บทที่ 651 ไม่ได้ต้องการคุณ
หัวใจของบุริศร์ถูกแทงอย่างโหดเหี้ยมจนรู้สึกเจ็บปวด
เขาเคยเป็นที่สําคัญที่สุดของนรมน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็น ชายอื่นไปแล้วเหรอ? หรือว่าระหว่างตนเองกับนรมนจบลงแล้ว จริงๆ ?
ไม่ใช่ว่านรมนจะมองไม่เห็นแววตาที่เจ็บปวดของบุริศร์ เพียง แต่เธอไม่รู้จะอธิบายอย่างไร และจะสามารถอธิบายได้อย่างไร และเมื่ออธิบายไปแล้วจะเป็นอย่างไร?
เธอทำได้เพียงแค่มองบุริศร์ ด้วยแววตายากที่จะเข้าใจ สุดท้ายบุริศร์ก็ทำไม่ลง
ภายใต้แววตาเช่นนี้ของนรมน เขาจะยังทำอะไรกับปัญญ่ได้ อีก มันจะไร้มนุษยธรรมมากเกินไป
ปัญญ์กลับไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ปืนขึ้นจากด้านหลังของนรมน ต่อยไปที่บุริศร์ทันที
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการชกต่อย เดิมทีบุริศร์ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับปัญญ์ แต่ทำไมผู้ชาย คนนี้ชอบแกว่งเท้าเข้าหาเสี้ยน ยั่วยุตนเองอีกแล้ว
และในครั้งนี้บุริศร์เตะปัญญ์ลอยออกไปทันที
“อ๊าก! ”
ปัญญ์ร้องด้วยความเจ็บปวด กระเด็นออกไปไกลกว่าร้อย เมตร
นรมนมองบุริศ อย่างตำหนิ จากนั้นจึงรีบวิ่งไปทางปัญญ
“โอ๊ย โอ๊ย! ซี่โครงของผมหักหมดแล้ว! เปลหาม! ผม
ต้องการเปลหาม! ไม่ไหวแล้ว เจ็บจังเลย! ”
ปัญญ่ร้องตะโกนหน้าตาบิดเบี้ยว
นรมนเห็นเขาเจ็บปวดเช่นนี้ จึงรีบพยุงเขา
ศีรษะของปัญญ์พิงบนไหล่ของนรมนรนหาที่ตายอีกครั้ง แถม ยังโอบเอวของเธอแน่น ตะโกนด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม “เจ็บๆๆ ! ผมเจ็บ!
นรมนรู้สึกแย่มากๆ
สำหรับเธอแล้ว บุริศร์ยังถือว่าเป็นคนของตนเอง ตอนนี้บริศร์ ตีปัญญ์จนกลายเป็นแบบนี้ แล้วเธอจะอธิบายกับคุมทิพย์ อย่างไร? จะไม่ละอายใจต่อปัญญ์ที่ดูแลมานานกว่าหนึ่งเดือนได้ อย่างไร?
บริศร์มองเห็นท่าทางแบบนี้ของปัญญ์ แทบอยากจะเตะเขาให้ คว่ำอีกครั้งจริงๆ
ไอ้เด็กคนนี้มันจงใจแน่ๆ
มองเห็นนรมนประคองปัญญ์อย่างเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ บุริศร์
ก้าวขึ้นไป
“คุณจะทำอะไร? ผมจะบอกให้นะ ตอนนี้ผมเป็นคนที่บาดเจ็บ จนพิการ คุณทำให้ผมบาดเจ็บ แต๊ดดี้ของผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ ปัญญ่พูดเหมือนเด็ก
บริศ ถามอย่างถากถาง “แกเป็นเด็กสามขวบเหรอ? ”
*หมายความว่าอะไร? ”
“โตขนาดนี้ยังจะขี้ฟ้อง แกเป็นผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย?”
บริศนำค่าพูดถากถางก่อนหน้านี้ของเขาไม่นานส่งคืนให้แก่ ปัญญ่ตามเดิม
ใบหน้าของปัญญ์แดง ทำไมถึงไม่สามารถเอาชนะคนตรง หน้าได้เลย
ทันใดนั้นเองเขาก็ซุกเข้าไปในอ้อมแขนของนรมน พูดด้วย
ความเจ็บใจ “พี่นรมนครับ เขารังแกผม”
“ไม่รู้จัก โตสักที”
บุริศร์กลอกตามองบน ใส่เขาอีกครั้ง จากนั้นจึงดึงเขาออกมา จากอ้อมแขนของนรมน พาดเขาไว้บนไหล่เดินตรงไปสนามหญ้า หน้าโรงพยาบาล
“โอ๊ยๆๆ คุณช้าลงหน่อยสิ ผมเจ็บนะ! คุณประคองคนเป็น หรือเปล่าเนี่ย? ”
ปัญญ์ส่งเสียงโวยวายไม่ยอมหยุด
บริศ เพียงแค่มองเขาอย่างไม่แยแสและกล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวนรมนจะเหนื่อย แกคิดว่าฉันจะเต็มใจพยุงแกเหรอ?
“ช่างมันเถอะ หรือเป็นเพราะว่าคุณทิ้ง? คุณกลัวว่าผมจะฉวย โอกาสครอบครอง นรมนอย่างสบาย ๆ ใช่ไหม? ต่างก็เป็น ผู้ชาย ใครจะไม่รู้ล่ะ
ปัญญ์พูดอย่างคนที่ค่อนข้างมีประสบการณ์
บุริศร์ไม่ได้โต้แย้ง
นรมนเห็นทั้งสองคนที่เพิ่งจะทะเลาะกันอยู่ดี ๆ ก็คืนดีกันขึ้นมา ในเวลานี้ เธอไม่อาจเข้าใจรูปแบบพฤติกรรมระหว่างผู้ชายไปได้ ชั่วขณะ
เพียงแต่เห็นพวกเขาสองคนเดินออกไปไกล นรมนจึงรีบตาม
ไปอย่างรวดเร็ว
คุณหมอเพิ่งจะออกมาจากห้องผู้ป่วยของกานต์ ก็มองเห็นบุรี ศ พยุงปัญญ์มาจากด้านหลังโรงพยาบาล ก็นึกถึงคำพูดของ กานต์ขึ้นมา คุณหมอหยุดก้าวเดินชั่วคราว
“ประธานบริศร์ มีอะไรให้ช่วยไหม? ”
“ช่วยดูให้ผมหน่อย”
บุริศร์ส่งปัญญ์ให้แก่คุณหมอ
คุณหมอมองบุริศร์ พบว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็ยิ้มออกมา ทันที และรับตัวปัญญ์มา
ปัญญ์ตะโกนไปทางด้านหลังอย่างไม่ยินยอม “พี่นรมน พี่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนผม ผมกลัวเข็มฉีดยา
นรมนรีบพยักหน้า กลับถูกบุริศร์ดึงข้อมือเดินออกไปทันที เขา เดินไปพลางพร้อมพูดกับปัญญ์ว่า “แกควรจะหย่านมได้แล้ว
“บุริศร คุณมันระย่า !
ปัญญ์กัดฟันกรามอย่างโมโห เขาไม่สามารถทำอะไรบุริศร์ได้
เลย จึงทำได้เพียงปล่อยให้คุณหมอพาเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
นรมนเมื่อถูกบุริศร์จับสองมือเอาไว้ จึงเริ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว กลับได้ยินบริศ บอกว่า “ ต้องการหย่า ทางที่ดีตอนนี้ฟังผม ก่อน”
การเคลื่อนไหวของนรมนหยุดลงทันที จากนั้นก็เงียบลง
เดิมทีนี่คือผลลัพธ์ที่บุริศร์ต้องการ แต่เห็นเธอเชื่อฟังจริงๆ ก้น บึงหัวใจของบุริศร์ระเบิดความโกรธออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ นึกถึงความสนิทสนมกลมเกลียวของนรมนกับปัญญ์ ความโกรธ ที่ติดอยู่ข้างใน แทบจะแผดเผาตัวของเขาเอง
“คุณอยากจะหย่ากับผมจนรอแทบไม่ไหวแล้วเหรอ?
นรมนนิ่งไปอีกครั้ง จากนั้นจึงพยักหน้า สีหน้าของบริศร์ดูน่าเกลียดสุดๆ “ถ้าผมบอกว่าผมเสียใจ ผมไม่ต้องการหย่าล่ะ?” นรมนเงยหน้าขึ้นทันที เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะพูดแบบนี้ บุริศร์พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “อย่ามองผมแบบนั้นสิ สำหรับคุณผมไม่เคยมีหลักการที่ยึดถือ ผมเคยคิดว่าคุณจะไม่สามารถ ข้ามปัญหานี้ไปได้เพราะเรื่องของคุณย่าของคุณ ดังนั้นผมจึง ต้องการหย่า ผมช่วยให้คุณสมหวัง แต่ผมยอมรับว่าการหย่าไม่ ได้หมายความว่าผมจะปล่อยคุณไป ผมรู้ว่ามันยากมากที่จะให้ คุณยอมรับผมใหม่ แต่ผมไม่กลัว ผมยังมีเวลาทั้งชีวิตรอคอยคุณ กลับมา แต่นรมน ผมไม่อยากเห็นคุณใกล้ชิดสนิทสนมกับชาย อื่น คุณเป็นของผม!
เขาจับไหล่ของนรมนอย่างกังวล ด้วยแรงอันหนักหน่วง จน ทำให้นรมนรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย
นรมนขมวดคิ้ว พูดด้วยภาษามือ “ฉันหย่ากับคุณ ไม่ เกี่ยวข้องกับคนอื่น”
“ผมไม่เห็นด้วย ถึงอย่างไรผมก็รู้สึกสำนึกผิด ผมมันเชื่อถือไม่ ได้ ภรรยาของผม ลูกชายของผม ทำไมต้องหย่าด้วย? ทำไม ครอบครัวที่มีครอบครัวหนึ่งต้องแยกจากกัน? ถึงแม้คุณจะก้าว ข้ามปัญหานี้ไม่ได้ ถึงแม้ชีวิตของคุณจะไม่สามารถอยู่กับผมได้ เหมือนเดิม ผมก็ต้องการสถานะสามีภรรยาระหว่างพวกเรา ตราบใดที่คุณยังใช้นามสกุลของผม สำหรับผมก็เพียงพอแล้ว”
“ทำไมคุณถึงได้ไร้สัจจะแบบนี้? ”
นรมนแสดงท่าทางภาษามืออย่างรวดเร็ว
บริศร์อ่านออก เขากลับตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้ไร้สัจจะ ภรรยาของผมไม่อยู่แล้ว เรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ แต่ทำไมคุณ ไม่โทรหาผมตั้งแต่แรก? ในใจของคุณ แท้จริงแล้วผมเป็นสามีของคุณหรือเปล่า?
นรมนเงียบไปทันที
โทรศัพท์?
จริงด้วย ตอนนั้นทําไมถึงไม่โทรหาบุริศร์ตั้งแต่แรก?
บางทีอาจเป็นเพราะคำพูดของรามิล ทำให้เธอคิดพิสูจน์อย่าง เร่งด่วนว่าการที่ตนเองจากบริศร์ไปจะสามารถแก้ไขเรื่องราวได้ ดีมาก แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เธอจัดการได้เละเทะไปหมด
นรมนก้มหน้าไม่พูดจา ส่วนบริศร์ก็ไม่อยากทำให้เธอลำบาก
ใจ
“ผมโมโหมากเมื่อรู้เรื่องของกานต์ และผมก็เป็นทุกข์มาก นี่ เป็นช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อยของคุณ กิจจากับกานต์อยู่ด้วยกัน อาจจะดีขึ้นมาสักหน่อย คุณให้กิจจาอยู่ที่นี่เถอะนะ อยู่เป็นเพื่อน กับกานต์ ส่วนคุณก็จะได้มีเวลาไปหาที่พัก ถ้าคุณสามารถ ยอมรับบ้านของผมได้ งั้นคุณก็ย้ายเข้าได้เลย ผมจะให้กุญแจ คุณทันที”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนส่ายหน้าอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ต้องการ ฉันอยากอยู่คนเดียว ไม่ได้ต้องการคุณ คำพูดนี้ทำร้ายความรู้สึกไม่น้อย
นรมนเห็นความเจ็บปวดชัดเจนในแววตาของเขา แต่เธอแสร้ง ทําเป็นมองไม่เห็นมัน
ใจอ่อนไม่ได้นะ
“และอีกอย่าง ฉันต้องการหย่า! ถ้าคุณไม่ตกลง ฉันจะหา ทนายมาฟ้องหย่า ถึงตอนนั้นถ้าวุ่นวายจนดูไม่ได้ คุณอย่ามา โทษฉันแล้วกัน ส่วนกิจจาฉันสามารถให้เขาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อน กานต์ได้ช่วงหนึ่ง ทางที่ดีคุณอย่าทำเรื่องอะไร ถ้าฉันพบว่ากานต์ กับกิจจาหายไป บุริศร์ ฉันจะไม่ให้อภัยคุณตลอดชีวิต
นโมนพูดด้วยภาษามือ
บุริศร์กล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “พูดเหมือนตอนนี้คุณสามารถ ให้อภัยผมได้”
นรมมหันตัวเดินจากไปด้วยความโมโห
บริศ คว้าแขนของเธอเอาไว้ กล่าวว่า “ได้ ๆ ๆ ผมรับปากคุณ ผมจะไม่พาพวกเขาไป ผมรับรอง
พูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อสาบาน
อารมณ์ของนรมนถึงจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากนั้นจึงสะบัด มือบริศ ออก เดินไปห้องผู้ป่วยของกานต์
มองดูแผ่นหลังของนรมนที่จากไป บุริศร์ถอนหายใจอีกครั้ง ทำอย่างไรถึงจะรักษานรมนเอาไว้ได้?
เขาปวดศีรษะขึ้นมาอีกครั้ง
บุรีศรีบหยิบยาออกมากิน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลมากนัก เขาจําต้องออกจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ไปขึ้นรถรอให้ความเจ็บปวดหายไป
นรมนเห็นบริศ ไม่ตามมา ถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาไม่ต้องการหย่า
งั้นต้องทําอย่างไรดี?
เห้อ!
นรมนถอนหายใจเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยของกานต์ กลับมอง เห็นกานต์กับกิจจาสองหัวเล็ก ๆ กำลังดูแท็บเล็ตด้วยกัน
“เร็วเข้า ๆ ! ตรงนี้ ๆ ! กานต์ช่างรีบร้อนเหลือเกิน แต่กิจจากลับแค่เพียงควบคุม อย่างใจเย็น
”
“ด้านล่าง ด้านล่าง ใช่เลย ๆ ๆ ! ”
กานต์ค่อนข้างมีชีวิตชีวา เปรียบเทียบกับกิจจาที่ดูเงียบกว่า แต่ทั้งสองคนเล่นเกมได้อย่างเข้าขากันสุด ๆ และมุมปากของ กิจจาก็มักจะยกขึ้น เป็นรอยยิ้มบาง ๆ
นรมนมองเห็นฉากนี้ ก็อดยิ้มด้วยความชื่นใจไม่ได้ มองดูแล้ว ให้กิจจากับกานต์อยู่ด้วยกันก็มีข้อดีจริง ๆ
ในช่วงเวลานี้เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตนเองจะสามารถส่งเสียง ออกมาได้ จะได้เล่นสนุกสนานไปกับพวกเขา เสียงดังโวยวายไป ด้วยกัน ทำให้กิจจาดีขึ้นถึงที่สุด
“โธ่เอ๊ย ! ตายแล้ว! ”
กานต์เอนหลังด้วยความหดหู่เล็กน้อย ทันใดนั้นก็พบกับนร
มน
“หม่า! หม่ามมาได้อย่างไรครับ? คุณบุริศร์ไม่ได้รับบาด เจ็บใช่ไหม? ”
คําถามของกานต์ทําให้นรมนเจ็บปวดใจ
ดูเหมือนในใจของกานต์ บุริศร์ยังคงอยู่ในอันดับหนึ่ง
ก็คงจะจริง วันเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของสองพ่อลูก ระหว่างกานต์และบุริศร์ได้รับการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้นอย่าง มาก ถึงแม้กานต์จะตำหนิว่าบุริศร์ไม่ปกป้องนรมน แต่ในกรณี ของบุริศร์และคนแปลกหน้า เขายังคงคิดถึงบุริศร์เป็นอันดับแรก
นรมนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม
กิจจาเงยหน้าขึ้น เขานิ่งไปชั่วขณะ ถึงจะเอ่ยถามว่า “คุณอา ปัญญ์ล่ะครับ?
“อยู่ในห้องฉุกเฉิน”
นรมนตอบด้วยภาษามือเสร็จ ก็อึ้งไปทันที
“หนูสามารถพูดได้แล้วเหรอ? ”
นมนตื่นเต้นมากเกินไป จนแม้แต่ภาษามือเกือบทำผิดท่า
กิจจาเกากีรษะอย่างเขินอาย
มองเห็นท่าทางแบบ ของกิจจา ในแววตาของนรมนมีน้ำตา แห่งความตื้นตันใจ
“หม่ามี้ ให้พี่เขาอยู่กับผมนะครับ ไม่มีอะไรแย่หรอก วางใจ
ได้”
กานต์ตบหน้าอกของตนเองเหมือนเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อย
นรมนไม่รู้ว่ากานต์เริ่มเรียกกิจจาว่าพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ใน ตอนนี้เธอรู้สึกประทับใจมากจริง ๆ
เธอเดินไปตรงหน้าของกานต์ ลูบศีรษะของเขา และยกนิ้วโป้ง ให้เขาหนึ่งที
กานต์เอ่ยถามอย่างหดหู “หม่า คอของหม่ามดีขึ้นไหม ครับ? หม่ามี้ดูสิ พี่เขาสามารถพูดได้แล้ว หม่ามีก็จะพูดได้ใช่ ไหมครับ?
นรมนนิ่งไปโดยพลัน เหมือนหัวใจถูกกรีดเป็นแผล จนเลือด สดไหลรินออกมา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ