แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 498 ผมคิดถึงหม่ามี



บทที่ 498 ผมคิดถึงหม่ามี

บริศร์รู้ว่าคุณนายตระกูลโตเล็กต้องโกรธ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะ โกรธถึงขนาดนี้ เขากำลังจะเข้าไปขวางไม้เท้าของคนเป็นแม่ แต่น่าเสียดายที่มันสายไปซะแล้ว

ไม้เท้ากระทบลงบนหัวของตนท์ จนเกิดรอยขึ้นมาใน ทันที ดูท่าแล้วคงโดนไปแรงไม่น้อย

แต่คุณนายตระกูลโตเล็กก็ยังไม่หายโกรธ ตอนนี้เธอแทบจะ ทรงตัวไม่อยู่

“แค่คิดจะทําร้ายตัวเอง แกก็ไม่ใช่คนแล้ว แล้วกิจจาก ขวบ? เขาเพิ่งสี่ขวบเองนะ! แต่ดูแกสแกเด็กมันจนมีสภาพ อย่างนี้เนี่ยนะ? ตอนแกสี่ขวบ ฉันเคยแกไหม? แกโตขนาดนี้ แล้ว ฉันเคยแตะแม้แต่ปลายนิ้วแกไหม? นี่ลูกแกแท้ๆเลยนะ! แกยังทําได้ลงคอเหรอ? แกบ้าหรือแกโง่? หรือแกกินยาผิดมา?”

ดวงตาของคุณนายตระกูลโตเล็กพลันเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา

กิจจาเป็นหลานคนโตของเธอนะ

ที่ไม่ได้เจอกันช่วงนี้ เธอยังนึกว่าตนท์พาไปตัวอยู่เลย แต่ คิดไม่ถึงเลยว่าหลานของเธอจะเผชิญกับความโหดร้ายขนาดนี้

“คุณแม่ ใจเย็นก่อนนะคะ นั่งลงก่อนค่ะ” เมื่อนรมนเห็นคุณนายตระกูลโตเล็กหอบหายใจ ก็รีบเข้าไปพยุงเธอเอาไว้ แล้วหาที่ให้เธอนั่ง

ในที่สุดน้ำตาของคุณนายตระกูลโตเล็กก็ไหลออกมา

“แกโตจนปีกกล้าขาแข็ง แกผ่านอะไรข้างนอกมาเยอะ และ ตอนนี้แกก็เป็นประธานบริษัทชัวยกรุ๊ปจำกัด แกเลยคิดว่าทุก อย่างต้องเป็นไปตามที่แกต้องการงั้นเหรอ? พี่แกเป็นประธานมา หลายปี แกเคยเห็นพี่แกตีลูกบ้างไหม?

ครินท์เอ่ยปากพูดออกมาว่า

“แม่ครับ กิจจาไม่เหมือนกานต์ กิจจาโง่เกินไป เพราะอย่าง นี้ก็ต้องเริ่มหัดบินก่อนใครเขา

“พ่นอะไรเน่าๆของแกออกมา

ไม่บ่อยนักที่คุณนายตระกูลโตเล็กจะพูดแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับ สบถใส่ตรินท์ออกมาตรงๆ

“หลานฉันโง่งั้นเหรอ? หลานของฉันเป็นเด็กดีจะตาย กิจจา ทำไม? ไอคิวไม่สูง? หรือว่าพยายามไม่พอ? หน? ทำไมแกเอาแต่ เปรียบเทียบกับกานต์อยู่ได้ บนโลกนี้มีแค่กานต์คนเดียวเหรอ? ทําไมแกต้องอยากให้กิจจาเหมือนกานต์ขนาดนั้น? ตรินท์ เมื่อ ก่อนแกไม่ใช่อย่างนี้ ตอนนี้แกเป็นอะไรไป

ตรินท์สูดลมหายใจแล้วพูดว่า “เป็นลูกหลานตระกูลโตเล็ก เหมือนกัน ถ้าไม่เปรียบเทียบกับกานต์ แล้วจะให้ไปเปรียบ เทียบกับใคร? แม่ครับ ตั้งแต่เด็กจนโตผมไม่เคยสู้พี่ผมได้เลย ตอนนี้กิจจาก็ยังจะสู้กานต์ไม่ได้อีก เขาต้องพยายามเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้ตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับกานต์ได้

“ระดับอะไร? ทางเดินในอนาคตของกานต่กับกิจจามันไม่ เหมือนกันอยู่แล้ว มันมีอะไรให้เปรียบเทียบ

คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้กานต์เริ่มรู้สึกผิด

เป็นเพราะเขาเหรอ กิจจาถึงได้ถูกตี กานต์มองมาที่กิจจา แล้วพูดว่า “ขอโทษนะ”

“ไม่เกี่ยวกันเลย”

กิจจารับสายหน้า “ผมโง่เองต่างหาก”

“นายไม่ได้โง่ นายเป็นคนดี ฉันชอบที่นายเป็นแบบนี้ เอา จริงๆ บางครั้งนายก็ฉลาดกว่าฉันด้วยซ้ำ ยังจำตอนที่อยู่สวนหลัง บ้านได้ไหม? ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าต้องไล่มดออกไปยังไง แต่นาย เพราะฉะนั้นนายฉลาดกว่าฉันนะ”

กานต์ไม่อยากได้ยินกิจจาต่อว่าตัวเองอย่างนี้

เป็นอะไรกันไปหมด?

เมื่อก่อนทุกคนยังดีๆกันอยู่ไม่ใช่หรือไง?

เมื่อตรินท์ได้ยินแบบนั้น ก็แสยะยิ้มออกมา “แม่ได้ยินหรือ ยัง? กานต์ยังเด็กขนาดนี้ แต่สามารถออกแบบคอมพิวเตอร์ได้ เอง แล้วกิจจาล่ะ? รู้จักแค่วิธีไล่มด นี่ไงความแตกต่าง! ผมไม่ ยอมปล่อยให้ลูกของผมรั้งท้ายตั้งแต่เด็กขนาดนี้หรอกนะ ผม ต้องฝึกฝนเขา”
“แล้วแกจําเป็นต้องตีให้ตายเลยหรือไง? ห้ะ? นั่นลูกแกนะ

ไม่ใช่ทหารของแก!”

คุณนายตระกูล โตเล็ก โกรธจนตัวสั่น

“แกไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าพ่อแกที่ศาลบรรพบุรุษเลยนะ กลับไป สํานักตัวเองซะ”

คุณนายตระกูลโตเล็ก โกรธจนแทบบ้า

ตนท์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

“ครินท!”

บุริศร์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ตรินท์ก็เดินออกไปจากห้อง หนังสือไปแล้ว

กิจจากำลังจะตามไป แต่กลับถูกตนท์ถลึงตาใส่ให้ยืนอยู่

นิ่งๆเสียก่อน

เขากลัวแด๊ดดี้!

ตอนนี้กิจจากลัวครินท์มากๆ

นโมนเห็นความหวาดกลัวในสายตาของกิจจา

เป็นความหวาดกลัวที่ถูกส่งออกมาจากเบื้องลึก

หัวใจของเธอบีบรัด ในทันที
“คุณแม่ อย่าเพิ่งเดือดนะคะ ค่อยๆหายใจ ฉันจะบอกคนมา ทําความสะอาดห้องหนังสือให้

บรมนรีบส่งสายตาให้บริศร์

บุริศร์จึงรีบดึงสติกลับมา

“แม่ นั่งลงก่อนครับ ทำใจเย็นๆไว้ เรื่องวันนี้ผมทำไม่ดีเอง ผม จะให้คนมาทำความสะอาดที่นี่ ส่วนนรมนคุณพากิจจาไปทายา ไป มีเรื่องอะไรไว้ค่อยคุยทีหลังนะ โอเคไหม?”

เมื่อเห็นบริศ พูดมาอย่างนี้ คุณนายตระกูลโตเล็กก็ยอมพยัก หน้า

“กิจจา ให้คุณป้าเขาทายาให้นะ ไม่อย่างนั้นย่าคงเป็นห่วง

แย่””

“ขอบคุณครับคุณย่า”

กิจจาสูดน้ำมูก

นรมนรีบบอกให้กานต์พากิจจาไปรอที่ห้องของตัวเอง

หลังจากที่เด็กๆออกไป นรมนจึงหันมาพูดกับบุริศร์ว่า “ที่ห้อง รับแขกชั้นล่างมีกล่องยา สักพักคุณเอามาทาด้วยล่ะ ตอนนี้ก็นั่ง กับคุณแม่ไปก่อน”

“ผมรู้, คุณไปเถอะ”

บริศร์รู้ว่านรมนเป็นห่วงตัวเอง ตอนนี้เธอไม่สามารถแยกตัว มาดูแลเขาได้ เพราะแผลบนตัวของกิจจามีเยอะเกินไป มีทั้งแผลใหม่และแผลเก่า จําเป็นต้องดูแลดีๆ

“บนตัวเขาอาจจะยังมีอีก คุณลองถอดกางเกงเขาดูนะ ไม่รู้ว่า

ข้างล่างจะมีหรือเปล่า”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ดวงตาของนรมนเริ่มขึ้น

“รู้แล้ว”

คุณนายตระกูลโตเล็กกำลังจะพูดอะไรออกไป สุดท้ายก็อด

เอาไว้

นรมนออกไปจากห้องหนังสือด้วยความรวดเร็ว เพื่อมาที่ห้อง นอนของตัวเอง

กานต์เป็นกังวลจนใกล้จะร้องไห้ เมื่อเข้ามาในห้องก็ดึงเสื้อ

ตัวนอกของกิจจาออกทันที

“ถอดเสื้อออก ให้ฉันดูหน่อย”

“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ”

กิจจาเริ่มหลบ ให้ตายยังไงก็ไม่ให้กานต์ถอดเสื้อตัวเองออก กานต์โมโหจนร้องไห้ออกมาเป็นครั้งแรก

“พ่อนายป่วยหรือไง? เขาตีนายทำไม? ความฉลาดของคนเรา มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ทำไมต้องมาเปรียบเทียบกับฉันด้วย? ถ้าเขาไม่ใช่อาของฉัน ฉันเอาเขาตายแน่!

กานต์พูดไปร้องไห้ไป จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้แล้วปล่อยโฮ

ออกมา
ปกติกานต์จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่และหนักแน่น ไม่บ่อยนักที่จะ เห็นเขาร้องไห้ คราวนี้เมื่อเขาร้องไห้ออกมา ก็ทำเอากิจจาตกใจ เป็นอย่างมาก

“อย่าร้องไห้! เฮียอย่าร้อง! ถ้าหม่ามีมาเห็น จะคิดว่าผม แกล้งเฮียเอาได้นะ”

กิจจามือไม้พลันกันไปหมด พยายามยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ กานต์

“ใช่นายแกล้งฉัน! นายนั่นแหละแกล้งฉัน!”

กานต์ปัดมือเขาออก. แล้วร้องออกมาหนักยิ่งกว่าเดิม เขาไม่ชอบ!

เขาโกรธ!

พี่น้องของเขาถูกตี แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย ตอนที่นรมนเปิดประตูเข้ามาก็เห็นกานต์นั่งร้องไห้โฮอยู่บน เก้าอี้ ส่วนกิจจากยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างๆ

“เป็นอะไรไป? กานต์ร้องไห้ทำไม?”

เมื่อได้ยินเสียงของนรมน กานต์ก็หยุดร้องไห้เสียงดัง แต่ก็ยัง ไม่หันหน้าไปหา น้ำตาก็ยังไหลอยู่เหมือนเดิม ท่าทางแบบนั้นยิ่ง ทําให้เขาดูน่าสงสาร

กิจจามองมาที่นมันอย่างไม่รู้จะทำยังไง “หม่า ผมทำให้ เฮียโกรธจนร้องไห้”
“โกรธจนร้องไห้”

นรมนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

บนโลกนี้ใครกันสามารถทำให้กานต์ร้องไห้ได้

แต่ไหนแต่ไรก็มีแต่คนอื่นร้องไห้ไม่ใช่เหรอ?

“กานต์ หยุดร้องได้แล้ว หนูดูสิ ขนาดกิจจามีแผลเต็มตัวยังไม่ ร้องไห้เลย

เมื่อนรมนพูดออกมาแบบนี้ น้ำตาของกานต์ก็ยิ่งไหลออกมา

มากกว่าเดิม

กิจจารีบเอ่ยปากพูดว่า “โอเคๆๆ เดี๋ยวผมจะถอดเสื้อแล้วโอ เคไหม? เฮียหยุดร้องไห้ก่อน ถ้าเฮียยังร้อง ผมก็จะร้องตามนะ”

กิจจารู้สึกเสียใจมากๆ

การอยู่กับครินท์ เขาเหมือนตกจากสวรรค์ลงนรก แต่ทว่าคน

คนนั้นก็เป็นพ่อแท้ๆของเขา เขาเองก็เคยโกรธ

โกรธที่ตัวเองไม่ฉลาดเท่ากานต์

ตอนที่ได้ยินครินท์บอกว่ากานต์เก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนเขา โง่อย่างนั้นอย่างนี้ กิจจาก็รู้สึกโกรธเกลียดกานต์

ทําไมเขาสองคนต้องมาเป็นพี่น้องกันด้วย?

แต่ตอนนี้พอเห็นกานต์ร้องไห้ เพราะแผลบนร่างกายของเขาจู่ๆกานต์ก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าควรโกรธกานต์ดีไหม

เขาชอบกานต์

ชอบตั้งแต่ที่ยังไม่รู้ว่ากานต์เป็นพี่น้องกับเขา

เขานึกถึงช่วงที่เขมิกาลักพาตัวกานต์ไปทำเรื่องโหดร้ายพวก นั้น และนึกถึงท่าทางดื้อรั้นที่ไม่ยอมเสียน้ำตาออกมาสักหยด ของกานด์ในช่วงเวลานั้น

ตอนนั้นกานต์เข้มแข็งมาก แต่ตอนนี้เขากลับร้องไห้เพราะ กิจจา

กิจจาสงสารเขา!

จู่ๆกิจจาก็รู้สึกว่าตัวเองนิสัยไม่ดี

เขาจะโกรธกานต์ไปทำไม?

เขาไม่รู้จักแยกแยะเลยจริงๆ

เมื่อความสับสนในใจคลี่คลาย กานต์ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาใน ทันที จากนั้นน้ำตาก็เริ่มเอ่อคลอ

“ผมมันไม่ดีเอง เฮียอย่าร้องเลยนะ เฮียผมเลยก็ได้ ก็แค่ ถอดเสื้อใช่ไหม? ผมถอดแล้วยังไม่หยุดร้องอีกเหรอ? เฮียเคย บอกผมว่าอะไรนะ? ลูกผู้ชายเสียเลือดดีกว่าเสียน้ำตาไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้เฮียร้องไห้ทำไม?”

“ฉันอยากร้อง!”

กานด์เช็ดน้ำตาอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นกิจจามองตัวเองเขม็งจึงต้องพูดขึ้นมาว่า “นายก็ถอดสักที!

“ได้ๆๆ ผมจะถอด!”

กิจจารู้สึกว่าตัวเองขัดใจกานต์ไม่ได้เลย

น้องชายที่เด็กกว่าเขาสามเดือนคนนี้ ทำไมมักจะมีวิธีทำให้

เขายอมแพ้ได้ตลอด?

กิจจาเริ่มอัดอั้น แต่กลับค่อยๆถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองออก

ในตอนที่ร่างกายเล็กๆของเขาปรากฏออกมา ไม่ว่าจะเป็นนร มนหรือกานต์ ต่างก็เบิกตากว้าง

บาดแผลที่กระจายอยู่บนผิวสลับกันทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ ปรากฏออกมาต่อหน้า

นรมนรู้สึกว่าน้ำตาตีตื้นขึ้นมาในชั่ววินาที

ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าทำไมบริศร์ถึงทะเลาะกับตนท์

ถ้าตอนนั้นตัวเองอยู่ด้วย เธอก็คงจะลงไม้ลงมือเหมือนกัน ถึง ขั้นอยากฆ่าตรินท์เลยด้วยซ้ำ

กานต์ยิ่งตกใจกว่าใครเพื่อน

เขามองกิจจาเม็ง แม้แต่น้ำตาก็ลืมเช็ด

กิจจารู้สึกผิด

“อย่ามองผมอย่างนั้น!”

เสียงของกิจจาไม่ดังมากนัก แต่กานต์กลับสะดุ้ง จากนั้นก็เดินไปหยิบกล่องยาขึ้นมา

“หม่ามี”

ความหมายของเขาชัดเจน

บรมนพยายามข่มความรู้สึกที่ตีรวนขึ้นมาในใจ ทว่าดวงตา กลับเปียกชื้น

ถ้าแม่ของเด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ แล้วได้เห็นลูกของตัวเองถูก ทำร้ายแบบนี้ จะรู้สึกสงสารไหมนะ?

นรมนกอดกิจจาเอาไว้ น้ำตาเม็ดเป้งไหลลงบนไหล่ของกิจจา ทันใดนั้นกิจจาก็ร้องไห้ออกมา

เขาอดทนมาตั้งนาน เมื่อนรมนกอดตัวเองเอาไว้ จู่ๆกิจจาก

ร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ

“หม่ามี ผมคิดถึงหม่ามีของผม!

กิจจาร้องไห้เปิดฉากออกมาด้วยประโยคนี้

เขาชบลงบนไหล่ของนรมน ร้องไห้จนหอบหายใจ ท่าทาง โศกเศร้าของเขาทำให้คนได้มองยิ่งเสียใจ

นรมนอยากปลอบโยนกิจจา แต่ในวินาทีนี้ทุกๆคำพูดกลับ อ่อนแรงไปหมด

ยังเด็กขนาดนี้ แต่กลับต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ เธอ สามารถพูดอะไรได้บ้าง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ