บทที่ 720 ฉันติดค้างเธอ
“คุณนายบุริศร์ ผมจะขอตัวกลับแล้วนะครับ”
เสียงของวันภพดังขึ้นจากด้านหลังของนรมน
นรมนหยุดนิ่งไปชั่วคราว จากนั้นจึงมองหน้าวันภพ และเอ่ย
ถามอย่างสงสัย : “เป็นอะไรไป
“ทางฝั่งเพื่อนของคุณนิตาเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย เพื่อนร่วม งานของผมยากที่จะจัดการได้ ผมจึงจำเป็นต้องกลับไปดู
คำพูดของวันภพทำให้นรมนตึงเครียดขึ้นมาทันที
“นิตาเป็นอะไรไป? ”
“ผมเองก็ไม่ค่อยรู้แน่ชัด เพื่อนร่วมงานของผมบอกไม่ชัดเจน เพียงแค่บอกว่าไม่ค่อยดีนัก ให้ผมรีบกลับไป ทางฝั่งนี้ของคุณมี ผู้เชี่ยวชาญกำลังให้การรักษาคุณบุริศร์อยู่ ผมไม่อาจเสียเวลา อยู่ที่นี่ได้อีก หลังจากนี้ถ้ามีเวลาพวกเราค่อยติดต่อกันอีกครั้ง”
วันภพตอบอย่างไม่ชัดเจน นรมนก็ยิ่งกังวล
แต่ละเรื่องต่างประดังขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้เธอไม่สามารถ แยกร่างได้
“คุณหมอวันภพ ขอบคุณที่ดูแลบุริศร์ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉัน ซาบซึ้งมากค่ะ กลับไปครั้งนี้ หวังว่าคุณจะพยายามช่วยนิตา อย่างเต็มที่ เธอคือเพื่อนสนิทของฉัน ตอนนี้ฉันปลีกตัวออกไปไม่ได้ ฉันทำได้เพียงหวังว่าคุณหมอวันภพจะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะ เมื่อมองย้อนกลับไปฉันจะไม่มีทางลืมคุณแน่นอน”
“คุณนายบุริศร์ก็พูดเกินไป เห็นแก่โพนี่ ไม่มีทางที่ผมจะไม่ สนใจเพื่อนของคุณได้ วางใจเถอะครับ โพนี่ไม่อยู่ ผมคงจะไม่ได้ ทักทายเธอ ผมจองเที่ยวบินที่เร็วที่สุด เหลืออีกครึ่งชั่วโมงต้อง บินไปแล้ว ผมรีบไปก่อนนะครับ คุณนายบุริศร์ พวกคุณดูแล สุขภาพด้วยนะครับ”
วันภพต้องไปอย่างฉุกละหุก ทำให้นรมนไม่ทันได้เตรียมตัว เธอรีบหยิบบัตรใบหนึ่งออกมายื่นให้แก่วันภพ
“คุณหมอวันภพนี่คือค่าออกตรวจของคุณ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันมีความหมาย คุณรับไว้เถอะค่ะ”
“คุณนายบุริศร์ นี่คุณทำอะไร? อยากจะทำให้ผมอับอายเห รอ? ผมมาเพื่อโพนี่ ไม่คิดจะเอาเงิน หรือจะพูดอีกอย่าง เส้นสาย สำคัญกว่าเงินทอง หลังจากนี้ถ้าผมวันภพต้องการใช้พวกคุณ พวกคุณแค่ช่วยเหลือก็พอ
“นั่นแน่นอนอยู่แล้วค่ะ!
นรมนรีบรับปาก
วันภพกลับไปแล้ว นรมนส่งข้อความหาโพนี่ ก็มองเห็นป้องให้ คนยกแปลหามไปรับบุริศร์
“กานต์ล่ะ? ”
นรมนคิดไม่ถึงว่าไอ้เด็กหน้าเหม็นคนนั้นจะวิ่งหายตัวไป จึง ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“อยู่กับโพนี่ พวกเขาออกไปซื้อของข้างนอก ผมขอตัวไปหาม บริศมาก่อนนะ คนข้างในบอกว่าวันนี้กำลังวังชาของป้า โอไม่รู้ ดีนัก ผมอยากให้เธอดูร่างกายของบุริศร์ว่าเมื่อไหร่ถึงจะ สามารถฟื้นขึ้นมาได้”
ได้ยินป้องพูดแบบนี้ นรมนรู้สึกเป็นห่วง
“ฉันจะไปกับคุณด้วย
“คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ผมจะรอคุณที่ด้านนอก”
นรมนเข้าไปในห้อง ส่วนป้องก็ให้คนหามบุริศร์ออกไป หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ นรมน ป้อง บุริศร์ และกานต์ก็ไป ที่คุกด้วยกัน
เมื่อมาถึงหน้าประตูคุก นรมนยังรู้สึกสองจิตสองใจ จนแม้แต่ จับมือของกานต์ไม่ยอมปล่อย
กานต์กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “หม่าม หม่ามีรออยู่ด้านนอกดีกว่า ครับ อีกไม่นานผมจะออกมา
“ไม่ได้! ”
นรมนเอ่ยปฏิเสธ
ถึงแม้กานต์จะยังคงยิ้มอยู่ แต่ก็มีนิสัยดื้อรั้นเหมือนกับนรมน “หม่ามี้”
ถึงแม้เขาจะออดอ้อน แต่นรมนรู้ว่ากานต์ตั้งใจที่จะเข้าไปเจอ กับป้า โอ
เธอไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเพราะอะไรทำไมกานต์ถึงต้องการเจอป้า โอให้ได้ ระหว่างพวกเขาไม่ได้มีความรู้สึกที่พิเศษต่อกัน หรือ เป็นเพราะเลือดข้นกว่าน้ำ
นรมนมองกานต์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
กานต์ยิ้มหวานมองนรมน แต่กลับดึงดันไม่ยอมถอยหลัง
ป้องเห็นท่าทางของพวกเขา จึงอดไอออกไม่ได้และกล่าวว่า “เอาแบบนี้แล้วกัน นรมนรออยู่เป็นเพื่อนกับบริศร์ข้างนอกก่อน ส่วนผมจะเข้าไปเป็นเพื่อนกานต์เอง ถ้ามีอะไรทะแม่ง ๆ ผมจะพา เขาออกมา ตกลงไหม?
นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้
ถึงแม้นรมนจะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่กานต์กลับกล่าวด้วยรอย ยิ้ม: “ได้ครับ จริงไหม ? หม่ามี้
ลูกจะต้องระวังตัว ผู้หญิงคนนั้นโหดเหี้ยมมาก ลูกอย่าถูกเธอ ทําให้สับสนไปนะ”
นรมนรู้ว่าการพูดแบบนี้ไม่ดีต่อการเติบโตของกานต์ แต่ใคร จะสามารถเข้าใจหัวใจของคนเป็นแม่ได้ล่ะ?
“ครับ”
กานต์ตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมา
เห็นกานต์เป็นเช่นนี้ นรมนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เธอ ปล่อยมือออก มองดูกานต์กับป้องเดินเข้าไป
ทั้งสองคนมาที่ห้องรับรอง ป้าโอมารออยู่ที่นี่แล้ว
เมื่อเห็นกานต์ ป้าโอมีสีหน้าดีใจ
“สูงขึ้นอีกแล้วนะ”
เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
กานต์มองหน้าเธอ นึกถึงป้าโอคนนั้นที่เคยดุร้ายกับตนเอง มาก และมองคนแก่ในตอนนี้ที่เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่ง คิ้วของเขา ขมวดเล็กน้อย
“ได้ยินหม่ามีบอกว่าคุณต้องการพบผม?
“ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง ฉันอยากเจอเธอกับกมลทั้งสองคนเลย คำพูดของป้าโอทำให้หัวคิ้วของกานต์ขมวดเล็กน้อย
“กมลป่วย ไม่ค่อยสบาย ไม่สามารถมาได้ ถ้าคุณมีเรื่องอะไร สามารถพูดกับผมได้เลยครับ”
กานต์มีท่าทางของลูกชายคนโตของครอบครัว
ป้าโอมองเห็นท่าทางแบบนี้ของกานต์ เหมือนกับมองเห็นบุรี ศร์ตอนเป็นเด็ก
สายตาของเธอเลือนราง
“รู้ตัวไหม? ท่าทางของเธอในตอนนี้เหมือนกับพ่อของเธอมาก ๆ ตอนเด็กเขาก็ปกป้องตรินท์แบบนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แบก ไว้บนบ่าของตนเอง”
กานต์ฟังอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้ขัดคำพูดของป้าโอ
ป้าโอเล่าเรื่องตอนเด็กของบริศร์ให้กานต์ฟัง รวมไปถึงตอน ริศ อายุไม่กี่ขวบเขาปัสสาวะรดกางเกงและไม่ยอมกลับบ้าน หลบอยู่ข้างนอกรอคนแยกย้ายถึงจะกลับมา ผลปรากฏว่าก่อ เรื่องน่าอายจนเป็นหวัด
“แด๊ดดี้ของเธอ เกิดมาพร้อมกับศักดิ์ศรี ตั้งแต่เด็กก็เป็นแบบ นี้ วางไม่ลง ดังนั้นกว่าจะเข้าใจความรู้สึกของตนเองก็สายไป มาก และทำให้แม่ของเธอต้องทุกข์ทรมานมากมาย เธอโตขึ้น อย่าเป็นเหมือนเขานะ เมื่อไหร่ก็ตาม ถ้าได้เจอกับผู้หญิงที่ตนเอง ชอบก็ควรจะพูดออกไป อย่าเก็บมันเอาไว้ บางครั้ง ศักดิ์ศรีไม่ได้ สําคัญอะไรเลยจริง ๆ
ป้าโอพูดอย่างอ่อนโยน
กานต์พยักหน้า
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ป้าโอเห็นกานต์อยู่กับตนเองอย่างสงบและ ละมุนละม่อม
เธอมองไปที่กานต์อย่างตั้งใจ ถึงแม้จะบอกว่ากานต์เหมือนบุรี ศมาก แต่ยังคงมีบางส่วนที่เหมือนกับนรมน
“ฉันยังจำภาพเหตุการณ์ตอนที่หม่ามีของเธอเพิ่งจะแต่งงาน เข้ามาในตระกูลโตเล็กได้อยู่เลย กานต์ หม่ามีของเธอชีวิตนี้ไม่ได้ง่ายเลย ต่อไปต้องทำดีกับเธอหน่อยนะ”
“นั่นคือหม่ามี้ของผม ผมจะดูแลเธออย่างดีแน่นอน คุณ ต้องการพูดอะไรกันแน่?
กานต์แปลกใจคําพูดของป้าโอ
จริงด้วย !
เธอคิดจะพูดอะไร?
แท้จริงแล้วเธออยากจะพูดทุกอย่าง เธอแค่อยากพูดคุยกับ หลานของตนเอง ต่อให้เป็นการนับเลขก็ได้
แต่ก่อนไม่รู้สึกว่าตนเองต้องการครอบครัว แต่ตอนนี้ชีวิต กำลังมาถึงจุดจบ เธอถึงพบว่าเธอทำใจไม่ได้
ทิ้งโลกใบนี้ไปไม่ลง ทิ้งหลายชายของเธอไปไม่ลง
เธอพบว่าตนเองมีเรื่องอยากคุยกับเด็ก ๆ เยอะเกินไป มาก เสียจนอยากพาเด็ก ๆ ออกไปเที่ยวสักครั้ง เธอคือคุณย่าของ พวกเขา แต่กลับไม่เคยซื้ออะไรให้แก่พวกเขาเลย ไม่เคยสื่อสาร อะไรกับพวกเขา
หลังจากคนอื่นตายไป อาจจะมีคนไปไหว้หลุมศพ แต่เธอล่ะ? หลังจากเธอตายไป จะมีใครไปไหว้หลุมศพเธอไหม?
จะมีใครฝังศพให้เธอไหม?
ป้าโอสํานึกผิดมาก
คนเรา เมื่อมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ถึงจะพบว่า ทุกสิ่งทุก อย่างที่เคยให้ความสนใจมันไม่มีค่าพอ มีเพียงความสัมพันธ์ ทางสายเลือดถึงจะเป็นสิ่งที่ปรารถนามากที่สุด
เธอเอื้อมมือออกไป คิดจะลูบหัวของกานต์ แต่กานต์กลับหลบ หลีกอย่างไม่รู้ตัว
บรรยากาศกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที
ป้าโออยากจะยิ้ม สุดท้ายกลับยิ้มไม่ออก
เธอน้ำตาคลอ กลับฝันเอาไว้ไม่ให้ไหลลงมา
กานต์เห็นท่าทางเช่นนี้ของเธอ ก็อดใจอ่อนไม่ได้
ในเมื่อเขาเป็นแค่เด็กสี่ขวบ
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
เสียงของกานต์เบามาก มาพร้อมกับความไม่แน่ใจ
เพียงแค่ประโยคเดียว ทำให้น้ำตาของป้าโอไหลพรั่งพรูออก มาอย่างห้ามไม่อยู่
ที่แท้เธอก็โดดเดี่ยว
ที่แท้เธอก็ต้องการความรัก
แม้ว่าความรักนี้จะเป็นเด็กอายุสี่ขวบที่มอบให้ก็ตาม
“ฉันสามารถกอดเธอได้ไหม? ”
คําขอร้องจากป้าโอทำให้ป้องตื่นตัวขึ้นมาทันที
เขาดึงกานต์ไปไว้ข้างหลัง และกล่าวอย่างเย็นซาว่า “ป้าโอ มาถึงตอนนี้แล้ว อย่าทำให้ทุกคนเกลียดคุณอีกเลย กานต์ยัง เป็นแค่เด็ก”
“ฉันแค่อยากจะกอดเขา เขาคือหลานชายของฉัน”
ป้าโอมองป้องด้วยแววตาวิงวอน
แต่ป้องกลับไม่ไหวติง
“ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาเป็นหลานชายของคุณเหรอ? แต่เรื่องพวก นั้นที่คุณทำลงไปล่ะ มีเรื่องไหนบ้างที่คู่ควรกับหลานชายของ คุณ? ป้าโอ อย่าหาว่าผมไม่มีเหตุผลเลยนะ คุณทำอะไรกับบุรี ศร์ ทำอะไรกับนรมน ทำไมวันนี้คุณถึงสามารถเจอกานต์ได้ คุณ ไม่รู้อยู่แก่ใจดีหรือไง? ”
“ฉันไม่ได้วางยาบุริศร์ นั่นคือลูกชายแท้ ๆ ของฉัน และฉันก็ไม่ ได้ทำอะไรนรมน ฉันรู้ว่าคนที่บุริศรักที่สุดคือนรมน ฉันใกล้จะ ตายแล้ว ฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันต้องเคียดแค้นฉันอีก ถ้า ฉันไม่พูดแบบนี้ นรมนจะพากานต์มาให้ฉันเจอเหรอ ฉันอ่อนล้า โรยรา มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้ว ให้ฉันกอดหลานชายของฉัน ได้ไหม? ”
น้ำตาของป้าโอเหมือนเส้นไข่มุกไหลลงมา
เธอสํานึกผิด!
สํานึกผิดจริง ๆ !
ถ้ารู้ก่อนหน้าว่าชีวิตของตนเองจะสั้นเช่นนี้ เธอจะไโหดร้ายมากมายเช่นนั้นกับลูกชายและหลายชาย เธอถูกผีเข้าสิงใช่ไหม?
ต่างพูดว่าคนเราไม่ว่าจะเหี้ยมโหดแค่ไหนก็ไม่ทำร้ายลูกของ ตนเอง ทำไมเธอถึงได้ลงมือกับลูกของตนเองได้
ถึงแม้จะต้องแบกรับความเกลียดชัง เธอก็ไม่ควรลงมือกับ ลูกชายและหลาน ๆ จริงไหม?
แต่ตอนนี้สำนึกผิดไปจะมีประโยชน์เหรอ?
ป้าโอรู้ว่าบนโลกใบนี้ไม่มียาสำนึกผิดขาย เธอเกลียดตัวเอง มองกานต์ตรงหน้า เธอเกลียดตนเองที่สุด
“กานต์ อย่าเกลียดย่าได้ไหม ย่าก็แค่ไม่มีทางเลือก ย่ารู้ ย่า ทำผิดไปแล้ว เรื่องราวมากมายผิดตั้งแต่เริ่มต้น แต่มาถึงจุดนี้ แล้ว ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ เธอต้องจำเอาไว้ ต่อจากนี้ทำ อะไรจะต้องคิดทบทวนให้ดี อย่าทำผิดพลาดแบบนี้เหมือนกับย่า เพราะเมื่อทำผิดพลาดแบบนี้แล้ว ก็ไม่มีโอกาสให้กลับไปได้ จน แม้แต่สูญเสียคนในครอบครัวของตนเอง เดินอยู่บนเส้นทางคน เดียวอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย”
ป้าโอร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ
ตลอดชีวิตนี้ของเธอต้องเข้มแข็ง ชีวิตนี้ไม่เคยเสียน้ำตา แต่ มาถึงตอนนี้ กลับเหมือนเด็กทารกที่เปราะบาง
กานต์มองดูท่าทางของป้าโอจากด้านหลังของป้อง อดรู้สึก ใจอ่อนไม่ได้
คุณเป็นคนรักษาคอของหม่ามี้ผมใช่ไหมครับ
เขาถามอย่างอ่อนแรง
ป้าโอเงยหน้าขึ้นมาทันที พยักหน้าและตอบว่า “ใช่ ฉันติด ค้างเธอ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่รักษาคอของหม่ามีผม
คำพูดของกานต์ทำให้ป้าโออึ้งไปทันที จากนั้นยิ่งร้องไห้อย่าง เสียใจ
เธอเพียงแค่ทำให้เรื่องที่เธอควรจะทำ คิดไม่ถึงว่าจะได้รับคำ
ขอบคุณจากหลานชาย
ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าแผนการทั้งหมดที่วางไว้ก่อนหน้านี้เทียบ ไม่ได้กับคําขอบคุณจากกานต์หนึ่งประโยค
“กานต์! ”
ป้าโอร้องไห้แทบขาดใจ กลับพบว่ามีมือเล็ก ๆ ลูบลงบนศีรษะ
ของเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ