แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 59 ฮอร์โมนไม่ปกติหรอ



บทที่ 59 ฮอร์โมนไม่ปกติหรอ

นรมนได้ยินเสียงฝึก้าวจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นว่า เป็นบุริศร์ยืนอยู่ที่หน้าประตู มองมาที่ตนอย่างลึกซึ้ง

แววตาของเขามันช่างเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกและอ่อน โยนขนาดนั้น ราวกับว่าตัวเธอเป็นผู้หญิงที่เขาหวงแหน มากที่สุดในชีวิต

แต่ว่าเพียงชั่วครู่ในใจเธอกลับรู้สึกตลกสิ้นดี

คนที่บุริศร์รักที่สุดคือเขมิกาต่างหาก แต่เธอคือนรมน จะไปเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?

“คุณบุริศร์? คุณมาได้ยังไงคะ? บอกว่าช่วงนี้ยุ่งไม่ใช่ หรอคะ? ”

แท้จริงแล้วเธอรู้ดีว่าคุณหมอนัทธ์ได้นำผลตรวจ ดีเอ็นเอนั้นมอบให้บุริศร์ไปแล้วเธอกำลังรอให้บุริศร์มาหา เธออยู่พอดี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะปล่อยให้เธอต้อง รอนานขนาดนี้ ในวันนี้แววตาของเขากลับเปี่ยมไปด้วย ความรู้สึกที่มีต่อคนรัก

นี่คิดจะมาเพื่อขอคืนดี? หรือว่ามาขอร้องอะไร?

นรมนเตรียมความพร้อมมาแล้วอย่างดี แต่บุริศร์กลับ เดินยิ้มเข้ามา

แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าหน้าต่างสาดส่องไปยัง เรือนร่างของบุริศร์ ราวกับว่ามีแสงสีทองส่องออกมาจาก ตัวเขา
นรมนไปครู่นึง

จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้พบกับบุริศร์ เขาก็มีแสงออร่า เปล่งประกายออกมาเช่นนี้ ตอนนั้นเขาเป็นนักธุรกิจที่ได้ รับเชิญให้มาบรรยายประสบการณ์ที่ทำให้ประสบความ สำเร็จที่มหาลัย แต่ว่าความหล่อเนี้ยบของเขา ไม่ว่าเขา จะอยู่ที่ใด ในสายตาเธอที่ที่มีเขาอยู่ล้วนเป็นภาพทิวทัศน์ ที่งดงามเสมอ ภาพของเขาตราตรึงอยู่ในหัวใจของนรมน และนับแต่นั้นมาเธอก็ตกหลุมรักเขามาโดยตลอด เป็น เพราะเขาทำให้เธอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่เพ้อว่า สักวันนึงจะได้เป็นเจ้าสาวของเขา

เดิมที่คิดว่าเป็นแค่ความฝันลมลมแล้งแล้งที่เธอแอบรัก เขาข้างเดียว แต่คาดไม่ถึงว่าโชคชะตาจะโหดร้ายได้ ขนาดนี้ งานเลี้ยงเพียงครั้งเดียวไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทำให้เธอกับเขานอนด้วยกัน และเธอเองก็ยังถูกเขา จัดการเรียบร้อยแล้วอยู่บนเตียง

ตอนนั้นเธอถึงรู้ว่าบุริศร์มีแฟนอยู่แล้ว และเป็นเพราะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้แฟนของบุริศร์ต้องเดินจากไป และบุริศร์เองก็ถูกสังคมวิจารณ์ไปต่างๆนานา ทำให้เขา ไม่มีทางเลือกและต้องแต่งงานกับเธอ

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้พวกเขาจึงได้อยู่ด้วยกัน แต่ เธอก็ยังดีและมีความสุข ถึงขั้นขอบคุณเทวดาฟ้าดินที่ ทำให้ชาตินี้เธอมีโอกาสได้เป็นภรรยาของบุริศร์ และเพื่อ ที่จะให้เขาชอบในตัวเธอขึ้นมาสักนิด เธอยอมที่จะทิ้งใน สิ่งที่ตัวเองชอบไปและหันไปสนใจในสิ่งที่บุริศร์ชอบแทน บุริศร์เป็นเสมือนโลกทั้งใบของเธอ

เดิมที่คิดว่าสักวันเธอคงจะเอาชนะใจเขาเขาได้ น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงก้อนหินก้อนนึงบนภูเขาน้ำแข็งที่ หนาวเหน็บ ไม่ว่าเธอดีกับเขาแค่ไหน พยายามแค่ไหน สุดท้ายสำหรับเขาเธอก็เป็นได้แค่ของตาย

ตอนนี้ ภาพเหตุการณ์ที่เหมือนกับในอดีตทำให้นรมน รู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนมีดกรีดที่กลางใจ อยู่ๆเธอก็รู้สึก เกลียดบุริศร์จนเข้าไส้

ถ้าเขาหน้าตาไม่หล่อขนาดนี้ หากว่าเขาขี้เหร่กว่านี้ซะ หน่อย เธอก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ใช่ไหม?

เสียดายที่ทุกอย่างเป็นแค่เรื่องสมมุติ !

นรมนพยายามจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ แต่กลับ ไม่สามารถควบคุมความเย็นชาและความเกลียดชังที่ซ่อน เร้นอยู่ในในแววตาของเธอได้

ในใจบุริศร์เปี่ยมไปด้วยความสุขแต่เมื่อ สบตากับนร มนทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกเอาน้ำเย็นสาดหน้ายังไงยัง งั้น ซาไปทั้งตัวและหัวใจ

“ทำไมล่ะ? ไม่ชอบที่ผมมา?

เขาเดินหน้าขึ้นมาหนึ่งก้าว แล้วนำมะม่วงวางไว้บนโต๊ะ

กลิ่นหอมของมะม่วงลอยมาเตะจมูกของนรมน มัน ทำให้เธอต้องรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง

มะม่วงที่เธอชอบกินมากที่สุด แต่เป็นเพราะบุริศร์บอก ว่าเขาไม่ค่อยชินกับกลิ่นของมะม่วง ทำให้เธอไม่กล้าแตะ มันอีกเลย แต่มาวันนี้เธอแปลงโฉมกลายเป็นอีกคนกลับ มาแล้ว แต่เขากลับเอามะม่วงมาเยี่ยมเธอ นี่มัน หมายความว่ายังไงกัน?
เยาะเย้ยมากเลยใช่ไหม?

“คุณเอามะม่วงมาทำอะไรหรอคะ? ฉันไม่ชอบทาน มะม่วงค่ะ”

เสียงนรมนก็พลางพูดแต่สายตาไม่มีว่าจะมองมะม่วง เลยแม้แต่น้อย ที่จริงแล้ว5ปีที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเตะ มะม่วงอีกเลย เป็นเพราะว่ากานต์และกมลต่างแพ้มะม่วง ด้วยกันทั้งคู่

เด็กทั้งสองคนนั้นเหมือนกับพ่อของเขาไม่มีผิด บุริศร์ชะงักไปครู่นึง

เขารู้มาจากคนรับใช้ว่านรมนชอบกินมะม่วง เขาแพ้ มะม่วงและในบ้านของเขาก็ไม่เคยมีมะม่วง เขาก็คิดว่าน รมนก็ไม่ชอบกินมะม่วงเหมือนกัน บนโต๊ะอาหารจึงไม่เคย มีมะม่วงวางไว้เลย ต่อมาก็รู้โดยบังเอิญว่านรมนยอมไม่ กินผลไม้ที่ตัวเองชอบที่สุดก็เพื่อเขา

เดิมที่กะว่าจะบอกเธอว่าให้เธอกินได้ตามสบาย ไม่ต้อง ห่วงเขา แต่ว่าเขมิกาก็กลับเข้ามาทำให้พวกเขาไม่มี โอกาสได้มานั่งคุยกันดีดีเลย

มาวันนี้นรมนกลับมาบอกเขาว่าตัวเองไม่ชอบกินมะม่วง ทำให้ในใจบุริศร์รู้สึกไม่ดีนัก

“แววตาของคุณมันฟ้องว่าคุณชอบทานใช่ไหมล่ะ? ชอบก็บอกว่าชอบ จะมามัวเมินท่าไมกัน มาผมปอกให้” บุริศร์ทำเป็นมองไม่เห็นใบหน้าที่เฉยชาของนรมน เขา

หยิบมะม่วงออกมาลูกนึงแล้วปอกเปลือกออก

“อย่า! คุณแพ้มะม่วงไม่ใช่หรอคะ? ”
นรมนพูดจบถึงรู้สึกว่าตัวเองกระโตกกระตากเกินไป แล้ว มือที่ยื่นออกไปก็หยุดอยู่กลางอากาศ จะดึงกลับมา ก็ไม่ใช่ที่ จะคาไว้เช่นนั้นก็ไม่ได้

แววตาของบุริศร์ดูมีชีวิตชีวาสดใสขึ้นมาทันที “คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมแพ้มะม่วง?

สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง

นรมนรีบดึงมือกลับมาแล้วพลางพูดพลางหัวเราะ “ขอโทษค่ะ ฉันลืมไปเลยว่าที่คือคุณบุริศร์ ฉันนึกว่ารเม ศน่ะค่ะ เขาแพ้มะม่วง ทุกครั้งเขาก็ยังจะปอกให้ฉัน แต่ก็ ทำเอาผื่นแดงขึ้นเต็มตัวตลอดเลย เห็นเขาเป็นแบบนั้น ฉันจึงไม่กินมะม่วงอีกเลย”

เมื่อได้ยินนรมนพูดเช่นนั้น แววตาที่สดใสของบุริศร์ก็ ค่อยๆหายไป

รเมศ!

ที่แท้ก็เป็นเพราะรเมศ!

มือของบุริศร์ใช้แรงเยอะไปหน่อย จนทำให้น้ำมะม่วง พุ่งออกมาเล็กน้อย

นรมนเหมือนกับว่ามองไม่เห็นแล้วพูดต่อ “คุณบุริศร์คะ ถ้าคุณสะดวกก็ปอกให้ฉันลูกนึงละกันนะคะ รเมศไม่อยู่ ถ้าเขาอยู่ ฉันต้องอดทานแน่ๆเลยค่ะ”

เขามองไปยังนรมนที่ยิ้มอยู่และพลางนั่งฟังคำพูดที่ แทงใจดำเหล่านั้น บุริศร์รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากแต่ ทำได้แค่นั่งก้มหน้า และค่อยๆปอกมะม่วงต่อไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ