว่าคน เบื้องหลังมันจะเชื่อไหมว่ามินทร์ไม่ได้บอกอะไรพวกเรา?”

ธรรคเข้าใจทันที

“ก็จริง”

เขาหัวเราะเยาะเย้ย แล้วโยนมินทร์ไว้ที่พื้นข้างๆ ทันที เห็นได้ชัดว่า มินทร์ก็ตอบสนองแล้วเช่นกัน “บริศร์ นายทําร้ายลับหลังเกินไปหรือเปล่า?”

“ไม่มีทางเลือก นี่เป็นการเลือกของนายเอง นายควรขอบคุณ ฉันที่วันนี้ค่อนข้างขี้เกียจ

บริศ พูดอย่างเย็นชา
“ไร้สาระ! นายไม่ได้ขี้เกียจ นายมัน……. ขณะที่มินทร์พูดถึงตรงนี้จู่ๆ ก็ชะงักไป

เขาพบว่าตัวเองไม่เก่งพอที่จะสู้กับบริศร์จริงๆ ดังนั้นจึงเงียบ ปากอย่างชาญฉลาด

บริศ เห็นว่าเขาเป็นแบบนี้ ก็รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรมินทร์ก็ไม่พูด

ดวงตาเขามีความเย็นยะเยือกผ่านไป

“ไปกันเถอะ”

บริศร์พูดจบก็เดินออกไปก่อน

ธรรสขมวดคิ้วเล็กน้อย และเดินตามออกไป

“เฮ้ นายตั้งใจจะปล่อยเบาะแสของมันไปจริงๆ เหรอ?” ธรรคไม่ค่อยยินยอม

บุริศร์หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน ไม่ได้จุดไฟ แต่เล่นในมือ

“ตอนนี้ไม่ว่ามันจะหลบหนี หรือว่าไปขอความช่วยเหลือจาก คนเบื้องหลังมัน ไม่ว่าจะวิธีไหน ก็จะพาเบาะแสมาให้เราได้ ถ้า ตอนนี้จับมันมาก็จะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด เป็นไปได้ว่าจะเสีย หมวกหนึ่งไป
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง” ธรรศถึงได้ตอบสนอง

และไม่ใช่ว่าเขาโง่ แค่เขารักษาความสงบเยือกเย็นแบบบุริศร์ ไม่ค่อยได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับนรมน

ราวกับไม่ค่อยพึงพอใจความสงบเยือกเย็นของบุริศร์ ธรรศจึง พูดอย่างเย็นชา “นายรักนรมนหรือเปล่าเนี่ย? ถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ คิดว่านายยังสงบเยือกเย็นได้แบบนี้!

บริศ เห็นธรรศจงใจทำเรื่องให้มันยากขึ้น จึงแค่ส่ายหน้ายก เท้าเดินไป

ราวกับไม่ค่อยพอใจกับการกระทำแบบนี้ของบุริศร์ ธรรคจึง เดินตามตลอดทาง ขณะที่ปากก็พูดไม่หยุด

“ฉันงง ผู้ชายอย่างนายทำไมนรมนถึงได้ตามนายอย่างสุดจิต สุดใจกันนะ? นายมีเสน่ห์อะไรกันแน่? ทำหน้ามืดมนทั้งวัน พูด แค่ไม่กี่ประโยค ยืนเย็นชา เหมือนกับรูปปั้น ถ้าฉันกลับมาเร็ว กว่านี้หน่อย ฉันจะต้องไม่ให้นรมนแต่งงานกับผู้ชายพูดน้อยเดา

ใจยากอย่างนาย”

ขณะที่ธรรศพูดก็พบว่าบุริศร์หยุดฝีเท้า มองเขาอย่างเย็นยะเยือก
“ทำไม? ฉันพูดผิดเหรอ? นายมีปัญหา?”

จู่ๆ บุริศร์ก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณอายุ สามสิบกว่าแล้วยังไม่มีใครต้องการ “ไม่มีใครต้องการ? เพราะฉันทำงานเสียเวลาวัยรุ่นต่างหาก

ฉันแค่.………..

“ไม่เอาหน่า คุณเป็นแบบนี้ ไม่มีงานก็หาแฟนไม่ได้หรอก นับ ประสาอะไรกับภรรยา

บริศ พูดจบก็หันตัวเดินไป

ธรรศถูกทำให้โกรธไม่น้อย พูดขึ้นอย่างอุ่นเคือง “นายรอ เดี่ยว นายพูดกับฉันให้รู้เรื่องนะ นายหมายความว่าไง?

ทั้งสองเดินตามกันออกไปอย่างครึกครื้น

มินทร์เห็นพวกเขาเป็นแบบนี้แล้ว ดวงตาก็หรี่ขึ้นมาอย่างอด

ไม่ได้

ทำไมพี่สาวเขาต้องอยู่ในคุก เขาต้องหลบซ่อนเหมือนหนูข้าม ถนน แต่พวกเขากลับใช้ชีวิตได้อย่างสง่างาม

ครั้งหนึ่งเขาเป็นลูกค้าประจำไนต์คลับ ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้เงิน เป็นเทน้ำเทท่า แต่ตอนนี้ทุกอย่างถูกบุริศร์ นรมนและเจตต์ ขัดจังหวะ
หลังจากพวกเขาออกไปได้ไม่นาน มินทร์ก็โทรหาคนคนหนึ่ง

“บุริศมาหาฉันทีนี่ นายส่งอะไรไปให้นรมนกันแน่?

“อะไรที่นายไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม แต่นายไร้ประโยชน์ จริงๆ ไม่คิดว่าจะถูกจับได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

อีกฝ่ายใช้เครื่องเปลี่ยนเสียง

มินทร์ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเลย แค่อีกฝ่ายสัญญาว่าจะให้ผล ประโยชน์กับเขา ทำให้เขาแก้แค้นแทนพี่สาวได้ เขาก็เลยก้มหัว ยอมอีกฝ่าย ตอนนี้ได้ยินอีกฝ่ายดูถูกตัวเอง มินทร์ก็ค่อนข้าง หงุดหงิด

“ทําไมไม่บอกว่าเป็นปัญหาของตัวเอง? ของที่นายส่งก็ควร บอกฉันล่วงหน้าว่าในนั้นมันคืออะไร ไม่งั้นฉันก็ไม่โป๊ะแตก หรอก”

“เดี๋ยวก่อน บุริศร์ไม่ได้ทำให้นายลำบากใจเหรอ?”

อีกฝ่ายถามทันที

มินทร์พูดอย่างภาคภูมิใจ “ฉันไม่ได้พูด มันจะทำอะไรฉันได้? “ไอ้โง่! ถ้าบุริศร์มันอยากรู้อะไรจากปากแก มันมีเป็นร้อยวิธี แต่มันไม่ทำอะไรแก แกไม่รู้เหรอว่าทำไม? แกยัง กล้าโทรหาฉันอีกนะ? ทำไมแกไม่ไปตายซะ!”

อีกฝ่ายพูดจบก็วางสาย

“เฮ้ๆ ๆ ……

มินทร์ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปฏิบัติกับตนแบบนี้ โกรธจนขว้าง โทรศัพท์ตกทันที

และทางด้านบุริศร์ก็ชะงักฝีเท้าทันทีที่มินทร์คุยโทรศัพท์ ทำ

ให้ธรรศตกตะลึง

“นายทำอะไร? คงไม่คิดจะเล่นงานฉันหรอกนะ?”

“คุณมันป่วย! และป่วยมากด้วย!

บริศร์ขึ้นรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบแล็บท็อปที่พกติดตัว ออกมา หลังจากเปิดมันอย่างรวดเร็ว ไฟสีแดงเป็นแถวก็กะพริบ

ธรรศจ้องมองทันที

“เซี่ย! ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าความอัจฉริยะของกานต์บ้านนาย ได้มาจากใคร ฉันนึกว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเรามีการกลาย พันธุ์ทางพันธุกรรม ที่แท้ก็อยู่ที่นาย

ได้ยินธรรศพูดแบบนี้ บุริศร์ก็ไม่ได้หยุดเลยสักนิด นิ้วเคาะอย่างรวดเร็ว ยิ้มเยาะขณะพูดขึ้น “ตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาของพวกคุณมีความกล้าเรื่องอวดเก่งเท่านั้นแหละ

“นั่นก็ดีกว่าไอ้คนถ่อยนักธุรกิจไร้ยางอายอย่างนายเยอะ เรา เรียกว่าคนซื่อสัตย์” “อืม อาสามผู้ซื่อสัตย์ หาที่อยู่ผู้ชักใยเบื้องหลังได้แล้ว ที่นี่

แหละ สวนAli Gardenตึกหมายเลขสาม

บริศ สิ้นสุดการค้นหาอย่างรวดเร็ว

ธรรคไม่หยุดเลยแม้แต่ครูเดียว โทรให้คนของตัวเองไปขัด ขวางทันที

“ไม่คิดว่าไอคิวมินทร์มันขนาดนี้

ธรรศพูดจบก็พบว่าบริศร์มองตัวเองอีกครั้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า แววตาค่อนข้างทําให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก

“นายมองฉันทําไม?”

“ไม่มีอะไร”

บริศร์เม้มปากวางคอมพิวเตอร์ไว้เบาะหลัง ยิ้มขณะพูดขึ้น “ไปดูกันหน่อยไหม?”

“ไปสิ”
ธรรคขึ้นรถ ทั้งสองไปที่สวนAli Gardenตึกหมายเลขสาม อย่างรวดเร็ว

“หัวหน้า มันหนีออกมาแล้ว ตอนเรามาถึงก็ว่างเปล่าแล้ว”

คนของธรรคพูดอย่างรู้สึกผิด

“ไอ้นี่มันระมัดระวังตัวขนาดนี้เลยเหรอ?”

“ถ้าไม่ระมัดระวังตัวไม่รู้ว่ามันตายไปกี่รอบแล้ว

บริศ เดินเข้าไป

เพราะอีกฝ่ายไปด้วยความรีบเร่ง ไม่มีเวลาจัดเก็บสิ่งของ หลายอย่าง

บุริศร์พบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังทานไม่หมดอยู่ในห้อง น้ำอุ่นยัง

ร้อนอยู่ภายในห้องนอน บุริศร์พบผมยาวหนึ่งเส้น

“เอาอันนี้กลับไปทดสอบ เดาว่าน่าจะเป็นของผู้อยู่เบื้องหลัง ค่าพูดบริศ ทําให้ธรรสขมวดคิ้ว

“เป็นผู้หญิงเหรอ?”

“ก็ไม่แน่ บางทีอาจจะเป็นผู้ชายแล้วใส่วิก เลยต้องตรวจสอบ”
ธรรศกลอกตาใส่บุริศร์ทันที

“นายพูดอะไรมีประโยชน์หน่อยได้ไหม?”

“นี่เป็นเบาะแสทั้งหมด ก่อนที่ผลจะออกมา ก็ยังไม่มีผลสรุป

บริศร์ดูรอบๆ ทั้งบ้าน ไม่พบสิ่งของมีค่ามาก เขาแค่ให้คน รวบรวมลายนิ้วมือและเส้นผมทั้งหมดกลับไปเปรียบเทียบ นอกจากนี้ก็สั่งให้คนสืบค้นอย่างระมัดระวังอีกครั้ง

ต้องบอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีฝีมือจริงๆ บางทีตั้งแต่แรกเขาไม่ ได้ตั้งใจปักหลักที่นี่ถาวร ดังนั้นสิ่งของมากมายเป็นของใช้แล้ว ทิ้ง ไม่มีแม้แต่เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือซักผ้าด้วยซ้ำ

“ตามหาเจ้าของที่นี่ แล้วถามเจ้าของบ้านนี้ว่าผู้เช่าห้องคือ ใคร?”

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ธรรศก็ถามเสียงทุ้ม “นายรู้ได้ไงว่าบ้าน

หลังนี้เป็นการเช่า?”

“ถ้านายอยากทําเรื่องทั่วๆ จะใช้บ้านตัวเองเป็นฐานไหม?” คำถามนี้ทำให้ธรรศพูดไม่ออกทันที

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าต่อหน้าบุริศร์ ตัวเองเหมือนคนโง่ ความ รู้สึกแบบนี้มันแย่มากจริงๆ
บริศร์ไม่สนว่าธรรศรู้สึกยังไง หลังจากตัวเองเดินไปมารอบๆ คนเดียว โพนี่ก็โทรศัพท์เข้ามา

“ผอ.โพนี่ เป็นยังไงบ้าง?

โพนี่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ

“บุริศร์ ฉันกับป้องวิจัยกันทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็แน่ใจแล้วว่า องค์ประกอบเลือดของนภดลมีปัจจัยในการฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย นรมน ยาอันล้ำค่าเหล่านั้น ในเมืองใต้ดินที่คุณให้นรมนก็มี บทบาทสำคัญเช่นกัน การตั้งท้องของนรมนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

บุริศร์ตกตะลึงทันที จากนั้นความเซอร์ไพรส์ก็เอ่อขึ้นมา

“ซึ่งหมายความว่า ต่อไปสุขภาพร่างกายนรมนจะไม่มีปัญหา เหรอ?”

“อย่างอื่นไม่กล้าพูด ทารกในครรภ์ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไร แม่ และเด็กจะไม่เกิดปัญหา และเรายังวิจัยองค์ประกอบของเลือด นภดลด้วย ในนั้นมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและเสริมสร้าง ความแข็งแกร่งโดยอัตโนมัติ และหมายความว่าเลือดไม่กี่หยด มีคุณค่ามาก คุณให้นรมนดื่มเป็นอาหารเสริมเลยก็ได้ ถึงพูด แบบนี้แล้วจะขยะแขยงมาก แต่มันไม่มีปัญหาจริงๆ เราได้ทำการ ทดลองมาแล้วเลือดเขาสามารถหลอมรวมได้กับทุกกรุ๊ปเลือด และไม่มีการตอบ สนองขับไล่

ได้ยินโพนี่พูดแบบนี้ บุริศร์ก็แทบร้องไห้ด้วยความดีใจ

สุขภาพร่างกายนรมนเป็นอุปสรรคยิ่งใหญ่ที่สุดในหัวใจเขา มาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่แต่งงานกับตน สุขภาพนรมนก็ไม่เคยดี เลย ตอนนี้ได้ยิน โพนี่พูดแบบนี้ นรมนอาจจะได้ฟื้นตัวและแข็ง แรงขึ้นมาได้ เขาก็ดีใจมากเป็นพิเศษ

“ขอบคุณพวกคุณมาก วันหลังจะเลี้ยงข้าวพวกคุณ”

“เลี้ยงข้าวพวกเราสายไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ ฉันคิดว่าพวกคุณ สองสามีภรรยาไปเลี้ยงข้าวนภดลได้ นี่เป็นความสามารถของ เขาทั้งนั้น ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์อามิลินของฉัน ถึงได้บอกว่านภดลเป็นคนทดลองยา แถมยังบอกอีกว่าเป็น บุคคลที่หาได้ยากในวงการแพทย์ ที่แท้เลือดของเขาก็มีคุณค่า มากแบบนี้ และคุ้มค่าในการวิจัย

คำพูดโพนี่ทำให้บริศร์นึกถึงคำพูดกานต์ทันที รเมศบอกว่านภดลเกิดเรื่องแล้ว

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนรมน หรือเด็กในท้องนรมน ก็เป็นสิ่งที่ นภดลมอบให้ทั้งหมด นภดลมีพระคุณกับเขาและนรมน ตอนนี้เขาเกิดเรื่องแล้ว ตัวเองไม่สนใจไม่ได้ ตอนนี้เบาะแสทางด้านมินทร์ก็คงพังทลายแล้ว คงไม่มี เบาะแสใหม่สักพักหนึ่ง บุริศร์ก็เกิดไอเดียขึ้นมาทันที

“ขอบคุณพวกคุณนะ ผอ.โพนี่ ทางฉันมีธุระนิดหน่อย เดี่ยว ค่อยคุยกัน”

“โอเคค่ะ”

หลังจากทั้งสองจบบทสนทนาทางโทรศัพท์ เมื่อบริศร์หันศีรษะ กลับไป ก็เห็นธรรศยืนด้านหลังเขา ทำให้บริศร์ตกใจสะดุ้ง

“อาสาม คุณมีนิสัยชอบแอบฟังคนอื่นเหรอ?”

“ฉันแค่ได้ยินชื่อนรมน อยากถามสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น? เธอเกิดเรื่องเหรอ?”

‘กยๆๆ!

ทันใดนั้นบุริศร์พ่นน้ำลายออกมาสามครั้ง จ้องมองธรรศแล้ว พูดขึ้น “คุณเป็นอาสามของนรมนหรือเปล่า? ทำไมอยากให้เธอ เกิดเรื่องจัง? คือโพนี่น่ะ ฉันตรวจสอบสาเหตุ ในการตั้งท้องของ นรมนมาตลอด กลัวว่าสุขภาพเธอจะทนไม่ไหว ตอนนี้แน่ใจแล้ว ว่าการตั้งท้องของนรมนเป็นเรื่องปกติ”
“ปกติเหรอ? สุขภาพร่างกายของเธอ……

“ไม่เป็นอะไรแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับไปคุยกับคุณ เรื่องทางนี้ให้ คุณจัดการนะ ฉันอยากออกไปกับนามนสักหน่อย ช่วงนี้ให้คุณดู แลเด็กๆ”

คําพูดบุรีศ ทําให้ธรรมตกตะลึงเล็กน้อย

“เธอท้องอยู่ นายจะพาเธอไปไหนอีก? อีกอย่างดูเหมือนว่า ตอนนี้มีคนแอบทำร้ายพวกนายอยู่ ทำไมนาย…….

“ฉันรู้ คุณไม่ต้องเป็นห่วงก็พอ”

บริศ ตบบ่าธรรศ ตอนที่จะออกไป จู่ๆ บอดี้การ์ดตัวเองก็ โทรศัพท์มา

“ประธานบริศร์ มินทร์ตายแล้วครับ

“ว่าไงนะ?”

คิ้วบริศ ขมวดขึ้นมาทันที

เพราะธรรคอยู่ค่อนข้างใกล้ จึงได้ยินชัดเจนมาก

“ช่างเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำ! เราคิดว่าตามหาที่อยู่ผู้ชักใย เบื้องหลังจากความถี่โทรศัพท์ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะฉวยโอกาส ตอนเรามาที่นี่จัดการฆ่าปิดปากมินทร์”

ค่าพูดธรรคทําให้ดวงตาบุริศร์ค่อนข้างมืดมน
“ช่างเป็นคนใจกล้าระมัดระวังจริงๆ เลยนะ!”

“ใช่ คนปกติไม่กล้าทําแบบนี้จริงๆ หรอก แต่ที่ฉันสงสัยคือ ฉันให้สองสามคนอยู่กับมินทร์ด้วย”

“ฉันก็เหมือนกัน”

บริศร์กับธรรศมองหน้ากัน รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าผู้ชักใยเบื้องหลัง คนนี้เก่งกาจมาก

“นรมนกับเด็กๆ ที่บ้านจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

“ฉันกลับก่อนนะ”

บริศ รีบออกจากบ้านมา ขับกลับคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโต เล็กอย่างรวดเร็ว

ภายนอกตระกูลโตเล็กดูเหมือนไม่มีปัญหาใดๆ

ในใจบริศ ไม่สบายใจ รีบเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เห็นเด็กๆ นั่งเล่น ในห้องรับแขก นาวินก็อยู่กับพวกเขา

“กานต์กับนรมนล่ะ?”

“คุณนายกับคุณชายกานต์อยู่ในห้องนอน ธิดาอยู่เป็นเพื่อน”

ได้ยินนาวินพูดแบบนี้ บุริศร์ก็ขึ้นชั้นบนทันที และเปิดประ ห้องนอนเป็นอันดับแรก

หน้าต่างห้องนอนเปิดอยู่ แต่ในห้องนอนไม่มีแม้แต่คนเดียว

ทันใดนั้นหัวใจบริศ เหมือนถูกใครบางคนจับเอาไว้แน่น

กานต์ล่ะ?

นรมนล่ะ?

ธิดาล่ะ?

บอกว่าอยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ? ทำไมในห้องไม่มีใคร?

ในขณะนี้ หัวใจบุริศร์ก็สับสนวุ่นวาย

มือเขาสั่นจนแทบมองไม่เห็น มันกำลังสั่น….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ