บทที่ 512 คุณ กันตูดแล้วไหม
บทที่ 512 คุณ ดันดู แล้วใช่ไหม
กานต์จ้องมองบริศ ออกไปจากชมรมเฉย ๆ อย่างทำอะไรไม่ ได้ ใจดวงนั้นร้อนรนจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แต่ว่าก็ทำอะไรไม่ ได้สักอย่าง
เด็กผู้หญิง ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ร้องไห้อย่างไรสุ่มเสียงอยู่ตลอด และ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจ หรือเป็นเพราะอะไร กานต์รู้สึกมีความต้องการอยากจะปกป้องเป็นพิเศษกับเธอ
เพราะว่าในตอนแรกที่เข้ามาเธอได้ปกป้องตัวเองไว้ แล้วตอน นี้ถึงจะไม่รู้ว่าเธอร้องไห้ทำไม แต่ว่ากานต์ก็ขยับเข้าไปใกล้ทาง ด้านเธอเล็กน้อย
เขารู้ว่านี่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมาย แต่ว่าสิ่งที่สามารถ ทำได้ในตอนนี้ก็มีเพียงแค่นี้แล้ว
เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวไม่ได้สังเกตถึงการกระทำของกานต์ แต่ กลับจมอยู่กับความเศร้าหมองของตัวเองอยู่ตลอด
ในที่สุดคนเฝ้ายามในห้องใต้ดินก็ถือได้ว่าสามารถโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง
“ในที่สุดก็ไปสักที”
“ไข่ ให้พวกเขาไปกันเถอะ เด็กคนที่ตายกับคนที่โดนพาตัว ไปนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลโตเล็กเลย ถึงจะค้น เจอแล้วยังไง? พวกเราก็บอกไปเลยว่าไม่รู้เรื่องก็พอแล้ว”
“เด็กคนที่ถูกพาตัวไปที่สถานีขนส่ง ถูกส่งตัวไปที่ไหนแล้ว?
“ได้ยินมาว่าขายให้กับพวกแก๊งค้ามนุษย์แล้ว สำหรับถูกส่ง ไปไหนนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ออกไปจากที่ของเรานี้เหรอ?”
“ก็ใช่นะ บนตัวเด็กคนนั้นมีโรค ทารุณเยอะไม่ได้ เบื้องบน ของเราบอกมาว่าให้เอาตัวออกไปตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่าให้มาตาย อยู่ในนี้ อย่างน้อยก็ยังสามารถหาเงินกลับมาได้นิดหน่อย
คนเฝ้ายามทั้งสองคนพูดคุยกันไปเหมือนว่าไม่มีคนรอบข้าง ในสายตาของพวกเขาเด็ก ๆ พวกนี้ก็เหมือนกับผักสดที่อยู่ข้าง นอกยังไงอย่างงั้น ที่สามารถเอาไปขายได้อย่างง่ายดาย
กานต์พบว่าตอนที่เด็กสาวที่อยู่ข้างกายตัวเองได้ยินคำพูด ของพวกเขาแล้ว ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก
หรือว่า ในเด็กสองคนนั้นมีคนที่เป็นอะไรกับเธอเหรอ?
แต่ว่าตอนนี้กานต์ก็จะถามแกไปตรง ๆ ไม่ได้
ทางด้านนี้เพราะว่าบริศร์จากไปแล้ว และแน่นอนว่าพวกคน เฝ้ายามก็ผ่อนคลายลงเยอะ แล้วแก้มัดทั้งหมดให้พวกเด็ก ๆ จากนั้นก็ให้อาหารนิดหน่อย แล้วก็ออกไปเลย
พวกเด็ก ๆ ต่างก็กินกันไปอย่างไม่ใส่ใจเลย
สําหรับพวกเขาแล้ว ไม่ว่าอาหารตรงหน้าจะเป็นอะไร ขอแค่ สามารถทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็พอแล้ว
ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะสามารถเดินออกไปจากที่นี่ ออกไปจาก
ที่นี่ได้ถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองได้
กานต์มองหมั่นโถวแห้งกร้านที่อยู่ตรงหน้า แล้วก็รู้สึกว่ากินไม่ ค่อยลง แต่ว่าถ้ากินไม่ลงสิ่งที่รอคอยตัวเองอยู่ก็คือความหิวโหย
เขารู้ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนนี้จนกว่าจะได้กลับไปตระกูลโตเล็ก เขา ก็ไม่ใช่คุณชายน้อยของตระกูลโตเล็กแล้ว เขาเป็นเพียงแค่คนที่ สามารถโดนทารุณจนตายได้ทุกเมื่อ
พอเห็นเด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ ยังร้องไห้อยู่ กานต์ก็ถามเสียงต่ำ ขึ้นว่า “เธอเป็นอะไรไป?”
เด็กสาวส่ายหน้าอยู่ตลอด ไม่ได้กะว่าจะพูด
กานต์หักหมั่นโถวที่อยู่ในมือออกเป็นสองส่วน แล้วก็แบ่งให้ เธอครึ่งหนึ่ง
“เธอกินเยอะ ๆ หน่อย ดูเธอผอม ไม่ว่าจะร้องไห้ด้วยเหตุผล อะไร และไม่ว่าเธอจะอยากบอกฉันหรือเปล่า ก็จะต้องรักษาและ กำลังเอาไว้ให้ดีก่อน ฉันรับปากเธอ ฉันจะต้องพาพวกเธอออก ไปจากที่นี่ให้ได้ ขอแค่พวกเราออกไปได้แล้ว พวกเราก็จะ สามารถทำเรื่องที่พวกเราอยากทำได้แล้ว”
แล้วอยู่ ๆ เด็กสาวก็เงยหน้าขึ้นมามองกานต์ เหมือนกับว่าจะมี คําถามต่อคําพูดของเขาอยู่บ้าง
กานต์หันหน้าไปมองรอบ ๆ เด็ก ๆ ที่อยู่รอบข้างก็เหมือนว่าจะ ได้ยินคำพูดของเขาแล้ว แต่กลับไม่ได้คิดจริงจัง
ใชช!
พวกเขาเข้ามากันเยอะขนาดนี้แล้ว ตอนแรกใคร ๆ ก็อยากจะ ออกไปจากที่นี่ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาได้ออกไปกันหรือยัง?
คนที่เข้ามาพร้อมกันมากมาย ไม่ก็ตายไปแล้ว ไม่ก็โดนขาย ไปแล้ว มีเพียงแต่พวกเขาที่ยังเหลืออยู่ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่รอ คอยพวกเขาอยู่จะคือจุดจบอะไร
เด็ก ๆ แต่ละคนต่างก็มองไม่เห็นความหวัง มองไม่เห็นวันพรุ่ง นี้ ได้แต่เพียงมีชีวิตอยู่ต่อไปวัน ๆ เท่านั้น
พอกานต์เห็นพวกเขาเป็นแบบนี้ ก็รีบร้อนพูดขึ้นว่า “ฉันไม่ ปิดบังพวกเธอ ฉันคือกานต์ลูกชายที่คุณชายบุริศร์กำลังตามหา อยู่เมื่อกี้ ฉันเป็นคุณชายของตระกูลโตเล็ก ขอแค่แด๊ดดี้ของฉัน สามารถตามหาฉันเจอ ฉันก็มีวิธีที่จะพาทุกคนออกไปแล้ว
พวกเด็ก ๆ ต่างก็อึ้งไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าตกใจกับสถานะ ของกานต์
แต่ว่ากานต์มองไปรอบข้าง แล้วก็พูดขึ้นว่า “แต่ว่าฉันก็จะคิด หาทางติดต่อกับแด๊ดดี้ของฉันให้ได้ พอถึงตอนนั้นฉันจะพาทุก คนหนีออกไปจากที่นี่ แต่ว่าก่อนที่จะถึงนี้พวกเธอจะต้องรักษา พละกำลังของร่างกายเอาไว้ อย่าพยายามแข็งกร้าวกับพวกเขา โอเคไหม?”
อาจจะเป็นเพราะว่าใบหน้าที่จริงใจนั้นของกานต์ทำให้พวกเด็ก ๆ เห็นแล้วก็มีความเชื่อถืออยู่บ้าง และอาจจะ เพราะว่าเป็นอำนาจของตระกูลโตเล็กด้วย
เด็กสาวดึงปลายเสื้อของกานต์เบา ๆ แล้วก็เขียนตัวหนังสือ หลายตัวลงบนพื้น
“ฉันซื้อเรนนี่ หนึ่งในเด็กสองคนที่โดนพาตัวไป มีอยู่คนหนึ่ง เป็นพี่สาวของฉันชื่อมายด์ ถ้าหากนายได้ออกไปแล้ว จะช่วยฉัน ตามหาพี่สาวหน่อยได้ไหม?
เรนนี่เขียนเสร็จแล้วก็รีบลบออกทันทีเลย
แล้วกานต์ก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมเธอถึงร้องไห้
“วางใจเถอะ แด๊ดดี้ของฉันส่งคนไปตามหาแล้ว ในเมื่อแด๊ดดี้ ของฉันออกหน้าแล้ว ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นฉันหรือไม่ เขาก็จะ ต้องช่วยไว้แน่ ขอแค่เราไม่ยอมแพ้ อีกเดี๋ยวถ้าได้ออกไปแล้ว ก็ จะต้องมีข่าวคราวของพี่สาวเธอแน่
พอได้ยินกานต์พูดแบบนี้แล้ว เรนนี่ก็รีบพยักหน้าทันที แต่ก็ยิ่ง ร้องไห้หนักกว่าเก่าเช่นกัน
เพราะว่าพวกเด็ก ๆ มีความหวังขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งแล้ว ก็ยังดีกับ ៗ กานต์มากยิ่งขึ้น กระทั่งยกให้เขาเป็นหัวหน้า และยังฟังเขาชี้แนะ ทุกอย่างด้วย
จะไม่พูดก็ไม่ได้ เด็กแบบกานต์ ไปถึงไหนก็เป็นคนที่ค่อนข้าง ดูพิเศษกว่าคนอื่น
ส่วนทางด้านบุรีศร์เองก็ไม่กล้ากลับไป แล้วก็ไปที่สถานีขนส่ง ตามที่คนของอาณาจักรรัตติกาลรายงานมา แต่น่าเสียดายที่คน ที่สถานีขนส่งนั้นเยอะมาก เด็กคนนั้นโดนพาขึ้นรถโคชคันหนึ่ง ไป แล้วก็ไม่เจออีกเลย
ถึงจะส่งคนไปตามแล้ว แต่ว่าใจของบุริศร์ก็ยังคงวางไม่ลง อยู่ดี
จะใชกานต์ไหมนะ?
ถ้าหากว่าเป็นเจ้าเด็กตัวเหม็นนั่นละก็ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้อง ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นแน่ พอถึงตอนนั้นก็คงจะหาโอกาสหนี ออกมาได้แน่ แต่ว่าที่กลัวก็คือกลัวอีกฝ่ายจะวางยาอะไรให้ กานต์ ทําให้เจ้าเด็กนั้นไม่มีแรงขัดขืนมากกว่า
พอคิดถึงว่าลูกชายของตัวเองอาจจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ บุ ริศร์ก็ทั้งร้อนใจและโกรธขึ้นมาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ความร้อนใจได้ ยึดครองพื้นที่ไปซะส่วนใหญ่
ท้องฟ้าค่อย ๆ มีดครีมลง
คนที่ออกไปตามหาก็ยังคงไม่มีข่าวคราวอะไร แล้วในตอนที่ ศ กะว่าจะออกไปตามหาด้วยตัวเองนั้นโทรศัพท์ของนรมนก็โทรเข้ามาทันที เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกไม่ค่อยสบายใช่หรือเปล่า?
บุรีศรีรู้สภาพร่างกายของนรมนต์ ตอนนี้เธอยังไม่สามารถ แบกรับความตื่นเต้นมากนักได้ แต่ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นมา กะทันหันเกินไปแล้ว ก็เลยทำให้เขาแทบจะไม่มีทางหลบหลีก มนได้
นรมนพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “เมื่อตอนบ่ายฉันรู้สึกเหนื่อยนิด หน่อย ก็เลยนอนไปสักพัก แต่ว่าตอนที่ตื่นขึ้นมา ธิดาก็บอกกับ ฉันว่า กิจจาไปแล้ว”
“ไปแล้วหมายความว่ายังไง? บริศร์รู้สึกว่าตัวทั้งตัวอยากจะพังครืนลงมาแล้ว นี่กานต์ยังหาไม่เจอ กิจจาก็มาวิ่งหายไปไหนก็ไม่รู้แล้ว
นรมนพูดเสียงสะอื้นขึ้นว่า “ฉันก็ไม่รู้ ธิดาบอกว่าเขาไปเข้า ห้องน้ำ แต่ว่าตั้งนานก็ไม่ออกมา รอจนเธอเข้าไปหานั้น หน้าต่าง ห้องน้ำก็เปิดทิ้งไว้ และกิจจากหายไปแล้ว
“เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ เหมือนกับกานต์เลยให้อยู่อย่างสบายใจหน่อยก็ไม่ได้! คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป เดี๋ยวผมจะ รีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”
บุรีศรีบกลับไปที่คฤหาสน์อย่างกับมาวิ่งไม่ยอมหยุดฝีเท้า
ธิดากันนาวันต่างก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง
“คุณชายบุริศร์ ขอโทษครับ
“ตอนนี้ไม่ต้องมาพูดขอโทษแล้ว หาคนเจอหรือยัง?”
“ยัง คนของพวกเราออกไปตามหาแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวเลยครับ ในเมื่อคุณชายกิจจาเคยอยู่คุณชายรองมาก่อนช่วงหนึ่ง ก็คงพอ จะเรียนรู้อะไรมาบ้าง
พอได้ยินคำพูดของนาวิน บุริศร์ ก็หัวเราะขึ้นมา
“เขาแค่เรียนรู้ไปเท่าไหร่เอง? ส่วนพวกนายอยู่ข้างกายฉันมา นานเท่าไหร่? แต่เด็กคนหนึ่งหนีไปแล้ว ตอนนี้พวกนายจะมาบ อกฉันว่าเขาแกร่งกว่าพวกนายงั้นเหรอ?”
คำพูดประโยคนี้ถามจนคนทั้งหมดต่างก็ละอายใจ “รีบไปหาให้ฉันเดี๋ยวนี้!
บริศร์รู้สึกว่าที่ขมับกำลังปวดตับ ๆ
เจ้าคนสองคนที่ไม่ให้คนได้อยู่อย่างสบายใจ
ในตอนที่นา นกำลังกะว่าจะพอคนออกไปตามหานั้น โทรศัพท์ของคุณนายตระกูลโตเล็กก็โทรเข้ามาพอดี
“บุริศร์ นรมน กิจจากลับมาแล้ว พวกเธอไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว นะ แต่ว่ากานต์ล่ะ? กิจจากลับมาถึงก็สลบไปแล้ว ฉันยังไม่ได้
ถามอะไรเลย พวกเธอรีบกลับมาสักครั้งเถอะ
คุณนายตระกูลโตเล็กพูดจบแล้วก็วางไปเลย
นรมนเห็นท่าทางที่นิ่งอึ้งของบุริศร์แล้ว ก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ ได้ว่า “เป็นอะไรไปคะ? ใครโทรมาเหรอคะ?”
“แม่ แม่บอกว่ากิจจากลับไปถึงบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กแล้ว เพียงแต่ว่าสลบไปแล้ว แล้วให้พวกเรากลับไปสักครั้ง”
“ทำไมถึงกลับไปถึงบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กได้ล่ะ? และที่ สําคัญบนร่างกายของเขาก็ไม่ได้มีบาดแผลอย่างอื่น ทําไมถึงได้ สลบไปได้ล่ะ? หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างทางหรือเปล่า คะ?”
ความกังวลของนรมนแน่นอนว่าบุริศร์เองก็รู้ “พวกเรากลับไปดูกันก่อนดีกว่า ตอนนี้กานต์ยังหาไม่เจอ ขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับกิจจําเลย
ทั้งสองคนกลับไปถึงบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กอย่างรวดเร็ว ตอนที่อยู่ที่หน้าประตูนั้นก็เจอเข้ากับตรินท์ที่รีบร้อนกลับมา
“พี่ พี่สะใภ้ พวกพี่ทำไมกลับมากันได้ล่ะ?”
“ได้ยินว่ากิจจากลับมาแล้ว พวกเราก็เลยมาดูสักหน่อย แล้วทั้งสามคนก็มาถึงห้องโถงใหญ่อย่างรวดเร็ว คุณนายตระกูลโตเล็กรู้สึกร้อนใจ จึงได้เชิญหมอประจำบ้าน มาดูอาการของกิจจาแล้ว
ช่วงเวลาที่รอคอยนั้นช่างร้อนใจ โดยเฉพาะนรมนและบริศร์ พวกเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรกิจจาจะต้องแยกจากกับพวกเขาแล้วก ลับมา แล้วก็ไม่รู้ว่าระหว่างทางเขาเจอกับอะไรมาบ้าง จิตใจทั้ง ดวงก็ว้าวุ่นไปหมด
กว่าหมอประจําบ้านจะออกมา แล้วมองดูผู้คนรอบ ๆ แล้วก็ พูดขึ้นว่า “เด็กไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่ว่าแค่ตกใจมากไป หน่อย อยู่เป็นเพื่อนเข้ามาก ๆ และปลอบใจเขาสักหน่อยก็ พอแล้ว”
“ขอบคุณคุณหมอมาก หลานของฉันไม่เป็นอะไรก็แล้ว?
คุณนายตระกูลโตเล็กนั้นเป็นกังวลมากเป็นพิเศษ
“เขาตื่นแล้ว พวกคุณสามารถเข้าไปดูได้แล้ว แต่ว่าอย่าทำให้ เกตกใจล่ะ”
พอได้ยินหมอพูดว่าอย่างนี้ คนทั้งหมดก็เข้าไปในห้องเลย
กิจจาเหมือนกับว่าจะตกใจมากจริง
ในตอนที่ครินท์เห็นกิจจานั้น ก็ถือได้ว่าโล่งอกได้เปลาะหนึ่ง แล้ว
“เจ้าเด็กตัวเหม็นอย่างแกน สิ่งดี ๆ ไม่รู้จักเรียน ดีแต่รู้จักหนี ออกจากบ้านอย่างคนอื่นเขา แกนี่ค้นตูดแล้วใช่ไหม?”
พูดแล้วเขาก็ง้างมือขึ้นมา
กิจจาตกใจจนรับหดตัวถอยหนีทีหนึ่ง
“เอาล่ะ เด็กสามารถกลับมาได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แกยังอยาก จะตีจนลูกหนีไปอีกเหรอ?”
คุณนายตระกูลโตเล็ก โกรธจนผลักตรินท์ออกไปที่หนึ่ง แล้วก็ เอากิจจามากอดไว้ในอ้อมอก
“เอาล่ะ เอาล่ะ เราไม่ต้องกลัวแล้วนะ ย่าอยู่แล้ว ไหนบอกว่า มาซิ ว่าเธอเจออะไรมาบ้าง? ทำไมเธอถึงได้กลับมาคนเดียว? แล้วกานต์ล่ะ?”
พอกิจจาได้ฟัง ก็ร้องไห้ “แพ้” คำหนึ่งออกมาเลย “คุณย่า พวกคุณรีบไปช่วยกานต์เร็ว รีบไปเร็ว! พอกิจจาร้องไห้ขึ้นมา ก็ร้องจนทำให้คนทั้งหมดรู้สึกไม่ สบายใจขึ้นมาด้วย
“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? เธอค่อย ๆ เล่ามา
กิจจาพูดเสียงปนสะอื้นขึ้นว่า “ผมกับกานต์จะไปฝึกยิงปืนที่ ชมรม แต่ว่าระหว่างทางเจอเข้ากับแก๊งค้ามนุษย์ พวกเขามีคน เยอะมาก มีตั้งหลายคน แล้วก็มาอ้างว่าพวกเราเป็นลูกของพวก เขา คนที่อยู่รอบข้างก็ไม่ยอมช่วยเหลือ กานต์ก็เลยถือโอกาส เตะพวกเขาทีหนึ่ง แล้วก็ลากผมวิ่งหนี แต่ว่าผมโง่เกินไป และผม ก็วิ่งช้า กานต์ก็เลยให้ผมไปขอความช่วยเหลือจากชมรมที่อยู่ไม่ ไกลนัก แล้วเขาก็วิ่งออกไปล่อคนพวกนั้นจากไป ตอนที่ผมวิ่งไป ถึงชมรมนั้น คนที่นั่นเยอะมาก แล้วผมก็หาทางไม่เจอ แล้วก็ไม่รู้ ทำไมผมถึงสลบไป พอตอนที่ตื่นขึ้นมาผมก็อยู่บนรถไฟใต้ดิน แล้ว แล้วข้างกายก็มีคนแปลกหน้าอยู่คนหนึ่งเธอบอกว่าเป็น หม่ามีของผม แล้วผมก็ถือโอกาสในช่วงที่เธอนอนหลับแล้วก็วิ่ง หนีออกมา แล้วก็วิ่งกลับมาถึงบ้านได้อย่างยากลำบาก แต่ว่า กานต์กลับหายไปแล้ว คุณย่า คุณลุง หม่ามี่ แด๊ดดี้ พวกคุณรีบไปตามหากานต์กันเถอะ!
กิจร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วย นี่กลับทําให้คุณนายตระกูลโต เล็กปวดใจมากเลย พอได้ยินว่ากานต์อยู่กับพวกแก๊งค้ามนุษย์ ก็ ร้อนใจจนแทบจะหมดสติไปแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ