แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 739 เซ้นส์ของทหารเก่า



บทที่ 739 เซ้นส์ของทหารเก่า

หลังจากที่เจตต์พานิตาออกไป จึงรีบดันนิดาขึ้นรถ รีบหยิบ โทรศัพท์ ต่อสาย

“เก็บไฟล์ทั้งหมดเข้าไปในเซฟโซน”

นิตาได้ยินเจตต์พูดดังนั้น ก็อดที่จะมีปฏิกิริยาไม่ได้

“เจตต์คะ เกิดอะไรขึ้น

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”

เจตต์เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบอะไรกลับ จึงรีบพูดอีกครั้ง

“ไม่ได้ยินที่พูดหรือไง”

บริศ หยิบมือถือ พูดอย่างอ่อนใจ”นี่คือท่าทีขอร้องให้คนช่วย

งานเหรอ”

“บุริศร์ ไม่ต้องพล่าม! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณรู้เรื่องคอม คิดว่า ผมจะหาคุณเหรอ”

เจตตชงกะตาย

บุริศร์กลับหัวเราะแล้วพูด“นั่นสิ ไปหาคนอื่นทำก็ได้ มาหาผม

ทําไม”

“ได้ ผมไม่ใช้คุณแล้ว”

เจตต์พูดจบจึงวางหูโทรศัพท์
นิตาได้ยินเขาเรียกชื่อบริศร์ อดถามไม่ได้ บริศร์สามีของคุณ นโมนนี่คะ เขาตื่นแล้วเหรอ”

“คุณคงอยากให้เขาไม่ต้องตื่นตลอดชีวิตสินะ ผู้ชายแบบนี้ ปากเสีย อยู่กับใครไม่ได้หรอก นอนหลับตายไปน่ะดีแล้ว”

พูดจบ เจตต์ยกหูโทรศัพท์ขึ้นอีกครั้ง แล้วโทรหากานต์

“กานต์ ช่วยอะไรหน่อยสิ”

กานต์งงเพราะเจตต์ไม่ได้หาตนเองนานแล้ว จู่ๆ โทนมา น้ำ เสียงยังอ่อนโยน ก็ต้องระวังตัวไว้บ้าง

“คุณจะทําอะไร”

“เก็บไฟล์ทั้งหมดเข้าเซฟโซนให้หน่อยได้มั้ย

กานต์ได้ฟัง ชะงักเล็กน้อย

“แล้วผมได้อะไร”

“แล้วอยากได้อะไรล่ะ

กานต์เอามือเชยคางพูด ผมยังคิดไม่ออก แต่ผมอยากได้อะไร คุณให้ได้หมด ใช่ไหม”

“ใช่ นอกจากเมียกับชีวิตฉัน นอกนั้นได้หมด”

“บิงโก! ผมอัดไว้แล้วนะ กลับคำไม่ได้นะ ไว้คิดออกแล้วผม

จะบอก”

คำพูดของกานต์ทำให้เจตต์กระตุกมุมปาก
“พ่อเจ้าเล่ห์ยังไง ก็มีลูกปลิ้นปล้อนแบบนั้นแหละ

“อาเจตต์พูดถึงผมเหรอ ผมได้ยีนส์แม่มามากหน่อยนะ คุณอา หมายความว่าแม่ผมเจ้าเล่ห์ ใช่ม้า เฮ้อ ถ้าผมบอกแม่นะ แม่จะได้ ไม่ต้องไปตรัสรู้เองไง

“ไอ้กานต์!

เจตต์แทบอยากจะบีบคอเจ้าเด็กบ้า

“แหม หูหนวกแล้ว เล่นคอมไม่เป็นแล้ว”

เจตต์คอยบอกตัวเองให้ใจเย็น

บริศร์กับกานต์เมื่อเทียบกันแล้ว กานต์เอาใจง่ายกว่า

เขาสูดลมหายใจลึกๆ ยิ้มแล้วพูด“กานต์เด็กดี อารู้ว่ากานต์ ยอดเยี่ยมที่สุดเลย รีบช่วยอาหน่อยได้ไหม

“แหม อาไม่ต้องพูดแบบนี้หรอก ผมขนลุก” กานต์ไม่รับน้ำใจใดๆ ทำให้เจตต์โมโหแทบคลั่ง

เขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงอย่างนรมน ทำไมถึงได้มีลูกชายแบบนี้ เจตต์หายใจหอบ

กานต์เห็นพอสมควรแล้ว จึงรีบพูด“ช่างเถอะๆ ไม่คุยด้วยแล้ว เดี๋ยวหาว่าผมรังแกคนแก่

“คนแก่เหรอ กานต์ แกคิดว่าฉันไม่กล้าตีแกงั้นสินะ”

“ผมจะฟ้องแม่!
“แกเป็นผู้ชายหรือเปล่า ผู้ชายทะเลาะกันแล้วร้องหาแม่ ไอ้ กานต์ ปอดไปหรือเปล่า”

กานต์พูดอย่างเข้มแข็ง อาเจตต์ ผมเป็นเด็กผู้ชาย ยังไม่ใช่ ผู้ชาย อาต่างหาก ผู้ชายอกสามศอกมาถือสาหาความกับเด็ก ผู้ชาย ยังโมโหขนาดนี้ มีความหมายเหรอ”

เจตต์แทบกระอักเลือดอีกครั้ง

เขารู้สึกว่าเจตนารมณ์ตอนโทรครั้งแรกโดนกานต์เบี่ยงเบนไป หมด แล้วไปไกลเสียด้วย

“ผมวางละนะ”

เจตต์รู้สึกว่าตัวเองหาเรื่องใสตัว โทรหาพ่อลูกคู่นี้ทำไมกัน แต่ด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์ เขาก็หาใครไม่ได้แล้วจริงๆ

ในตอนที่เจตต์จะวางหู กานต์หัวเราะพูดขึ้น”OKแล้ว จบแล้ว นอกจากฝ่ายตรงข้ามจะหาคนระดับโลกมา ไม่งั้น ข้อมูลอาก็ไม่มี ทางเอาออกมาได้”

เจตต์ชะงัก ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ขอบใจเจ้าหนู”

“ไม่ต้องขอบคุณครับ อย่าลืมของที่สัญญาแล้วกัน”

กานต์พูดจบจึงวางหู

นิตาได้ยินเรื่องราวทั้งหมด จึงมองแล้วถามเจตต์อย่าง ประหลาดใจ”เด็กคนนี้ใครกันคะ!
“ลูกชายของนรมน

“คุณนรมนมีลูกชายแล้วเหรอ”

จู่ๆนิตาลากเสียงสูงจนเจตต์ตกใจ

“มีลูกชายแล้วแปลกตรงไหน หล่อนมีผัวแล้ว ไม่มีลูกสีแปลก คุณทำหน้าอะไรน่ะ”

“แต่คุณนรมนหน้าอ่อนมาก

“จะสามสิบอยู่แล้ว อ่อนอะไร

เจตต์ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่ากำลังพูดปกป้องนรมน หรือว่า ตอน ที่เขาคุยกับนิตา เขาได้กลายเป็นคนๆ เดียวกับนิตาไปแล้ว

นิตาตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเจตต์จะตอบง่ายๆแบบนี้ โดยที่เธอ ยังไม่ทันตั้งตัว

เขาชอบนรมนไม่ใช่เหรอ

ทำไมถึงพูดพล่อยๆเรื่องลูกชายนรมนแบบนี้ล่ะ พูดแบบไม่ ถือสาด้วย ไม่อึดอัดเหรอ

นิตารู้สึกตัวเองไม่เข้าใจเจตต์

เจตต์ก็ไม่สนว่านิตาจะคิดยังไง พูดเสียงค่อย “คาดเข็มขัดดีๆ เราจะกลับโรงแรมกัน

“ไม่กลับโรงพยาบาลหรือคะ”

“ไม่ล่ะ”
เจตต์พูดจบก็ออกรถ

แม้ว่านิตาไม่รู้ว่าทำไมเจตต์ถึงทำแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เธอชินเสียแล้วกับการเชื่อฟังเจตต์

ทั้งคู่หา โรงแรมใกล้ๆ

สิ่งทีนิดาเขินอายคือ เจตต์เปิดห้องแค่ห้องเดียว

“เจตคะ ฉันเปิดเองอีกห้องได้”

“เปิดอะไรล่ะ คุณเคยเห็นผู้ชายผู้หญิงอยู่เดี่ยวๆเหรอ”

คำพูดของเจตต์ทำให้นิตาเก้อเขิน

“พวกเราเป็นแฟนกันปลอมๆ ไม่ใช่จริงสักหน่อย

“ใครบอกคุณว่าปลอม รีบเข้ามาสิ”

เจตต์ผลักนิตาเข้าห้อง

นิตาตัวเกร็งขึ้น

“เจตต์คะ บอกอะไรให้ฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่ายนะคะ! ”

เจตต์ตกตะลึง พูด แล้วผมเหมือนผู้ชายง่ายหรือ

“เหมือน!

นิตารีบพยักหน้า จากนั้นก็เห็นสีหน้าบูดบึ้งของเจตต์

“พูดอีกรอบ ผมเหมือนมั้ย

นิตาหุบปากไม่พูดอะไร
เธอไม่ได้โง่สักหน่อย ตอนนี้เจตต์กำลังโกรธ ถ้าไปแหย่เข้า เธอเกรงว่าวันนี้เธอไม่บริสุทธิ์แล้วแน่

เห็นนิตาตกใจขนาดนี้ เจตต์รู้สึกเซ็ง

เขาดูไม่มีศีลธรรมขนาดนั้นเลยเหรอ

“คุณนอนเตียง ผมนอนโซฟา มีปัญหาไหมล่ะ”

นิตาสายหน้าหงิกๆ

“ผมออกไปข้างนอกหน่อย

“คุณจะไปไหนคะ”

นิตาจับแขนเจตต์ จากนั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จึง รีบปล่อยมือ

“ฉันแค่ถาม ถ้ามีอะไรโทรหาคุณได้ไหม”

“ได้อยู่แล้ว”

เจตต์เห็นนิตาเป็นแบบนี้ น้ำเสียงจึงอ่อนลง

“ผมออกไปเดินเล่น ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ไปกับผมมั้ยล่ะ ยังไม่ ได้กินข้าวกันพอดี เราออกไปหาอะไรกินกัน”

“นั่นสิ ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย งั้นรอคุณกลับมา ฉันเปลี่ยน เสื้อ กระโปรงนี่มันแปลกๆน่ะ”

นิตาพูดจบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ

รอจนเปลี่ยนเสร็จ เจตต์รู้สึกว่านิตาแบบนี้ดูสบายตากว่า
ทั้งคู่เดินไปตามถนน จากนั้นเจตต์จึงเรียกรถพานตาไปร้าน อาหารที่ชอบ

ร้านนี้ใกล้โรงพยาบาลที่นิตาอยู่

นิตาถามเซ็งๆ เรามากินข้าวที่นี่ แล้วทำไมต้องพักที่โน่นด้วย

“กินก่อนค่อยว่ากัน

เจตต่ไม่ตอบอะไร ได้แต่ให้นิตาสั่งอาหาร

นิตามีแต่คำถาม แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ เธอสั่งอาหาร เห็นเจตต์ มองไปด้านนอก ตัวเองก็มองตามไปด้วย มองอะไรน่ะ”

“เห็นคนพวกนั้นมั้ย”

เจตต์ชี้ไปทางโรงพยาบาลพลางถาม นิตาพยักหน้า “เห็นแล้ว ทำไมเหรอ หน้าโรงพยาบาลขายของ

ทุกวัน”

“พวกเขาไม่ได้ขายของ ถ้าผมเดาไม่ผิด น่าจะเป็นคุณอาชาญ ส่งคนมา”

“อะไรนะ เป็นไปไม่ได้!

นิตาไม่ยอมรับ

“รู้ได้ไงว่าเป็นไปไม่ได้”

เจตต์มองเธอแล้วถามนิตาส่ายหน้าพูด คุณอาชาญกับพ่อฉันเป็นเพื่อนสนิทกัน เป็น เพื่อนสมรภูมิที่ดีที่สุด เขาเป็นคนดี ตอนพ่อแม่ฉันตายเขาคิดจะ รับเลี้ยงเราสองพี่น้องด้วยซ้ำ แต่เราแค่ไม่อยากให้คุณอาชาญ เหนื่อย เลยไม่ได้ตอบตกลง คุณอาชาญเอ็นดูเราขนาดนี้ ทำไม ต้องส่งคนมาล่ะ”

“นั่นสิ เขาเอ็นดูพวกคุณออก ทำไมไม่บอกล่ะว่าคนที่บริหาร กับพ่อแม่คุณเป็นใคร ทำไมหลายปีมานี้ นอกจากเรื่องรับเลี้ยง พวกคุณ ทำไมไม่ติดต่อเรื่องอื่นล่ะ ทำไมหลังจากเราไปเยี่ยม เขาถึงได้มาสำรวจเราถึงหน้าโรงพยาบาลล่ะ คุณตอบคำถามผม ได้ไหม”

สําหรับคําถามของเจตต์ นิตาตกตะลึง

“เขา คงคิดว่าฉันหัวดื้อมั้ง เลย……. ”

“นิตา เชื่อด้วยเหรอ”

คำพูดของเจตต์ทําให้นิตาพูดไม่ออก

“คุณกำลังสงสัยคุณอาชาญ? ทำไมล่ะ?”

“เซ้นส์ เซ้นส์ของนายทหารเก่า แต่ผมกำลังหาหลักฐาน รอไป ก่อน”

คำพูดของเจตต์ทำให้นิตาเจ็บปวด

“หลักฐานอะไรเหรอ ตรวจอะไร”

“นิตา ผมมีวิธีของผม ตรวจยังไงคุณไม่ต้องยุ่งหรอก ภารกิจพ่อแม่คุณตอนนั้นต้องเป็นความลับแน่นอน นอกจากหัวหน้าที่ส่ง ออกไปตอนนั้น ก็คือเพื่อนสมรภูมิที่พ่อแม่คุณติดต่อด้วย ตอนนี้ พ่อแม่คุณตายแล้ว เรื่องนี้มีเงื่อนงำ คดีถูกอำพราง นอกจากหา เบาะแสใหม่ บางทีคุณอาชาญนั่นแหละพยานปากสำคัญ

เจตต์พูดเสียงเรียบ

นิตาไม่พูดอะไร

แต่เจตต์ดูออก สีหน้านิตาไม่ค่อยดี

บางทีสำหรับนิตาแล้ว ชาญคงจะสำคัญสำหรับเธอมาก ต่อให้ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพ่อแม่ เธอไม่อยาก ไม่อยากไปเชื่อ ชาญ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

แต่คนที่เห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ ท่าที่เชื่อมั่นของเจตต์ เธอก็ไม่รู้ ว่าควรเชื่อดีมั้ย ในเวลานี้เอง มือถือเจตต์ดังขึ้น นิดาประสาทถึง เขม็ง แววตาจ้องตรงไปที่เจตต์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ