บทที่ 762 ฉันมีการคาดเดา
บุริศร์วิ่งขึ้นไปข้างบนเร็วกว่าเจตต์
เมื่อเขาเห็นนรมนนั่งอยู่บนโถส้วมในห้องน้ำ อดไม่ได้ที่จะรีบ เข้าไปหา
“เกิดอะไรขึ้น?”
“กระจก”
นรมนหอบหนัก
บริศร์มองไปทางกระจก บนกระจกมีลายมือสีเลือดเขียนไว้ว่า
อย่าเข้ามายุ่ง
เจตต์ที่วิ่งขึ้นมาเห็นฉากนี้เข้าพอดี
“ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาในบ้านตระกูลโตเล็กได้?”
คำพูดของเจตต์ถือได้ว่าเป็นเครื่องเตือนใจให้บริศร์
ตอนนี้เขาเป็นผู้ดูแลบ้านเก่าของตระกูลโตเล็ก และไม่ควรมีผู้ มาใหม่เข้ามา
“พ่อบ้าน นำทุกคนมาที่ห้องโถงใหญ่ข้างใน
เสียงของบริศ เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
เขาจะเป็นอย่างไรเขาไม่สน แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย สําหรับใครบางคนที่กล้าทำให้นรมนตกใจเช่นนี้
ตอนแรกนรมนรู้สึกตกใจ ตอนนี้เมื่อมองไปก็เห็นว่ามันถูก เขียนด้วยลิปสติกของตัวเอง เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นและลบสิ่งที่ เขียนบนกระจกอย่างรวดเร็ว
“คุณทําอะไร”
บริศร์รู้สึกงงงวยเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการของนรมน
นรมนกระซิบ “ฉันถ่ายรูปเอาไว้แล้ว รีบเช็ดมันออกเถอะ ถ้า ลูกๆมาเห็น จะตกใจเอาได้”
ขณะที่พูดคุย กมลและกิจจาก็ได้เดินเข้ามาแล้ว
“แด็ดดี้ หม่ามี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
กิจจามองไปที่นรมนด้วยความกังวล
“หม่าม เมื่อกี้ตะโกนอะไรคะ? เจอหนูเหรอ?”
กมลขยี้ตาตัวเองอย่างงัวเงีย
เด็กๆอยู่ตรงนี้ บุริศร์ไม่กล้าพูดอะไร
นรมนยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หม่ามีเห็นแมลงสาบ เลยให้แด๊ดดี้มาตีมันให้ตาย
ใบหน้าของเธอซีด แต่เธอก็ยังยิ้มอย่างสดใส
“หม่ามีไม่เก่งเลย แค่แมลงสาบจะไปกลัวอะไรคะ? หนูเองก็ฆ่า มันตายได้”
กมลทำท่าทางแข็งแรงเป็นพิเศษ
“กมลหนูเก่งที่สุดเลยลูก กิจจากพาน้องออกไปเล่นข้างนอก ไหม? แต๊ดดี้กับอาเจตต์จะจัดการห้องน้ำกัน
นรมนูพูดกับกิจจาด้วยรอยยิ้ม
กิจจาขมวดคิ้วและมองไปที่นรมน มั่นใจว่านรมนไม่เป็นอะไร จากนั้นจึงพยักหน้าและพากมลออกไป
เมื่อเขาเดินไปถึงประตู เขาก็หันหน้ามาและพูดเสียงต่ำ “หม่า มี้ พวกเขามารวมตัวกันที่โถง ใหญ่แล้วครับ”
คำพูดเหล่านี้ทำให้นรมนรู้สึกได้ทันทีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัว เองพูดไม่สามารถหลีกเร้นซ่อนกิจจาไว้ได้
“โอเคค่ะ ขอบใจนะกิจจา
ใบหน้าของบริศร์ดูไม่ค่อยสู้ดี
พวกเขาลงไปข้างล่าง มองไปยังเหล่าคนรับใช้ บริศร์ใช้น้ำ เสียงเยือกเย็นถาม “ทุกคนอยู่ที่นี่หรือยัง?”
“ยกเว้นเฉียง ครับ เฉียงออกไปซื้อเครื่องมือกำจัดวัชพืช ยัง ไม่กลับมา ส่วนคนอื่นอยู่ที่นี่แล้ว
นรมนได้ยินพ่อบ้านพูดอย่างนี้ เธอจึงเอากระดาษ A4 กอง หนึ่งส่งให้พวกเขา ก่อนพูด “ทุกคนเขียนลงไปในกระดาษคำว่า อย่าเข้ามายุ่ง ค่นี้ มารับไป จงใจเขียนไม่สวย ฉันจะลงโทษ อย่างหนัก
เมื่อนรมนพูด ก็รู้สึกเกิดความไม่ชอบใจ บุริศร์และเจตต์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองเหล่าคนรับใช้น้ำปากเขียนลงไปบน กระดาษ
ใช้เวลาไม่นาน ไม่กี่คำนี้ก็ถูกเขียนจนเสร็จ
นรมนมองคำที่คนเหล่านี้เขียนพร้อมทั้งเปรียบเทียบกับ ข้อความบนกระจกว่าเข้ากันหรือไม่
“เฉียงจะกลับมาตอนไหน? พวกเธอออกไปหาเขา หรือไม่ก็ โทรศัพท์ให้เขากลับมา
ในขณะที่พูดอยู่ พ่อบ้านก็รีบพูดขึ้นมา “คุณนายเฉียงกลับมา แล้วครับ”
“ให้เขามาเขียนคำนี้
การกระทำของนรมนทำให้ทุกคนเกิดความสงสัย แต่นรมนก็ ไม่ได้อธิบายเช่นกัน
เฉียงถูกนำเข้ามา
เขามองดูแล้วเป็นชายหนุ่มที่ซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก
เขาเขียนคำทั้งสี่นี้ตามที่นรมนสั่งการ
นรมนมอง แต่ก็ยังไม่เหมือน
“เป็นยังไงบ้าง?”
นรมนส่ายหน้าให้บริศร์
“พวกเธอลงไปข้างล่างเถอะ มีอะไรก็ไปทำ
บริศ ปล่อยพวกเขาไป
“นี่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ นอกจาก เหตุสุดวิสัยของคนในบ้าน ก็ไม่สามารถมีคนเข้ามาได้ คุณก็รู้ พวกเราตระกูลโตเล็กไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา ยิ่งไปกว่านี้บอดี้ การ์ดของพวกเราก็ถูกคัดมาอย่างเป็นพิเศษ เป็นไปไม่ได้ที่คน ธรรมดาจะเข้ามาในห้องนอนพวกเรา แต่ตอนนี้ลายมือดังกล่าว ปรากฏในห้องนอนของเรา แสดงว่าอีกฝ่ายอยู่ในบ้านของเรา แต่ว่าตอนนี้ก็ดูทุกคนหมดแล้ว มันจะไม่มีได้อย่างไรกัน
นรมนวิเคราะห์ แต่กลับวิเคราะห์ไม่ออก
ใบหน้าของบริศร์และเจตต์ก็ดูเคร่งขรึมเช่นกัน
“ขอโทษนะ ที่ต้องให้คุณเข้ามาพัวพัน
“พัวพันอะไรกัน? ฉันจู่ๆกลับรู้สึกคล้ายกับว่าตระกูลโตเล็กมัก จะจัดการไม่สะอาดเรียบร้อย
คําพูดของนรมนทำให้บริศร์รู้สึกหดหูเล็กน้อย นี่คือปัญหาที่เขาเพิ่งนึกถึง
ถ้าหากเป็นข้างในของตระกูลโตเล็กมีคนทรยศจริง เขากลัว เหลือเกินว่านรมนกับเด็กๆจะเกิดอันตราย
“เรื่องของวันนี้ผมจะไปสืบ นรมน เจตต์ พวกคุณไม่ต้องสน หรอก ครั้งนี้ ถ้าตระกูลโตเล็กไม่ตรวจสอบให้มันละเอียด ผมบุรี ศร์ก็ไม่ต้องทำมันแล้ว
บริศ พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปห้องนั่งเล่น
ที่จริงนรมนอยากจะพูดว่าเธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่
ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางของบุริศร์แล้ว เขาคงฟังไม่เข้าใจคำ อธิบายของเธอ “ไม่ตามไปหรือ? ไม่กลัวผู้ชายโง่คนนั้นทำเรื่องอะไรเกินกว่า
เหตุหรือไง?”
เจตต์กอดอกมองไปทางนรมน
นรมนส่ายหัวก่อนพูด “บุริศร์ไม่ใช่คนอ่อนแอ เขาต้องการ สะสางตระกูลโตเล็กให้สะอาดฉันก็สนับสนุน จะไม่ปิดบังคุณก็ แล้วกัน ฉันมักรู้สึกว่าคุณนายตระกูลโตเล็กเรณุกา คล้ายกับยัง อยู่ในบ้าน ความรู้สึกนั้นทำให้ฉันรู้สึกขนลุกอยู่เสมอ ความรู้สึก นั้นทำให้ฉันรู้สึกขนลุกอยู่เสมอ เมื่อฉันพักผ่อนก็มักจะรู้สึกได้ถึง สายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาที่ฉัน ความรู้สึกแบบนั้นที่ฉันไม่ สามารถพูดคุยกับบริศร์ได้ แต่มันมีอยู่จริง
เมื่อได้ยินคำพูดของนรมน เจตต์ก็ขมวดคิ้วแน่น
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ ทำไมไม่พูดกับเขา? ถ้าหากเขาไม่อยู่บ้าน แล้วเกิดอะไรกับเธอ จะทำอย่างไร? เธอจำครั้งสุดท้ายไม่ได้เห รอ?”
เมื่อเทียบกับความวิตกกังวลของเจตต์ นรมนสงบกว่าเขาเยอะ
“ไม่เป็นไร ฉันรู้สภาพตัวเองดี เจตต์ ฉันมีความรู้สึกว่าเรณุกา ยังมีชีวิตอยู่”
“อะไรนะ? แต่ตอนนั้นธรณีกับธรรคเห็นกับตาว่าเธอถูกระเบิด ตาย”
“แล้วมีคนเห็นศพของเธอไหม?”
คำถามของนรมนทำให้เจตต์ส่ายหน้า
“รถถูกระเบิดไม่เห็นลางเค้าเดิม ใครจะไปสนศพกันละ จะว่า ไปอีกตอนนั้นบุริศร์ก็มัวแต่เร่งหาเธอ สองพี่น้องตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาต่างก็ตกใจ ดังนั้น…….
“ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นศพของคุณนายตระกูลโตเล็กเรณุกา ใช้ ไหม? ดังนั้นที่ฉันพูดว่าเธอมีชีวิตอยู่ก็อาจจะเป็นไปได้!
น้ำเสียงของนรมนแฝงด้วยความหมายลึกล้ำ
เรณุกาสําหรับนรมนนั้น เงามืดในหัวใจนั้นช่างใหญ่เหลือเกิน
เธอกลายเป็นใบ้เธอเกือบตายที่นี่ คุณนายตระกูลโตเล็กเรณู กามอบให้เธอทั้งนั้น
ตอนนี้แม้ยืนอยู่ในห้องโถงนี้ เธอยังจำทุกสิ่งที่เรณุกาทำกับ
เธอได้
เมื่อเจตต์เห็นท่าทางนรมน เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ถ้าหาก เธอยังไม่ตายจริง ไม่แน่อาจจะทำให้เธอลำบากอีกได้ ทางที่ดี เธอควรไปบอกบุริศร์”
“เดี๋ยวก่อนเจตต์ ถ้าหากเรณุกายังไม่ตาย เธออยู่ในบ้านโต เล็กรอทำร้ายตอนฉันมา ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กลัว ฉันแค่ไม่รู้ว่าเธอไปซ่อนอยู่ที่ไหน มันจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของแม่คุณ หรือเปล่า”
เมื่อได้ยินคําพูดของนรมน สายตาของเจตต์ก็มืดครึ้มลงมาก “ถ้าเธอมีส่วนกับเรื่องที่แม่ฉันหายไปจริงๆ ฉันไม่ปล่อยเธอไป
แน่”
“ฉันแค่คาดเดา อาจจะไม่ใช่อย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีเงื่อนงำ
อะไร”
นรมนจิบน้ำอุ่น กดความตกใจ
เธอมองไปที่ห้องโถงใหญ่ มักรู้สึกว่ามันมืดมนอยู่เสมอ ความ รู้สึกนี้ทำให้เธอทักทายหาเทพเจ้าของบุริศร์
“บุริศร์ไปไหนแล้ว?”
“สามีเธอแต่มาถามฉัน? จะไปรู้ได้ไง? จริงสิ ไม่ใช่ว่าพวกเธอ เชิญฉันทานข้าวเย็นหรือ?”
เจตต์ลูบท้องของเขาและพูด
นรมนสายหัว และขอให้พ่อบ้านจัดเตรียมคนทําอาหาร ใน ขณะที่ตัวเองไปหาบุริศร์
“เฮ้ เธอไปหาบุริศร์ แล้วฉันละ?”
“อยู่คนเดียวไปสิ”
นรมนไม่ได้ปฏิบัติกับเจตต์ราวคนนอก ก่อนจะเดินออกไป
มีห้องเก็บไวน์อยู่นอกบ้านเก่าของตระกูลโตเล็ก บุริศร์กำลัง จะเข้าไปที่ประตูห้องเก็บไวน์ แต่นรมนเรียกหยุดไว้ก่อน
“คุณออกมาทำไม? ผมบอกแล้ว เรื่องนี้ผมจะหาเอง คุณไปอยู่ เป็นเพื่อนเจตต์เถอะ ข้างนอกอากาศมันหนาว ใส่เสื้อน้อยชิ้น ขนาดนี้ ไม่กลัวเป็นหวัดหรือ?”
บุริศร์ต่อว่าพลางถอดเสื้อนอกของตัวเองออก ก่อนวางไว้บน ไหล่ของนรมน
นรมนยิ้มก่อนพูดว่า “ฉันจำเรื่องนี้ไม่ได้ พวกเรากลับเข้าข้าง ในก่อนเถอะ อย่างไรเจตต์ก็เป็นแขกของเรา อยู่ทานข้าวเย็นกับ เราวันนี้ เมื่อกี้ก็ไม่มีมารยาทพอสมควรแล้ว ครั้งนี้เจ้าบ้านยังไม่ อยู่อีก คนอื่นจะเอาไปนินทาได้นะ”
“ใครกล้านินทา? ผมจะไปดึงลิ้นมันออก”
บริศ พูดอย่างเดือดดาล
ทันใดนั้นนรมนก็ยิ้มและพูดว่า “ทำไมตอนนี้คุณถึงโหดร้าย ขนาดนี้กันละคะ? ฉันตกใจกลัวหมดแล้ว”
“กลัวเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ข้างกายผมไม่ไปไหน พูดตาม ตรง นอกจากเรื่องวันนี้แล้ว ผมกลัวจริงๆนะนรมน ฟังผม กินข้าว เสร็จคุณกับเด็กเตรียมย้ายไปอยู่บ้านพักตากอากาศที่อื่นก่อน อย่างน้อยก็มีพวกธิดา อยู่กับคุณที่นั่น เมื่อผมจัดการเรื่องของ ตระกูลโตเล็กเสร็จแล้ว ผมจะไปรับคุณอีกครั้ง”
บริศ กลัวจริงๆ
เขากอดนรมนไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับ
บรมน
นรมนรู้ถึงความกังวลบุริศร์
เธอกระซิบ “ฉันอยากกลับไปบ้านทวีทรัพย์ธาดาสักสองสาม
วัน”
“ทําไม?”
บุริศร์ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของนรมนเท่าไหร่
นรมนพูดเสียงต่ำ “ฉันคาดเดาว่าเรณุกายังมีชีวิตอยู่ หาก การคาดเดานี้เป็นจริง นับประสาอะไรกับบ้านเก่าของตระกูลโต เล็ก แม้ว่าจะเป็นบ้านพักตากอากาศ เธอก็อาจจะจัดการให้มีคน อยู่ที่นั่น สถานที่เดียวที่จะทำให้ฉันสบายใจคือบ้านทวีทรัพย์ ธาดา ที่นั่นยังมีอาสามและอาเล็กอยู่ด้วย แม้เรณูกาจะยังมีชีวิต อยู่ ก็คงไม่กล้ายื่นมือเข้ามาที่บ้านทวีทรัพย์ธาดา บอกตามตรง นะบุริศร์ ฉันกลัวเล็กน้อย เงามืดในใจเธอที่มีต่อฉันมันใหญ่มาก สิ่งที่กังวลยิ่งกว่าคือเด็กๆ คราวที่แล้วก็ทำร้ายกมล ครั้งนี้ฉันไม่ ต้องการให้เธอมาทำร้ายลูกๆของเรา”
เมื่อเธอพูดสิ่งเหล่านี้ ของเหลวอุ่นคลออยู่ในดวงตาของนรมน แต่เธอก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะอดกลั้นมันไว้
หัวใจของบุริศราวกับอยู่ในกระทะเดือด มันทรมานทุกข์ใจ ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ลูกๆ ที่เขารักมากที่สุด แต่กลับไม่มีวิธีการป้องกันความปลอดภัยของพวกเขา เขาล้มเหลวทั้งหน้าที่ พ่อและสามี
“โอเค ทานข้าวเสร็จ ผมจะไปส่งคุณ
ท่านก่อน”
จะโทรไปหาคุณอา
ผมจะ
เมื่อพูดอย่างนั้น บริศร์จึงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา และโทรออก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ