แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 691 แค่สอนเด็กใหม่เอง



บทที่ 691 แค่สอนเด็กใหม่เอง

คือนิตา!

ตอนนี้เจตต์เห็นนิตาจึงรีบเดินหนีแทบไม่ทัน

เมื่อฉุกคิดได้ เขาก็ทำเช่นนั้น เขากำลังจะเดินหันตัวจากไป แต่ กลับถูกนรมครั้งเอาไว้ก่อน

“ที่ฉันพูดคุณได้ยินไหม?”

นรมนพูดด้วยท่าทางประกอบ

“อืม ได้ยินแล้ว ผู้หญิงดุดันคนนั้นของพวกคุณมาแล้ว ผมไม่รู้ ผู้หญิงหรอก ไม่อยากจะสนใจหล่อน ค่อยคุยกับคุณต่อวันหลัง แล้วกัน”

เจตต์รีบวิ่งหนี

นิตาเห็นแผ่นหลังของเจตต์ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “ประธานนรมน เขามาตามซื้อคุณอีกแล้วเหรอ? ทำไมเขานี่หน้า ด้านหน้าทนจริงๆ”

นรมนเบ้ปาก

ดูท่าคำว่าเจตต์หน้าด้านหน้าทนนี้ยากที่จะหายไปจากปาก

ของนิตา

“เธอมีเรื่องอะไร?”
นรมนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ในเมื่อเธอพูดมาหลายต่อหลายครั้ง แล้ว ว่าไม่ให้เรียกประธานนรมน หล่อนก็ยังเรียกอยู่อย่างนั้น บอกว่าต้องทําตามกฎของบริษัท

นิตาหยิบเอกสารขึ้นมาด้วยความจริงจัง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ประธานนรมน ดูนี่สิ นี่เป็นแปลนภาพคร่าวๆของแผนการ ลงทุน”

นรมนสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นจากสีหน้าของนิตา

“ฉันไม่มีเวลามาสนเรื่องพวกนี้มากนัก เอาแบบนี้ เดี๋ยวฉันหา คนมาช่วยคิด เขาเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านนี้ เธอสามารถไป ถามเขาได้”

คําพูดของนรมนทำให้นิตาดีใจขึ้นชั่วขณะ

“จริงเหรอคะ? เขาเป็นใครกัน? แบบนี้ดีไปเลยประธานนรมน คุณวางใจได้ ฉันจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด”

“อืม เดี๋ยวฉันให้เขาไปหาเธอเอง เธอกลับก่อนเถอะ” นิตาเดินจากไปด้วยความดีใจ

นรมนกลับมายังห้องผู้ป่วย คุยกับบุริศร์ต่อซักพัก ป้องก็แจ้ง ข่าวว่า โพนี่อาจจะมาที่นี่ในเร็วๆนี้ อาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับการ ผ่าตัดของบุริศร์ที่ต้องคุย

เธอตื่นเต้นและรอคอยเป็นอย่างมาก

แต่ว่าก่อนหน้านี้ นรมนรู้สึกว่าตัวเองควรจัดการเรื่องของนิตาเสียก่อน

เธอนัดเจตต์ออกมาทานข้าว ซึ่งทำให้เจตต์รู้สึกแปลกใจมาก

“ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม? คุณจะเลี้ยงข้าวผม? วันนี้ลมเพลม พัดอะไรกัน?”

เจตต์ตื่นเต้นมาก แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยอกนรมน

“พอได้แล้ว ทำอย่างกับฉันทำอย่างกับคุณเป็นลูกน้องอย่าง นั้น ในเมื่อเป็นแบบนี้ ยังจะตามฉันอยู่ทำไมล่ะ?”

ภายใต้การควบคุมจองนรมน เจตต์จึงได้แต่หัวเราะ “ผม เต็มใจ! ผมชอบถูกบังคับ ไม่ได้เหรอ?”

“ได้! แต่ว่าที่วันนี้ฉันเลี้ยงข้าวคุณ ก็เพราะมีเรื่องรบกวนนิด หน่อย”

“ดูสิ ผมก็รู้ ว่าคุณไม่มีทางที่อยู่ดีๆจะมาเลี้ยงข้าวผมแน่นอน คุณไม่เคยเลี้ยงข้าวผมเฉยๆหรอก จะต้องมีธุระทุกครั้ง คุณจะ ทำให้ผมประทับใจซักครั้งไม่ได้เลยหรือไง?

เจตต์บ่นอุบ บรมนกลับยกมุมปากขึ้นยิ้ม จากนั้นทำท่าทาง “ฉันไม่สามารถทำให้คุณประทับใจหรอก แค่นี้คุณก็ตามฉันจะ แย่แล้ว ถ้าคุณยิ่งประทับใจอีก ฉันก็คงต้องเดินหลบคุณแล้ว แหละ”

“ได้! ผมไม่ทานแล้วข้าวมื้อนี้ ธุระของคุณผมก็จะไม่ช่วย จะได้ ไม่ต้องทำให้คุณหนูนรมนรู้สึกกลัว”
เจตต์พูดจบกำลังจะลุก แต่พบว่าชายเสื้อของตัวเองถูกจับเอา

ไว้อยู่

เขาหันหัวกลับมามอง พบว่านรมนมองเขาด้วยสายตา อ้อนวอน แล้วจากนั้นก็ยิ้มแฉ่งขึ้นมา

“ทำไม? ไม่อยากให้ผมไปแล้วเหรอ? คุณฟังผมพูดนะ ตอนนี้ บริศร์ไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ แบบนี้แหละดีแล้ว คุณทิ้งเขา ไปก่อนชั่วคราว ไปทานข้าวกับผมซักมือ จากนั้นผมจะรับปาก คุณไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม

สิ่งที่เจตต์พูดทำให้นรมนหงุดหงิด แต่เมื่อนึกถึงแผนการตัว เอง จึงพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ ฉันตกลง คุณเลือกสถานที่เลย

“ต้องแบบนี้สิ!”

เจตต์ดีใจมาก เทเรื่องทั้งหมดทิ้ง แล้วพานรมนขับรถไปบน

เขา

ที่นี่เป็นร้านอาหารแบบพื้นบ้าน

เจตต์ก็ไม่รู้ว่าค้นพบที่นี่ได้อย่างไร แต่นรมนรู้สึกว่าวิวดีมาก

เลยแหละ

หลังจากที่เธอมาถึง ก็สูดลมหายใจเข้าลึก

บึ้ม!

สดชื่นจริงๆ

“เป็นยังไง? ไม่เลวเลยใช่ไหม?”
เจต พยายามถามด้วยความเอาใจ

นรมนยิ้ม แล้วตอบด้วยท่าทาง “วิวดีมากเลยแหละ แต่ว่า

รสชาติอาหารจะเป็นยังไงก็ไม่รู้

“ไปชิมก็จะได้รู้แล้วไหม? ไปเถอะ

!

เจตต์เดินจูงมือนรมนเข้าไป

ที่นี่มีแขกไม่มากนัก แต่กลับรู้สึกอบอุ่นมากเป็นพิเศษ

เจตต์พานรมนมายังที่นั่งริมหน้าต่าง ด้านหลังเป็นภูเขา ดูมี อรรถรสมาก

พนักงานรีบเข้ามาต้อนรับ ให้พวกเขาสั่งอาหาร นรมน ให้เจตต์เป็นคนสั่งอาหาร เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ แต่ละเมนูมีความพิเศษมาก นรมนเห็นอาหารบนโต๊ะก็เริ่มรู้สึกหิว

“รีบชิมดูสิ”

เจตต์เร่งให้เธอทานเหมือนกับเด็ก

นรมนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารชิม

อืม รสชาติดีเลยแหละ

เธอพยักหน้า มองไปทางเจตต์ แล้วยกนิ้วให้ เจตต์จึงหัวเราะขึ้นมาด้วยความชอบใจ
“อร่อยไหม? อร่อยใช่ไหม? แบบนี้ก็ถูกแล้ว ดูสิใครเป็น เจ้าของร้าน”

นโมนอึ้งไปชั่วขณะ

“หมายความว่าอย่างไร?

“หมายความว่าอย่างไร? ร้านอาหารนี้ผมทำออกมาเป็น อย่างไรบ้าง? ดีไปเลยใช่ไหมล่ะ?”

เจตต์หัวเราะอย่างชอบใจ

นรมนมองเขา แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณไม่กลับเมือง ชลธีแล้วเหรอ? ”

“คุณอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น ในเมื่อคุณชอบที่นี่มาก ผมก็จะอยู่ ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ กิจการที่เมืองชลธีมีคนดูแลอยู่แล้ว ผมเข้าไป เช็คในเว็บไซต์ทุกวันก็พอแล้ว แต่ว่าช่วงนี้คุณดูผอมลงไปมาก แล้วยังไม่ชอบทานอะไรอีก ผมจึงนำอาหารที่เมืองชลธีกับที่นี่มา ผสมผสานกัน จากนั้นเปิดเป็นร้านอาหารพื้นบ้าน แค่คุณอยาก กิน ผมก็จะให้คนไปส่งให้ทันที เป็นยังไง?”

สิ่งที่เจตต์พูดนั้นทำให้นรมนประทับใจ และสับสนมาก

เธอแต่งงานแล้ว ไม่ได้คิดกับเจตต์แบบนั้น พวกเขาเป็นเพียง เพื่อนกันเท่านั้น แต่ว่าเธอพูดเรื่องนี้ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ เจตต์ก็ทำเหมือนไม่ได้ยินแบบนั้น

นรมนอยากให้เจตต์มีความสุขของตัวเองจริงๆซักที
– นอนรายงาน

สิ่งที่เขาทำพวกนี้ควรจะทำเพื่อผู้หญิงอีกคน ที่ไม่ใช่เธอ

เขาสามารถช่วยเธอท่ามกลางความยากลำบาก ก็ประทับใจ

ไม่น้อยแล้ว เธอจะทำให้เขารู้สึกมากไปกว่านี้ได้อย่างไร? แล้วตอนนี้เพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธอ เขาถึงกับลงหลักปักฐานที่นี่ ความคิดเช่นนี้ที่ทำให้นรมนรู้สึกกลัว

เจตต์เห็นนรมนไม่ตอบอะไร เขาจึงถามขึ้นมา “ทำไมเหรอ? ไม่อร่อยเหรอ? หรือว่าประทับใจจนพูดไม่ออก?”

“เจตต์ ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยหน่อย

นรมนเริ่มทำท่าทางภาษามือพูดขึ้นมา จึงทำให้เจตต์ตกใจ

“เธอจะขรึมขนาดนั้นทำไมกัน? เธอมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็พูดมา สิ เรื่องอะไร? ผมตกลงคุณแล้ว

“คุณพูดแล้วนะ”

“ผมพูดสิ ผมเคยคืนค่าพูดกับคุณเสียเมื่อไหร่? เจตต์มองนรมนด้วยความขัน จากนั้นยกไวน์ขึ้นจิบ วันนี้อารมณ์ดีจริงๆ สงสัยไวน์คงจะหอมน่าดู

เจตต์อารมณ์ดีได้เพียงไม่กี่นาที นรมนก็พูดต่อด้วยภาษามือ “ในด้านการบริหารบริษัทนั้น ฉันไม่มีประสบการณ์อะไรมากนัก ในด้านการลงทุนฉันก็ไม่มีประสบการณ์ คุณรู้ดี ฉันมีธุรกิจท่อง เที่ยวอยู่ตรงนี้ ทั้งรายรับและรายจ่ายทั้งหมดล้วนมากจากบริษัท นี้ ตอนนี้ต้องการขยายธุรกิจไปทางสิบสองปันนา แต่ฉันไม่ค่อย1. ยานนาวาน งาน

คุ้นเคยกับที่นี่มากนัก ถ้าต้องการขยาย ก็ต้องใช้เวลาศึกษา คุณ ก็รู้ว่าสถานการณ์ฉันในตอนนี้ทำอะไรมากไม่ได้

“ทำไมไม่ได้ล่ะ? คุณแค่หาพยาบาลมาดูแลบุริศร์ซักคน คุณ ไปศึกษากับผมก็ได้นี่ พอดีเลย ที่เราสองคนจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน ซักครั้ง ใช่สิ แบบนี้มันดีมาก

สิ่งที่เจตต์พูดทำให้นรมนเหนื่อยใจ

“อยากจะแกล้งบุริศร์เหรอ? ฉันจะบอกคุณให้นะว่าถ้าเกิด เรื่องแบบนี้อีก ฉันจะไม่สนใจคุณแล้วจริงๆ ถ้าหากบุริศร์ตื่นขึ้น มา คุณไม่กลัวเขาจะตามถลกหนังคุณเหรอ?”

“ก็ต้องรอเขาตื่นขึ้นมาก่อนนะ สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ จะตื่นขึ้นมายังยาก ชีวิตนี้ก็อาจจะทำได้เพียงเท่านี้

เจตต์หยุดพูดไม่ได้ เขาพบว่าแววตาของนรมนเปลี่ยนไป

เขารีบมองไปทางเธอ พบว่าแววตาของเธอเจือความเศร้า และแฝงไปด้วยความทุกข์

“ถุย ผมนี่ปากเสียจริงๆ พอแล้วๆ อย่าเศร้าไปเลย บุริศร์เขา เป็นคนดี ฟ้ามีตา เดี๋ยวเขาก็หายดีเอง เธอวางใจเถอะ ชีวิตของ ลูกผู้ชายคนหนึ่งไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆหรอก จะกลายเป็นแบบ นั้นได้อย่างไรกัน? เป็นไปไม่ได้หรอก”

เจตต์ก็รู้สึกว่าตัวเองแปลกจริงๆ

เขาอยากจะไม่ให้บริศร์ฟื้นขึ้นมาอีกในชีวิตนี้ เขาก็จะได้ดูแล นรมนเสียที จะได้อยู่เคียงข้างเธอ แม้ว่าชื่อของเธอจะยังเป็นนามสกุลของบริศ อยู่ แค่ได้อยู่เคียงข้างเธอตลอดไป ก็พอใจ แล้ว”

แต่เมื่อเขาเห็นนรมนมีความเศร้านั้น เขาอยากให้นรมนได้ สมหวัง ให้เธอได้เป็นผู้หญิงที่มีความสุข

ความขัดแย้งนี้แทบจะทำให้เขาบ้าตาย แต่กลับชอบที่เป็นเช่น นี้ไปเรื่อยๆ

หรือว่าเขาอาจจะชอบทรมานตัวเองจริงๆ

ทำไมนรมนจะไม่รู้สิ่งที่เจตคิด?

เพราะเป็นเช่นนี้ เธอจึงไม่ต้องการให้เจตมาเสียเวลากับเธอ

เขาควรมีความสุขของตัวเอง!

ถ้าหากเจตต์ไม่ยอม เธอก็ต้องพยายามยัดเยียดมันให้เขา

แล้ว!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นรมนจึงเริ่มพูดด้วยภาษามือต่อ “อย่างนั้น คุณตกลงแล้วใช่ไหม?”

“ตกลงอะไร?”

เจตตั้งงเล็กน้อย ทำไมเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกนรมนล่อลวง อยู่ล่ะ?

แต่เมื่อเขาสบตากับนรมน เธอยังคงมีความเศร้า ไม่จางหายไป
นรมนถอนหายใจ แล้วพูดต่อด้วยภาษามือ “คุณจะช่วยฉันไป ศึกษาหน่อยได้ไหม?”

“โอเคๆ ผมตกลง ผมนึกว่าจะเรื่องอะไร เรื่องแค่นี้จะทำให้มัน จริงจังไปทำไมกัน? ผมจะถือว่าไปเที่ยวแล้วกัน”

เจตต์ตอบตกลงอย่างง่ายดาย

นรมนแอบดีใจ จึงตอบด้วยภาษามือ “เดี๋ยวฉันส่งคนของทาง บริษัทติดตามคุณไปจดบันทึกข้อมูล เธอยังเป็นคนมาใหม่ ยังไม่ ค่อยรู้เรื่อง คุณสอนเธอล่ะกัน ถ้าวันหลังฉันไม่อยู่ ก็ว่าจะฝาก บริษัทไว้ให้คนที่มาใหม่คนนี้ดูแล คุณรู้ไหม ตัวเองเก่งก็ไม่ เท่ากับมีลูกมือดีๆซักคน คุณก็คงไม่หวังให้อนาคตของฉันยุ่งจน เหนื่อยตายหรอกใช่ไหม?”

พูดจนสุดท้าย นรมนก็เปิดไฟลำบากขึ้นมา

เจตต์จะกล้าปฏิเสธเธอได้อย่างไร?

โอเค ได้ แค่สอนงานเด็กใหม่เอง ผมสัญญาว่าจะเอาสิ่งที่ผม รู้ทั้งหมด สอนให้เธอ โอเคไหม?”

“ฉันต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ

เมื่อนรมนได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เธอจึงรีบรินเหล้าให้เจตต์ จากนั้นก็ยิ้มให้เขา แล้วทานข้าวต่อ

“งั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณไปหาหล่อนที่นี่ได้เลย พวกคุณเริ่มงาน ด้วยกัน ใช่แล้ว พรุ่งนี้ฉันอาจจะต้องพาบุริศร์ไปตรงร่างกายใน เมืองเสียหน่อย อาจจะไม่มีเวลารับสายซักเท่าไหร่ มีอะไรก็ทิ้งข้อความเอาไว้แล้วกัน”

นรมนก้าซับ

เจตต์พยักหน้าตกลง แต่เมื่อวันรุ่งขึ้นที่เขาไปถึงสถานที่ที่น มนบอก พบเจอกับหล่อนคนนั้น ทำให้เอาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ