แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 741 ใครกันที่โหดเหี้ยมเช่นนี้



บทที่ 741 ใครกันที่โหดเหี้ยมเช่นนี้

“ไม่นะ! เจตต์ ไม่นะ!”

นิตาไม่เคยเกลียดตนเองที่ไร้ความสามารถอย่างในวินาทีนี้ มาก่อนเลย

ถ้าตนเองมีความสามารถมากกว่านี้ ไม่อ่อนแออย่างนี้ ก็จะไม่ กลายเป็นจุดอ่อนของเจตต์แล้วใช่ไหม?

ถ้าไม่มีตนเอง เจตต์ก็จะรับมือกับคนพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเจอกับความเลวร้ายอย่างนี้

แต่ตอนนี้ เจตต์ต้องอดทนต่อการทรมานของพวกเขา ไม่ โต้ตอบเลยสักนิด แล้วยังมองตนเองด้วยสายตาที่อ่อนโยน อ่อน โยนซะจนทำให้นิตาน้ำตาร่วง

“อย่าร้อง นิตา อย่าร้อง

เจตต์ยังคงมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน

นิตาร้องไห้จนหายใจไม่ทัน มองเจตต์ที่ล้มลงไปในกองเลือด

นอนขดตัวอยู่บนพื้น

“พอแล้ว! พอได้แล้ว! ถ้าไม่หยุดเขาต้องตายแน่ๆ! หยุด! พวก นายหยุดให้หมด!”

นิตากำลังดิ้นรน ถึงกับกัดข้อมือของผู้ชายไปอย่างแรง ไม่ สนใจมีดที่กรีดใบหน้าของตนเองเลยสักนิด ความรู้สึกแสบร้อนผ่าวๆตามมาด้วยของเหลวอื่นๆ ที่ซานกระเซ็นออกมา เธอโขกหัวเข้าไปที่ผู้ชายทันที

ฝ่ายชายรู้สึกเพียงแค่ด้านหน้าเปล่งประกายแสงสีทองออกมา ทั้งร่างยืนได้ไม่ค่อยมั่นคง

เขาไม่เข้าใจเลยว่า หัวของผู้หญิงคนหนึ่งทำไมถึงได้แข็ง

ขนาดนี้?

นิตาหลุดพ้นจากการจับตัวของผู้ชายคนนั้น ก้มตัวลงไปหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาเป็นอย่างแรก รีบโทรไปแจ้งตำรวจ

“รีบมานะคะ พวกเราอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินถนนห้วยแก มี คนโดนทําร้ายค่ะ

นิตาร่ำไห้ตะโกนออกมา เสียงดังก้องไปทั่วทั้งลานจอดรถชั้น

ใต้ดิน

คนพวกนั้นกำลังลงมือด้วยความฮึกเหิม เมื่อได้ยินนิตาแจ้ง ตำรวจ ก็รีบหยุดมือทันที มองนิตา ราวกับอยากจะจับเธอกิน

ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาจับตัวนิตาไว้แล้ว รามออกมาอย่าง

“มองอะไรกัน? ยังไม่รีบหนีอีก!”

“แต่นั่ง…..…….

“คนข้างบนสั่งไว้แล้ว อยากได้แค่ชีวิตของผู้ชายเท่านั้น อย่า แตะต้องผู้หญิงคนนี้ รีบไป” ผู้ชายคนนั้นพูดจบก็ออกตัววิ่งไปก่อน

นิตาวิ่งไปที่ข้างกายของเจตต์ราวกับเสียสติ กำลังมองเจตต์ที่ เลือดท่วม ร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง

“เจตต์ คุณเป็นยังไงบ้าง? คุณอย่าทำให้ฉันตกใจสิ เจตต์!”

เธอเพิ่งรู้สึกตัว ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจตต์เข้ามาอยู่ในหัวใจ

ของเธอแล้ว

บางทีอาจจะเป็นในครั้งแรกที่เจตต์ขวางคนของชนกเอาไว้ หรือบางทีอาจจะเป็นก่อนหน้านั้น

นิตาไม่เคยครุ่นคิดมาก่อนเลย เพียงแค่รู้สึกว่าตอนนี้ปวดใจ จนจะหายใจไม่ได้อยู่แล้ว

เจตต์รู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งร่าง

ตัวเขาเองรู้สึกได้ว่า ซี่โครงของเขาหักแล้ว แต่หักไปท่อนนั้น

ไม่ชัดเจน ส่วนปอดของเขาก็อาการสาหัส

คนพวกนี้ลงมือได้โหดเหี้ยมจริงๆ เตะเข้ามาที่ตำแหน่งสำคัญ ของเขา ถ้าไม่ใช่ว่าตนเองเคยได้รับการฝึกมาก่อน ตอนนี้กลัวว่า คงจะเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วจริงๆ

แต่เขาก็มองออก ว่าคนพวกนั้นอยากให้เขาตายจริงๆ

เจตต์กำลังมองนิตาที่น้ำตาไหลพราก ยังมีท่าทางเฉลียว ฉลาดเฉียบขาดตามปกติอีกที่ไหน?

เขาจึงรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันที
ที่แท้การโดนคนๆหนึ่งเป็นห่วง ความรู้สึกที่โดนคนๆหนึ่งให้ ความสำคัญมันดีเช่นนี้เอง แม้ว่าแค่หายใจก็จะทรมานไปทั้ง ร่างกายแล้ว แต่กลับยังสุขใจมาก

เขาจับมือของนิตาเอาไว้ พูดอย่างอ่อนแรง: “เรียกรถพยาบาล นิตา อย่าร้องนะ ผมไม่เป็นไร

นิตายิ่งร้องไห้เสียใจ แต่ทว่ายังหยิบมือถือขึ้นมา โทรไปหา 120 ในทันที

เพียงครู่เดียวรถพยาบาลก็มาแล้ว

นิตากำลังมองหมอกับพยาบาลยกเจตต์ขึ้นรถ แล้วรีบตามไป

โรงพยาบาล เจตต์โดนส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

นิตาตัวคนเดียวก็เหมือนกับไม่มีที่พึ่ง ไม่รู้ว่าตนเองควรทำ

อย่างไรต่อไป

เธอไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน เธอควรทำอย่างไรดี

ล่ะ?

ท่ามกลางความกระวนกระวายของนิตา จู่ๆก็นึกถึงนรมนขึ้น

เธอจึงรีบหยิบมือถือ ส่งข้อความไปหานรมน

“ประธานนรมนคะ เกิดเรื่องกับเจตต์แล้ว รบกวนคุณ ให้ฉัน เบิกเงินล่วงหน้าหน่อยได้ไหมคะ? ”
นรมนกับบุริศร์ทางด้านนี้เพิ่งจะเรียบร้อยจากการทำพิธีฝังป้า โอ แม้อารมณ์ของบุริศร์จะยังคงหม่นหมองมาก แต่ทว่าเขาก็ ปล่อยวางได้แล้ว

สิ่งที่ทำเพื่อป้าโอได้ เขาได้ทำทั้งหมดแล้ว ก็ถือเป็นหน้าที่ที่ ต้องทำอย่างเต็มที่

ป้องกำลังพากานต์ออกไปเดินเล่น

ตอนที่ได้รับวีแชทของนิตา นรมนซะงักงัน ตอนที่เธอได้อ่าน ข้อความในวีแชททั้งหมดแล้ว ก็เครียดขึ้นมาทันที

“เป็นอะไรไป?”

บริศ เห็นสีหน้าของนรมนเปลี่ยนไป จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น นรมนรีบพูดขึ้น: “เกิดเรื่องกับเจตต์แล้ว นิตาขอเบิกเงินล่วง

หน้ากับฉัน ปกติแล้วนิตาไม่เคยขอเบิกเงินล่วงหน้าเลย

“ความหมายของคุณคือเราต้องไปหาใช่ไหม?”

“อั้ม เจตต์เป็นเพื่อนของเรา แล้วก็เพราะเรื่องของฉันเขาถึงได้ ข้ามน้ำข้ามทะเลมา ตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว ฉันไม่สนใจไม่ได้ บุริ

“ผมไม่ได้บอกว่าไม่สนใจ คุณเห็นผมเป็นคนอย่างนี้เหรอ?” บริศร์ลูบๆหัวของนรมน กำลังพูดติดตลกมองเธอ

“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้ ฉันแค่จะบอก โธ่ คุณก็รู้อยู่แล้ว”
นรมนรู้สึกว่าบุริศร์ตั้งใจแน่ๆ

บริศร์หัวเราะเบาๆพูดขึ้น: โอนเงินไปให้เธอก่อน ตอนนี้น่าจะ ต้องการใช้เงินจริงๆ เรานั่งเครื่องบินไปก็หนึ่งชั่วโมงแล้วกว่าจะ ถึง ถ้าไม่ทันขึ้นมาล่ะ?”

“อื้ม ฉันจะโอนเงินไปให้เธอก่อน

นรมนรีบส่งข้อความกลับไปหานิตา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจตต์? ต้องใช้เงินเท่าไหร่? นิตาเห็นข้อความของนรมน ก็ตื้นตันจนน้ำตาร่วงลงมาอีกครั้ง

เธอตอบกลับ: “เรื่องมันยาวค่ะ เจตต์กับฉันโดนคนแปลกหน้า รุมเข้ามาโจมตี เขาไม่ยอมตอบโต้เพื่อช่วยฉัน โดนทำร้ายจน ต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันเห็นอาการของเขาค่อนข้างสาหัส ตอนนี้ อยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลหัวเฉียว ประธานกรมน ขอโทษด้วยค่ะ ขอโทษจริงๆ”

“ยัยบอ เธอจะขอโทษฉันทำไม ที่เจตต์ช่วยเธอเป็นความ สมัครใจของเขาเอง ฉันว่าไม่มีใครบังคับเขาหรอกใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นนิตา อย่าพูดว่าขอโทษกับฉัน แล้วเธอก็ไม่ต้องขอโทษใคร ทั้งนั้น ฟังฉันนะ ฉันจะโอนเงินไปให้เธอก่อนหนึ่งแสน ส่วนฉันกับ บุริศร์กำลังตามไป มีเรื่องอะไรเราเจอกันแล้วค่อยว่ากันอีกที”

หลังจากนรมนตอบข้อความเสร็จ จึงรีบเงยหน้าอยากจะพูด อะไรกับบุริศร์ ก็เห็นบุริศร์เดินไปที่รถแล้ว

“รีบขึ้นรถ ตอนนี้เรายังกลับไปเก็บของทัน ผมจองเที่ยวบินที่เร็วที่สุดบนมือถือแล้ว ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่เครื่องจะ ออก เราต้องรีบกันหน่อย

ได้ยินบุรีศร์พูดอย่างนี้ นรมนก็ซาบซึ้งใจ

“บุรีศร์ มีคุณอยู่ด้วยมันดีจริงๆเลย

“ยัยตัวเล็ก เดินมาเร็วๆ

แม้บุริศร์จะพูดอย่างนี้ แต่มุมปากกลับมีรอยยิ้มออกมา ท่าทางอารมณ์ดีอย่างชัดเจน

ทั้งสองคนกลับมาถึงบ้านพักอย่างรวดเร็ว ตอนที่เก็บของ บุรี ศร์ได้โทรหาป้อง ให้เขาดูแลกานต์ดีๆ ในเวลาเดียวกันก็ให้ กานต์ค้นหากล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถด้วย

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว บุริศร์จึงขับรถพานรมน ไปสนามบิน หลังจากชั่วโมงกว่าๆผ่านไปก็ถึงสถานที่ที่นตาบอก

เอาไว้

“เป็นยังไงบ้าง? เจตต์ออกมาหรือยัง?”

แค่นรมนเอ่ยปาก นิตาก็ตกตะลึงขึ้นมาทันที

“ประธานนรมน เสียงของคุณดีขึ้นแล้ว?”

“ตอนนี้เรื่องนี้ไม่สำคัญ เจตต์เป็นยังไงบ้าง?

คำพูดของนรมนทำให้นิตาได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว

“ใช่ๆๆ เจตต์โดนเข็นเข้าไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ยังไม่ออกมา

เลยค่ะ ฉันแค่เห็นถุงเลือดที่ส่งเข้าไปข้างใน ประธานนรมน เขา
“ไม่เป็นไร!”

นโมนตัดบทคําพูดของนิตาทันที

เจตต์จะไม่เป็นไร? !

ไม่เป็นอะไรแน่นอน

ร่างของเธอสั่นไหวเล็กน้อย

บุริศร์เดินเข้ามาใกล้ๆ โอบไหล่ของเธอไว้แน่นๆ พูดเบาๆ “วางใจเถอะ เจ้าหนุ่มนั่นแข็งแรงบึกบึน ถ้าเป็นแค่กําปั้นกับลูก เตะที่ไร้เดียงสา คงจะไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก เต็มที่ก็แค่ ซี่โครงหัก คุณรู้อยู่แล้ว เขาเคยได้รับการฝึกฝนมานะ”

ได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ นิตาก็พูดขึ้นมาทันที “คนพวกนั้น ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ฉันเห็นเลือดเต็มตัวเขาเลย ฉัน…….

“เลือดเต็มตัวหมายความว่าไง?

นรมนรีบถามขึ้น

“ไม่รู้ค่ะ ก็เห็นแค่เตะๆต่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมบนตัวของเจตต์ ถึงเต็มไปด้วยเลือด

นิตาพูดๆอยู่ก็ร้องไห้อีกแล้ว

“ต้องโทษฉัน เป็นความผิดฉันเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเป็นภาระ เขาก็จะไม่เป็นอย่างนี้
“อย่าโทษตัวเองเลย เชื่อใจเจตต์ เขาจะต้องไม่เป็นไร

นรมนกำลังปลอบใจนิตา แต่ในใจเธอกลับไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ไม่นานเท่าไหร่ ไฟที่ห้องฉุกเฉินก็ดับลง

ตอนที่หมอออกมา นิตาวิ่งเข้าไปหาเป็นคนแรก

“คุณหมอคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?

“คุณเป็นคนในครอบครัวของคนไข้ใช่ไหม?”

คำพูดของหมอทำให้นรมนกับนิตาต่างก็ชะงักงัน

ในสถานการณ์ทั่วๆไป ถ้าหมอพูดอย่างนี้ ก็แสดงว่าคนไข้ อาการสาหัสมาก ถึงขั้นเป็นไปได้ว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

นิตาขาอ่อนจนแทบจะล้มลงไปบนพื้น

นรมนจึงต้องประคองเธอเอาไว้

“คุณหมอคะ พวกเราเป็นคนที่เขาสนิทที่สุดค่ะ เขาเป็นอะไรกัน แน่คะ? บอกพวกเราได้ไหม?

คำพูดของนรมนทำให้หมอชะงักเล็กน้อย แล้วจึงพูดขึ้น: “ถ้า จะให้ดีที่สุดควรให้คนในครอบครัวของคนไข้มานะ เขาเสียเลือด มากเกินไป ซี่โครงหักสามท่อน ปอดมีเลือดคั่ง ต้องพักผ่อนอย่าง เต็มที่ พวกคุณเกิดอะไรขึ้นกันแน่? บาดแผลเล็กๆใหญ่ๆบนตัว ของคนไข้เกือบร้อยแผล ถ้าพวกคุณมาช้ากว่านี้อีกสิบนาที อาจ จะเสียเลือดจนถึงชีวิตจริงๆ”

“บาดแผลเล็กๆใหญ่ๆอะไรเกือบร้อยแผลคะ?”
นโมนขมวดคิ้วแน่น

หมอถอนใจพูดขึ้น: น่าจะตอนที่เขาโดนเตะต่อย ในมือของ อีกฝ่ายคงมีใบมีดด้วย ตามด้วยแรงที่กรีดไปบนร่างกายของ คนไข้ จึงทําให้คนไข้เสียเลือดมาก

ได้ยินหมอพูดอย่างนี้ สีหน้าของนรมนหม่นหมองลงทันที

ใครกัน?

ใครกันที่โหดเหี้ยมเช่นนี้

ลงมืออย่างนี้ คิดจะเอาชีวิตของเจตต์แน่ๆ!

มือของนรมนจับกันไว้แน่น ส่วนนิตาร้องไห้เสียใจทนไม่ได้ “คุณหมอคะ แล้วตอนนี้เขาพ้นขีดอันตรายหรือยังคะ?”

“บอกไม่ได้ว่าพ้นขีดอันตราย ต้องดูว่าภายใน 24 ชั่วโมงจะมี ใช้ไหม ดังนั้นพวกคุณต้องมีคนดูแลเขาอยู่ข้างกาย ไม่คลาด สายตาแม้แต่นิดเดียว

“ฉันอยู่ค่ะ ฉันอยู่ค่ะ”

นิตารีบพูด

นรมนไม่ได้โต้แย้ง ตอนนี้เธออยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นศัตรูกับ เจตต์ หรือหลังจากที่ตนเองไปแล้ว เพราะเรื่องของตนเองเจตต์จึง ไปยั่วโมโหใครเข้าอีก?

บริศ เห็นเธอกำลังครุ่นคิด กำมือแน่น จึงรีบเข้าไปโอบไหล่ ของเธอ พูดเบาๆ “กานต์ค้นหาจากกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อผมพวกเราจะหาคนที่ทำร้ายเจตต์พบจนได้ ถึงตอนนั้นไม่ว่าคุณจะ ทําอะไร ผมจะสนับสนุนคุณ

นรมนกำลังมองบุริศร์ กัดริมฝีปากพยักหน้า แล้วตอนนี้เอง มือถือของบุริศร์ก็ดังขึ้น ดูจากเบอร์ที่โทรเข้ามา เป็นกานต์นั่นเอง หรือว่าทางฝั่งกานต์จะมีเบาะแสแล้ว?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ