บทที่ 710 คนเราแค่มีชีวิตอยู่ถึงได้มีความหวัง
ร่างเจตต์ชะงัก
เขามองโพนี่ มองอยู่นานมาก จากนั้นก็พูดทีละคำ “ชายยังไม่ ได้แต่งงานหญิงก็ยังไม่ได้แต่งงาน ฉันจะแต่งงานกับเธอ ฉันต้อง จีบเธอ นี่คุณไม่พอใจเหรอ?”
“แต่ในใจนายมันไม่มีที่สำหรับเธอ ในใจนายมีใคร เรารู้ดีแก่
ใจ”
“เวลาเป็นยารักษาที่ดีที่สุด ฉันจัดหาที่ให้เธอได้ โพนี่ นี่เป็น เรื่องของฉันกับเธอ ได้โปรดไม่ต้องมายุ่ง
เสียงเจต ไม่ดัง แต่เคร่งขรึมอย่างมาก
โพนี่ตกตะลึงทันที
“นายตัดสินใจจะตัดใจจากนรมนแล้ว?”
“ฉันยังมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ? ถ้าไม่ตัดใจจากนรมน ฉันจะ ไม่ยุติธรรมกับนิตา”
เจตต์พูดจบ ก็ไปห้องน้ำอีกครั้ง
มองแผ่นหลังเจตต์ ทันใดนั้น โพนี่ก็พบว่าตัวเองไม่เข้าใจเจตต์
เลย
ทุกคนคิดว่าเจตต์เป็นคนเพลย์บอย เธอคิดว่าเจตต์รักนรมน อย่างลึกซึ้ง แต่ไม่คิดเลยว่าเจตต์จะตัดสินใจแบบนี้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้
เจตต์ไม่สนว่า โพนี่จะคิดเช่นไร นำน้ำร้อนและผ้าขนหนูร้อน ออกมา เช็ดหน้าและแขนให้นิตา
โพนี่ใช้เวลานานสักพักกว่าจะได้สติกลับมา
เจตต์ที่ยืนอยู่เหนือมาตลอด เคยรับใช้ใครตั้งแต่เมื่อไร? นอกจากเคยรับใช้นรมนคราวก่อน เธอก็ไม่เคยเห็นเจตต์อ่อน โยนและเอาใจใส่ใครมากขนาดนี้มาก่อนจริงๆ
บางทีระหว่างเขากับนิตาอาจจะเป็นเรื่องโชคชะตาของสวรรค์ ก็เป็นได้
“รุ่นพี่ฉันบอกว่าร่างกายนิตาไม่แน่นอน ไม่น่าร้ายแรงขนาด นั้น แต่คำพูดพวกนี้จะพูดเร็วไปไม่ได้ ยังไงแล้วก็ยังไม่ได้เริ่ม รักษา”
“ฉันรู้แล้ว ฉันเตรียมใจไว้แล้ว คนอย่างฉัน จะมีทายาทหรือ เปล่าฉันไม่สน ฉันแค่สนว่าเธอจะเป็นยังไง
คำพูดของเจตต์ทำให้โพนี่รู้สึกชื่นชมมากขึ้น
“ไม่ต้องเป็นห่วง เธอไม่มีความกังวลในชีวิต”
“ขอบใจ แต่สภาพร่างกายเธอต้องพยายามปกปิดนิตา ให้ มากที่สุด คุณก็รู้ นิตายังเป็นวัยรุ่น เธอยังมีภาพลวงตามากมาย เกี่ยวกับอนาคต ฉันไม่อยากทำลายภาพลวงตาของเธอตั้งแต่ เนิ่นๆ ไม่แน่สองสามปีอาจจะรักษาหายได้จริงๆ ถึงตอนนั้นก็จะ ดีใจกันทุกคน”
ได้ยินเจตต์พูดแบบนี้ โพนี่ก็รีบพยักหน้า
“ฉันรู้ ฉันจะบอกรุ่นพี่วันภพ จริงสิ ฉันกับนรมนอาจจะไปแล้ว นะ เพราะนิตาเกิดอุบัติเหตุ โครงการร่วมมือทางนี้หยุดไว้ก่อนดี กว่า”
“นิตาเป็นผู้หญิงที่มีความรับผิดชอบ สิ่งที่เธอหวังที่สุดคือท่า โครงการนี้ให้ดี เพราะนรมนส่งเสริมเธอ ให้ความสำคัญกับเธอ ดังนั้นเธอจึงพยายามเต็มที่เพื่อนรมน อย่างน้อย โลกใบนี้ก็เป็น เขตแดนที่เธอคุ้นเคย พวกเธอไปกันเถอะ ฉันรู้ว่าพวกเธอมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะโครงการร่วมมือ แต่เพราะเรื่องบุริศร์ใช่ไหม? ตอนนี้ เจอวันภพแล้ว ในใจนรมนก็จะสงบจิตสงบใจไม่น้อย ฉันต้องอยู่ นี่ ดูแลนิตา อยู่เป็นเพื่อนนิตา ถ้าเธอต้องการควบคุม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ฉันจะช่วยเธอ และถือเป็นการช่วยนร มนด้วย”
เจตต์เข้าใจอย่างยิ่งว่าพวกเธอมาทำอะไรที่นี่ เมื่อก่อนไม่พูดก็ รู้สึกว่ารู้กันอยู่แล้ว นรมนก็จะปฏิบัติดีกับเขาหน่อย ตอนนี้มัน เป็นแบบนี้แล้ว เขาก็ทำการตัดสินใจแล้วด้วย จึงพูดคำนี้ออกไป อย่างเป็นธรรมชาติ
โพนี่มองเจตต์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เจตต์ นายทำให้ฉันเปลี่ยนแปลงมุมมองกับนาย
“ขอบใจ แต่ทุกอย่างที่ฉันทำ ไม่ใช่เพื่อคนอื่นจะมองฉันยังไง ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุข
เจตต์พูดจบก็เปิดประตูห้อง ความหมายนั้นชัดเจนมาก คือ ให้โพนี่ออกไป
เป็นครั้งแรกที่โพนี่ถูกคนไล่ออกไปจากห้องผู้ป่วย รู้สึกหดหู เล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็เพื่อให้นิตามีความสุข
บางทีพวกเขาอาจจะเป็นการแต่งงานกำหนดชะตากรรมที่ สวรรค์จัดขึ้นไว้จริงๆ ก็ได้นะ?
เมื่อโพนีออกมา เห็นนรมนนั่งบนม้านั่งถือโทรศัพท์กำลังส่ง อะไรบางอย่าง
“นรมน คุณทําอะไรน่ะ?”
โพนี่มานั่งข้างๆ นรมน
นรมนแสดงท่าทางพูดขึ้น “ฉันนึกถึงคนหนึ่ง บางทีอาจจะช่วย ให้นิตาหายดีขึ้นได้”
“ใคร?”
“นภดลกับมิลิน”
นรมนแสดงท่าทางพูดขึ้น “เลือดนภดลมีประสิทธิภาพที่เป็น เอกลักษณ์ ทักษะทางการแพทย์ของมิลินก็มีชื่อเสียงระดับโลก บางทีให้พวกเขาช่วยรักษานิตาได้”
โพนี่มองนรมน พูดเสียงทุ้ม “ในเมื่อคุณรู้ทุกอย่างนี้ ทำไม เรื่องของบุริศร์ไม่ไปหามิลินล่ะ?”
นรมนตกตะลึงทันที
ทําไม?
เพราะเงื่อนไขที่มิลินเสนอเธอไม่อยากตกลงน่ะสิ
เธอสามารถไม่ต้องการเสียงตัวเอง สามารถไปหาหมอรักษา กับบริศรได้ แต่เธอไม่สามารถมองดู นิตาแบกรับทุกสิ่งที่เธอไม่ ควรแบกรับโดยที่ไม่ทำอะไร
“นรมน ถึงฉันจะไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างคุณกับมิลิน แต่มี ลินเคยบอกกับฉันว่าเสียงคุณเธอสามารถรักษาได้ ทำไมไม่ รักษา?”
โพนี่คิดเกี่ยวกับคำถามนี้นานมาก แต่หาค่าตอบไม่ได้ ตอนนี้ ในเมื่อพูดถึงมิลิน เธอก็ต้องเอ่ยปาก
นโมนเงียบ
เธอไม่อยากพูด และไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร
โพนี่เห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็ถอนหายใจก่อนพูดขึ้น “คุณไม่ อยากพูดฉันก็ไม่บีบบังคับคุณ แต่ฉันคิดว่าในเมื่อคุณมีโอกาส ฟื้นฟูเสียง ก็เดิมพันมันสักหน่อย คุณคงไม่อยากให้ชีวิตที่เหลือ ในอนาคตด้วยการแสดงท่าทางแบบนี้ใช่ไหม? แล้วเรื่องบุริศร์ รุ่นพี่วันภพก็ไม่แน่ใจผลลัพธ์มากพอ ถ้า ฉันบอกว่าถ้านะ ถ้ารุ่นพี่ วันภพก็ไม่มีหนทาง ฉันก็อยากให้เธอพิจารณาเกี่ยวกับมิลินสัก หน่อย คนเราแค่มีชีวิตอยู่ ถึงได้มีหวังไม่ใช่เหรอ?”
นรมนชะงักทันที
คนเราแค่มีชีวิตอยู่ถึงได้มีหวัง
ใช่แล้ว!
ถ้าแม้แต่ชีวิตก็ไม่มี จะคุยอะไรเรื่องความรัก จะคุยอะไรเรื่อง การใช้ชีวิตที่เหลืออยู่?
ราวกับนรมนคิดออกทันใด เธอพยักหน้าพูดขึ้น “ฉันจะ พิจารณา ตอนนี้เรื่องนิตาสำคัญที่สุด ทางด้านบริศร์ให้วันภพ ตัดสินใจ ถ้าไม่ได้ผล ฉันจะพิจารณามิลิน”
“อืม ฉันเชื่อว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ดี”
โพนี่ตบบ่านรมน ดวงตามองไปที่ห้องผู้ป่วยของนิตาอีกครั้ง “พรุ่งนี้เช้าเราต้องไปแล้ว” ไม่ไปบอกลานิตาเหรอ?
นรมนชะงักไปสักพัก แสดงท่าทางพูดขึ้น “ต้องบอกลา พรุ่งนี้ เช้าฉันจะมาที่นี่”
ทั้งสองคนลุกขึ้นแล้วออกจากโรงพยาบาล
เจตต์มองนิตาบนเตียงผู้ป่วย เขาไม่เข้าใจ คนที่ตัวเล็กๆ แบบ นี้ เอาความกล้าที่ไหนมาทำให้เธอเผชิญหน้ากับคนโหดเหี้ยม แบบนั้นแถมยังปกป้องตนอย่างใจเด็ดอีก?
บอกว่าไม่ประทับใจก็เป็นการโกหก
คนคนหนึ่งสามารถปกป้องคุณได้ด้วยชีวิต แสดงว่าคุณมี ความสำคัญมากสำหรับคนคนนั้น
เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรทำให้นิตาต้องจ่ายขนาดนี้ แต่ในเมื่อ ตัดสินใจจะจีบเธอแล้ว เขาจะไม่สนใจทุกอย่าง
เจตต์ส่งข้อความบอกพวกพ้องที่อยู่ระหว่างทาง ให้พวกเขาเตรียมคนไม่กี่คนเข้าไปทักทายชนกอย่างเต็มที่
ว่ากันว่าหลังจากธาวิณีเห็นชนกถูกนำตัวไป ก็เข้าไปอีก พนักงานจัดการคดีเป็นชิ้นๆ ด้วยความบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์
และถูกควบคุมตัวในสถานกักกันข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจ ผู้หญิงคนนี้ทำให้นิตากลายเป็นสภาพในตอนนี้ เจตต์รู้สึกว่า
ให้เธอผ่อนคลายไม่ได้
เขาหาคนไปประกันตัวธาวิณี และพาธาวิณีไปยังคฤหาสน์แห่ง หนึ่ง จากนั้นก็เตรียมคนไปเตะท้องธาวิณีวันละสามครั้ง
อาชญากรรมทั้งหมดที่นตาได้รับ เขาอยากให้ธาวิณีชดใช้พัน เท่าร้อยเท่า
หลังจากทําทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว เจตต์ก็เอาโทรศัพท์ออกมา โทร หลักๆ คือส่งมอบงานของบริษัทตระกูลรัตติกรวรกุล ให้ ประธานศุกลจัดการ บอกประธานศุกลว่าช่วงนี้เขาต้องอยู่ที่นี่ทำ
เมื่อนิตาฟื้นขึ้นมา ก็เห็นเจตต์กำลังเตรียมทำงานอย่างเป็น
ระบบ
เธอรู้สึกว่าเจตต์ที่เป็นแบบนี้หล่อมาก เจตต์วางโทรศัพท์ลงก็พบว่านิตาฟื้นขึ้นแล้ว เขารีบถามขึ้น “เจ็บตรงไหนไหม? ฉันจะไปเรียกหมอ” ขณะที่พูดเขาก็จะลุกขึ้น แต่นิตาจับมือเอาไว้
พบว่าตัวเองจับมือเจตต์ นิตาก็รีบปล่อย เธอพูดอย่างอ่อนแรง “ฉันไม่เป็นอะไร เจ็บแหละ แต่ไม่ได้เปราะบางขนาดนั้น เดี๋ยวก็ดี ขึ้นแล้ว”
“พูดอะไรไร้สาระ เจ็บตรงไหนก็อดทนให้มันผ่านไปเหรอ? คุณ รอก่อน ฉันจะไปเรียกหมอ”
เจตต์ยิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็หันตัวออกไป
นิตารู้สึกว่ายิ้มนั้นของเจตต์มันดูดีมากเกินไปไหม?
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนบ้าผู้ชาย
เดิมทีเจตต์ก็หน้าตาขาวเป็นพิเศษ แถมยังหล่อมาก ไม่ใช่ครั้ง แรกที่เธอรู้สักหน่อย
มองห้องผู้ป่วย นิตาเห็นว่าตัวเองอยู่คนเดียว รู้ว่าอาจจะเป็น
ห้องผู้ป่วยที่เข้มงวดในการดูแล
ประธานนรมนมาหรือยัง?
ทำไมไม่เห็นประธานนรมน
นิตามองนาฬิกาข้างๆ เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว เดาว่าเวลานี้ ประธานนรมนคงกลับไปนอนแล้วล่ะมั้ง
เธอโชคดีที่ตัวเองยืนกรานจนกว่านรมนจะมา เจตต์ถึงได้ไม่ เป็นอะไร และไม่รู้ว่าชนกและธาวิณีเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
เรื่องราวครั้งนี้คาดว่าทำให้แผนโครงการพวกเขาพังพินาศไป หมดแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ นิตาก็รู้สึกหดหูเป็นพิเศษ รู้สึกผิดต่อนรมน อย่างมาก
เมื่อเจต พาหมอกลับมา นิตาก็กำลังเสียใจที่ตัวเองผิดพลาด
“ทำอะไร? ไม่ตั้งใจพักฟื้นล่ะ ถอนหายใจทำไม?”
อยู่
เจตต์ยกมือขึ้น แล้วดีดหน้าผากเธอทันที
“โอ๊ย เจ็บ”
นิตาขมวดคิ้วตะโกน แต่ทันใดนั้นก็ตกตะลึง
การกระทํา ใกล้ชิดแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาไม่ใช่ เหรอ? นิตาเงยหน้ามองเจตต์ด้วยความงุนงง พบว่าหางตาเขามีรอย
ยิ้มที่อ่อนโยนมากๆ
“รู้ว่าเจ็บก็พักฟื้นให้ดี อย่าขี้เกียจอยู่ที่นี่เพราะป่วย ฉันจะบอก คุณ ให้คุณต้องดำเนินการพัฒนาโครงการต่อไป พรุ่งนี้นรมนจะ กลับเมืองCแล้ว”
“ฮะ? ประธานนรมนจะไปพรุ่งนี้แล้วเหรอ? แต่สัญญาของ เรา……”
“ไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้แล้ว รอให้คุณหายดีค่อยเซ็นสัญญาก ไม่สาย นรมนบอกว่าให้คุณพักฟื้นให้ดี เธอต้องกลับเร็วหน่อย เพราะเรื่องบุริศร์ การตลาดทางนี้เธอวางใจมอบให้คุณ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะอยู่ต่อเพื่อช่วยคุณ ชนกถูกนำตัวไปแล้ว ตอน ปารีสอยู่ในอำนาจ”
เจตต์พูดจบอย่างรวดเร็ว นิตาตามจังหวะไม่ค่อยทัน ทําไมเธอสลบไป ดูเหมือนทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เห็นท่าทางสับสนของนิตา เจตต์ก็รู้สึกว่าเธอที่เป็นแบบนี้ค่อน ข้างน่ารัก ก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “ทีมจังเลย รีบฟังสิ่งที่หมอจะพูดดี กว่า”
“อืม”
นิดาพยักหน้า รีบหันไปทางวันภพ
เห็นอารมณ์นิตาดีมาก วันภพก็ยิ้มขณะพูดขึ้น ไม่ได้เป็นอะไร มาก แค่ซี่โครงหักสาม ต้องบำรุงรักษา ในระยะเวลาสั้นๆ
“นี่ไม่ได้เป็นอะไรมากเหรอ?”
นิตาร้อนรนใจทันที
“ไม่ได้ ฉันจะพักฟื้นที่นี่ต่อไปไม่ได้ ฉันมีงาน ฉันยังมีธุระอื่นนะ
คะ”
ขณะที่พูด เธอก็จะดิ้นลุกขึ้น
“คุณอย่าขยับ! ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? นรมนบอกว่าเรื่อง โครงการนั้นไม่ต้องกังวล”
“นั่นก็ไม่ได้นะ!”
นิตายังคงดิ้นรน ราวกับมีบางอย่างเร่งด่วน
และในตอนนี้ เจตต์ก็กดเธอไว้บนเตียงทันที
“ฉันไม่เชื่อ คําพูดหมอไม่ได้ผลใช่ไหม?”
เขาออกแรงค่อนข้างหนัก นิตาทำเสียงไม่พอใจ เจตต์รีบ ปล่อยมือ ไม่คิดว่านิตาจะนั่งขึ้นมาทันที ริมฝีปากหอมนุ่มแตะบน หน้าเจต
กระแสไฟฟ้าผ่านไปทันที ทั้งคู่ตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ