แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 711 ฉันสามารถอยู่คนเดียวได้



บทที่ 711 ฉันสามารถอยู่คนเดียวได้

สีหน้าของนิตาแดงเหมือนกุ้งต้มสุก ทำให้คนอยากจะกัดสัก คําอย่างอดใจไม่ไหว

ทันใดนั้นเองเจตต์กลืนน้ำลายลงอย่างแรงอย่างช่วยไม่ได้ เคยคบหาผู้หญิงมามากมาย แต่สัมผัสที่สั่นสะเทือนหัวใจเป็น ครั้งแรกที่ได้พบจริง ๆ

“คุณยังจะดูอีก!!

นิตารู้สึกขายหน้าแทบตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของ เจตต์ในเวลานี้ ทำให้เธอเงยหน้าไม่ขึ้น

เจตต์รีบหันหน้าหนี แต่หัวใจกลับเอาแต่เต้นรัวยิ่งกว่าเดิม เหมือนกับสามารถหลุดออกจากทรวงอกได้ทุกเมื่อ

พวกเขาส่งเสียงหอบ ในบรรยากาศคล้ายกับว่ามีกลิ่นอาย แปลก ๆ ตลบอบอวลไปทั่ว

วันภพมองเห็นฉากนี้ ก็ไม่รู้ว่าตนเองควรจะพูดหรือไม่ควรพูด

“แค่ก ๆ ! ”

เขาไอออกมาอย่างกระอักกระอ่วน
ใบหน้าของนิตายิ่งแดงขึ้น เธอเพิ่งรู้ตัวว่ามีคุณหมออยู่ด้วย

เจตต์กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขามองกันภพและถาม ว่า “พวกคุณจะไปเมื่อไหร่? ถ้าพวกคุณไปแล้ว นิตาจะทำ อย่างไร? ”

วันทพเหลือบมองนิตา และตอบเสียงเบาว่า “ผมจัดคนให้ มารับช่วงต่อจากผมเรียบร้อยแล้ว สบายใจได้เลย อีกฝ่ายก็ ชำนาญในด้านนี้ และยิ่งไปกว่านั้นเธอต้องการแค่เพียงพักผ่อน ให้เต็มที่”

“งั้นก็เหลือหมอเก่ง ๆ เอาไว้ที่นี่สักคน ถ้าเรื่องทางนั้น สามารถจัดการได้ ก็ได้โปรดคุณช่วยพยายามอย่างเต็มที่ ผม เจตต์จะต้องขอบคุณคุณอย่างสุดซึ้งแน่นอน”

คำพูดของเจตต์ทำให้วันภพอึ้งไป

“คุณคือเพื่อนสนิทของบุริศร์? ”

เจตต์ไม่ได้ตอบคําถาม

นิตาได้ฟังพวกเขาคุยกัน ถึงจะเข้าใจว่าทำไมของนรมน

“ประธานนรมนไม่ได้มาเพราะข้อตกลงเหรอ?

“คุณคิดว่าใครที่รู้เรื่องข้อตกลงต่างก็โง่พอ ๆ กับคุณเหรอ รู้จักแค่การหาเงินใช่ไหม? ยัยโง่เอ๊ย”

เจตต์ขยี้ศีรษะของนิตา จากนั้นจึงหยิบกระติกน้ำร้อนและ กล่าวว่า “ผมจะไปกดน้ำร้อนมาให้นะ มีอะไรก็เรียกพยาบาลได้เลย อย่าคิดทําอะไรเองคนเดียวโดยไม่ประเมินความสามารถ ของตนเอง ได้ยินไหม?

“ค่ะ”

อาจเพราะน้ำเสียงที่อ่อนโยนเกินไปของเจตต์ หรืออาจเป็น เพราะฉากที่เก้อเขินเมื่อสักครู่จึงทำให้นิตาไม่กล้าสบตาเจตต์ เธอเชื่อฟังและทำตัวดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้มุมปากของ เจต ยกขึ้นเบา ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ

วันภพรู้สึกว่าตนเองอยู่ตรงนี้เป็นก้างขวางคอ คงจะดีถ้ารีบ ออกไปจากที่นี่

“หากมีเรื่องอะไรสามารถเรียกหาคุณหมอคนอื่นได้เลยนะครับ ผมบอกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เช้าผมต้องกลับไปกับนรมน ดังนั้นคุณต้องพักผ่อนให้เต็มที่ ฟังที่คุณหมอบอกเข้าใจไหม ครับ?

“ขอบคุณค่ะ คุณหมอวันภพ”

นิตาพยักหน้า วันภพออกไปจากห้องผู้ป่วย

เมื่อในห้องผู้ป่วยเหลือแค่เพียงนิตาคนเดียว เธออดรู้สึกโดด เดี่ยวไม่ได้

นึกถึงฉากก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้าเกิดเรื่อง ขึ้นกับตนเองจริง ๆ น้องชายจะทำอย่างไร?
คิดถึงตรงนี้ เธอรีบโทรหาน้องชาย หลังจากแน่ใจว่าน้องชาย อยู่ในโรงเรียนไม่มีเรื่องอะไรถึงจะวางมือถือลง

เมื่อเจตต์กลับมาก็เห็นนิตาคุยโทรศัพท์กับน้องชาย แววตามี ความเศร้าสลดอย่างอดไม่ได้

ถ้านิตาไม่หายดี ชีวิตนี้เธอคงจะไม่สามารถเป็นแม่คนได้จริง

นี่เป็นสิ่งที่โหดร้ายเกินไปสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง

เขาสามารถรับผิดชอบนิตาไปได้ทั้งชีวิต จนแม้แต่ให้ความรัก ที่สมบูรณ์แบบแก่เธอ แต่เขาไม่สามารถให้ลูกแก่นตาได้

คิดมาถึงตรงนี้ เจตต์รู้สึกผิดในใจอย่างยิ่ง

ถ้าไม่ใช่เพราะตนเอง นิตายังมีความเป็นไปได้อีกมากมาย บางทีตอนนี้…..

เขากัดฟันและเดินเข้าไป สูดลมหายใจลึกหนึ่งที และเอ่ยถาม ด้วยรอยยิ้ม : “ได้ยินมาว่าคุณมีน้องชาย

“หือ? คุณรู้ได้ไงคะ? ”

เห็นได้ชัดว่านิตาแปลกใจเป็นพิเศษ

เจตต์กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “บริษัทมีประวัติส่วนตัว และคุณก็เป็น คนเขียนเอง ผมอยู่ข้าง ๆ นรมนตอนเธอโยกย้ายเอกสาร จึงเคย เห็นมาก่อน”

“อ่อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ใช่แล้ว ฉันมีน้องชายคนหนึ่ง น้องชาย ของฉันหล่อมาก และยังสูงมาก คุณอย่ามองว่าฉันตัวเตี้ยนะ ยืนของฉันกลายพันธุ์ไปจากคนในครอบครัวของพวกเรา ส่วนน้อง ชายของฉันเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก

พูดถึงน้องชายของตนเอง ใบหน้าของนิตาเปล่งประกาย สีหน้ามีความภาคภูมิใจไปทุกที่

เจตต์เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ไม่รู้เพราะอะไร ในใจรู้สึกปวด

ร้าว

“คุณเคยคิดจะไปเรียนเพิ่มเติมบ้างไหม? ”

นิตาหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง และตอบเสียงเบาว่า “ฉันรออีกไม่กี่ ปี ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของน้องชายฉัน รอเขาเรียนจบ หางานทําได้ ฉันค่อยไปเรียนเพิ่มเติมก็ไม่สายไป

“ถึงตอนนั้นคุณจะอายุเท่าไหร่แล้ว? ควรจะแต่งงานมีลูกได้ แล้ว”

“ผู้หญิงไม่จําเป็นต้องหาคนแต่งงานด้วยถึงจะเป็นทางออก เดียวซะหน่อย”

นิตาโต้แย้ง ใบหน้าเล็ก ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะจิตใจที่ไม่ สงบ ตรงกันข้ามกลับมีเลือดฝาด

เจตต์รู้สึกว่านิตาที่เป็นแบบนี้ค่อนข้างดูดี

“น้องชายของคุณต้องเป็นทหารหรือเปล่า? ” เขาเคยเห็นนิตาเลื่อมใสศรัทธาทหาร ดังนั้นจึงคาดเดาเช่นนี้ นิตาอึ้งไปสักพัก จากนั้นคว้าข้อมือของเจตต์มาด้วยความตื่นเต้นอย่างกะทันหันและเอ่ยถามว่า “คุณมีวิธีเหรอ? น้องชาย ของฉันชอบเป็นทหารมาก ฉันไม่มีเงิน และไม่มีเส้นสาย จึงไม่ สามารถส่งน้องชายไปเป็นทหารได้ น้องชายของฉันบอกว่าจะไป เรียน โรงเรียนตำรวจ แต่ว่า…….

“แต่ว่าอะไร? พ่อแม่ของคุณคือวีรชนผู้เสียสละ น้องชายของ คุณก็มีสิทธิเป็นทหารได้นะ”

ได้ยินเจตต์พูดแบบนี้ นิตาหัวเราะอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “คุณไม่รู้อะไร พ่อแม่ของฉันสละชีพตอนอยู่ในภารกิจที่เป็น ความลับ ภารกิจนั้นออกแบบให้แลกเปลี่ยนเงินสามล้าน แต่หลัง จากที่พ่อแม่ของฉันสละชีพไปแล้ว เงินจำนวนนั้นก็ไร้ร่องรอย จนถึงตอนนี้พวกเขายังต้องแบกรับการตรวจสอบว่าเป็นผู้ต้อง สงสัย ดังนั้นเบื้องบนจึงไม่ขนานนามว่าเป็นวีรชนผู้เสียสละ ฉัน กับน้องชายจึงไม่เพียงแต่ไม่มีเอกสิทธิ์ แต่ยังถูกจำกัดทุกอย่าง บางครั้งฉันคิดว่าพ่อแม่ของฉันถูกใส่ความจริง ๆ ”

นิตาพูดไปพูดมาขอบตาแดงก่ำ เห็นว่ากำลังจะร้องไห้ เจตต์ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ยังมีอะไรอีก แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้

“ส่งเรื่องนี้มาให้ผม ผมจะช่วยคุณตรวจสอบเอง รับรองว่าจะ ทำให้น้องชายของคุณได้เป็นทหาร และทำให้พ่อแม่ของคุณ หลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย

“จริงเหรอ? คุณทำได้จริงเหรอคะ? ”

นิตามองเจตต์ แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แววตาแบบนี้ทนทุกข์มามากเกินไป เจตต์ถึงกับรู้สึกสงสารขึ้น มาโดยฉับพลัน

ถ้าไม่ใช่เพราะรู้จักเขาเจตต์คนนี้ ผู้เสียสละอย่างนิตาหลังจาก นี้จะต้องทรมานกับความยุติธรรมที่ไม่ได้รับการผ่อนปรนได้ จนถึงเมื่อไหร่?

“วางใจเถอะ ส่งมันมาให้ผม ส่วนคุณก็พักผ่อนให้สบายใจ และโครงการของนรมนเดี๋ยวผมจะทำกับคุณเอง”

ได้ยินเจตต์พูดแบบนี้ นิตากัดริมฝีปากล่าง เอ่ยถามว่า “คุณ ปฏิบัติกับฉันแบบนี้เพราะฉันช่วยชีวิตคุณใช่ไหมคะ?

เจตต์ไม่รู้ว่าตนเองควรจะตอบอย่างไร

หากพูดตามความจริง เขากลัวนิตาจะรับไม่ไหว

“ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแล้วกัน ส่วนอื่นผมคิดว่าคุณเป็นคนไม่เลว คุณช่วยนรมนแบบนี้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรผมก็ควรจะขอบคุณแทน

เธอ”

“ขอบคุณค่ะ”

นิตายิ้ม

เจตต์ประคองให้เธอเอนนอนลง

เขาโทรหาธเนศพล ในเมืองหลวงต่อหน้าเธอ ทำการตอบ สนองต่อเรื่องนี้

ธเนศพลบอกว่าจะช่วยตรวจสอบให้ รับประกันว่าจะต้องได้ผลลัพธ์ออกมา

นิตาได้ยินคําร้องที่เธอขอไปทุกหนทุกแห่งแต่ไม่ได้ข่าวคราว อะไร วันนี้เจต เพียงแค่โทรครั้งเดียวก็จัดการได้ เธอมองไปที่ เขาโดยไม่ตั้งใจ รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างตนเองกับเจต อีกครั้ง

เดิมคิดว่าเจตต์เป็นเพียงลูกหลานคนรวย แต่ตอนนี้ไม่เพียง แค่ความแตกต่างในเรื่องทรัพย์สิน แต่มากเสียจนในเรื่องเส้น สายด้วยซ้ำ เจตต์เป็นคนที่โดดเด่น

ทันใดนั้นเองนิตาก็รู้สึกต้อยต่ำ

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ความรู้สึกกลัดกลุ้มเหมือนภูเขาลูกใหญ่กด ทับบนทรวงอกของเธออย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอหายใจไม่ ออก

เห็นได้ชัดว่าอยากจะขอบคุณเจตต์ แต่ตอนนี้กลับพูดไม่ออก มากเสียจนความต้อยต่ำทำให้เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเจตต์ ด้วยซ้ำ

เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

เธอไม่รู้ เพียงแต่การที่เป็นแบบนี้ทำให้ตนเองรู้สึกแปลก ๆ ไม่รู้จะทําอย่างไร

หลังจากเจตต์คุยโทรศัพท์เสร็จ มองเห็นนิตาดึงผ้าห่มมา คลุมโปงตนเอง เหมือนเด็กแง่งอน ก็รีบดึงผ้าห่มของเธอออก

“คุณอยากให้ตัวเองหายใจไม่ออกตายเหรอ? ”
“ฉันอยากนอนหลับสักพัก เสียงของนิตาเบามาก เบาจนเจต แทบจะไม่ได้ยิน

ทันใดนั้นเขาพบว่านิตามีท่าทางหดหูมาก แต่ดูเหมือนว่าเมื่อ สักครู่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ทำอะไร?

“คุณเป็นอะไรไป? ”

“เปล่า แค่เจ็บแผลนิดหน่อย ฉันอยากนอนหลับสักพัก นิตายังคงตอบอย่างอู้อี้

“งั้นคุณนอนพักเถอะ ผมจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ

ในขณะที่พูด เจตต์กำลังจะนั่งลงไป

“คุณไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอก คุณกลับไปเถอะ ฉันรู้ว่าคุณ มีธุระค่อนข้างเยอะ อย่าทำให้ธุระของคุณล่าช้าเพราะฉันเลย”

“ตอนนี้การดูแลคุณคือเรื่องสำคัญที่สุดของผม

เจตต์พูดจบ นั่งลงไปด้านข้างนิตาทันที

นิตาพลิกผ้าห่มออกทันที และกล่าวด้วยความโมโห “เจต ตอนนั้นที่ฉันทำแบบนั้น เพียงแค่ทำไปตามหลักมนุษยธรรม ไม่ใช่เพราะเรื่องใด ๆ คุณไม่จำเป็นต้องดีกับฉันเพราะเรื่องนี้ คุณช่างสูงส่ง ทำกับฉันแบบนี้ไม่รู้สึกอึดอัดบ้างเหรอ?

เจตต์มึนงงกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของนิตา

“คุณเป็นอะไรไปเนี่ย?
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่อยากบอกคุณว่า ฉันนิตาไม่ได้อ่อนแอ และไม่ต้องการคนมาอยู่ด้วย ฉันสามารถอยู่คนเดียวได้”

“คุณอยู่ได้กะผีสิ! คุณไม่ต้องมาเกรงใจผมเลยนะ ! ผมบอก ว่าผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ ก็จะอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ คุณจะบ่น อะไร? รีบเอนลงไปนอนหลับซะ ! ให้ท้ายคุณหน่อยก็เอาใหญ่ เลยนะ”

เจตต์พูดจบ กดนิตาลงบนเตียงอย่างป่าเถื่อนทันที จากนั้นดึง ผ้าห่มห่มร่างกายของเธอ

นิตารู้สึกว่าว่าเจตต์รุนแรงเกินไป จึงพยายามดิ้นรนอย่างห้าม

ไม่ได้

“คุณจะทําอะไร? คุณไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันเลยนะ!

“นิตา คุณเป็นวัยทองหรือไง? อารมณ์ถึงได้แปลกประหลาด แบบนี้ เมื่อสักครู่ยังดีอยู่เลย ตอนนี้คิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน? ตอน คุณช่วยผมคุณเคยขอความเห็นดีเห็นชอบจากผมไหม? ในเมื่อ ไม่มี การดูแลคุณทำไมผมจะต้องขอความเห็นชอบจากคุณ ด้วย? ”

คำพูดของเจตต์ทำให้นิตาพูดไม่ออกทันที

“คุณคุณคุณคุณ…….

“ผมผมผมผมทำไม? รีบนอนซะ! ถ้าไม่นอน พวกเราสามารถ ทำอย่างอื่นได้นะ ตราบใดที่คุณยินยอม

“ไอ้คนอันธพาล! ”
นิตาเบี่ยงหลบออกไปทันที ดึงผ้าห่มมาปกป้องตนเองไว้

แน่น

เจตต์ชะงักไปเล็กน้อย เพียงแต่เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ก็อต หัวเราะขึ้นมาไม่ได้

“ไม่ใช่ คุณคิดอะไรเนี่ย? เป็นไปได้ไหมว่า……..

“คุณหุบปากไปเลยนะ! ฉันต้องการพักผ่อน! ”

นิตารีบดึงผ้าห่มมาคลุมตนเองเอาไว้ รู้สึกว่าการทะเลาะกับ เจตต์ ชาตินี้ตนเองคงไม่มีทางชนะ

ว่าแต่เธอเป็นอะไรไป?

ทำไมถึงโกรธขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

เห็นได้ชัดว่าเธอแค่เพียงรู้สึกต้อยต่ำ เพียงแค่ไม่อยากแสดง ความรู้สึกต่อหน้าเจตต์ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเช่นนี้

นิตาไม่เข้าใจ ส่วนเจตต์ก็ไม่คิดมาก ทั้งสองคนผ่านไปคืนนี้ไป ด้วยความอึดอัดวางตัวไม่ถูกและปรองดองกันเล็กน้อย

เมื่อแสงแดดของเช้าวันใหม่ส่องกระทบ เจตต์ตื่นขึ้นมา มอง เห็นนิตายังคงหลับใหล เขาจึงหยิบกะละมังออกไปจากห้องผู้ ป่วย แต่กลับตกใจทันทีเมื่อเปิดประตูออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ