แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 729 ตกลงอุดมเป็นผีหรือเป็นคน



บทที่ 729 ตกลงอุดมเป็นผีหรือเป็นคน

“แน่ใจเหรอว่าตายแล้ว?”

“ใช่ครับ ตอนนั้นคนในหมู่บ้านยังตั้งป้ายหลุมศพขึ้นมาให้ อุดมด้วย พ่อของผมบอกว่าเพราะว่าเขาไม่ใช่คนของหมู่บ้านเรา เพราะฉะนั้นป้ายหลุมศพของเขาจึงไม่อยู่ในสุสานของหมู่บ้าน เรา แต่ว่าก็อยู่ห่างไปไม่มากนัก น่าจะอยู่ท้าย ๆ พื้นที่สุสาน

คำพูดของโสธรทำให้นรมนเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างหนัก

“ตอนนี้ยังสามารถตามหาป้ายหลุมศพนั้นเจอได้หรือเปล่า?”

“ไม่แน่ใจ น่าจะสามารถหาได้นะ แต่ว่าผ่านมาหลายปีขนาดนี้ หมู่บ้านก็ไม่มีแล้ว ไม่รู้ว่าป้ายหลุมศพจะโดนหญ้ารกร้างปกคลุม ไปแล้วหรือเปล่า”

ถึงแม้ว่าโสธรจะพูดไปแบบนี้ แต่ว่านรมนก็ตัดสินใจว่าจะไปดู สักหน่อยดีกว่า

“ขอบคุณมาก โสธร เดี๋ยวฉันจะไปดูก่อนนะ

นรมนพูดแล้วก็จะเดินไปเลย แต่กลับได้ยินเสียงของกานต์ดัง

ขึ้นมา

“หม่ามี้ ผมก็จะไปด้วยครับ”

เขาขยี้ตาที่ยังงัวเงียอยู่และจ้องมองมาที่นรมน เหมือนกับว่า เพิ่งจะตื่นขึ้นมาไม่นาน
“กานต์ หนูอย่าไปเลยนะ ที่นั่นไม่ใช่ที่ที่เด็กจะสามารถไปได้

“ผมจะปกป้องหม่าม

คำพูดของกานต์ทำให้นรมนรู้สึกอุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง “วางใจเถอะ หม่ามี้ไม่เป็นอะไรหรอกนะ”

“ผมไม่สน ผมจะไปด้วย

กานต์เดินเข้ามากอดขาของนรมนเอาไว้แน่น พูดยังไงก็ไม่ ยอมปล่อย

โสธรเห็นท่าทางแบบนี้ของเขา ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณนายบุ ริศร์ คุณให้เขาตามไปด้วยเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ผมรับผิดชอบ ดูแลเขาเอง”

“นายก็จะไปด้วยเหรอ?”

นรมนรู้สึกตกใจเล็กน้อย

โสธรพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปดูหน่อยดีกว่า อย่างน้อย ผมก็เป็นลูกหลานของหมู่บ้านนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องไปดูสักหน่อย ว่าที่พ่อแม่ผมพูดมันคือความจริงหรือเปล่า แล้วอีกอย่าง ผมน่า จะคุ้นเคยกับพื้นที่ของที่นี่มากกว่าพวกคุณ ในเมื่อตอนผมเด็ก ๆ เคยฟังพ่อแม่ผมพูดถึงมาก่อน”

พอได้ยินโสธรพูดแบบนี้แล้ว นรมนก็ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จาก นั้นก็พยักหน้า

พอกานต์ได้ยินว่าตัวเองสามารถไปด้วยได้แล้ว ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างดีอกดีใจ

หัวคิ้วของนรมนยังคงขมวดเข้าหากันแน่นอยู่

อุดมไม่มีทางคือคนตายได้

ถึงแม้ว่าเมื่อกี้ฟังไปแล้วจะตกใจเป็นอย่างมาก แต่พอตอนนี้ มาคิด ๆ ดูแล้ว บนโลกใบนี้จะไปมีผีที่ไหนกัน?

ป้องเห็นว่าเป็นเวลานานมากแล้วแต่นรมนยังไม่ออกไป จึง เดินเข้ามาดู แล้วก็มาเห็นนรมนกำลังนั่งเหม่ออยู่ในศาลาพอดี

“คิดอะไรอยู่? ยังไม่ไปอีกเหรอ?”

“รอกานต์กับโสธรก่อน”

นรมนเอาคำพูดของโสธรเล่าให้ป้องฟัง

หลังจากที่ป้องฟังจบแล้วก็มีความคิดเหมือนกันกับนรมนเลย

“บนโลกใบนี้ไม่มีผีสักหน่อย อุดมคนนั้นตั้งแต่แรกก็คงจะไม่ ได้ตายหรอก”

“แต่ว่าโสธรก็บอกแล้วว่า คนทั้งหมู่บ้านต่างก็ช่วยกันตั้งป้าย หลุมศพ ให้เขา ถ้าหากว่าไม่ตายแล้วละก็ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไป ได้?”

พอเจอเข้ากับความสงสัยของนรมน ป้องเองก็อธิบายไม่ได้ เหมือนกัน

“ไม่ว่าจะเป็นเพราะสามเหตุอะไร ไปดูหลุมศพของอุดมก่อน ค่อยว่ากัน ไม่แน่อาจจะหาบุริศร์เจอด้วยก็ได้
“อืม!”

ระหว่างที่นรมนและป้องพูดคุยกันนั้น โสธรและกานต์ก็จัดการ ตัวเองเรียบร้อยแล้ว

กานต์เหมือนกับว่าจะไปสืบค้นยังไงอย่างนั้น แต่งตัวอย่างเป็น

ทางการมาก ดูแล้วนรมนก็ไม่รู้จะดีหรือว่าร้องไห้ดี

“หนูไม่ร้อนเหรอ?”

“ไม่ร้อนครับ”

กานต์พัดไปด้วยและพูดไปด้วย นรมนหัวเราะเล็กน้อยแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ป้องยื่นมือออกไปให้กานต์

“ไป เดี๋ยวอาป้องพานายไปผจญภัยช่วยชีวิตคนเอง”

“ช่วยใคร?”

“นายบุริศร์ไง!”

“แย่จริง ๆ”

กานต์เบ้ปากเล็กน้อย ไม่ได้เป็นห่วงความปลอดภัยของบุริศร์

เลยแม้แต่น้อย

นรมนรู้สึกสงสัยจริง ๆ ว่าเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของบุริศร์จริง ๆ เหรอ?

โสธรจ้องมองท่าทีของพวกเขา แล้วอดไม่ได้ที่จะอิจฉาขึ้นมา
“ความสัมพันธ์ของพวกคุณดีกันมากจริง ๆ ไม่เหมือนผมกับพี่ สาว ถึงแม้ว่าจะเป็นญาติสนิทกัน แต่ว่าก็ห่างกันอยู่พอสมควร ได้แต่ติดต่อกันแบบโทรวิดีโอคอลหรือโทรคุยกันเท่านั้น”

“จะต้องได้อยู่ด้วยกันแน่นอน

นรมนตบบ่าปลอบใจโสธรเล็กน้อย

“ไปกันเถอะ”

ป้องออกคำสั่งขึ้นค่หนึ่ง คนทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทางกัน

หลังจากที่โสธรออกมาจากที่พักของบ้านไร่แล้ว ในสมองก็คิด เส้นทางที่พ่อแม่เคยเล่าให้ฟังมาก่อนไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พาพวก นรมนและป้องออกเดินทางจากหลังเขา

“พวกเราไม่เคยมาทางนี้มาก่อน และอีกอย่างสุสานที่พวกเรา เดินผ่านก็ไม่ได้อยู่ทางด้านนี้ด้วย

นรมนจ้องมองเส้นทางที่แปลกใหม่ทั้งหมด แล้วก็ถามขึ้น อย่างระแวดระวัง

โสธรยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “พวกคุณเป็นคนนอกแน่นอนว่าจะต้อง เข้าสุสานมาจากด้านนอก ผมเคยได้ยินพ่อแม่ผมพูดว่า ที่นี่เป็น จุดศูนย์กลางของหมู่บ้านเรา ได้ปลูกยาสมุนไพรไว้เยอะแยะ มากมาย เพราะฉะนั้นจึงมีแต่คนในหมู่บ้านของเราเองเท่านั้นที่รู้ ว่าจะเข้าจากทางด้านหลังเขายังไง พวกคุณเดินตามผมก็พอแล้ว อ๋อ ใช่แล้ว พวกคุณพกของอันนี้ติดตัวไว้นะ”

ระหว่างที่พูด โสธรก็แจกเม็ดยาเล็ก ๆ ให้ทุกคนคนละหนึ่งเม็ด

เม็ดยามีกลิ่นยาสมุนไพรแรงที่ค่อนข้างฉุนจมูก

นรมนถามขึ้นว่า “นี่เอาไว้ใช้ทำอะไร?”

“ใช้ขับไล่แมลง ที่ที่เรานี้สภาพอากาศค่อนข้างเปียกชื้น แมลง มีพิษก็ค่อนข้างเยอะ อันนั้นเอาไว้ไล่แมลง พอพวกมันได้กลิ่นอัน นี้ก็จะอยู่ห่าง ๆ เราแล้ว พวกเราก็จะสามารถปลอดภัยมากขึ้นมา หน่อย”

พอได้ยินโสธรอธิบาย นรมนก็ถามขึ้นว่า “อันนี้ก็เป็นสิ่งที่พ่อ แม่นายบอกนายด้วยเหรอ?”

“ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ หลังจากที่พวกเขาเสียชีวิตไปแล้ว ผมหา สูตรยานี้เจอจากสมุดบันทึกของพวกเขา แล้วตัวผมก็ปรุงขึ้นมา เอง ในเมื่อกะว่าจะมาดูสักหน่อยแล้ว ผมก็จะต้องให้ตัวเองอยู่ รอดปลอดภัย เขตพื้นที่ที่พ่อแม่ผมไปทำงานก็เป็นเขตร้อนชื้น เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงต้องเตรียมของแบบนี้ไว้ตลอดอยู่แล้ว”

ตอนที่พูดถึงพ่อแม่นั้น ปฏิกิริยาของโสธรเจ็บปวดขึ้นมาอีก ครั้ง

นรมนไม่ได้พูดอะไรอีก แต่มองไปทางป้อง

ป้องพยักหน้าเล็กน้อย

นรมนถึงได้วางใจลงได้ จะโทษเธอว่าคิดมากไม่ได้ อยู่ที่นี่เธอจะไม่ระแวดระวังไม่ได้เลยจริง ๆ ไม่งั้นละก็ บุริศร์ก็คงจะไม่หายวับไปต่อหน้าต่อตาตัว เองหรอก

ป้องนั้นกลับสามารถเข้าใจสภาพจิตใจของนรมนได้ แล้วก็ไม่ ได้พูดอะไร ทุกคนเอาเม็ดยามาพกติดตัวไว้ แล้วเดินเข้าป่าไปกับ โสธร

หลังจากที่กานต์เข้ามาในป่าแล้วรู้สึกว่าจะสนุกสนานมาก

“หม่ามี้ หม่ามี้ดูนี่เร็ว นี่คืออะไรเหรอครับ?”

เขาชี้ไปที่ผีเสื้อตัวใหญ่มากตัวหนึ่งแล้วถามขึ้น

“นั่นไม่ใช่ผีเสื้อเหรอ?”

“แต่ว่ามันใหญ่มากเลยนะครับ! และมันยังสวยมากด้วย! ผม เพิ่งเห็นครั้งแรกเลยนะครับ”

กานต์พูดแล้วก็จะยื่นมือไปจับ แต่กลับโดนโสธรห้ามเอาไว้

ก่อน

“อย่าจับ ของของที่นี่ยิ่งสวยก็ยิ่งจับไม่ได้ นั่นมันเป็นผีเสื้อพิษ มันมีพิษนะ บนปีกของมันมีแต่ผงพิษ ถ้าแตะต้อง โดนแล้ว มือ ของนายก็จะเน่าไปอย่างรวดเร็วเลย”

“อ่า! น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ!”

กานต์รีบหดมือเก็บกลับมา แล้วมาหลบอยู่ในอกของนรมน

พอเห็นว่าลูกชายยังรู้จักกลัว นรมนถึงได้วางใจลงมาได้ “หนูน่ะ เดินตามพวกเราดี ๆ ก็พอแล้ว อย่าไปจับอะไรไปเรื่อยเข้าใจไหม?”

“อ๋อ”

กานต์รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ว่าก็ยังคงห้ามสายตาของเขา ให้มองไปทั่วไม่ได้ แล้วก็คอยมีเสียงทอดถอนใจดังออกมา

นรมนกลัวว่าเขาจะเดินหลงทางไป จึงอุ้มเขาขึ้นมาเลย ป้องกลัวว่าเธอจะเหนื่อย จึงพูดขึ้นว่า “ให้ผมอุ้มแกดีกว่า” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอุ้มไหว”

นรมนไม่อยากส่งกานต์ให้กับคนอื่น อยู่ที่นี่ เธอเชื่อแต่ตัวเอง เท่านั้น

แล้วป้องก็ไม่ได้พูดอะไร

หลังจากที่โสธรพาคนทั้งกลุ่มเดินผ่านหมู่ไม้ไปสักช่วงหนึ่ง แล้ว พวกนรมนก็เห็นผืนหญ้านานาพันธุ์ผืนหนึ่ง

ถึงแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานมากแล้ว แต่ว่ายาสมุนไพร ของที่นี่ก็ยังคงอยู่ กลิ่นที่รุนแรงแบบนั้นทำให้คนรู้สึกจิตใจสงบ นิ่งสบายขึ้นมาทันที

โสธรจ้องมองทุกอย่างตรงหน้านี้ แล้วพูดขึ้นอย่างตื่นตกใจว่า “พ่อแม่ไม่ได้หลอกเราจริง ๆ ที่นี่มีผืนหญ้านานาพันธุ์อยู่จริง ๆ ด้วย”

“ว้า สวยจังเลย”

กานต์จ้องมองทุกอย่างอยู่อย่างแปลกใจ แล้วก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเอาไว้

“ผมจะถ่ายรูปทั้งหมดนี้เก็บไว้ ต่อไปจะได้เอาไปให้กมล เธอ จะต้องชอบแน่ ๆ เลย

มุมปากของนรมนคลี่ยิ้มออกมาครั้งหนึ่ง

ความสัมพันธ์ระหว่างกานต์และกมลนั้นดีมาก หวังจริง ๆ ว่า พวกเขาจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป

ป้องจ้องมองทุกอย่างที่อยู่รอบข้าง แล้วก็พูดขึ้นอย่างตื่น ตกใจว่า “ที่นี่เป็นที่ที่ดีเป็นมูลค่าไม่ได้เลยจริง ๆ ยาสมุนไพรตั้ง หลายอย่างที่สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะ สามารถพบเห็นได้ที่นี่

“บุริศร์ได้ซื้อที่นี่ไว้แล้ว”

นรมนซิดเข้าไปใกล้ป้อง แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ต่อไปคุณ ต้องการยาสมุนไพรอะไร ก็ให้บริศร์เอาให้คุณก็พอแล้ว”

“คำพูดประโยคนี้ผมจำไว้แล้วนะ”

ป้องรีบพูดขึ้น

นรมนหัวเราะเล็กน้อย แล้วไม่พูดอะไร

หลังจากที่ทุกคนตื่นเต้นกับผืนหญ้านานาพันธุ์แล้ว โสธรก็พอ ทุกคนเดินต่อไปข้างหน้า

ที่ไกล ๆ ของที่นี่มีแก๊สพิษที่เกิดจากการเน่าเปื่อยอยู่เล็กน้อย

“กินยานี่ก่อนเถอะ
โสธรได้เตรียมการมาล่วงหน้าไว้นานแล้ว

นรมนก็ยังคงหันไปมองป้องที่หนึ่งก่อน หลังจากที่อยู่ภายใต้ การยืนยันของป้องแล้วถึงได้กินเม็ดยานั้นลงไปพร้อมกับกานต์ สําหรับการระแวดระวังของนรมน โสธรก็ไม่ได้พูดอะไร และ

รู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าหากว่าเป็นเขาละก็ เขาเอาก็

คงจะไม่เชื่อคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันยังไม่ถึงสองวัน ง่าย ๆ หรอก ทุกคนเดินผ่านกลุ่มแก๊สพิษมาแล้ว กานต์รู้สึกว่าทุกสิ่งทุก

อย่างดูอัศจรรย์ไปหมด

นรมนจ้องมองถ้ำที่อยู่ตรงหน้า แล้วก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง “ถ้ำแห่งนี้กับถ้ำที่พวกเราตกลงไป ดูไปแล้วคล้ายคลึงกันพอ สมควร”

โสธรได้ยินนรมนพูดแบบนี้แล้วก็รีบร้อนพูดขึ้นว่า “พ่อแม่ผม เคยบอกว่า ในหมู่บ้านของเรานี้มีมากมายที่เชื่อมต่อกัน เห็น บอกว่าตอนแรกทุกคนเอาไว้หนีภัย ก็เลยถ้ำพวกนี้ให้ทะลุกัน เป็นสิ่งที่บรรพรุษของเราเหลือทิ้งไว้ให้ ในช่วงแรกนั้น บรรพบุรุษ ของเราต้องการหลบหนีจากภัยสงครามถึงได้มาอาศัยอยู่กันที่นี่ แล้วต่อมาก็สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ถึงได้กลายมาเป็นอย่างใน ตอนนี้”

“รอก่อน นายบอกว่าถ้ำพวกนี้เชื่อมต่อกันอยู่เหรอ?”

อยู่ ๆ นรมนก็จับใจความสำคัญไว้ได้
“ใช่ครับ”

โสธรพยักหน้าเล็กน้อย แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมนรมนถึงได้ตื่น

เต้นมากขนาดนี้ “ที่ที่บุริศร์หายตัวไปก็คือละแวกใกล้กับถ้ำ จะเป็นไปได้ไหมว่า

อุดมเอาประโยชน์ส่วนนี้มาใช้ถึงได้พาตัวบุริศร์หายไปได้?”

“แต่ว่าทำไมบุริศร์จะเตือนคุณสักหน่อยก็ยังไม่มีโอกาสเลย ล่ะ?”

คำถามนี้ของป้องถามโดนใจของนรมนตรง ๆ เลย

“พวกเราอย่ามัวเดากันอยู่เลย ต้องหาคนให้เจอถึงจะจริงที่สุด ตอนนี้เดาเยอะไปก็ไม่มีประโยชน์

คําพูดของโสธรทำให้นรมนและป้องพยักหน้าขึ้น

หลังจากที่คนทั้งกลุ่มเดินเข้ามาในถ้ำแล้ว นรมนก็มองสำรวจ รอบ ๆ ที่หนึ่ง แล้วรู้สึกว่าที่นี่ดูสะอาดมาก อย่างน้อยก็ดูสะอาด กว่า ที่พวกเขาเคยตกลงไป และก็เป็นระเบียบมากด้วย

“รอก่อน ที่นี่น่าจะมีคนอยู่อาศัยนะ หรือบางทีอุดมน่าจะอาศัย อยู่ที่นี่ แต่ไม่ใช่ที่ที่พวกเราตกลงไปก่อนหน้านี้ ที่นั่นบางทีอาจจะ เป็นแค่คลังแห่งหนึ่งของเขา”

คำพูดของนรมนทำให้ป้องและโสธรหยุดฝีเท้าลง

“คุณพบเห็นอะไรเหรอ?”

“ไม่ได้ถือว่าพบเห็นหรอก ถ้ำก่อนหน้านี้ที่ที่พวกเราตกลงไปถึงแม้ว่าจะมีอาหารตระเตรียมไว้ แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ดู สะอาดเท่าที่นี่ โสธรเคยบอกไว้ว่า หลุมฝังศพของอุดมอยู่ตรง ตำแหน่งท้าย ๆ หมู่บ้านไม่ใช่เหรอ? แล้วตำแหน่งที่อยู่ตรงนี้ถือ ได้ว่าเป็นตำแหน่งท้ายหมู่บ้านแล้วหรือยัง?”

นรมนมองไปทางโสธร

โสธรส่ายหัวแล้วพูดว่า “ยังไม่ใช่ แต่ว่าก็ไม่ไกลมากนักแล้ว ที่ข้างหลังถ้ำแห่งนี้ก็ใช่แล้ว พวกเราจะต้องเดินอ้อมไป

“งั้นก็เดินอ้อมไปกัน! ฉันก็อยากจะดูสักหน่อยว่า ตกลงอุดม

คนนั้นเป็นคนหรือว่าเป็นผีกันแน่”

พอเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว นรมนก็ไม่มีอะไรให้เกรงกลัวอีกแล้ว

เธอไม่เพียงจะต้องหาบุริศร์ให้เจอ ยังจะต้องรู้ความจริงให้ได้ ว่าอุดมเป็นหรือตาย หรือกระทั่งทำไมจะต้องจับตัวบุริศร์ไปด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ